ขอกลับมาดีเบตคุณ PongKm อีกครั้ง และถือเป็นการดีเบตคนอื่นๆที่มีความคิดว่า
"ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตร คนไทยไม่เดือดร้อนจากวิกฤตเศรษฐกิจในสมัยร.๗ คณะราษฎรจึงไม่ได้ทำเพื่อประชาชน แต่ทำเพื่อตนเอง"
เริ่มต้นผมเห็นว่ามันผิด ผมสรุปจากข้อความของคุณ แล้วก็เห็นว่าคุณมองประชารชนในประเทศนี้เป็นชาวนากันหมดเลย! นอกนั้นก็เป็นพวกขุนนาง ข้าราชการ ซึ่งเป็นพวกคณะราษฎร !!!!!! ผมว่านี่เป็นการมองประวัติศาสตร์แบบไร้เดียงสามาก ขอถามว่าแล้วชนชั้นกลางไปไหน ชนชั้นล่างที่ไม่ได้ทำอาชีพกสิกรรมไปไหน คนพวกนี้ควรจะ "ไม่เดือดร้อน เพราะสามารถเก็บผักเก็บหญ้ากิน" จริงหรือไม่
ประเทศไทยเริ่มพัฒนาเป็นสมัยใหม่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ การพัฒนาทั้งทางสังคมและศก.ทำให้เกิดชนชั้นกลางใหม่ เกิดกระฎุมพี เกิดพ่อค้า ฯลฯ ในสมัยรัชกาลที่ ๗ เริ่มมีสมาคมครู วิศวกร แพทย์ พ่อค้า แล้วครับ แสดงให้เห็นว่าสังคมไทยก้าวห่างจากประเทศโบราณ "ปลูกข้าวกันทั้งประเทศ" แบบที่คุณจินตนาการถึงมานานแล้ว หรืออย่างหนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นตัวชี้วัดหนึ่งถึงการพัฒนาเป็นสังคมเมือง ก็เฟื่องฟูมาตั้งแต่ร.๖ นู่นแล้ว หรือถ้าจะเอาตัวอย่างชัดๆ ว่าคนสมัยนั้นเป็นอย่างไร ก็ให้ไปอ่านงานของศรีบูรพาที่เขียนก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครองดูก็ได้ เช่น เรื่องสงครามชีวิต จะได้เห็นว่ามันมีอีกมุมที่คุณไม่รู้
อืม ที่พูดไปนั่นคือคนที่ไม่ใช่ชาวนา งั้นแล้วชาวนาไม่เดือดร้อนจริงหรือ?
คุณดีเฟนด์กรณีนี้ด้วยยกข้อเขียนของ ดร.สมภพ มา ซึ่งผมแย้งได้ว่าไม่ถูกต้อง เพราะข้อเขียนนั้นระบุในเชิงสัมพัทธ์ คือบอกว่าไทยกระทบน้อยกว่าประเทศอื่น แต่ไม่ใช่หมายความว่าไม่กระทบ
ในประเด็นนี้ผมได้ไปค้นคว้ามา จะได้ไม่เป็นการพูดกันแบบลอยๆ ดีเบตประวัติศาสตร์แต่ไม่มีความรู้ทางประวัติศาสตร์ (ซึ่งผมว่าจขกท.เป็น)
ในการอ้างอิงข้างล่างนี้ผมนำมาจากหนังสือ อวสานสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในสยาม ของเบนจามิน บัทสัน (ยกเว้นแต่จะระบุเป็นอย่างอื่น)
การจะบอกว่าชาวนาไทยทำอาชีพแบบยังชีพนั้น ถ้าจริงก็คงน้อยมาก เพราะไทยส่งออกข้าวเป็นหลักมาตั้งแต่สมัยร.๔แล้ว โดยไทยส่งออกข้าวเกือบ 80% ของผลผลิต (อ้างจาก Statistical Year Book 2469) ชาวนาไทยจึงเปลี่ยนวิถีชีวิตเป็นผลิตเพื่อการค้าหมดแล้ว ชาวนาผลิตข้าวแล้วก็ไปขายให้โรงสีของคนจีน ได้เงินมาก็เอาไปใช้จ่ายซื้อสิ่งของต่างๆ (ซึ่งไม่สามารถงอกมาจากดินได้) เมื่อราคาข้าวตกต่ำชาวนาก็ได้รับผลกระทบ หลักฐานสนับสนุนสมมติฐานนี้เช่น
๑.หนังสือพิมพ์ชื่อ "อิสระ" ตีพิมพ์บทวิจารณ์การเมือง มีความตอนหนึ่งว่า
"สยามต้องมีการพัฒนาเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม เพราะราคาข้าวตกต่ำ ชาวนามีสภาวะที่แร้นแค้น" (น.๑๓๗)
๒.ในการสำรวจสภาพเศรษฐกิจชนบทของไทยช่วงก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ผลการสำรวจระบุว่า "ชาวนาถูกกระทบมากที่สุด" จากพิษเศรษฐกิจ (น.๒๙๗)
๓.ม.จ.สิทธิพร กฤดากร อธิบดีกรมการวิจัยเกษตร กล่าวในการถกเถียงกับที่ปรึกษาฝรั่งของร.๗ ว่า "ชาวนาใช่ว่าจะมีความสุขกับโลกที่ไม่แสวงหาวัตถุ... แต่ที่จริงแล้วพวกเขาใกล้จะประสบกับหายนะทางเศรษฐกิจ" (อ้างอิงตกหาย)
ทั้งหมดนี้เป็นหลักฐานชั้นต้นที่พอจะบอกได้อย่างชัดเจนว่า ชาวนาไทย "พออยู่พอกิน ไม่เดือดร้อน" จริงหรือไม่ และหลักฐานชั้นต้นนี้ก็คงจะหนักแน่นกว่าข้อเขียนของ ดร.สมภพที่คุณPongKm ยกมาเป็นแน่
หวังว่าจะตอบข้อสงสัย และลบล้างมายาคติอันแสนไร้เดียงสาได้บ้างนะครับ