ความคิดเห็นที่ 1 ภายในพระอุโบสถ จากคุณ : เหวย+c เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 54 22:23:03

ความคิดเห็นที่ 2 ผมไม่เก่งขนาดนั้นหรอกครับ อ้างถึงตำนานวังหน้า ระบุว่า กรมพระราชวังบวรศักดิพลเสพย์ (สถาปนาเป็นวังหน้าในรัชกาลที่ ๓) ทรงสร้างวัดขึ้นใหม่เพื่อให้สอดคล้องเหมือนอย่างวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระราชวังบวรฯ ทรงถวายนามว่า "วัดบวรสถานสุทธาวาส" แต่เรียกกันอย่างสามัญว่า "วัดพระแก้ววังหน้า" สำหรับสาเหตุแห่งการสร้างวัดนี้ยังไม่เป็นข้อยุติ ซึ่งกล่าวกันว่าทรงสร้างแก้บน ครั้งเสด็จไปปราบกบฏเวียงจันทน์ และเล่ากันอีกกระแสว่า เดิมจะทรงสร้างเป็นยอดปราสาท จนปรุงตัวไม้แล้ว พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯทรงทราบ มีรับสั่งให้ไปห้ามกรมพระราชวังบวรฯ ไม่มีธรรมเนียมการสร้างยอดปราสาทในพระราชวังบวรฯ และทำให้ทรงน้อยพระทัย จึงปรับแก้เป็นหลังคาจตุรมุขอย่างที่เห็น บริเวณรอบๆวัดพระแก้ววังหน้า มีการก่อสร้างปราณีตหลายอย่าง เสาะหาพระพุทธรูปที่เป็นของงามและแปลก เครื่องศิลาโบราณต่างๆมาตกแต่ง และถ่ายแบบพระเจดีย์สำคัญของแผ่นดินย่อส่วน เช่น พระธาตุพนม เป็นต้น ตามภาพลูกศรที่ชี้ไว้ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 54 23:53:40

ความคิดเห็นที่ 3 และเล่ากันมาว่า กรมพระราชวังบวรมหาศักดิ์ดิพลเสพย์ ทรงสร้างพระพุทธรูปยืนองค์หนึ่งเพื่อจะประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถ แต่ยังไม่ทันแล้วพอประชวรหนักใกล้จะสวรรคต จึงทรงจบพระหัตถ์ผ้าห่มพระและประทานพระองค์เจ้าดาราวดีไว้ว่า "ต่อไปถ้าท่านผู้ใดเป็นใหญ่ได้ทรงบูรณะวัดนี้ ให้ถวายผ้าผืนนี้ ทูลขอให้ช่วยทรงพระให้ด้วย" ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ได้ทรงรับผ้าผืนนี้ไว้ และได้ถวายผ้าทรงพระพุทธรูปถวายดังพระราชอุทิศของกรมพระราชวังบวรฯ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 54 23:58:22

ความคิดเห็นที่ 4 จิตรกรรมฝาผนังก็งามนัก ด้านหลังพระประธานเขียนลายราชรถพระอาทิตย์ และราชรถพระจันทร์ เหาะมาในเบื้องนภาเวหา แวดล้อมด้วยหมู่เทวดามากมาย และทุกบานประตูก็วาดเรื่อง "นารายณ์สิบปาง" ซึ่งงดงามมาก เครดิตภาพพระพุทธรูปและจิตรกรรมฝาผนัง คุณยุทธนา เรือนไทยครับ แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 54 00:16:38 จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 54 00:07:14

ความคิดเห็นที่ 5 ผนังด้านอื่นๆนอกจากนี้ก็มีพระราชพิธี โบราณของไทย เช่น พระราชพิธีโสกันต์ และภาพการละเล่นต่าง ๆของไทย เช่น กระตั้วแทงควาย แทงวิไสย ไต่ลวด ญวนหก เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ภาพที่ปรากฏบนฝาผนังเป็นเป็นเรื่องราวต่าง ๆ จำนวนมากนี้ คงเป็นฝีมือช่างหลายคน เพราะผนังพระอุโบสถนี้กว้างใหญ่มาก มีพื้นที่สำหรับเขียนภาพได้มากมาย จึงปรากฏเรื่องราวต่าง ๆ ในลักษณะหลายเรื่องหลายรสหลายฝีมือช่าง มีทั้ง ฝีมือดีและด้อยคละเคล้ากัน จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 54 00:12:45

ความคิดเห็นที่ 6 มีกองทหารแบบฝรั่ง ร่วมกับกองช้างของไทย จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 54 00:18:10

ความคิดเห็นที่ 7 ภาพปืนใหญ่หลังช้าง ที่รัชกาลที่ ๔ ซื้อมารับใช้ในกองทัพ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 54 00:19:18

ความคิดเห็นที่ 8 สถาปัตยกรรมแบบยุโรป จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 54 00:20:24

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณมากๆ ค่ะ ภาพจิตรกรรมถือว่างดงามจริงๆ แต่น่าเสียดายที่คนภายนอกอย่างดิฉันอาจจะไม่มีโอกาสได้เข้าไปชม ดิฉันนั่งรถผ่านเกือบประจำ เห็นความเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่างในบริเวณรอบข้างนั้น ยกตัวอย่างมีการก่อสร้างโรงละคร เป็นต้น แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 54 09:09:33 จากคุณ : เหวย+c เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 54 09:06:22

ความคิดเห็นที่ 10 น่าสนใจที่วัดนี้เขียนจิตรกรรมเรื่องสิหิงคนิทาน หรือตำนานพระพุทธสิหิงค์ ซึ่งมีตำนานว่ามาจากลังกา ตอนนั้นลังกาเป็นเมืองขึ้นฝรั่งแล้ว (ลังกาเป็นเมืองแรกๆในเอเซียที่ตกเป็นเมืองขึ้นมาตั้งแต่สมัยอยุธยา) ดังนั้น ภาพเมืองลังกาจึงเป็นภาพตึกรามแบบฝรั่ง และมีแขกลังกาตัวดำๆ เดินไปเดินมาดังในภาพที่ 8 ของคุณหนุ่มรัตนะ การเขียนสิหิงคนิทานย่อมตอกย้ำความสำคัญของการประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์เป็นพระพุทธรูปประจำวังหน้าอีกด้วย แต่เนื่องจากไม่เปิดให้เข้าชม จึงน่าเสียดายของสำคัญๆของประเทศ หากจะเข้าชมก็ต้องทำหนังสือขออนุญาตเป็นกรณีิพิเศษ ทัศนียภาพของอาคารทุกวันนี้ก็จัดว่าอยู่ในบรรยากาศเกือบเสื่อมโทรม มีการสร้างอาคารใหม่ๆของสถาบันการศึกษาแทบนั้นเบียดบังวิววัดพระแก้ววังหน้า (ทั้งๆที่เป็นอาคารไทยใหญ่โตมโหฬาร) ก็ยังสู้อาคารใหม่ๆไม่ได้ น่าสงสารเมืองไทยจริงๆครับ จากคุณ : ปลาทองสยองเมือง เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 54 11:30:10

ความคิดเห็นที่ 11 เข้ามาเสพย์ สวยงามมากๆเลยค่ะ จากคุณ : ชอบฤดูฝน เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 54 11:59:50

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณครับ จากคุณ : สะตอคุง เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 54 18:37:44