ความคิดเห็นที่ 1 เดี่ยวนี้คุณต้องเรียนประกาศณียบัตรบัณฑิตสาขาศึกษาศาสตร์ จึงจะมีสิทธิสอบเป็นครู ไม่เข้าใจว่าคุณเรียนถึงปริญญาโท ทำไมอยากจะเป็นแค่ครู(รร มัธยม) ทำไมไม่ไปสมัครเป็น อ มหาวิทยลัย จีนเป็นสาขาขาดแคลน ที่ไหนก็พร้อมจะอ้าแขนรับคุณ จากคุณ : คนใจร้ายหมายดี เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 22:12:00 A:49.49.97.57 X: TicketID:301976

ความคิดเห็นที่ 2 คิดถูกแล้วที่ไม่เป็นไกด์ เพราะงานมันโหดมากๆ ทัวร์จีนไม่มีเงินเดือนให้ ไกด์ต้องซื้อนักท่องเที่ยวเป็นรายหัวทีหนึ่งลงทุนจ่ายเงินไปหลายหมื่นหรือเป็นแสน แล้วต้องต้อนนักท่องเที่ยวเข้าร้านขายของปิดประตูบังคับให้ซื้อของราคาแพงเกินราคาท้องตลาดให้ได้ม่ายงั้นไกด์เข้าเนื้อ อดตาย ทำๆไปแล้วเครียด แต่ถ้าทนเครียดได้จะทำเงินได้ไวมากๆ เป็นครูมัธยมไม่ไหวหรอกค่าตอบแทนมันน้อย ทำไมไม่ลองทำงานแปลบ้าง แปลนิยายจีนเป็นไทยโอกาสยังกว้างมากๆคู่แข่งไม่มากเหมือนแปลนิยายอังกฤษเป็นไทย หรือเปิดสอนพิเศษภาษาจีนในบ้านตัวเองก็ได้เงินมากกว่าไปสอนเด็กมัธยมในระบบการศึกษาไทย เราแนะนำวิธีเปิดสอนพิเศษในบ้านให้ได้เงินมากๆ ไว้ใน คคห 8 ในกระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K10613755/K10613755.html จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 23:32:34

ความคิดเห็นที่ 3 อยากให้คุณเข้าใจว่า  ไม่มีปริญญาโทวุฒิไหน ไม่ว่าจะเป็น คม หรือ ศษม ก็ตาม ไม่สามารถใช้ขอใบประกอบวิชาชีพครูได้ ขอใบประกอบวิชาชีพครูคุณต้องมีวุฒิตรีทางการศึกษา (ศึกษาศาสตร์ ครุศาสตร์) หรือถ้าเป็นตรีอื่น เมื่อก่อนต้องมี ป บัณฑิต ไม่รู้ว่ายังเป็นเหมือนเดิมไหม หรืออาจะใช้วิธีสอบมาตรฐาน ลองติดตามจากเวบคุรุสภา แต่ที่แน่นอนคือ  วุฒิปริญญาโทไม่สามารถนำมาขอใบประกอบวิชาชีพครูได้ ไม่ว่าจะเป็นวุฒิไหน จากคุณ : Sand Canyon เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 00:30:11

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าอยากเป้นครูในโรงเรียนจริงๆ ต้องคอยติดตามข่าวค่ะ ถึงยังไม่ได้ใบประกอบในเร้ววันนี้ แต่ถ้าไม่ล้มเลิกความตั้งใจเสียกลางคัน ก ้จะมีครูเยี่ยมๆ เก่งๆอีกคนเป้นแน่แท้ จากคุณ : PaBo เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 00:31:29

ความคิดเห็นที่ 5 เทียบโอนวิชากันได้ครับ แต่น่าจะได้ไม่ครบ 9 มาตรฐาน เพราะป.โทรียนน้อยกว่าตรีเยอะมาก แล้วไปสอบเอามาตรฐานอื่นๆให้ครบ 9 มาตรฐาน จากนั้นก็ต้องมีประสบการณ์การสอนอีก 1 ปีเต็มๆ ลำบากหน่อยนะครับ เพราะตอนนี้ไม่มีป.บัณฑิตแล้ว ถ้ามียังง่ายที่จะได้9มาตรฐานจากการเรียน ผมเคยไปสอบ 9 มาตรฐาน ผ่านมาแค่ 2 เลยลงป.บัณฑิตเอาง่ายกว่า (เกือบจะเป็นรุ่นสุดท้าย) ถ้าจะเป็นครู สพฐ. ก็ต้องอดทนนะครับสำหรับคนที่ไม่ได้เรียนครุศาสตร์ศึกษาศาสตร์มา หนทางที่จะเข้ามามันยากจริงๆ จากคุณ : รัตนลาวัณย์ เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 07:55:10

ความคิดเห็นที่ 6 ละเหี่ยใจกับลักษณะการตอบของบางคน จากคุณ : กล่องดำหมายเลข เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 08:15:40 A:118.173.92.24 X: TicketID:284516

ความคิดเห็นที่ 7 คห 6 อันนี้ ขอเคลียร์หน่อยได้ไหมครับ ว่าละเหี่ยในประเด็นไหน (ไม่ต้องระบุหมายเลขความเห็นก็ได้) จากคุณ : คนใจร้ายหมายดี เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 09:42:43 A:49.49.97.57 X: TicketID:301976

ความคิดเห็นที่ 8 555+ ถูกใจ คห.6 มากมายค่ะ อยากจะกดถูกใจสักล้านครั้งงงง 1. สมัครสอบมาตรฐานวิชาชีพครู ให้ครบทั้ง 9 มาตรฐาน ค่ะ เมื่อครบแล้วก็ยื่นขอใบอนุญาตฯ ปฏิบัติการสอน (มีอายุ 2 ปี ต่อได้ 1 ครั้ง) 2. ไปสมัครเป็นครูอัตราจ้างโรงเรียนให้ครบ 1 ปี และให้ทางโรงเรียนประเมินประสบการณ์สอนให้ จำเป็นต้องมีคำสั่งแต่งตั้งคนประเมินจากทางโรงเรียน (อย่างน้อย 3 คน แต่ไม่เกิน 5 คน) และหนังสือสัญญาจ้างสอนจริงๆ ด้วย (เพราะเคยมีกรณีแอบอ้าง ไม่ได้สอนจริง แต่สามารถมีลายเซ็นต์มาให้ มีมาได้ไง????) 3. นำใบอนุญาตปฏิบัติการสอน + แบบประเิมินการสอนในสถานศึกษาหลังจากครบ 1 ปี แล้ว ไปยื่นขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ------------- ถ้าอยากจะเป็น "ข้าราชการครู"  ไม่แนะนำให้ศึกษาต่อปริญญาโท ก่อนบรรจุเข้ารับราชการค่ะ เพราะถ้าเป็นสังกัด สพฐ เขาจะไม่ปรับวุฒิให้ เราจะเสียเงิน เสียเวลาเรียนไปฟรีๆ เลย ซึ่งมันจะมีผลต่อความก้าวหน้าในหลายๆ เรื่องค่ะ แต่ถ้าสังกัดมหาดไทย เขาให้ค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้กับคุณที่อยากจะเป็นข้าราชการครูด้วยนะคะ ยินดีให้คำปรึกษาค่ะ เพราะแนนเองก็ไม่ได้จบครูมาโดยตรง และผ่านขั้นตอนการยื่นขอแบบนี้มาแล้ว ยังสามารถให้คำแนะนำได้ค่ะ ถึงจะยุ่งยากหน่อย แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำไม่ได้ ไม่ต้องท้อนะคะ เมื่อคุณได้ใบอนุญาตฯ มาเมื่อไร คุณจะรู้สึกรักและศรัทธนาในอาชีพนี้มากๆ เหมือนดิฉันค่ะ จากคุณ : ][NuUnAn-- เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 09:49:17

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ที่แรกแปลกใจเหมือนกันนะว่าคุณตามจิกกัดเราหลายกระทู้เพราะอะไร แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าเป็นเพราะคุณไม่อยากให้เราเขียนกระทู้ "ชี้ทางสว่างให้คนเป็นครูได้สำเร็จ โดยไม่ต้องมีใบอนุญาตครู แล้วได้เงินมากกว่าคุณ" รู้สึกว่าคุณจะโอ้อวดซะเหลือเกินนะที่พูดว่า "เมื่อคุณได้ใบอนุญาตฯ มาเมื่อไร คุณจะรู้สึกรักและศรัทธนาในอาชีพนี้มากๆ เหมือนดิฉันค่ะ" ^ โธ๋ๆๆน่าสงสาร...เดี๋ยวเราจะสั่งสอนคุณซะบ้างว่า "อย่าฮึกเหิมมากเกินไป" ภูมิใจไปเรื่อย...แต่โลกไม่กว้างพอ ลองมาเปิดหูเปิดตากันซะบ้าง สมัยนี้โลกเขาไปถึงไหนกันแล้ว ใช้ skype สอน online ได้เงินมากกว่าตั้งเยอะ คนที่เก่งในสาขาวิชาการใดๆระดับเทพๆ ไม่จำเป็นต้อง "ลดตัวเอง" โดยการ "ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งใบอนุญาตครูที่มีไว้เพื่อกีดกันคนเก่งๆไม่ให้มาเป็นครู" ทางออกของคนที่อยากจะเป็นครูมีมากมาย เช่น 1. สอนพิเศษในบ้านตัวเอง ดูวิธีเปิดสอนพิเศษในบ้านให้ได้เงินมากๆ ไว้ใน คคห 8 ในกระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K10613755/K10613755.html 2. สอนพิเศษผ่าน skype สอนได้แม้กระทั่งสอนข้ามทวีป! ไปดูคุณลัดดาวัลย์โชว์ฟอร์เจ๋ง เขียนภาษาอังกฤษโฆษณาหลักสูตรภาษาไทย แล้วคุณจะรู้ซึ้งว่า "คุณลัดดาวัลย์เก่งเกินกว่าที่จะมาแย่งใบอนุญาตครูกับพวกคุณ" ไปอ่านโฆษณาเธอได้ที่นี่ http://www.thai-language.com/forums/t/thailand/instruction/t1046 ลองไปดูคุณลัดดาวัลย์ทำเวปหาเงินได้ตั้งมากมายจาก "อาชีพครู" บ้างสิ http://www.thaiwithjoy.com/ ........................................................................ ก่อนอื่นขอเคลียร์กับคุณ ][NuUnAn-- ซะก่อนนะว่าเราชำนาญในการสร้าง digital media เพื่อการสอน และชำนาญการสอนมากๆ เราจะสอนในบ้านหรือสอนผ่าน skype เราก็ทำได้ จริงๆแล้วเราค้นคว้าวิจัยเรื่องการสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 มาหลายปี แต่ทักษะที่ได้มามันกลายเป็นว่า เอาไปสอนภาษาไทยข้ามทวีปแบบคุณลัดดาวัลย์ ก็ยังได้เลย เพราะ "ตอนนี้เราใช้ google สอยเอา digital media ที่ใช้สอนภาษาไทยได้ดีเยี่ยมที่สุดในโลก ซึ่งสร้างโดยนักภาษาศาสตร์ชั้นนำของโลก มาไว้ในครอบครองเรียบร้อยแล้ว และเราก็มีเทคโนโลยีระดับสูงพอที่จะตัดต่อดัดแปลงและขยายขอบเขตของมัน" ^ คุณเรียนครูแล้วภูมิใจมากๆกับใบอนุญาตครูของคุณ "แต่คุณเคยค้นข้อมูลข้ามทวีปแบบเราบ้างหรือเปล่าล่ะ" เราสนับสนุนกระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K10610756/K10610756.html ไม่ใช่เพราะเรามีปัญหาเรื่องไม่มีใบอนุญาตครู ที่เราไม่สอนอะไรเลยทุกวันนี้ เป็นเพราะเราอยู่เฉยๆสบายกว่า "พ่อเราให้เงินเราใช้ ให้เราเดินดูสาวสวยๆในห้างสนุกๆสบายหูสบายตา และให้เราเรียนรู้ศาสตร์ใหม่ๆได้โดยไม่ต้องเดือดร้อนเรื่องเงินทอง" เราจึง "ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาเอาใบอนุญาตครูเพื่อแย่งอาชีพพวกคุณ" แต่ถ้าคุณตอแยเรามากเราจะ "ระดมพล" คนอยากเป็นครู แล้วเราจะสอนเทคโนโลยีพวกเขาว่า "ทำอย่างไรจึงจะเป็นครูได้เงินเยอะมากๆโดยไม่ต้องมีใบอนุญาตครู" ยกตัวอย่างเช่น 1. ระดมกำลังกันผลิตสื่อการสอนแบบ digital media แจก online และหาเงินจากโฆษณา และการสอนพิเศษแบบส่งติวเตอร์ถึงบ้าน 2. ระดมกำลังกันเปิดสอนผ่าน skype โดยเฉพาะอย่างยิ่งสอนข้ามจังหวัดหรือข้ามทวีปแบบ video conferencing ทีเดียวให้โรงเรียนหลายๆสิบ หรือหลายๆร้อยโรงเรียนได้บทเรียนดีๆ ไปพร้อมกันได้ โดยที่บทเรียนพวกเราดีกว่าคนมีใบอนุญาตครู ดังนั้น ถึงทำสอนในโรงเรียนรัฐเงินเดือนน้อยๆไม่ได้ แต่โรงเรียนราษฎร์ทั้งหมด ก็จะหันมาใช้บริการพวกเรา ซึ่งดีกว่าบริการคนมีใบอนุญาตครู 3. จัดสร้างเครื่อข่ายให้กลุ่มพวกเรา เปิดสอนในบ้านตัวเอง อย่างเป็นระบบ เพื่อให้นักเรียนเลิกไปเรียนโรงเรียนตามระบบ เพื่อสะท้อนสังคมให้เลิกจ้างครูในระบบ 4. เงินที่ได้จาก 1-4 เอามาใช้เป็นกองทุนเพื่อสร้างความกดดันให้ "ยกเลิกกฎหมายใบอนุญาตครู" ดังนั้น ตอนนี้เราไม่ได้อยากจะไปแย่งอาชีพจากคุณ คุณก็อย่าได้มาตอแยเรา เพราะถ้ามีเครือข่ายของคนที่ต่อต้านใบอนุญาตครูขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาอาจระดมกำลังการเงินและพลังทางการเมืองออกกฎหมายใหม่ว่า "พวกครูที่มีใบอนุญาตครูต้องมาทดสอบทักษะทุกๆปี ถ้าสอบไม่ผ่านจะโดนเพิกถอนใบอนุญาต!" แก้ไขเมื่อ 29 พ.ค. 54 13:20:14 แก้ไขเมื่อ 29 พ.ค. 54 13:17:25 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 13:14:42

ความคิดเห็นที่ 10 ^ ^ ^ นานๆ จะตอบนะคะ อ่านคอมเม้นท์คุณมาเยอะเหมือนกันค่ะ สิ่งหนึ่งที่รู้สึกได้จากแต่ละคอมเม้นท์ของคุณก็คือ "คุณมีความรู้ในด้านภาษาอังกฤษที่ดีมากคนหนึ่ง"   "คุณมีทักษะในการค้นคว้าในโลกดิจิตอลที่ดีมากคนหนึ่ง" "คุณมีโอกาสในโลกใบนี้มากกว่าคนอื่นๆ"   "คุณมีความทะเยอทะยานมากกว่าคนอื่น" "คุณอยู่ในโลกของวัตถุที่แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกนานาประการ ในอันที่จะสรรหาได้ด้วยวัตถุ เงินตรา ที่คุณภาคภูมิใจในการหาได้จากมันสมองอันเป็นเลิศของคุณ" แต่ "คุณไม่มีสังคมในโลกที่เป็นบุคคลที่สัมผัสได้อย่างแท้จริงและกว้างพอ" "คุณไม่เคยสำเนียกถึงชีวิตในด้านอื่นๆ นอกจากโลกของคุณ ที่ก้าวพ้นไปจากโลกดิจิตอล" โลกใบนี้ เข้าสู่ยุคดิจิตอลที่อยู่ที่ปลายนิ้วก็จริง แต่ไม่ใช่ทุกตารางนิ้วในพื้นที่ของโลกที่ก้าวเข้าสู่ดิจิตอล และท้ายที่สุด ตั้งแต่อ่านคอมเม้นท์คุณมา ยังมองไม่เห็นเป้าหมายหรือความต้องการที่คุณต้องการจะสื่อให้เห็นว่า วงการศึกษาไทยต้องการพัฒนาอะไร หรือคุณต้องการอะไรในแต่ละคอมเม้นท์ " นอกจากการให้ไปเปิดรับสอนพิเศษ" ซึ่ง ก็เป็นปัญหาว่าถ้าไม่มีโรงเรียนปกติ เราจะรับสอนพิเศษได้หรือไม่? แล้วถ้ามีโรงเรียนปกติ คุณต้องการให้เป็นไปในทิศทางใด?  หรือเป็นแบบไหน? ซึ่ง เราควรจะถกกันในประเด็นเช่นนี้หรือไม่ หรือต้องมาตั้งคำถามถกเถียง เหน็บแนมกันเรื่อง มีหรือไม่มี "ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ" หรือควรจะทำในสิ่งที่ถกกันให้เป็นเรื่องจริง โดยเฉพาะ สิ่งที่คุณเขียนในกระทู้ด้านบนนี้ ถ้าทำให้เป็นจริงได้ จะดีมากค่ะ ฝากความคิดเห็นไว้ค่ะ จากคุณ : somkamol เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 16:39:08

ความคิดเห็นที่ 11 ...ลบทิ้ง ส่งซ้ำ... แก้ไขเมื่อ 29 พ.ค. 54 17:53:44 แก้ไขเมื่อ 29 พ.ค. 54 17:50:38 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 17:43:07

ความคิดเห็นที่ 12 ^ ^ ^ ตอบคุณ somkamol คคห 10 การสอนสอนพิเศษ เพื่อต่อต้านและทำลายล้างการสอนในระบบที่ด้อยคุณภาพของการศึกษาไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อต้านกฎหมายใบอนุญาตครู เราทำได้สบายๆกับการสอนลูกเราเองให้รับวุฒิ ม.6 ได้ด้วย home schooling นั่นก็เพราะเรารู้ภาษาอังกฤษมากพอที่จะพูดกับเด็กเป็นภาษาอังกฤษให้ภาษาอังกฏษเป็นเป็นภาษาที่ 1 ของลูกเรา และสอนให้ลูกสอบ gcse เพื่อหลุดพ้นจากระบบการศึกษาไทย มันง่ายมากๆ ไปดูแนวคิดเราที่กระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K10593197/K10593197.html ........................................................................... ^ วิธีการเช่นนี้เราทำได้ง่ายเพราะอาศัยความรู้ภาษาอังกฤษกับความรู้โลก digital ของเรา มันก็แค่ทำตามประเทศที่เป็นอดีตเมืองขึ้นอังกฤษซึ่งไม่มีปัญหากับระบบการศึกษาในประเทศพวกเขาเพราะเด็กทุกคนพูดอังกฤษตั้งแต่เล็กๆ และประเทศเหล่านี้ใช้ digital media ภาษาอังกฤษ online ที่ฝรั่งทำไว้ดีอยู่แล้วเป็นภาษาอังกฤษที่มีอยู่เกลื่อนกลาดในโลกไซเบอร์ เพื่อใช้สอนนักเรียน   แต่คนที่ไม่รู้เท่าเราทำได้โดยมีเงื่อนไข (เราเคยเขียนไว้ในกระทู้เก่าๆ) ว่า "รัฐบาลให้ความร่วมมือโดยการ" 1. เปลี่ยนระบบสอบเข้ามหาลัยให้เป็นสอบ gcse หมด และจัดสอบ gcse เป็นภาษาไทยโดยจ้างนักแปลทั่วประเทศช่วยกันแปลข้อสอบ 2. จัดทำ digital media แจกฟรี online เหมือนๆในต่างประเทศ อาจขอลิขสิทธิ์แปลมาเป็นภาษาไทย หรือระดมผู้เชี่ยวชาญช่วยแปลช่วยเขียน ซึ่งเก่งในแต่ละสาขาวิชา ไม่จำเป็นต้องใช้ครูมีใบอนุญาต ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาวิชาโดยตรงช่วยได้หมด digital media พวกนี้ ทำไว้เพื่อใช้สอนวิชาที่เด็กต้องสอบเข้ามหาลัย งานนี้ผู้ทำอาจเป็นบริษัทเอกชน ซึ่งก็จะได้ค่าโฆษณาบนเวปที่เขา host digital media และได้เงินจากการส่งครูไปสอนพิเศษ หรือสอนผ่าน skype (ถ้าสอนเป็น video conferencing จะสอนเด็กได้ทั้งโรงเรียน ทีเดียวหลายๆโรงเรียนทั่วประเทศ หรือสอนข้ามทวีปก็ยังได้เลย) ซึ่งรายได้ก็จะควรได้รับการละเว้นภาษี ผู้ปกครองที่เสียเงินซื้อหนังสือตั้งหลายพัน ถ้าให้บริจาคทั่วประเทศคนละแค่ไม่กีร้อยก็ได้เงินบานเบอะ เพราะ digital media ที่ทำ จะครอบคลุมหมดโดยเด็กไม่ต้องซื้อหนังสือเลยแม้แต่สักเล่มเดียว และโครงการนี้ก็จะลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน เพราะใครมีเงินเท่าไหร่ก็จะได้บทเรียนดีๆเหมือนกันหมด 3. จัดหน่วยงานรับใบสมัครจากเด็กที่ต้องการเข้ามหาลัย โดยหน่วยงานประสานงานกับมหาลัยเช่นมหาลัยไหนต้องการ gcse กี่วิชา เกรดไหน สำหรับเรียนสาขาไหน และเด็กที่สมัครใครมี gcse แบบไหน ให้ตรงกัน ซึ่งระบบนี้เขาใช้กันในประเทศอังกฤษ ^ ความสำเร็จระดับนี้ จะทำให้ครูในระบบตกงานกันหมด! และกระทรวงศึกษากลายเป็นกระทรวงร้าง เพราะไม่มีครูในสังกัด   ^ ถ้าเรามีอำนาจบริหารในรัฐบาลเราทำได้สำเร็จแน่ๆ แต่กะอีแค่คิด แล้วแนะนำให้หน่วยงานการศึกษาไทย พอเขียนไปก็มีคนเรียนปริญญาโทและเอกด้านการศึกษามาพูดว่า "ทำไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ เพราะยังไม่มีผลงานวิจัยมารองรับ"- แล้วก็มีคนเรียนไม่เก่งที่ไปเป็นครูและได้ใบอนุญาตครูจากกฎหมายผูกขาด พูดว่า "คนไม่มีใบอนุญาตครูเก่งจริงแต่สอนไม่เป็น คนมีใบอนุญาตครูมีเกียรติ์และศักดิ์ศรีน่าภาคภูิมใจมากกว่า...บล๊าบๆๆๆ..." ^ อยากพูดยังไง ก็พูดไป เราไม่เดือดร้อน เพราะก็อย่างที่บอกไว้แล้วว่า ระบบการศึกษาที่ออกกฎหมายใบอนุญาตครูเพื่อกีดกันไม่ให้คนเก่งๆเข้ามาแย่งอาชีพครูที่ไม่เก่ง ^ ถึงจะมีผลกระทบต่อคนไทยเกือบทั้งประเทศ แต่ "เราเป็นหนึ่งในประชาชนคนไทยกลุ่มน้อยๆที่มิต้องได้รับผลกระทบดังกล่าว" เนื่องจากว่าเรามีความสามารถพอที่จะสอนลูกเราได้ด้วย home schooling เหมือนๆที่แม่ Thomas Edison สอน Thomas Edison จนเป็นอัฉริยะ เพราะ Thomas Edison โดนครูที่โรงเรียนว่าเอาว่า "สมองสับสนเรียนไม่รู้เรื่อง" แม่เลยไม่ให้เรียนโรงเรียนตั้งแต่เด็กๆ แต่รับมาสอนเองที่บ้าน จนประสบความสำเร็จ ดังที่เราพูดไว้ในกระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K10593197/K10593197.html ........................................................................ สรุปแล้ว สิ่งที่เราพูดเรื่องการทำลายล้างระบบการศึกษาไทย ซึ่งจริงๆแล้วต้องพูดว่า "ทำศัลยกรรมผ่าตัดระบบการศึกษาไทย" นั้น เราพูดเพื่อประโยชน์ส่วนรวม เพื่อประเทศชาติ มิได้พูดเพื่อตัวเราเอง เพราะ ขอย้ำอีกทีว่า "ตัวเราเองหรือลูกเราสามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบจากระบบการศึกษาไทยที่ดิิ่งลงเหวได้" คนมีใบอนุญาตครูหรือนักวิชาการด้านการศึกษาไหนเห็นเราเขียนอะไรแล้วจะพูดว่าอะไร หรือจะทำเป็นทองไม่รู้ร้อน "เราก็ผิวหนังไม่ถลอก" จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 17:53:26

ความคิดเห็นที่ 13 ^ ตอนแรกเราก็ไม่หัวรุนแรงเหมือนใน คคห 12 นี้หรอก เราแค่ชี้ให้เห็นว่า "กฎหมายใบอนุญาตครูเป็นการผูกขาดเพื่อเอื้ออำนวยประโยชน์ให้เฉพาะคนกลุ่มที่เรียนไม่เก่งสอบเข้ามหาลัยดีๆไม่ได้ แล้วจึงม่ีโครงการช่วยให้พวกเขาได้มีปริญญา เริ่มตั้งแต่โครงการวิทยาลัยครูสมัยก่อน แล้วกลายเป็นราชภัฎทั่วประเทศ ซึ่งคนพวกนี้หลายรุ่นจบมาแล้วไปเป็นใหญ่ครองตำแหน่งใหญ่ๆในหน่วยงานการศึกษา จึงออกกฎหมายนี้มาปกป้องพวกเขาไม่ให้คนที่เก่งๆกว่าเข้ามาแย่งงานสอน" เราแค่อยากให้เลิกการผูกขาดและเปิดให้มีการแข่งขันกันอย่างเป็นธรรมเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ไม่ใช่เพราะเราอยากเข้าไปเป็นครูในระบบ เพราะอย่างที่บอกไว้แล้วว่าเราจะหาเงินจากการสอนพิเศษในบ้านหรือสอนผ่าน skype เราก็ทำได้ แต่เราไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น เพราะเรามีรายได้พออยู่ได้สบายๆอยู่แล้ว... แล้วก็ได้แต่โดนคนมีใบอนุญาตครูเข้ามาต่อต้านเพราะกลัวได้รับผลกระทบ โดยต่อต้านออกแนวนี้คือ ได้แต่พูดว่า "คนไม่มีใบอนุญาตครูเก่งจริงแต่สอนไม่เป็น คนมีใบอนุญาตครูมีเกียรติ์และศักดิ์ศรีน่าภาคภูิมใจมากกว่า...บล๊าบๆๆๆ..." ^ เราจึงขอโต้ตอบด้วยวิธีการของเรา นั่นก็คือ ^ "อยากจะพูดอะไรก็พูดไป เพราะเราอยากจะสอนเมื่อไหร่เราก็สอนพิเศษได้ แต่เราไม่ต้องสอนเราก็มีรายได้พอกินอยู่แล้ว" แต่ขอให้ตระหนักว่า "พวกคุณกำลังผูกขาดอาชีพการสอนซึ่งเป็นการบ่อนทำลายประเทศชาติ (เพราะคนไทยอีกหลายคนยังต้องรับกรรมเพราะไม่มีปัจจัยมากพอที่จะหนีพ้นจากระบบชั่วร้ายของพวกคุณได้เหมือนที่เราหนีออกมาได้" จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 18:08:00

ความคิดเห็นที่ 14 ขออนุญาตสรุปด้วยตนเอง โดยไม่อิงข้างไหนนะคะ อ่านจากที่คุณเขียน สรุปได้ว่า คุณคือคนกลุ่มน้อยที่มีความคิดอย่างที่เรียกกันว่า "หัวก้าวหน้า" "คนกลุ่มน้อย" เป็น " กลุ่มเฉพาะ " การเคลื่อนไหวเป็นอำนาจเฉพาะบุคคล ซึ่งทำได้ง่าย โดยไม่กระทบคนในกลุ่ม ตรงกับที่คุณกล่าวว่า "คุณเป็นหนึ่งในประชาชนคนไทยกลุ่มน้อยๆที่มิต้องได้รับผลกระทบดังกล่าว" สิ่งที่คุณคิดเป็นเรื่องที่ดีมากๆ สำหรับคนเฉพาะกลุ่ม แต่ในความเป็นจริงของสังคม ชนชั้นและโอกาส ต่างกันโดยสิ้นเชิง คนในสังคมมีโอกาสต่างกันพูดภาษาปากบอกว่า "ฟ้ากับเหว" ดังนั้นกลุ่มที่เหลือ จึงเป็นกลุ่มส่วนใหญ่ที่เข้าสู่การเรียนแบบปกติ เปิดโอกาสช่องทางให้"กลุ่มหัวก้าวหน้า" เป็นช่องทางในการสร้างโอกาส เกิดธุรกิจสอนพิเศษขึ้น แต่ขณะเดียวกัน วิธีการเรียนการสอน แบบ home school กลับไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร ดังนั้น กลุ่มส่วนใหญ่ จึงเป็นกลุ่มที่เสียโอกาส รัฐจึงต้องเข้ามาปกป้อง โดยเลือกพัฒนาสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดที่ความสามารถของรัฐจะทำได้ และในฐานะที่เป็นรัฐ อำนาจหน้าที่ในการพัฒนาจึงเป็นของรัฐ กระบวนการคิดและพัฒนาย่อมผ่านการกลั่นกรองมาแล้วในระดับหนึ่ง ไม่ว่ากระบวนการนั้นจะมีที่มาอย่างไร วันนี้ในความเป็นจริง คือ รัฐเป็นผู้พัฒนา เราไม่มีหน้าที่ และเราอยู่ในโลกดิจิตอล จะทำอย่างไรละที่จะส่งผ่านความคิดของเราตรงนี้สู่รัฐ? หรือเป็นแค่ คำเพ้อเจ้อ เพ้อฝัน ในโลกดิจิตอล จากคุณ : .. (somkamol) เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 20:11:58

ความคิดเห็นที่ 15 ประทานโทษค่ะ คุณ fortuneteller ดิฉันเรียนจบ วท.บ. ที่ไม่ใช่สายครู ...พลาดแล้วค่ะ ดิฉันไม่ได้ภูมิใจกับใบอนุญาตฯ -- แต่ภูมิใจที่ก้าวผ่านอุปสรรคของกฏระเบียบต่างๆ ของการขอใบอนุญาตฯ มาได้ ภาคภูมิใจที่ว่า ดิฉันไม่ได้เรียนครู แต่ดิฉันก็สามารถสอบมาตรฐานวิชาชีพ เทียบโอน ทำตามกระบวนการต่างๆ ให้เป็นไปตามระบบ และมีศักดิ์และสิทะิธิ์ในคำว่าครูเต็มตัว ....ดิฉันไม่เคยใส่ใจอะไรเกี่ยวกับคุณเลย เข้าใจเสียใหม่ ดิฉันไม่เคยหาข้อมูลเกี่ยวกับตัวคุณ และไม่คิดจะหาค่ะ เพราะมันไร้สาระและเสียเวลา คนเก่งแต่มีทัศนคติที่ดูถูกความศรัทธาในวิชาชีพครูของคนอื่นแบบนี้ ไม่น่ายกย่องค่ะ ...และดิฉันไม่เคยจิกกัดคุณ .. และกระทู้นี้ ดิฉันก็ไม่ได้มีส่วนประโยคไหนที่หมายถึงคุณสักนิด ใครกันแน่.. ที่จิกกัดอยู่ตลอด ----------------------------------------- คุณเคยว่าดิฉันว่าดิฉันโฆษณาความเป็นครูไว้อย่างสวยหรูในบล้อก ดูถูกความศรัทธาในวิชาชีพครูของดิฉันที่เป็นข้าราชการครู ... คุณเคยมองย้อนดูตัวเองบ้างหรือไม่คะ ว่าใครกันแน่ที่คอยแต่โฆษณา... เกิดเป็นคน ถ้าไม่รู้จักรักและศรัทธาในวิชาชีพของตัวเอง  มันจะทำงานได้อย่างมีความสุขได้ยังไง มันจะเจริญก้าวหน้าได้อย่างไร ชีวิตมันก็คงอยู่แค่นั้น แต่คุณคงจะศรัทธาแค่เงินสินะคะ เพราะทุกความเห็นของคุณ เหมือนเงินจะเป็นเป้าหมายหลักทุกลมหายใจเข้าออก แต่ก็เข้าใจค่ะ ว่าความต้องการขั้นพื้นฐานของคนมันไม่เหมือนกัน ...แต่ จขกท เขามีความต้องการขั้นพื้นฐาน เหมือนดิฉัน ไม่ใช่แบบคุณ.. เพราะเขาถามว่า ต่อโทคณะศึกษาศาสตร์ จะเป็นครูได้ไหม ไม่ใช่ต่อโทคณะศึกษาศาสตร์ จะหาเงินยังไง ถึงจะมีเงินเป็นสิบๆ ล้าน จากคุณ : ][NuUnAn-- เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 20:24:15

ความคิดเห็นที่ 16 5555 อ่านแล้วขำมากเลยครับ ผมว่าเขาคงไม่ได้อยู่ในโลกของความเป็นจริง ทุกคนในโลกใบนี้ไม่ใช่ว่าจะเก่งไปหมดทุกคนนะคุณ ไม่ใช่ทุกคนที่มีคอมพิวเตอร์ ไม่ใช่ทุกคนที่มีพร้อมเหมือนคุณ ต่อให้คุณเป็นรัฐบาล มีอำนาจ ผมก็เชื่อว่า "คุณไม่มีทางทำได้" เพราะความคิดคุณแคบมาก อยากรวย ก็ไม่ต้องมาเป็นหรอกครับครูนะ อยากทำอะไรก็ทำไปเถอะครับ 555 จากคุณ : รัตนลาวัณย์ เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 14:10:38

ความคิดเห็นที่ 17 ^ ^ ^ อย่าเพิ่งด่วนหัวเราะไป คุณรัตนลาวัณย์ คคห 16 โปรดรับรู้ไว้ด้วยว่า คุณเป็นคนๆหนี่งที่  “สมองเลอะเลือนเพราะอ่านคำป้ายสี แล้วแยกแยะไม่ถูก” คุณ ][NuUnAn-- คคห 15 อย่าเอาเรื่องเงินมาป้ายสีบิดเบือนประเด็น highlight ที่แท้จริงของเรื่องนี้ก็คือกฎระเบียบเรื่องใบอนุญาตครู เป็นการผูกขาด   คนที่มีสมองพลิกแพลงก็ต้องหาทางเดินสายอื่น เรายังตอบตรงคำถาม จขกท เพราะ เป้าหมายของ จขกท คือ "หาเงินจากการสอน" เราตอบแบบนี้เพื่อให้ จขกท ใช้สติปัญญา คิดแก้ปัญหาเรื่องกฎระเบียบเรื่องใบอนุญาต แต่เขาจะทำหรือไม่ทำ หรือจะหาเงินได้กี่สิบกี่ร้อยล้าน หรือเขาจะยอมฝ่าด่านค่ายกลมนุษย์ทองคำวัดเส้าหลินเพื่อไปรับใบอนุญาตครูไปรับราชการครูเหมือนคุณ][NuUnAn--ใน คคห 15   มันก็เรื่องของเขา เราก็แค่คิดทางเลือกใหม่ๆในยุคการสื่อสารไร้พรมแดนเท่านั้นเอง อีกทั้งการให้ความรู้เพื่อแลกกับเงินเป็นจำนวนมากโดยไม่ต้องไปขอใบอนุญาตครูก็เคยเป็นสิทธิอันชอบธรรมของมนุษย์ เพราะSocrates, Plato และ Aristotle ก็หาเงินจากการสอนมาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์แล้ว  ถ้าเจอกฎระเบียบเรื่ิองใบอนุญาตครูพวกเขาก็ต้องใช้มันสมองพลิกแพลงหลีกเลี่ยงเหมือนๆกันนั่นแหละ แทนที่จะต้องถูกล่วงละเมิดสิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคล   อ้อ แล้วอีกอย่างหนึ่งนะ ที่คุณ ][NuUnAn-- คคห 15 มากล่าวหาเราว่า "เห็นแก่เงิน" น่ะ อยากจะโต้ตอบโดยการบอกว่า เราก็เคยสอนหนังสือให้คนที่ไม่มีเงินพอจะจ่ายค่าเรียนได้ นานตั้งหลายๆเดือน แล้วเราก็มีหลักฐานพิสูจน์ด้วย แต่เราไม่ทำตัวเป็นเทพเหมือนคุณ ][NuUnAn-- คคห 15 ที่มาเที่ยวโฆษณาในนี้ว่า "เสียสละใจรักอาชีพครูเรียนเก่งแต่ยอมรับเงินเดือนน้อยๆ" เพื่อหวังทำคะแนนสงสารใน pantip หรอก เพราะคนเราควรถกกันด้วยเหตุผล มิใช่ระบายสีทางอารมณ์ให้คนอ่านต้องหวั่นไหว... แล้วอีกอย่างหนึ่งนะ ในประเทศที่เจริญแล้วอย่างประเทศอเมริกา ประชาชนธรรมดาๆสามารถยื่นฟ้องศาลขอให้ศาลออกคำสั่งยกเลิกกฎหมายหรือกฎระเบียบใดๆก็ได้ ถ้าพิสูจน์ได้ว่า “กฎหมายหรือกฎระเบียบดังกล่าวล่วงละเมิดสิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคลภายใต้รัฐธรรมนูญ” แต่ในประเทศไทยมันทำแบบนั้นไม่ได้ง่ายๆ เราถึงบอกว่าถ้าใช้สมองพลิกแพลงคิดหาทางเอาชนะ มันก็ยังมีทางเลือกอีกหลายทางอย่างเช่นคุณลัดดาวัลย์ทำได้สำเร็จอย่างงดงามโดยการสอนภาษาไทยให้ฝรั่งข้ามทวีปผ่าน skype ชั่วโมงละ 12 ดอลล่าร์สหรัฐโดยไม่ต้องไปเล่นกายกรรมเพื่อขอรับใบอนุญาตครู ซึ่งตอนนี้เธอก็มีนักเรียนตั้งมากมาย สอนดีสอนเก่งจนฝรั่งตั้งหลายสิบคนมาเขียนคำชมเชยเธอไว้มากมาย ที่คุณ ][NuUnAn-- คคห 15 พูดว่า "...ดูถูกความศรัทธาในวิชาชีพครูของดิฉันที่เป็นข้าราชการครู" ^ อ้นนี้ก็ป้ายสีกันชัดๆ โดยใช้คำว่า "ดูถูก" เพื่อสร้างภาพให้เราดูเป็น "มาร" อย่างแท้จริง  เราว่าคุณควรไปแต่งนิยายน้ำเน่าขายซะมากกว่าเพราะคุณเก่งเรื่องป้ายสีและบิดเบือนประเด็น hard facts ที่ไม่มีใครปฎิเสธได้ก็คือ คุณ][NuUnAn-- คคห 15 ก็โชว์พาว์เรื่องสิทธิและศักดิ์ศรีของใบอนุญาตครู  เราก็เลยโชว์พาว์เรื่องวิธีเอาชนะมันซะบ้างเพื่อสั่งสอนคุณ][NuUnAn-- คคห 15 ซะบ้างเท่านั้นเอง คุณ][NuUnAn-- คคห 15กับเราก็แค่ประลองฝีมือกันเรื่องการใช้ความคิดความอ่านแบบพลิกแพลงกันแค่ไม่กี่ท่าเพลงเพราะความไม่กินเส้นกัน เรื่องมันก็แค่นี้เอง ไม่มีใครเป็นเทพหรือเป็นมารมากกว่าใครหรอก แต่เผอิญคุณ ][NuUnAn-- คคห 15 โชคดี (หรือน่าจะโชคร้าย) ที่มี คุณรัตนลาวัณย์ คคห 16 ที่คิดไม่ค่อยจะเป็นระบบ เข้ามาเชียร์คุณ คุณ ][NuUnAn-- คคห 15 ให้ตกต่ำ ดิ่งลงเหว ไปด้วยก้นทั้งคู่เท่านั้นเอง... แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 54 18:18:32 แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 54 18:16:44 แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 54 15:11:08 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 15:03:42

ความคิดเห็นที่ 18 ถึง คุณรัตนลาวัณย์ คคห 16 ที่คุณพูดว่า "ต่อให้คุณเป็นรัฐบาล มีอำนาจ ผมก็เชื่อว่า "คุณไม่มีทางทำได้" เพราะความคิดคุณแคบมาก" ที่ทำไม่ได้เพราะคนมีความคิดแคบแบบคุณมันรกบ้านรกเมืองถ่วงความเจริญประเทศชาติต่างหากล่ะ แต่เราก็พูดไปแล้วในกระทู้ต้นๆว่า "เราไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น เพราะเราไม่ได้รับผลกระทบ" เราแค่ให้คำแนะนำ "เพื่อให้คนอยากเป็นครูหาทางเลือกที่ดีกว่าโดนล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลเท่านั้นเอง" ตกลง คุณรัตนลาวัณย์ คคห 16 ควรหัดอ่านระหว่างบรรทัดให้ดีๆนะ ก่อนที่จะมาเถึยงกับเรา จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 15:07:19

ความคิดเห็นที่ 19 อ่านข้อความคุณรัตนลาวัณย์ คคห 5 ก็เห็นว่าคุณเอง กับ คุณ ][NuUnAn-- คคห 15 ก็อยู่ในกลุ้มผู้มีใบอนุญาตครูที่ปกป้องไม่ให้ตัวเองโดนแย่งงาน ดังนั้น เหตุผลพวกคุณทั้ง 2 คน จึง "ฟังไม่ขึ้น" ทำไมไม่รอให้คนอีกหลายๆคนที่คิดเหมือนเราที่ว่า "กฎระเบียบเรื่องใบอนุญาตครูเป็นการผูกขาดและเป็นการล่วงละเมิดต่อสิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคลและต่อสิทธิมนุษยชน" รวมทั้งพ่อแม่เด็กๆที่เห็นว่าครูที่มีใบอนุญาตสอนๆไปก็กลายเป็นว่าพ่อแม่ก็ต้องไปจ้างติวเตอร์สอนพิเศษลูกอยู่ดีนั่นแหละ ม่ายงั้นลูกก็ไม่เก่งพอที่จะสอบเข้าอะไรได้ นั่นก็เพราะครูที่มีใบอนุญาตกมิใช่ว่าจะเก่งวิเศษไปเสมอหรอก ดังนั้น จึงไม่สมควรที่จะมีการผูกขาด... ให้เข้ามาแสดงความคิดเห็น จากหลายๆมุมมอง แบบไม่ลำเอียง กันบ้างล่ะ? แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 54 15:39:41 แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 54 15:31:08 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 15:30:22

ความคิดเห็นที่ 20 เคยดูแดจังกึมมั้ยคุณ... ผมไม่อยากอธิบายอะไรมากหรอก คุณอาจจะพูดถูกเรื่องที่ผมกับคุณ][NuUnAn--มีใบอนุญาตแล้วไม่เดือดร้อน แต่กว่าจะได้มาผมก็ใช้เวลาเกือบ2ปี แล้วก็ไม่ได้มาง่ายๆด้วย เพราะผมไม่ได้จบครูมาโดยตรง  ซึ่งจุดนี้ผมก็เห็นใจสำหรับคนรุ่นหลัง ที่ผมไม่ชอบคุณ เพราะคุณเห็นแก่เงินจริงๆอ่านความเห็นดูก็รู้แล้ว และที่ผมเห็นด้วยกับคุณ][NuUnAn-- เพราะปีก่อนผมก็ได้ครูแนนเป็นที่ปรึกษา เป็นที่พึ่งพิง ในเวลาที่หาหนทางไม่ได้ คุณไม่ได้ก้าวเข้ามาตรงนี้ ผมจึงบอกว่าโลกของคุณแคบมาก แล้วถ้าอ่าน"คำถาม"ของเจ้าของกระทู้ดีๆ  เขาถามว่า"เรียนโทด้านการศึกษาแล้วเป็นครูข้าราชการได้หรือไม่"   ไม่ได้ถามว่า "เป็นครูแบบไหนได้เงินเยอะ รวยเป็นสิบล้าน" เข้าใจไหมครับ แล้วประเด็นที่ว่าครูมีใบอนุญาตฯแล้วโง่ ฉลาดน้อยกว่าคุณ "ถึงผมจะโง่ แต่ผมก็สอบบรรจุโดยที่ไม่ได้อ่านหนังสือได้ละว่ะ" จากคุณ : รัตนลาวัณย์ เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 22:52:08

ความคิดเห็นที่ 21 เอาเถอะ... -จะครูในระบบก็ดี...(สอนตามหลักสูตร ให้เรียนเพื่อรู้ พัฒนาความเป็นมนุษย์) -ครูทีสอนกวดวิชาก็ดี...(สอนตามข้อสอบ ให้เด็กเรียนเพื่อให้ได้คะแนน ให้แข่งขัน เด็กได้วิธีคิดแบบ exam-oriented อะๆ อย่าเพิ่งด่า ก็ได้ความรู้ด้วย แต่ตราบใดที่เป็นข้อสอบแบบตัวเลือก เด็กจะมีระบบคิดเฉพาะในกรอบเท่านั้น จุดนี้.. คิดว่ามีผลต่อการคิดวิเคราะห์สังเคราะห์อย่างมีเหตุมีผลไม่มากก็น้อย) - คนคะแนนอ่อนในการสอบแข่งไปเรียนครู ( ก็ระบบคัดเป็นอย่างนี้ แล้วจะให้เขาไปไหน) หรือคนหัวดี เก่งเทพจบแล้วอยากเป็นครู ก็ดี (ส่วนตัว ใครอยากมาเป็นครูก็ชื่นชมทั้งนั้น แม้บางครั้งจะสงสัยว่าทำไมไม่ทำงานที่ได้เรียนมา) ต่างก็ยืนอยู่ในจุดของตัวเอง...ซึ่งมีประโยชน์ทั้งสิ้น มีส่วนทำให้เด็กและระบบการศึกษาเคลื่อนไป แต่ที่มันเป็นอยู่อย่างนี้ เพราะระบบสังคม โดยเฉพาะส่วนระบบปกครองตั้งเป็นเสาอยู่ แต่ละคนที่ถูกว่าๆๆ ไป ก็มีจุดดีและไม่ดีโดยมองจากบรรทัดฐานหนึ่งๆ เท่านั้น ทั้งๆ ที่ต่างก็คาน นน.กันอยู่บนคานเดียวกันนั่นแหละ ...ขอจบที่ตอบคำถามจขกท.ว่า อ.สอนภาษาจีนในระดับมหาวิทยาลัยก็เป็นสาขาขาดแคลนอยู่ น่าจะมุ่งทางนี้ จากคุณ : โจแดง (โจแดง) เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 54 02:45:42

ความคิดเห็นที่ 22 ที่คุณ รัตนลาวัณย์ ความคิดเห็นที่ 20 พูดว่า "ที่ผมไม่ชอบคุณ เพราะคุณเห็นแก่เงินจริงๆอ่านความเห็นดูก็รู้แล้ว และที่ผมเห็นด้วยกับคุณ][NuUnAn-- เพราะปีก่อนผมก็ได้ครูแนนเป็นที่ปรึกษา เป็นที่พึ่งพิง ในเวลาที่หาหนทางไม่ได้" ^ ตอบ แสดงว่าคุณไม่รู้วิธีอ่านระหว่างบรรทัด และระบบตรรกะของคุณชำรุด คุณจึงไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นครูได้ เพราะคุณไม่รู้วิธีสอนให้นักเรียนอ่านจับใจความและใช้ตรรกะอย่างแม่นยำได้ ลองกลับไปอ่านระหว่างบรรทัดใน คคห 17 ที่เราพูดว่า "เราตอบแบบนี้เพื่อให้ จขกท ใช้สติปัญญา คิดแก้ปัญหาเรื่องกฎระเบียบเรื่องใบอนุญาต แต่เขาจะทำหรือไม่ทำ หรือจะหาเงินได้กี่สิบกี่ร้อยล้าน หรือเขาจะยอมฝ่าด่านค่ายกลมนุษย์ทองคำวัดเส้าหลินเพื่อไปรับใบอนุญาตครูไปรับราชการครูเหมือนคุณ][NuUnAn--ใน คคห 15   มันก็เรื่องของเขา เราก็แค่คิดทางเลือกใหม่ๆในยุคการสื่อสารไร้พรมแดนเท่านั้นเอง อีกทั้งการให้ความรู้เพื่อแลกกับเงินเป็นจำนวนมากโดยไม่ต้องไปขอใบอนุญาตครูก็เคยเป็นสิทธิอันชอบธรรมของมนุษย์ เพราะSocrates, Plato และ Aristotle ก็หาเงินจากการสอนมาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์แล้ว  ถ้าเจอกฎระเบียบเรื่ิองใบอนุญาตครูพวกเขาก็ต้องใช้มันสมองพลิกแพลงหลีกเลี่ยงเหมือนๆกันนั่นแหละ แทนที่จะต้องถูกล่วงละเมิดสิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคล   อ้อ แล้วอีกอย่างหนึ่งนะ ที่คุณ ][NuUnAn-- คคห 15 มากล่าวหาเราว่า "เห็นแก่เงิน" น่ะ อยากจะโต้ตอบโดยการบอกว่า เราก็เคยสอนหนังสือให้คนที่ไม่มีเงินพอจะจ่ายค่าเรียนได้ นานตั้งหลายๆเดือน แล้วเราก็มีหลักฐานพิสูจน์ด้วย แต่เราไม่ทำตัวเป็นเทพเหมือนคุณ ][NuUnAn-- คคห 15 ที่มาเที่ยวโฆษณาในนี้ว่า "เสียสละใจรักอาชีพครูเรียนเก่งแต่ยอมรับเงินเดือนน้อยๆ" เพื่อหวังทำคะแนนสงสารใน pantip หรอก เพราะคนเราควรถกกันด้วยเหตุผล มิใช่ระบายสีทางอารมณ์ให้คนอ่านต้องหวั่นไหว..." ^ คุณ รัตนลาวัณย์ ก็ไม่ต่างอะไรไปจาก คุณ ][NuUnAn-- ที่ 1. ฮึกเหิมหลงผิดคิดว่าตัวเองมีใบอนุญาตครูแล้วจะเก่งทุกอย่างแบบเทพ แต่หารู้ไม่ว่าคนอื่นเขาทำได้ดีกว่า 2. พอโดนคนที่เขามีสมองพลิกแพลงหาวิธีแก้ "ระบบผูกขาดเรื่องใบอนุญาตครู" (อย่างที่เราแปะให้ดูความสำเร็จของคุณลัดดาวัลย์ในการสอนภาษาไทยให้ฝรั่งข้ามทวีปด้วย skype จนประสบความสำเร็จอย่างงดงาม) ก็ตีโพยตีพาย แสดงความโมโห โกรธา กระทำการในข้อ 3 คือ 3. ใส่ร้ายป้ายสีคนให้ตัวเองดูดี ซึ่งไม่น่าจะเป็นลักษณะที่ดีของครูนะ นั่นก็แสดงว่า 4. ที่คุณพูดออกมาอย่างโจ่งแจ้งว่า "ที่ผมไม่ชอบคุณ เพราะคุณเห็นแก่เงินจริงๆอ่านความเห็นดูก็รู้แล้ว" มันก็แสดงให้เห็นว่า คุณ "อิจฉาผู้อื่นที่ไม่มีใบอนุญาตครูแต่รู้วิธีหาเงินจากการสอนได้มากกว่าคุณ คุณก็เลยพาลไม่ชอบขี้หน้าเขาไปซะ...555+++..."  ซึ่งจริงๆแล้วคุณควรทำอะไรให้ bless your soul หรือให้พรแก่วิญญาณคุณซะมากกว่าโดยการอ่านให้ดีๆ ในสิ่งที่่เราเขียน แล้วกลับไปนั่งบริกรรมดูว่า "คุณผิดพลาดอะไร ตรงไหนบ้าง ถึงต้องมีรายได้จากการสอนน้อย จนถึงกับตัองไปอิจฉาผู้อื่น หาว่าเขาเห็นแก่เงินในขณะที่คนที่เป็นครูในประเทศที่เจริญแล้วก็ร่ำรวยกันเป็นหลายๆสิบหลายๆร้อยล้านได้ซึ่งก็เป็นสิทธิอันชอบธรรมของพวกเขา" จะบอกให้ว่า "กฎระเบียบเรื่องใบอนุญาตครูนอกจากจะละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและสิทธิมนุษยชนแล้ว ยังไม่ได้เป็นตัวตัดสินว่าใครจะเป็นครูที่ดี" เราผู้ซึ่งไม่ได้เรียนครู แต่เราเคยเขียน research papers เป็นภาษาอังกฤษ ให้นักศึกษาปริญญาเอกวิชาศึกษาศาสตร์หลายๆคน ให้เรียนจบและรับปริญญาเอกศึกษาศาสตร์มาเป็นผู้บริหารการศึกษา (บางทีเขียนๆไปให้พวกข้าราชการครูบางคนนะ แล้วโดนเบี้ยวเงินอีกต่างหาก...555+++...) ดังนั้น เราจึงมีเหตุผลเหลือเฟือที่จะกล้าเถึยงกับคุณ ถ้าคุณจะทำศึกน้ำลายกับเราเรื่องการศึกษาคุณไมมีทางชนะเราหรอก เพราะเราเขียน research papers ด้านนี้มาเยอะมากๆ ดังนั้น ถ้าไม่อยากเจ็บตัวมากไปกว่านี้ ก็ให้ "หุบปากซะ" แล้วเราก็จะเลิกพูดว่าคุณไม่มีความสามารถที่จะเป็นครูได้เพราะอะไร... แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 54 12:28:08 แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 54 12:23:05 แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 54 12:14:33 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 54 12:07:29

ความคิดเห็นที่ 23 จ้า พ่อคนฉล๊าดฉลาด คนอวดเก่ง คิดว่าตัวเองเก่งที่สุดในโลกา ไม่ต้องมาบอกหรอกว่าเคยสอนหนังสือให้คนอื่นไม่คิดเงิน ไม่ต้องมาบอกหรอกว่าทำresearch papers  เพราะสิ่งที่คุณทำนะ "โคตรอวดเลยว่าคุณนะเก๊งเก่ง" และสิ่งที่คุณทำนะมันบอกเลยว่า "อิจฉา"ผมกับคุณ][NuUnAn-- ที่มีใบอนุญาตฯ และเป็น"ข้าราชการครู" อยากจะว่าผมตรรกะชำรุด อะไรก็ว่าไปเถอะ ผมขออวดคุณมั่งว่าผมเองก็มีพร้อมทุกอย่าง เงินเดือนครูไม่เคยแตะเลย เพราะแม่ให้ใช้เยอะกว่า ผมเลือกที่จะมาอยู่รร.ชนบททั้งๆที่บ้านผมก็อยู่ในเมือง  ผมเรียนป.โทมา2ปีแล้ว แต่ยังไม่จบ เพราะทำงานให้กับโรงเรียนมากกว่า อีกอย่างผมเพิ่งอายุ25 อย่าถือสาหาความผมนักเลย เพราะผมก็อ่านๆแล้วสรุปใจความเอา ไม่ได้นั่งจับผิดที่ยกมาเป็นประโยคๆ ผมไม่เคยมองตัวเองเป็นบรรทัดฐานแล้วเอาไปเทียบกับคนอื่น ว่าคนอื่นเป็นครูไม่ได้ ไม่รู้ว่าคุณเข้าใจความหมายของคำว่า"ครู"จริงๆหรือเปล่า  แต่สิ่งที่ผมมอง ผมมองว่าเขาขาดอะไร ต้องการอะไร ผมสามารถช่วยได้หรือไม่ ถ้าทำได้ก็จะทำ เหมือนที่ผมเคยได้รับ ที่คุณกล่าวหาผม ว่าผมฮึกเหิม ว่าผมใส่ร้ายป้ายสีอะไรก็แล้วแต่ มีสิ่งเดียวที่ไม่เป็นความจริงเลย คือ "ผมไม่เคยอิจฉาคุณ" ผมเลือกที่จะมาเป็นครูที่เงินเดือนน้อยนิดเนี่ยก็เพื่ออนาคตของชาติจริงๆ อยากให้เด็กในวันนี้เป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีความรู้ ไม่เอาความเก่ง ความฉลาดมาใช้หาผลประโยชน์กับตัวเอง และความจริงที่ผมต้องยอมรับอีกอย่างที่เลือกมาเป็นครูคือชีวิตของข้าราชการในบั้นปลายมันมั่นคงด้วย เพราะฉะนั้น ณ เวลานี้ ตอนนี้ ผมมีทุกอย่างแล้ว ผมทำให้พ่อแม่ภูมิใจแล้ว สิ่งที่ผมอยากทำอีกอย่าง คือ "เห็นเด็กที่ผมได้สั่งสอนเขา เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดี" มีสิ่งเดียวที่ผมคิดเหมือนคุณคือ "การกีดกันคนเก่งมาเป็นครู โดยคนคนนั้นต้องมีใบอนุญาตฯ" แต่เรื่องอื่นขอ bye คิดเหมือนคุณไม่ได้จริงๆ จากคุณ : รัตนลาวัณย์ เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 54 13:11:51

ความคิดเห็นที่ 24 เอ่อ.........จากประสบการณ์ตรงนะครับ(ย้ำประสบการณ์ตรง) เท่าที่เจอมาจากคนรอบๆข้างโดยตรง การที่จะเป็นครูได้ต้องมีเส้นแถมมาด้วย+ความสามารถทางวิชาชีพนิดๆหน่อยๆ คนเล่นดนตรีไม่เป็นบางคนยังไปเป็นครูสอนดนตรีได้เลย (ย้ำว่าเล่นไม่เป็นหรือพึ่งเริ่มหัดเหมือนเด็กๆทั่วไป) สอนได้อย่างไร? ก็เพราะมีเส้นมีคนรู้จักไงชักชวนกันไปง่ายๆ พร้อมการอธิบายให้คนอื่นเข้าใจง่าย สามารถควบคุมคนอื่นให้อยู่ในกรอบได้ แล้วมาสอบเอาวุฒิครูที่หลัง สบายยยย ป๊ะ...ทำไมมันง่ายอย่างงี้เนี่ยยยถ้าง่ายแบบนี้คงไม่ต้องไปเรียนครุ 5 ปี ให้เสียเวลาหรอกนะ - -* รู้อย่างนี้แล้ว หลายๆคนคงไม่ต้องไปเรียนเพิ่มทักษะอะไรต่างๆนาๆ เพื่อมาพัฒนาฝีมือให้เก่งๆเพื่อไปสอนคนอื่นให้เ้ข้าใจถ่องแท้และถูํกต้องตามหลักวิชาการหรอกครับ ไม่ต้องเรียนสูงๆใช้ประสบการณ์เอาก็สอนได้แล้ว บางคนสอนได้เงินมากกว่าคนเก่งๆอีก - -'' ย้ำว่าหาคอนเนคชั่นเยอะๆแล้วจะดีครับ ปล.นี่มาจากม.ราชภัฎล้วนๆ ที่ไหนคงไม่ต้องบอกเดี๋ยวสถาบันจะเสียไปมากกว่านี้ ไปเดากันเอาเองนะครับ จากคุณ : cadenza เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 00:52:52

ความคิดเห็นที่ 25 ที่คณ รัตนลาวัณย์ คคห 23 พูดว่า "ไม่ต้องมาบอกหรอกว่าเคยสอนหนังสือให้คนอื่นไม่คิดเงิน ไม่ต้องมาบอกหรอกว่าทำresearch papers  เพราะสิ่งที่คุณทำนะ "โคตรอวดเลยว่าคุณนะเก๊งเก่ง" และสิ่งที่คุณทำนะมันบอกเลยว่า "อิจฉา"ผมกับคุณ][NuUnAn-- ที่มีใบอนุญาตฯ และเป็น"ข้าราชการครู" " ^ มันก็แค่่เถึยงข้างๆคูๆอยากเอาชนะ อิจฉาพวกคุณน่ะหรือฝ้นไปซะหละ ทุกวันนั้นฉันมีอาชีพอื่นทำไม่ต้องมาเป็นครู แต่ที่พูดนี้่ก็เพื่ออนาคตเด็กไทยไม่ให้ต้องตกไปอยู่ในเงื้อมมือครูที่ "บ้าผูกขาดอาชีพตัวเองทั้งๆที่ตัวเองไม่เก่ง" ที่พูดว่า "ผมเลือกที่จะมาเป็นครูที่เงินเดือนน้อยนิดเนี่ยก็เพื่ออนาคตของชาติจริงๆ อยากให้เด็กในวันนี้เป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีความรู้ ไม่เอาความเก่ง ความฉลาดมาใช้หาผลประโยชน์กับตัวเอง" * ไม่เชื่อหรอก คุณไม่มีทางอื่นไปต่างหาก ................................................................... สรุป เราหมั่นไส้คุณที่คุณอวดเก่ง เราก็เลยอวดเก่งกลับ มันก็เหมือนๆกับแวดวง martial arts (วรยุทธ์) ที่ชอบทะเลาะกันว่าศิลปะการต่อสู้ไหนจะเก่งกว่ากัน ในเมื่อคุยกันไม่รู้เรื่องก็ต้อง "ลงมือต่อยกันจริงๆ" ในเมื่อคุณกับเราทะเลาะกันเปลืองน้ำลายทำไมไม่มาดวลกันเลย เรื่องการสอน? "เราก็ท้าให้ลองจัดการแข่งขันประลองฝีมือก้นตั้งแต่วางแผนการสอน หาและหรือสร้างสื่อการสอน  presentation และการวัดผล รวมทั้งให้มาเขียน research papers แข่งกัน แต่ส่งมหาลัยฝรั่งนะ ไม่ใช่ส่ง วค หรือราชภัฎ" จะสู้หรือไม่สู้ ถ้าไม่สู้ก็หูบปากซะ เพราะรำคาญ แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 54 20:35:48 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 54 20:31:21

ความคิดเห็นที่ 26 รำคาญเหมือนกันว่ะ ยกประเด็นมาก็ไม่หมด แล้วมาหาว่าเราเถียงข้างๆคูๆ ส่วนคุณจะเชื่อหรือไม่นั้นที่ผมเข้ามาเป็นครูเพราะเพื่อเด็กในอนาคตจริงๆก็แล้วแต่? แต่ผมกำลังทำและพยายามอยู่ ซึ่งในขณะที่คุณได้แต่แสดงความคิดและความเห็น อยากได้แบบนั้น แบบนี้ และผมจะบอกคุณว่า การจะสอนคนคนหนึ่งให้ได้ดีเนี่ย ไม่จำเป็นต้องอวดอ้างใช้สื่อไฮเทคฯมากก็ได้ แค่จัดการบริหารปัญหาที่เกิดขึ้นกับตัวเด็กให้ได้ก็พอ คุณอาจจะเคยสอนพิเศษซึ่งมีเด็กสนใจเท่านั้นที่มาเรียน แล้วในระบบละ เคยบ้างไหม แล้วไม่เคยเจอปัญหาเหมือนผมบ้างหรือ? จากคุณ : รัตนลาวัณย์ เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 54 21:06:04

ความคิดเห็นที่ 27 ตาคนนั้นน่ะ ผมว่าเค้าแปลกๆนะ จากคุณ : Saamaa5 เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 01:52:48