ความคิดเห็นที่ 1 You confuse the issue. Those who speak broken English are not said to have "no" education. They may be said to have "low" education. On the other hand, you will never see anyone who speaks fluent English with no grammatical mistake, has "low" education. Speaking broken English may or may not have high education, but at least people may think that you are not highly educated if they don't know you well or not see you speak in a particular context. But if you speak fluent English, no one, no one at all, will think that you have "low" education. Again the degree of broken English is different. Do you think a highly educated person will speak something like "You lonely? I make you no lonely? No matter how long he does not have a chance to speak, I don't think he will go down to that level. The content of the conversation also counts. If he/she speaks broken English but can convey complex message such as how to prevent early teenage pregnancy. No listener will ever believe that person has no education or even "low" education. So don't generalise about broken English. You can copy this message for your friend. จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 4 มิ.ย. 54 21:20:38

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่ได้มี attitude ไม่ได้ criticize และไม่ได้ judge ไม่ได้บอกว่าคนพูดภาษาอังกฤษไม่ถูกเป็นคนไร้การศึกษา แต่พูดในแง่ที่ว่าพูดภาษาอังกฤษแบบไม่ได้เรียนมา จึงทำให้ไม่สามารถใช้ได้อย่างถูกต้อง คำว่า ไม่มีการศึกษา เป็นคำภาษาไทยที่มีความหมายในเชิงดูถูก ซึ่งเราไม่ได้ใช้คำนั้นในเชิงนั้น แต่ใช้ตามความหมายตรงตัว uneducated คือไม่ได้รับการศึกษา และเราก็วงเล็บไว้ว่าภาษาอังกฤษ เพราะต่อให้จบปริญญาโท แต่พูด broken English ก็แปลว่าไม่ได้รับการศึกษาภาษาอังกฤษในระดับที่สามารถใช้ได้อย่างถูกต้อง ต่อให้แค่จบป.4 แต่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้อง คนที่ติดต่อสื่อสารด้วยก็ต้องคิดว่าคนนี้ well educated เพราะหากไม่ได้เล่าเรียน จะสามารถใช้ได้อย่างถูกต้องได้อย่างไร นอกจากจะใช้แบบภาษาแม่ ที่ไม่ต้องอ่านเขียนออกแต่ก็พูดได้ ตอนเขียนตอบไม่ได้มี attitude อะไรเลย เพียงแต่เห็นว่าหากจะอยากศึกษาภาษาอังกฤษ ก็ควรศึกษาให้รู้ถ่องแท้ ให้ใช้ได้อย่างถูกต้อง ถึงจะใช้ Broken English มันก็ไม่ตายหรอก และ it's not the end of the world ใครอยากใช้ก็ใช้ไป หรือใครอยากใช้ให้ถูกก็ใช้ไป ตามสะดวก ชีวิตใครชีวิตมัน แต่คนที่เข้ามาห้องนี้ก็เพราะอยากเก่งภาษาอังกฤษมากขึ้นไม่ใช่เหรอ หรือว่าใครตั้งเป้าหมายไว้แค่ขอพูดได้แบบงูๆปลาๆก็พอ ใครอยากได้แบบนั้นก็วงเล็บไว้หน่อย จะได้ไม่ต้องเสียเวลาตอบหรืออธิบายให้ยืดยาว จะเดือดร้อนอะไรขนาดนั้น ไม่ต้องไปเอาฝรั่งมาเขียนอะไรยืดยาว เพราะว่าเท่าที่อ่านดู it's you who has attitude, not me. It is very interesting how a foreigner who had heard one-sided story jumped into a conclusion about a person whom he does not know or has nothing to do with. It is even more interesting that he did not see the message himself – only just through the person who can’t speak English very well (Yep! That’s my assumption) – and believed that he got the message completely right. He even bothered enough to write such a comment. Unbelievable!   I am very sorry to tell you that you missed my point completely. I cannot blame you though since, as I said, you did not see what I said by yourself. Even a Thai who, I believe, can read Thai does not get the message right then there is no chance for a foreigner like you no matter how long you have been living in Thailand. The only reason I can think of why she couldn’t get my point is ATTITUDE.   Khun K.Senior has spoken it all for me, thanks to K.Senior and I hope that that foreigner who cares enough about how the Thais think of each other will see how we REALLY think. My comment (about broken English) could be considered as tough love but I genuinely believe that it does more good than harm to our people, far better than the foreigners who intentionally use broken English which does not do any good to a person except worsen their English. I personally hate any foreigners who use broken English to us. I have my own reasons and I hope you won’t JUDGE me by that. ปล. อ่านกระทู้ของคุณมาสามกระทู้ เพิ่งทราบว่าแฟนฝรั่งของคุณเป็นผู้หญิง จากคุณ : Le Cielo เขียนเมื่อ : 4 มิ.ย. 54 22:29:25

ความคิดเห็นที่ 3 Don't confuse the issue. A lot of people speak broken English because they never really try to or need to learn the language well. Now, let's have a look at those who really want to learn English so much. What do you see? Facts: Most learners of English under the Thai education system are not highly successful. Learners of English under different education systems in other countries are more successful. I watch Chinese TV programs quite often. Chinese teachers can teach English at secondary level far better than Thai teachers. Their success can be attributed to "their new approaches which are more flexible".   Many Thai teachers are still bogged down in pedagogic details like in this  other post: http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K10632862/K10632862.html จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 4 มิ.ย. 54 23:44:15

ความคิดเห็นที่ 4 คุณ จขกท หลังบ้านมาบอกว่าเราพูดเรื่องอะไร งง? เลยอธิบายเป็นไทยง่ายๆว่า คนทั่วโลกใช้ broken English เพราะไม่อยากเรียนและไม่จำเป็นต้องเรียนมากนัก แต่เวลานี้คนไทยที่พยายามเรียนอังกฤษน่ะตามระบบการศึกษาไทยนะ ล้าหลังประเทศอื่นๆเขาแล้วเพราะ แนวคิดไม่ทันสมัยมีข้อจำกัดที่มาจากการยึดมั่นในทฤษฎีการศึกษามากมาย ตอนเราทำงานเป็นล่ามในที่ประชุมบริษัทหลายๆแห่ง เวลาแต่ละคนพูดๆๆๆแล้วฉายข้อความที่ตัวเองพิมพ์จาก notebook ผ่าน projector ขึ้นจอน่ะ คนไทยที่พูดอังกฤษชัดๆคล่องๆน่ะเขียนภาษาอังกฤษผิด grammar บานเบอะเลย ผิดอย่างน้อยๆ 2-3 บรรทัดในเกือบทุกๆหน้า แต่พวกจีน เวียดนาม รัสเซีย โปแลนด์พวกนี้เขียนอังกฤษไม่มีที่ติเลย! นี่ขนาดไม่นับอดีตเมืองขึ้นอังกฤษนะ ถ้านับด้วยหละยิ่งมีเยอะเลยประเทศที่พลเมืองเขียนภาษาอังกฤษดีสุดๆ อย่าคิดว่าสมัยนี้มี broken English มากมายเหมือนสมัยประเทศอังกฤษล่าอาณานิคมนะ สมัยนั้นพวกเมืองขึ้นของคนอังกฤษเพิ่งเรียนภาษาอังกฤษก็ใช้ broken English แต่ตอนนี้พวกเขาเขียนภาษาอังกฤษเก่งพอๆฝรั่งเจ้าของภาษาไปแล้ว นั่นก็เพราะว่าระบบการศึกษาพวกเขาไม่ประสบความล้มเหลวเหมือนของไทย ที่สอนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่ประถมถึงมัธยมปลาย รวม 12 ปี แต่เด็กฟังอังกฤษไม่รู้เรื่อง พูดก็ไม่ได้ อ่านยากๆก็ตีความผิด ยิ่งเขียนก็ยิ่งเละไปใหญ่ มีเก่งหลงๆมาก็แค่ไม่กี่คน (ถ้านับเป็นเปอร์เซ็นต์จากประชากรทั้งหมดที่เรียนหนังสือครบ 12 ปีนะ) แก้ไขเมื่อ 05 มิ.ย. 54 00:56:23 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 54 00:52:36

ความคิดเห็นที่ 5 คุณ fortuneteller ที่งงนี่ไม่ใช่ที่คุณตอบในกระทู้เรา กระทู้อื่นน่ะ เข้าไปอ่านมาค่ะ  เหมือนรบกันค่ะ อิอิ สำหรับคนที่ยังไม่กล้าที่จะพูดภาษาอังกฤษ  หรือไม่มั่นใจว่าที่พูดออกไป จะถูกหรือเปล่านั้น ก็ไม่ต้องกังวลมากนะคะ เพราะชาวต่างชาติเค้าไม่ได้คิดว่าเราเรียนมาหรือไม่ได้เรียน  บางทีเค้ายังต้องใช้ภาษาอังกฤษแบบไม่ถูกต้องพูดกับเรา  เพื่อสื่อสารให้เราเข้าใจได้ง่ายขึ้นค่ะ  เคยพูดภาษาอังกฤษผิดค่ะบ่อยมาก  แต่คนที่หัวเราะเราไม่ใช่ต่างชาติค่ะ แต่เป็น เพื่อนเราเองคนไทยเหมือนกัน  แถมเอาไปเล่าต่อเห็นเป็นเรื่องสนุกสนานไป มีคนแบบนี้ค่ะ  เป็นกำลังใจให้คนที่กลัวไม่กล้าพูดค่ะ  พอเริ่มต้นอีกหน่อยก็มีกำลังใจมากขึ้นเองค่ะ จากคุณ : ternary เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 54 07:49:45

ความคิดเห็นที่ 6 ดูเหมือนว่าเจ้าของกระทู้จะมองคนต่างชาติด้วยสายตาสวยงามมากๆเลยนะคะ ก่อนอื่นก็ต้องบอกก่อนว่า คนต่างชาติไม่ได้มีแค่แฟนคุณและเพื่อนๆของเขาเท่านั้น ชาวต่างชาติมีอีกกี่ล้านคนก็ไม่รู้ เอาแค่ชาวต่างชาติที่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ก็ยังนับไม่หวาดไม่ไหวเลย (แต่ดูเหมือนแฟนคุณจะไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่นะ แก้ไขด้วยก็ดีถ้าเราเข้าใจผิด) ชาวต่างชาติที่คุณไม่รู้จักหรือไม่ได้สัมผัส อย่าว่าแต่พูด Broken English เลยค่ะที่เขาจะหัวเราะ แม้แต่คนที่พูดภาษาอังกฤษคล่องแต่มีสำเนียง อย่างอินเดียหรือฟิลิปปินส์ เขาก็หัวเราะค่ะ บางคนปิดใจเลย ไม่ฟัง พูดอะไร ไม่รู้เรื่อง แม้แต่ประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเหมือนกันแต่คนละสำเนียงอย่าง อังกฤษ อเมริกา ออสเตรเลีย คนก็ยังเอาสำเนียงมาล้อกันเอง หรือเอามาดูถูกกันต่างๆนานา แต่คุณคงไม่รู้ เพราะว่าชาวต่างชาติในสายตาคุณใจดี ไม่เคยหัวเราะเวลาคุณพูดผิด แถมช่วยพูดผิดๆเพื่อให้คุณเข้าใจง่ายขึ้นอีกด้วย ใจดีแบบนี้หาได้ที่ไหน แต่คุณก็ต้องยอมรับความจริงด้วยว่าที่เราพูดมามันจริง แม้ว่ามันจะไม่ตรงกับประสบการณ์ของคุณก็ตาม ส่วนเรื่องเรียนมากเรียนน้อยอะไรที่เราพูดไปจนคุณรับไม่ได้ จนต้องเอาไปให้แฟนฝรั่งเขียนความเห็นมาสั่งสอนเราว่าคนไทยเอ๋ยเลิกดูถูกดู:-)กันเสียทีนั่น รบกวนกลับไปอ่านความเห็นคุณ K.Senior อีกที เพราะว่าเขาพูดได้ตรงกับใจเราเป๊ะๆเลย ขนาดเราเขียนเป็นภาษาไทย ยังเขียนอธิบายความคิดออกมาไม่ได้ถูกใจตัวเองเท่าที่คุณ K.Senior เขียนเป็นภาษาอังกฤษเลย และที่เราพูดไปนั่น มันคือความจริง มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงที่เราประสบมา ว่าชาวต่างชาติเขามองคนที่ใช้ Broken English แบบไหน และถ้ามันไม่เป็นความจริง ก็คงจะไม่มีใครเห็นเหมือนเราหรอก และเราไม่ได้คิดเอาเอง เราไม่ได้ดูถูกคนไทยที่ใช้ภาษาอังกฤษไม่ถูก แต่เราแค่บอกคุณว่า ถ้าคุณใช้ไม่ถูกแล้วคนอื่นๆ (ที่ไม่ใช่แฟนคุณและเพื่อนๆ) เขาคิดกันยังไง เขียนชัดขนาดนี้หวังว่าจะเข้าใจประเด็นเสียทีนะคะ และเราไม่ได้บอกว่าคนต่างชาติที่หัวเราะคนที่พูดผิดทำถูกต้อง เพราะมันก็ไม่ยุติธรรมที่จะไปหัวเราะเขา เพราะว่าอย่างน้อยเขาก็ยังพูดได้ คนที่หัวเราะเขานั่นพูดภาษาเขาได้หรือเปล่า เพราะฉะนั้นบางทีก็ต้องมีด่ากลับกันบ้าง อย่างที่บอก ไม่สุภาพมาก็ด่ากลับ ไม่นิ่งเงียบหรอกค่ะ เพราะชาวต่างชาติไม่ใช่พระเจ้า และไม่ได้ทำอะไรถูกต้องหมด ต่างชาติดีๆก็มีมาก งี่เง่าก็มีแยะ เหมือนๆกับคนไทยนั่นแหละ เราก็เพิ่งเข้าใจประเด็นของคุณว่าคุณแค่ต้องการพูดแบบไม่กลัวฝรั่ง พูดแค่พอเข้าใจสื่อสารกันได้ งั้นก็คนละเป้าหมายกับเรา เราก็คงไม่เสียเวลาเสวนาอะไรกับคุณอีก ขอให้สนุกกับการใช้ภาษาอังกฤษค่ะ จากคุณ : Le Cielo เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 54 09:31:47

ความคิดเห็นที่ 7 เข้ามานั่งอ่านเฉยๆครับ พวกเก่งอิ้งเข้ามานั่ง Discuss กัน ได้ประโยชน์ดี ^^ จากคุณ : xemikonscuz เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 54 09:39:21

ความคิดเห็นที่ 8 ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเหมือนกันว่าใครว่าไร ขี้เกียจไปไล่เรียง ภาษาเป็นเครื่องมือถ่ายทอดความคิด เป็นเครื่องมือสื่อสารความคิดและโลกทัศน์ของตนเองให้สังคมภายนอกได้รับรู้ วงสังคมภายนอกตัวคนเรามีหลายระดับ แต่ละระดับก็มีความต้องการคุณภาพในการสื่อสารแตกต่างกัน ระดับถามทางซื้อข้าวกินซื้อของในห้างจะสะมุสะมะงูๆปลาๆก็ไม่ว่ากัน เพราะถือเอาเข้าใจกันเป็นหลัก ถ้าคนเราพอใจการสื่อสารแค่ระดับนี้และมีความจำเป็นต้องใช้แค่นี้ก็ไม่เห็นเป็นไร แต่ถ้าต้องการสือสารระดับงานบรรยายวิชาการ บทความในหนังสือพิมพ์ ตำรามาตรฐาน อย่างนี้ต้องการคุณภาพการสื่อสารในระดับที่สูงกว่านั่นแน่นอน จะบอกว่าพูดอย่างไรก็ได้ขอให้เข้าใจนั่นมันใช้ได้กับระดับ street/informal language เท่านั้น มันไม่เพียงพอกับการใช้ภาษาระดับ academic/formal ซึ่งต้องการความถูกต้องได้มาตรฐานตลอดจนความแม่นยำความกระชับอย่างมากถึงมากที่สุด ใครจะอยากติดต่อค้าขายกับบริษัทที่เขียนจดหมายติดต่อธุรกิจโดยใช้ภาษางูๆปลาๆ? ผมไม่ได้พูดถึงสำเนียงนะ สำเนียงเป็นอีกเรื่อง ผมเคยมีอาจารย์ที่ท่านพูดสำเนียงไม่เอาอ่าวเลยแต่ว่าสาระและการผูกประโยคร้อยเรียงข้อความของท่านน้ันไร้ที่ติ สมศักดิ์ศรีของนักวิชาการระดับโลกและเป็นเกียรติแก่เมืองไทยอย่างยิ่ง จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 54 10:30:39

ความคิดเห็นที่ 9 อ่านที่แฟนคุณเจ้าของกระทู้เขียนแล้วบอกได้ว่าคงไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรกแน่ๆ เพราะเขียนผิดเยอะมาก หรือว่าตั้งใจแสดงให้เห็นการใช้ broken English ในการสื่อสารคะ แค่สงสัยน่ะค่ะ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 54 12:26:48

ความคิดเห็นที่ 10 แฟนเราเป็นชาว Irland ค่ะ ประเทศนี้เค้าใช้ภาษาอังกฤษค่ะ แต่เค้ามาอยู่เอเชียนานมากแล้วค่ะ การใช้ภาษาของเค้าก็เลยเปลี่ยนไปค่ะ เพราะต้องปรับให้เข้ากับคนเอเชียค่ะ  เวลาทำงานด้วยกัน  ไม่ใช่ว่าทุกคนจะพูดได้ดีหมดค่ะ  แต่เวลาเขียนเค้าจะเขียนไม่เก่งค่ะ( เราเองยังเขียนภาษาไทยผิดเลย ถ้าให้ครูภาษาไทยมาตรวจนี่ไม่ผ่านเลยนะเนี่ย เราใช้ภาษาพูดเอามาเขียนค่ะ) เค้าจะมีปัญหาเรื่องการสะกดคำค่ะ  ต้องใช้ดิกชันนารีช่วยตลอดค่ะ  แล้วสำเนียงของเค้าก็จะเปลี่ยนไป เพราะมาอยู่เอเชียนาน  ตั้งแต่อายุ 23 เค้าบอกว่าถ้าเค้ากลับไป ไอร์แลน คนที่นั่นจะคิดว่าเค้าเป็นนักท่องเทียว บางคนคิดว่าเค้ามาจากอเมริกา  แต่ถ้าคนอเมริกันพูดกับเค้า จะรู้ว่าไม่ใช่อเมริกันค่ะ  แต่ถ้าเค้าพูดกับคนอังกฤษก็จะรู้ว่าเค้ามาจากไอร์แลนค่ะ  เคยคุยกับเพื่อนๆเค้า  ก็มีหลายชาติค่ะแต่สำเนียงก็ต่างกันไป เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง  แต่สนุกดีที่ได้คุยกัน  ไม่เคยคิดจะเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยเรียนค่ะ เพราะไม่ทำงานอะไรที่ต้องใช้ภาษาเลย  แค่อยากสื่อสารได้แค่นั้นค่ะ  พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดได้  แต่คิดว่าเราคงพูดสื่อสารได้ดีกว่านี้ในอนาคตค่ะผิดถูกไม่สำคัญสำหรับเราค่ะ  และสำหรับบางคนที่ยังไม่กล้าจะพูดผิดถูกวันนี้ไม่สำคัญค่ะ  วันนึงก็จะดีไปเองค่ะ  แค่เริ่มต้นจากสิ่งที่เรามีก่อนค่ะ เพราะยังมีคนรอบตัวเรา เพื่อนๆ ที่อยากสนทนาได้ แต่แค่ขาดความมั่นใจเท่านั้นเองค่ะ จากคุณ : ternary เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 54 14:03:03

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณทุกท่านที่มาแชร์ และถกกันด้วยเหตุด้วยผล จากคุณ : จูล่งฝ่าทัพ_รับอาเต๊า เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 54 20:50:21

ความคิดเห็นที่ 12 Is that how foreigners view it? Do foreigners think that thais view other thais who speak broken English is uneducated? I personally thought not all thais are like that, but i think that your attitude on this issue might have been influenced by other thais who have this kind of view?? I don't know about this. I don't think that thais who speak broken English is uneducated except if they obtained high degree of education but is unable to speak proper english (i mean 'not that too broken english'). For instance, would you trust a Ph.D. who speak a very broken english? Don't you question them how would they earn their degree with such english? Because,like it or not, English is a fundamental subject for higher level studies, they have to learn English. It's not about their 'accent', but it's about the 'grammar.' จากคุณ : Ta เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 54 22:14:14 A:110.168.45.198 X: TicketID:318975

ความคิดเห็นที่ 13 ก็คิดว่าเค้าพูดถูกเหมือนกันในด้านหนึ่ง เพราะเราเคยเจอมาเอง นศวิศวะเก่งเลขที่หนึ่งของชั้น มาเทอมแรกพูดได้สามคำคือเยสโนโอเค จะบอกว่าไม่มีการศึกษาก็ไม่ใช่ แต่ถ้าเราปิดตาฟังที่เค้าพูดอย่างเดียวโดยไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับเค้าเลย เราก็คงไม่เดาว่าเค้าเรียนจบปริญญาตรีได้ทุนเรียนต่อโท(ทางวิศวะ)หรอก เราว่ามาตรฐานการเรียนการสอนในเมืองไทยมันไม่น่าจะเหมาะ คือเรียนภาษาอังกฤษยังกะเรียนเลขมีประธานบวกกริยาบวกกรรมเท่ากับ... แล้วก็ไม่ค่อยมีปฏิบัติทางด้านพูดหรือเขียน หลุดจากแม่พิมพ์มาได้ ที่ดีหน่อยก็คืออ่านใช้ได้ เลือกมัลติเพิลช้อยส์เก่ง แต่เขียนหรือพูดแทบไม่ได้ แม้แต่ซื้อข้าวซื้อน้ำกินก็เกือบเป็นลมซะก่อน (ถ้านิ้วไม่ด้วนก็ชี้เอาแล้วกัน) แต่ในอีกด้านเราก็คิดว่า คำว่าคนมีการศึกษา(ดี) นั่นก็หมายถึงมีความรู้ความสามารถค่อนข้างรอบตัวด้วย ไม่ใช่ว่าเก่่งมากแต่คุยกับใครก็ไม่มีใครรู้เรื่อง(แม้แต่เฉพาะแค่ภาษาไทยก็เหอะ) แล้วภาษาอังกฤษมันก็เป็นเครื่องมือสื่อสารระดับสากล ถึงจะมองข้อจำกัดในการเรียนการสอนในเมืองไทยแล้วก็ตาม คนที่จบปริญญาตรีน่าจะมีมาตรฐานความสามารถทางภาษาอังกฤษสูงกว่านี้นิดนึงอ่ะนะ จากคุณ : Genuine XXX เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 13:15:39

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นด้วยกับคุณ  แอ๊ด ปากเกร็ด นะครับ ขึ้นอยู่กับว่าเราสื่อสารกับใคร แต่ก่อนตอนอยู่ต่างประเทศ เวลาสั่งซื้อของทางโทรศัพท์กับคนจีน (ซึ่งทั้งคู่ ภาษาอังกฤษก็ไม่ได้ดี) ก็ต้องเน้น สั้น กระชับ และในบริบทที่ทั้งคู่เข้าใจ  ไม่มีแกรมมาร์ มีแต่คำๆ นั้นเลย กับจำนวนที่ต้องการ 5555   ตอนแรกพูดเยอะไป โดนเค้าด่ากลับมา เพราะเค้าบอก ยาวไป เค้าจับใจความไม่ได้ แต่ถ้าสื่อสารกับ native เองเลย การใช้ให้เหมาะสมก็ดูจะดีกว่า เหมาะสมกว่า ใช้ไม่เหมาะ ก็ดูเหมือนเราขาดการศึกษานะครับ  เพราะภาษาก็บอกระดับของการศึกษาเช่นกัน ยิ่งเป็นการเขียน ยิ่งยาก ทั้งการแปล ทั้งการเขียน จากคุณ : NO one see ME เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 10:42:35