คำถามต่อระบบโซตัส
แม้ผู้ที่สนับสนุนระบบโซตัสจะอ้างถึงผลดีที่ได้จากระบบนี้ แต่ผู้ที่ไม่สนับสนุนก็ตั้งคำถามว่า
ผลดีที่ได้นั้น จำเป็นต้องได้มาโดยระบบโซตัสด้วยหรือไม่, หรือพูดอีกอย่างคือ มีวิธีอื่นอีกไหม ที่จะได้ผลลัพธ์นั้นโดยไม่ต้องใช้ระบบโซตัส. หรือกระทั่งตั้งคำถามว่า สิ่งที่ผู้สนับสนุนระบบโซตัสเรียกว่า "ผลดี" นั้น ที่สุดแล้ว เป็นสิ่งที่ดีงาม หรือจำเป็นจริงหรือไม่?
หลายครั้งที่ความสงสัยไม่ได้มีเพียงต่อตัวระบบโซตัสเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ปฏิบัติด้วย เช่น หากเราจะลองสมมติว่า ระบบโซตัสเป็นสิ่งที่ควรสนับสนุน แต่ที่สุดแล้ว ตัวผู้นำไปปฏิบัตินั้น มีความเข้าใจต่อระบบที่เขาคิดว่าควรสนับสนุนแค่ไหน หรือเป็นเพียงการทำไปตามประสบการณ์ที่เคยได้รับมา หรือการตีความเอาเอง?
บ่อยครั้งที่เราจะพบว่าการตีความเอาเองนี้ มักจะนำไปสู่การตีความเข้าข้างตนเอง เช่น หลักแรกพูดถึง Seniority "การเคารพผู้อาวุโส" ตัวผู้ปฏิบัติตีความหลักนี้อย่างไร หรือเพียงนับว่า นักศึกษาที่เข้ามาเรียนก่อน ก็คือ "ผู้อาวุโส" ที่นักศึกษาที่เข้ามาเรียนทีหลังจะต้องเคารพ หากการตีความเป็นเช่นนั้น สิ่งที่ผู้สนับสนุนมักจะยกมาอ้างว่า การเคารพผู้อาวุโสนั้นเป็นประเพณีที่ดีงามของสังคมไทย ก็จะผิดความหมายไปทันที เนื่องจากคำว่า "อาวุโส" ในสังคมไทยนั้น ไม่ได้หมายถึงเพียง "วัยวุฒิ" หรืออายุ (ทั้งอายุตัวและอายุงาน) เท่านั้น แต่ยังหมายถึงคุณความดีและการวางตัวในสังคมอีกด้วย. หากผู้ตีความหมายถึงเพียงการเข้าก่อนเข้าหลังเช่นนั้น ก็น่าจะตรงกับคำว่า Elderly (สูงวัย) ในภาษาอังกฤษมากกว่า Seniority (อาวุโส)
หรือในกรณี Unity "การเป็นหนึ่งเดียว" นั้น ผู้ปฏิบัติมีความเข้าใจในความเป็นหนึ่งเดียวในระดับไหน โดยความหมายทั่วไปแล้ว unity น่าจะหมายถึงเอกภาพในระดับใหญ่ ที่อนุญาตให้มีความหลากหลาย (diversity) ในระดับปัจเจกได้, และไม่ได้มีความหมายว่า ทุกคนจะต้องทำอย่างเดียวกัน คิดอย่างเดียวกัน โดยมีความเห็นเป็นอื่นไม่ได้ บ่อยครั้งที่เราจะพบว่า ผู้นำระบบโซตัสไปปฏิบัติจะตีความหลัก Unity ว่า จะมีใครทำสิ่งที่ผิดแปลกจากผู้อื่น หรือมีความเห็นเป็นอื่นไม่ได้ หากใครทำไม่เหมือนคนอื่น ก็จะถูกกดดันจากคนส่วนใหญ่ เช่น การไม่คบหา ไม่นับเป็นพี่เป็นน้อง หรือที่เรียกกันว่า "ตัดรุ่น"
ตัวอย่างข้อสงสัยต่าง ๆ เหล่านี้ ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามกับระบบโซตัสและการนำระบบโซตัสไปใช้ว่า ล้าสมัย เป็นเผด็จการ สืบทอดระบบเจ้าขุนมูลนาย (ดังเช่นการสร้างประเพณีปฏิบัติต่าง ๆ เพื่อตอกย้ำความสัมพันธ์เชิงอำนาจระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้อง) หรือกระทั่งละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์