Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
คุณเคยสงสัยใน " สิ่งที่ถูกสอน " และ " สิ่งที่ตนทำ " ไหม? ติดต่อทีมงาน

อย่าเพิ่งรำคาญว่าตั้งทำไมหลายห้องนะครับ เผอิญผมคิดว่าแต่ห้องคงคิดได้แตกต่างกันไม่มากก็น้อย ( แต่ที่ไม่เข้าห้องศาสนาเพราะผมอยากได้แนวคิดแบบอื่นที่ไม่ใช่ศาสนนิยม )


ขออนุญาตบ่นเรื่องอาการส่วนตัวของตัวเองบ้างนะครับ

- สมัยยังเป็นเด็ก แม้พ่อจะเป็นกรรมการวัด อยู่กับพระ ผมก็เข้าๆ ออกๆ วัดบ่อยๆ แต่ก็ไม่เคยถูกสอนว่าให้เคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยอิทธิปาฏิหาริย์ แต่จะสอนว่าการเป็นคนดีควรทำอะไรบ้าง ( คุณธรรม จริยธรรมต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวกับศาสนาโดยตรง ) ไม่เกี่ยวกับชาติหน้า แต่เกี่ยวกับเกียรติของคนเรา ทั้งในขณะยังมีชีวิตอยู่และเมื่อลาจากโลกนี้ไปแล้ว

- ความคิดดังกล่าวถูกทำให้เชื่อมั่นมากขึ้น เมื่อสัก 10 ปีก่อนผมได้อ่านงานเขียนของนักวิชาการท่านหนึ่งที่เชื่อมั่นในวิถีตะวันออกที่มุ่งเน้นเรื่องคุณธรรมจริยธรรม มากกว่าวัตถุนิยม กิเลสนิยม ( เสียดายหลังๆ แกไปสนใจไสยศาสตร์และเข้าร่วมกับกลุ่มการเมืองอย่างเต็มตัวเลยไม่ค่อยได้ตามงานแกอีก )

- หลายปีก่อน ( 2544 ถึงก่อนหน้า 2551 ) ผมมั่นใจว่าตัวเองเป็น " คนดี " คนหนึ่ง แม้จะไม่ได้เก่งกาจหรือกล้าหาญอะไร แต่ทุกอย่างที่ทำหรือไม่ทำนั้นเชื่อว่าทำมาจากใจล้วนๆ ด้วยความเชื่อมั่นในหลักการด้านบนที่ว่ามา      

- ตั้งแต่ปลายปี 2550 เป็นต้นมา ผมมีโอกาสได้ " ปะทะทางความคิด " กับคนที่เห็นต่างอย่างสุดขั้วหลายต่อหลายครั้ง คนพวกนี้เชื่อว่า " ไม่มีการกระทำใดของคนที่ปราศจากผลประโยชน์ทับซ้อน " แม้แต่การเลือกทำในสิ่งที่คนเราให้ค่าเป็น " บุญหรือความดี " หรือสิ่งที่ให้ค่าเป็น " บาปหรือความชั่ว " ล้วนมีผลประโยชน์เป็นที่ตั้งทั้งสิ้น แต่คนเราจะกล้ายอมรับหรือเปล่า?

- แน่นอน ผมพบว่าจุดบกพร่องของฝ่ายศีลธรรมนิยม จริยธรรมนิยม ศาสนนิยมที่เหมือนกันคือ " ตรรกะเหตุผล " ไม่สามารถสู้ฝ่ายดังกล่าวได้แม้แต่น้อย เพราะมีจุดร่วมที่ " ความเชื่อ " ไม่ว่าจะเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เชื่อในศาสดา เชื่อในคนรุ่นเก่าที่สั่งสอนมา ฯลฯ แต่ท้ายที่สุดก็คือ " ความเชื่อ " เหมือนกันหมดทั้งนั้น

- ระยะหลังๆ มานี้ ผมจึงเกิดคำถามขึ้นในความคิดของตัวเองตลอด คำถามแรกคือ " การที่คนๆ หนึ่งจะไม่เบียดเบียนผู้อื่น เป็นเพราะเขามีใจไม่เบียดเบียนจริงๆ หรือเพราะอีกฝ่ายอยู่ในสถานะที่แข่งแกร่งจนไม่สามารถเบียดเบียนได้กันแน่?" โดยคิดจากสถานการณ์ใกล้ตัวคนธรรมดาๆ ที่สุดคือเรื่องของ " ชู้ " จากการมีโอกาสได้พูดคุยกับคนที่นอกใจกันก็ดี คนที่พยายามเข้าไปทำให้คนอื่นนอกใจกันก็ดี ผมพบว่าการเป็นชู้ที่สำเร็จ คือแฟนเป็นตัวเป็นตน ( ไม่ว่าชายหรือหญิง ) จะต้องโง่กว่า คือตามเกมไม่ทัน และไม่สามารถให้ใครเป็นหูเป็นตาดูแทนตนให้ได้ ในทางตรงข้าม ถ้าแฟนเป็นตัวเป็นตนนั้นไม่โง่ จับพิรุธท่าทาง คำพูดเป็น การเป็นชู้มักไม่เกิดขึ้น

- จาก case เหล่านี้ ผมต้องตั้งคำถามกับกฏเหล็กของตัวเอง " ไม่อยากทำเช่นนั้น มันเหมือนหักหลังคนอื่น " ว่าจริงๆ แล้วผมยึดมั่นในคุณธรรมจริงหรือเปล่า? หรือแค่เพราะตัวเองประเมินสถานการณ์แล้วว่ามีโอกาสพลาดสูง ทำให้เสีัยชื่อเสียงได้กันแน่? จึงได้นำประเด็นคุณธรรมจริยธรรมมาหลอกทั้งใจตัวเอง และหลอกคนอื่นว่าเราเป็นคนดี? ถ้าหากผมเป็นลูกคนรวย มีเงิน มีอำนาจ ผมจะเป็นแบบที่ผมเป็นอยู่ทุกวันนี้หรือเปล่า? จะเรียกร้องให้ Loserแบบที่เป็นอยู่ หรือจะทำตัวแบบพวกลูกท่านหลานเธอที่ผมด่าอยู่ประจำในบ้านนี้เมืองนี้? ( เช่นเดียวกับชาติมหาอำนาจตะวันตก ไม่กล้าจี้เรื่องของละเมิดลิขสิทธิ์กับจีนหรือรัสเซียที่เป็นมหาอำนาจด้วยกัน แต่มาจี้กับไทยซึ่งเป็นประเทศเล็กๆ ไร้พิษสงและอ่อนแอหากเทียบกับพวกเขา? )

- กลับไปข้อแรกใหม่ ผมไม่ได้ถูกสอนมาให้เชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ผมถูกสอนมาให้เชื่อว่าการทำดีเป็นเกียรติ ตายไปแล้วก็ยังมีคนยกย่อง ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงเชื่อโดยไม่ลังเล แต่วันนี้ผมกลับมีคำถามว่า " เพื่ออะไร? " บางคนบอกว่าเราทำความดีเพื่อเป็นมรดกให้คนรุ่นหลัง ( โดยเฉพาะเรื่องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหรือทรัพยากรธรรมชาติ ) ผมมีคำถามว่าทำไปทำไม? หากคนเราตายแล้วสูญ เท่ากับว่าเราตาย เราไม่รู้เรื่องอะไรแล้ว หรือต่อให้โลกแตก มนุษย์สูญพันธุ์แล้วยังไง? ก็ไม่มีชาติหน้า แล้วจะไปคิดทำไม ไปรักษาโลก มีเมตตาช่วยเหลือซึ่งกันและกันทำไม?

- ผมอยากเชื่อในชาติหน้า ชาติภพแบบคนอื่นๆ โดยที่ " ไม่ต้องลังเลสงสัย " ( รวมไปถึงการอ่านกรรม แก้กรรม สแกนกรรมด้วยก็ได้ ) แต่ผมทำไม่ได้ เพราะไม่มีใครสามารถฟันธงได้ว่าตายแล้วสูญ หรือตายแล้วเกิดใหม่ ถึงแม้แนวคิดตายแล้วเกิดใหม่จะมีประโยชน์ต่อมนุษย์มากกว่าตายแล้วสูญ ( เพราะทำให้คนทั่วๆ ไปที่ไม่จำเป็นต้องทำชั่วเลือกที่จะไม่ทำมากกว่าทำ ) ก็ตามที แต่เมื่อไม่ถูกพิสูจน์ ผมซึ่งเป็นคนที่ว่า " ถ้ามีคำถามที่หาคำตอบไม่ได้ ผมมักจะไม่สบายใจ จนกว่าจะพบคำตอบนั้น "  แม้จะมีเรื่องของการสะกดจิตที่อ้างว่าระลึกชาติได้ ผมก็ยังไม่อาจเชื่อเพราะมีความเห็นแย้งจากบางคนบอกว่า " การสะกดจิต ข้อแรกคือผู้รับการทดลองต้องเชื่อในตัวผู้ทำการทดลองเสียก่อน " เช่นเดียวกับการนั่งสมาธิแล้วบอกว่าเห็นนั่นเห็นนี่ เขาเห็นมันจริงๆ หรือเพราะว่าจิตหลอน จิตยึดมั่นถือมั่น เชื่อว่าต้องเป็นนั่นเป็นนี่ เห็นนั่นเห็นนี่?

- หรือมากกว่านั้น บางคนบอกว่าอย่าฝึกเอง ถ้าไม่มีครูแนะนำ อาจจะเป็นบ้าได้? ผมก็ยังสงสัย ว่าที่ครูแนะนำหรือครูฝึกมาน่ะ ของจริงหรือคิดไปเอง? เกิดจากการฝังความเชื่อผ่านกระบวนการฝึกหรือเปล่า? เรื่องพวกนี้มันไม่ใช่สิ่งที่เห็นเป็นรูปธรรมได้ ( ไม่เหมือนมวยภายในของจีนหรือยูโดของญี่ปุ่นว่าคนตัวเล็กทุ่มคนตัวใหญ่ได้เพราะคนคิดนั้นเข้าใจกฏฟิสิกส์เรื่องการเคลื่อนที่ของแรง? อันนี้พิสูจน์ได้ คนภายนอกเห็นชัดเจน ) ดังนั้นผมก็ไม่อาจจะเชื่อในเรื่องอภิญญาจิตดังกล่าวได้เลย

- ทั้งหมดนี้ ผมอาจจะกำลังใกล้บ้าแล้วก็ได้ หลายๆ คำถามผุดขึ้นมาในความคิดตลอด 2 ถึง 3 ปีมานี้ " เราอยู่ไปเพื่ออะไร? " , " เราทำดีเพราะเชื่อในความดี หรือทำดีเพราะประเมินว่าไม่อาจจะร้ายกับอีกฝ่ายได้เพราะเรากำลังและสติปัญญาด้อยกว่า? "  , " แนวคิดเรื่องความพอเพียงดีจริง หรือเป็นเพียงข้้ออ้างของพวก Loser ที่สู้ใครไม่ได้เลยปลอบตัวเองไปวันๆ? " , " เกียรติยศที่แท้จริงนั้นมีหรือเปล่า หรือเป็นแค่ข้ออ้างในการจัดระเบียบสังคมเท่านั้น? " และอื่นๆ อีกมากมายที่หาคำตอบไม่ได้

ข้อสงสัยเหล่านี้ ไม่อาจจะทำให้ผมกลับไปเรียกตัวเองว่า " คนดี " ได้อีกแล้วครับ?

แล้วคุณเคยสงสัยในความคิดและการกระทำของตน หรือสิ่งที่คุณถูกสอนถูกปลูกฝังมาบ้างไหมครับ?

จากคุณ : TonyMao_NK51
เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 54 22:03:02




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com