กศน.ซำสูงขอนแก่นใช้คาราโอเกะช่วยนร.ชาวนาอ่านหนังสือ

คมชัดลึก : กศน.ซำสูง ขอนแก่น เจ๋ง ใช้คาราโอเกะเป็นสื่อสอนย่ายาย คนแก่ที่อยากอ่านออกเขียนได้ เหตุเพราะร้องเพลงไปเรียนไปสนุกและเข้าใจง่าย แก้ปัญหาชาวนาอ่านหนังสือไม่ออก ด้านคนชราระบุกลัวถูกหลอกเซ็นเอกสารเลยอยากอ่านหนังสือได้ แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ชี้เลือกตั้งคราวนี้ไม่ต้องพิมพ์มือแล้ว จะได้เซ็นชื่ออย่างเต็มภาคภูมิ

บรรยากาศของผู้เฒ่าผู้แก่ที่มาร่วมร้องเพลงส้มตำ เพลงคนบ้านเดียวกัน รวมถึงเพลงลูกทุ่ง และเพลงพื้นบ้านอีกหลายเพลง ที่มีจังหวะท่วงทำนอง และเนื้อร้องเป็นที่รู้จักของชาวอีสาน รวมถึงการโยกย้ายเต้นไปตามจังหวะเพลง ภายในห้องเรียนของศูนย์การศึกษาประจำตำบลทุกแห่งของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ใน จ.ขอนแก่น ได้รับความสนใจจากคนเฒ่าคนแก่ที่อ่านหนังสือไม่ออกเข้ามาร่วมเรียนกันจำนวนมาก โดยเฉพาะที่ อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยระหว่างการร้องเพลงมีนายอนุสรณ์ ศรบุญมี หัวหน้า กศน.ตำบลคำแมด อ.ซำสูง ยกป้ายคำอ่านและพูดออกเสียงยาก ประกอบการสอนไปด้วย

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ได้เปิดการเรียนการสอนด้วยวิธีร้องคาราโอเกะมานานกว่า 8 ปีแล้ว ใช้เสียงเพลงเพื่อเป็นเครื่องมือพัฒนาทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียน สำหรับประชาชนที่ลืมหนังสือและผู้อ่านหนังสือไม่ได้ ให้คงสภาพการรู้หนังสือไปตลอดชีวิต เนื่องจากปัญหาการอ่านหนังสือไม่ออกส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งการติดต่อหน่วยงานราชการ การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการเกษตร รวมทั้งการถูกหลอกลวงให้เซ็นเอกสารสำคัญ ทำให้ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สิน

ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนอำเภอซำสูงได้สำรวจสภาพปัญหาในปี 2548 ใน 5 ตำบล 35 หมู่บ้าน พบว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่เรียนจบแค่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และเนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรที่ไม่มีโอกาสได้อ่านหนังสือในชีวิตประจำวัน จึงเกิดภาวะลืมหนังสือ จากการทดสอบการอ่าน พบว่า อ่านช้า อ่านไม่ออก ส่วนคำยาก คำควบกล้ำ และคำที่ออกเสียงยาก ชาวบ้านจะไม่ยอมอ่าน จะข้ามไปอ่านคำง่าย ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่เข้าใจเนื้อหาที่นำไปใช้ทดสอบ จากการสำรวจถึงความต้องการรู้หนังสือจากสื่อใด ก็พบว่า ชาวบ้านอยากเรียนจากข่าวหนังสือพิมพ์ ร้อยละ 24.1 ฉลากยา ร้อยละ 13 ใบประกาศร้อยละ 19 และเนื้อเพลงร้อยละ 43.1

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า กศน.ซำสูงจึงใช้คาราโอเกะมาใช้เป็นสื่อการเรียนการสอน เปิดห้องเรียนคาราโอเกะ เรียกว่าคลินิกฝึกอ่าน เป็นการจัดการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับสภาพความเป็นอยู่ และวิถีชีวิต นักเรียนส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา อายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ที่ว่างเว้นจากการทำการเกษตร ต้องการหาความรู้เพิ่มเติม หรือเพื่อให้อ่านออกเขียนได้ การนำเพลงคาราโอเกะที่มีจังหวะ ทำนองคุ้นหู เป็นเพลงของนักร้องที่แต่ละคนชื่นชอบ คุ้นเคยตามที่สถานีวิทยุเปิดให้ฟัง ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก

"กศน.ซำสูงเป็นต้นแบบแห่งแรกในประเทศ ที่นำวิธีการเรียนการสอนด้วยคาราโอเกะ ทำให้การดำเนินงานบรรลุเป้าหมายทั้งคุณภาพและปริมาณ ชาวบ้านสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ อีกทั้งเกิดการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ รักการอ่าน เริ่มมีการศึกษาค้นคว้า และนำความรู้ที่ได้รับไปบูรณาการใช้ในการดำเนินชีวิต ทำให้นักเรียนชาวนาที่ อ.ซำสูง อ่านออกเขียนได้แล้วกว่า 2,000 คน" นายอนุสรณ์กล่าว

นางเกศแก้ว ขาวงาม อาชีพรับจ้างใน รพ.ซำสูง และอสม.บ้านคูคลอง เล่าว่า ก่อนมาเรียนในห้องเรียนคาราโอเกะ อ่านและเขียนได้เล็กน้อย ไม่คล่อง หลังจากมาเรียนด้วยเพลงคาราโอเกะแล้วทำให้อ่านและเขียนได้คล่อง นอกจากนี้ยังทำให้กล้าแสดงออก มีกลุ่มเพื่อนในชั้นเรียนไว้พูดคุยแลกเปลี่ยน ทั้งการเรียนและการประกอบอาชีพด้วย

นางพิสมัย บุตรแสง เกษตรกร ต.กระนวน อ.ซำสูง บอกว่า การประกอบอาชีพเกษตรกรต้องทำงานหนัก การอ่านหนังสือหาความรู้จึงเป็นเรื่องไกลตัว และไม่เห็นความสำคัญของการอ่าน เมื่อมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเกษตรอำเภอมาให้ความรู้พร้อมแจกเอกสารประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับทำการเกษตร ก็อ่านไม่ออก อ่านแล้วไม่เข้าใจ ทำให้เกิดความอยากรู้ข้อมูลในเอกสารที่มีหลายหน่วยงานนำมาถ่ายทอดให้ถึงหมู่บ้าน จึงตัดสินใจขอคำปรึกษาจากอาจารย์ใน กศน.อำเภอซำสูง จึงได้มาเรียนที่คลินิกฝึกอ่าน

ส่วนการเริ่มต้นเรียน นางพิสมัยกล่าวว่า อาจารย์จะทดสอบการเขียนตามเนื้อเพลงที่จะนำมาร้องในห้องเรียน จากนั้นนักเรียนจะร้องเพลงคาราโอเกะที่เลือกไว้ ส่วนอาจารย์จะใช้อุปกรณ์ประกอบ ทั้งแผ่นเนื้อเพลง แผ่นคำอ่าน และแผ่นสะกดคำ โดยอาจารย์ผู้สอนจะคอยยกแผ่นป้ายระหว่างการร้องด้วย เมื่อจบเพลงอาจารย์จะทบทวน ฝึกการอ่านออกเสียงจนคล่อง แล้วจึงจะให้ทดสอบเขียนคำในเนื้องเพลงอีกครั้ง ทำซ้ำๆ ไปทุกครั้งที่เรียน

“รู้สึกสนุกและอยากฝึกอ่านฝึกเขียน การใช้คาราโอเกะมาสอนผู้ใหญ่รู้สึกเรียนสนุก ไม่เครียด ไม่เหมือนการท่องจำ ทำให้เรียนได้เร็ว มีสมาธิมากขึ้น นอกจากนี้การสอนด้วยคาราโอเกะทำให้มีความเปลี่ยนแปลง จากที่อ่านไม่ออก ก็เริ่มต้นอ่านได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ก็พยายาม คำไหนอ่านยากก็ฝึกสะกดคำ ให้ครูสอนบ้าง ลูกบอกบ้าง ทุกวันนี้เริ่มอ่านเขียนได้คล่อง หากมีเอกสารของหน่วยงานรัฐส่งมาก็จะตั้งใจอ่าน ทำความเข้าใจ และสนใจติดตามข่าวสารตามหนังสือพิมพ์มากขึ้นด้วย เลือกตั้งครั้งนี้ไม่ต้องพิมพ์มือแล้ว จะได้เซ็นชื่อเสียที เพราะเขียนได้แล้ว” นางพิสมัยกล่าว

http://www.komchadluek.net/detail/20110503/96474/กศน.โอเกะช่วยนร.ชาวนาอ่านหนังสือ.html

จากคุณ	: หมาป่าดำ
เขียนเมื่อ	: 3 พ.ค. 54 20:05:08