ความคิดเห็นที่ 1 ที่มากระผมไม่ทราบครับ แต่ผมศรัทธาในประเพณีนี้มาก ใครช่วยมาขอผมไปเลี้ยงทีเถิดครับ หุหุ จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 16:33:52

ความคิดเห็นที่ 2 เท่าที่รุ้มาจริงนะครับ ญ ต้อง สู่ขอ ช  และ การส่ายหน้าในอินเดีย คือ ใช่ครับ ผิดถูกยังไงขออภัย รอ คนมายืนยันอีกที จากคุณ : idolking เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 17:01:42

ความคิดเห็นที่ 3 ที่แน่ ๆ ไม่ว่าชาติไหน  คนมี ไปขอ คนจน ไม่จำเป็นต้องเป็นหญิงหรือชาย เสมอไป จากคุณ : นายช่างปลูกเรือน เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 18:08:41

ความคิดเห็นที่ 4 จริงครับ เพื่อนผมคนนึง (ผู้หญิง) เคยไปทำ organize งานแต่งให้พวกอินเดีย (มาแต่งที่ประเทศไทย) บอกว่าฝ่ายหญิงต้องขอฝ่ายชาย แถมค่าใช้จ่ายในการจัดงาน โดยส่วนใหญ่ ฝ่ายหญิง (เจ้าสาว) จะเป็นฝ่ายออกเงินครับ ฝ่ายชาย(เจ้าบ่าว) จ่ายเฉพาะส่วนของญาติ ตัวเองที่มาร่วมงาน ผมสงสัยอยู่เหมือนกันว่า  แล้วผู้หญิงที่ไม่รวยงี้ทำไงอ่ะ จะได้แต่งมั๊ยเนี่ย แล้วผู้ชายนี่มันไม่รู้สึกต้องรับผิดชอบอะไรเลยรึไงนะ  แปลกดีแฮะ   เพื่อนยังแอบบ่นว่า ถ้าประเทศไทยเป็นแบบนี้ อย่าหวังว่าเธอจะแต่งงาน 55555 จากคุณ : ผมอยู่ที่นี่เพื่อคุณ เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 18:39:32

ความคิดเห็นที่ 5 จริงค่ะ มิหนำซ้ำผู้หญิงต้องปรนนิบัติผู้ชายเหมือนผู้หญิงชาติอื่นๆด้วย ปัจจุบันนี่ไม่รู้นะคะ ตามด้วยฆ่าตัวตายตามสามีในกองไฟอีกประเพณีหนึ่ง ประเพณีพวกนี้ลดจำนวนลงค่ะ แต่อาจจะมีอยู่บ้าง เราว่าประเทศอิสลาม อินเดีย จีน ผู้หญิงเสียเปรียบพอๆกันเลย ถึงแม้ตอนนี้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้หญิงดีขึ้นมากแล้ว แต่ยังมีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยถูกกดขี่ รังแก นึกถึงทีไรเซ็งทุกที สงสารผู้หญิงพวกนั้น อย่างจีน ฆ่าลูกได้สบายๆ ถ้าลูกเป็นลูกสาว หรือไม่ก็ทิ้งไม่ยอมเลี้ยง ปัจจุบันในจีนแผ่นดินใหญ่เขาจะทำแท้งถ้าตรวจแล้วรู้ว่าเป็นทารกหญิง (ที่จีน การทำแท้งเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ เคยเจอโฆษณาตามป้ายรถเมล์ด้วย เหอะๆ) เมื่อก่อนคนจีนในไทย ถ้าคลอดออกมาเป็นหญิงก็ฆ่าทิ้ง แม่เราบอกเป็นเพราะเมื่อแต่งงาน ถึงแม้เป็นลูกสาวพ่อแม่ก็ต้องเตรียมของบางอย่างให้ลูก หลายเงินอยู่ เข้าใจว่าในภาษาจีนเรียกมันว่า 嫁妆 นะ ลูกชายเงินเสียแล้วยังได้ผู้หญิงมาเพิ่ม แต่ลูกสาวเสียเงินแล้วไม่ได้อะไรมาเลยเลยรู้สึกว่าไม่คุ้มมั้ง เลยกำจัดทิ้ง ตัดไฟแต่ต้นลมเสีย เห็นหนังสือพิมพ์ชอบด่า แม่ใจร้าย แม่ใจยักษ์ ดูคนจีนทำกับลูกสาวเสียก่อน มันไม่ใช่เพิ่งมีนะ แต่มีมานานแล้วและไม่ค่อยมีใครเอ่ยถึง ต่อมาไม่รู้เป็นเพราะอยู่กับคนไทยนานไปหรือว่าอย่างไร การฆ่าทารกหญิงก็ไม่มีอีกเลย อย่างน้อยเด็กในรุ่นเราไม่มีใครโดน จากคุณ : ขวัญ (khumchalong) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 18:48:46

ความคิดเห็นที่ 6 เพราะการทำแท้งในจีนเป็นเรื่องถูกกฎหมายหน่ะครับ เลยเป็นช่องว่างให้มีการเลือกเพศของทารกได้ เห็นรัฐบาลจีนก็พยายามรณรงค์ห้ามปรามเรื่องนี้มาหลายสิบปีเหมือนกัน จนปัจจุบันยอมให้ครอบครัวในชนบทมีหากลูกคนแรกเป็นลูกสาว อนุญาตให้มีลูกคนที่สองได้เหมือนกันเพื่อแก้ไขปัญหานี้ เรื่องการกีดกันทางเพศในจีนมีมานานแล้วครับ ถึงมีนิทานว่า คลอดลูกสาวให้นอนบนพื้น คลอดลูกชายให้นอนบนฟูก........ ส่วนใหญ่สาเหตุก็น่าจะเพราะ สังคมเกษตรกรรมนั้น เพศชายเป็นเพศที่มีความสำคัญต่อการผลิตสูงกว่าเพศหญิงครับ ทั้งการสร้างและปกป้องผลผลิตล้วนอาศัยบุรุษเพศเป็นกำลังสำคัญ แต่อนาคตเมื่อจีนเปลี่ยนแปลงเป็นสังคมอุตสาหกรรมมากขึ้น แนวคิดเรื่องแบบนี้ก็คงจะซาๆลงไปตามยุคสมัยเอง จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 19:05:52

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าทุกบ้านมีแต่ลูกชาย แล้วลูกชายไปแต่งงานกับใครล่ะ จากคุณ : yellobat เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 19:15:04

ความคิดเห็นที่ 8 ในอินเดียส่วนหนึ่งก็เพราะฝ่ายหญิงต้องจ่ายหยนักนี่แหละค่ะที่ทำให้ทำแท้งลูกสาวไปเยอะ เพิ่งมีรายงานจากการทำสำมะโนประชากรอินเดียเมื่อต้นปีนี้เอง สงสัยว่าเด็ผู้หญิงอาจจะหายไปสัก 8 ล้าน ในสิบปี โดยปกติอัตราการเกิดเด็กผู้ชายผู้หญิงจะไม่ต่างกันมาก แถมหญิงอาจมากกว่าด้วยซ้ำ หาเจ้าสาวไม่ได้เยอะแน่ รูปเอามาจาก bbc ค่ะ แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 54 19:17:25 จากคุณ : jackfruit_k เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 19:16:14

ความคิดเห็นที่ 9 ง่า ที่รัฐทางภาคอีสานของอินเดียเช่น รัฐเมฆาลัย (Meghalaya) มีประเพณีผู้หญิงเป็นใหญ่นะครับ มรดกของพ่อแม่ให้ลูกผู้หญิง ผู้หญิงเป็นคนทำธุรกิจครอบครัว ผู้หญิงเป็นคนตัดสินใจเรื่องใหญ่ๆในครอบครัว เวลาแต่งงานก็แต่งเขยเข้าบ้าน ผล? ตอนนี้มีผู้ชายที่เคยเดินทางไปเห็นสังคมในรัฐอื่นๆของอินเดียกลับมาตั้งกลุ่มปลดแอกผู้ชายซะแล้ว เรียกว่ากลุ่มสิทธิบุรุษเห็นจะได้ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 19:54:57

ความคิดเห็นที่ 10 จริงครับ   แต่ถ้าเมืองใหญ่ๆ ก็มีบางคู่เปลี่ยนไปบ้าง  แต่ส่วนใหญ่ก็ยังถือประเพณีอยู่ เพียงแต่ การเรียกร้องสินสองก็ลดความเข้มข้นลงไป  ประเภทที่เรียกร้องจนพ่อแม่ฝ่ายหญิงล่มจมก็ลดไปเยอะ หลังแต่งงานก็เหมือนคู่แต่งงานทั่วไปครับ  อาจจะช่วยกันทำมาหากินหรือ ฝ่ายชายเลี้ยงดูก็ได้ ในอินเดียประชากรชายหญิงไม่สมดุลครับ  เขามักนึกเอาเองว่าทุกประเทศจะเหมือนอินเดีย   มาเมืองไทยที่นึง  ขึ้นรถไฟฟ้าดูเมืองแถวสยาม ชิดลม กลับมาบอกผมว่า เมืองไทยผู้หญิงเยอะมากๆๆ  สงสัยจะไปเจอตอนสาวๆออฟฟิสแถวนั้นเขาไปกินข้าวกัน จากคุณ : Ter @ AFC เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 20:08:48

ความคิดเห็นที่ 11 ประเพณีให้ผู้หญิงสืบสกุลนี้มีมานานแล้วในรัฐนี้ เขาเรียกว่า matrilineal society หน้าตาสาวๆสวยไม่เบานะครับ คุณอุ้ยสนใจไหม? จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 20:13:38

ความคิดเห็นที่ 12 สนใจ แต่บ่มีใครติดต่อให้ครับท่าน อิอิ จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 20:43:11

ความคิดเห็นที่ 13 อ้า...เราสบายไปตั้งนานแล้ว เพราะเราได้แฟนเป็นสาวอินเดีย...555+++... จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 21:42:29

ความคิดเห็นที่ 14 ^ ^ #7 ชายจีนที่หาภรรยาไม่ได้ ก็มาซื้อสาวเกาหลีเหนือไปเป็นภรรยาครับ ทำกันมานานแล้ว เคยอ่านเจอในนิตยสาร National Geograp... อ่ะคับ ใครมีข้อมูลที่ดีกว่า ก็กรุณาแนะนำด้วยนะครับ จากคุณ : Chef_vee เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 00:17:53

ความคิดเห็นที่ 15 อ่านเสร็จแล้วก็ .....เฮ้อ........... รู้งี้ย้ายไปอยู่อินเดียตั้งแต่ตอนหนุ่ม ๆ ก็ดี ป่านนี้....ก็สบายไปแล้วครับ จากคุณ : ckman เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 12:37:04

ความคิดเห็นที่ 16 เป็นเรื่องจริงครับ เพราะมีเพื่อนร่วม Apartment เป็นอินเดีย เลยได้ไปสัมผัสกับสมาคมเค้าบ่อยๆ คนอินเดียผู้ชายส่วนมากมักจะมีการเล็งคู่ของตนไว้อยู่แล้วโดยทางครอบครัว ให้อยู่ใน caste และ sub-caste เดียวกัน ซึงในความเข้าใจครั้งแรกของผมนั้นนึกเพียงว่าหากอยู่ใน caste เดียวกันก็สามารถแต่งกันได้ แต่จริงแล้วใน caste เดียวกันนั้นยังมีแยกย่อยอีก  ผู้ชายอินเดียที่ได้มาเรียนต่อที่อเมริกาและสามารถหางานทำได้ที่นี่ โดยมากทางครอบครัวผู้ชายจะสามารถเรียกค่าสินสอดได้มากขึ้นไปอีก  เพื่อนบางคนมาเรียนแล้วชอบกัน แต่สุดท้ายก็เป็นไปไม่ได้เพราะไม่สามารถฝืนกฏของสังคมและพ่อแม่ได้  นอกเสียจากจะแต่งกันแล้วไม่กลับไปเลย จากคุณ : Indy_Colts เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 12:58:37

ความคิดเห็นที่ 17 จริงค่ะ เป็นประเพนีของศาสนาพราหม ฮินดูค่ะ ไม่ใช่พุทธ หรืออิสลาม จากคุณ : กินไม่ได้เพราะอิ่ม เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 19:37:36

ความคิดเห็นที่ 18 ดูสารคดีอะไรสักอย่าง พูดถึงอีกด้านหนึ่งของประเพณีนี้เหมือนกัน เขาบอกว่าประเพณีนี้ดีกับฝ่ายหญิงมากกว่า เพราะพวกเธอสามารถเลือกคนที่มาเป็นสามีได้ ขณะที่ประเพณีส่วนใหญ่ ฝ่ายหญิงไม่สามารถจะเลือกได้ ถ้ามีตาแก่หนังเหี่ยวมีเงินหนาๆมาสู่ขอ ก็ต้องยอมแต่ง อีกเรื่องหนึ่ง ผมว่าสะใภ้จีนไม่ได้อาภัพเสมอไปหรอกครับ ขึ้นอยู่กับฐานะครอบครัวฝ่ายหญิงด้วย ถ้าครอบครัวฝ่ายหญิงฐานะสูงกว่า ขี้คร้านแม่สามีจะเอาใจ จากคุณ : masked v เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 22:27:25

ความคิดเห็นที่ 19 เพราะพวกเธอสามารถเลือกคนที่มาเป็นสามีได้ ... ไม่จริงหรอกครับ เพราะถ้าตัวเองหรือพ่อแม่ไม่รวย ไม่มีสินสอด ก็เลือกชายดี การศึกษาสูงไม่ได้ ต้องแต่งกับชายที่ห่วยๆ จนๆ ด้วยกันหรือจนกว่าอีก เพราะพวกชายห่วยๆ พ่อแม่เขาอยากให้มีครอบครัวจะไม่เรียกร้องมากครับ มันมีเมียก็ดีเท่าไรแล้ว ไม่เอาถ่านอย่างงี้ จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 02:35:29

ความคิดเห็นที่ 20 http://www.pantip.com/cafe/social/topic/U10694216/U10694216.html รักคนง่าย ความรักในหมู่คนอินเดียจะเร็วมาก บางคนเจอในเน็ต คุยกันสองชม. มันบอกชอบ คุยต่ออีกวันนึง มันบอกรัก พอเข้าวันที่สี่ มันขอแต่งงาน โอว เจ๋งจริง สาวไทยบางคนอยากลองของ เอาวะเล่นกับมันซะหน่อย บอก อืม โอเค งั้นมาคุยกับพ่อแม่เลยนะ หลังจากนั้นเข้าวันที่หก หนุ่มนั้นหายหัวไปไหนไม่รู้ ในหมู่เพื่อน ๆ อินเดีย ในกลุ่มที่สนิทกัน มีแค่สองในสิบคู่ ที่แต่งงานกันเพราะความรักก่อนแต่ง นอกนั้นเป็นการรักกันหลังแต่งงานทั้งสิ้น โดยการจับคู่ของพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายบ้าง โดยการหาคู่ในหนังสือพิมพ์, ในเวบไซต์หาคู่บ้าง บางคนพ่อแม่จับแต่งเลย แบบว่ายังงัยเอ็งก็ต้องแต่งกับคนนี้ เพราะต้องการจะเป็นญาติกับครอบครัวนี้ ฯลฯ เหมือนคลุมถุงชนบ้านเราสมัยก่อน อืมม แต่จะเรียกว่าคลุมถุงชนก็ไม่เชิงนะ บางครอบครัวพ่อแม่จะหาหลาย ๆ คนมาให้เลือกก่อน ตีซะประมาณห้าหกคน เอารูปมาให้ดูก่อนว่าจะคัดเลือกคนไหน คนไหนผ่านเข้ารอบก็นัดเจอกัน แล้วก็เลือกให้เหลือคนเดียวที่ชอบที่สุด (เหมือนประกวดนางงามประมาณนั้น) บางคนก็หามาให้เลือกทีละคน แบบไม่รีบ คนที่หนึ่งผ่านไป ไม่ชอบก็หาใหม่ เอาคนที่สอง สามตามลำดับมาให้เลือก บางทีเลือกจนแก่ก็ยังหาไม่ได้ ทีนี้ยังงัยก็ต้องเอาแล้วเลือกไม่ได้ จะกลับไปเอาคนที่สองก็ไม่ได้แล้ว นางนั้นเลือกคนอื่นแต่งงานมีลูกไปเรียบร้อยแล้ว ทีนี้พอโอเคปุ๊บ เจอกันอีกสองสามครั้ง พ่อแม่ก็จะดูฤกษ์แต่งงานให้เลย บางคนก็หมั้นกันก่อน แต่ทีนี้ มาถึงเรื่องสินสอด ที่ฝ่ายหญิงจะต้องให้ฝ่ายชาย ธรรมเนียมนี้มีมาแต่โบราณ ปัจจุบันก็ยังมีอยู่ถึงแม้จะผิดกฏหมายแล้วก็ตาม โดยเฉพาะบางครอบครัวฝ่ายชายที่เห็นแก่ได้ บางครอบครัวก็ขออยู่นั่นแหละ ตั้งแต่ก่อนแต่งยันหลังแต่ง พอไม่ให้ก็ยุให้ลูกชายเลิก (อันนี้เกิดขึ้นจริง ๆ กับเพื่อนอินเดียที่สนิทกัน) ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับลูกชายแล้ว ว่าจะเข้าข้างฝ่ายไหน ว่าแต่ว่าเหอะ เราอยู่นี่ก็เห็นข่าวไม่ค่อยดีเกี่ยวกับครอบครัวที่ชอบข่มขู่เอาสินสอดจากฝ่ายหญิงเยอะเหมือนกัน แต่ถ้าเป็นครอบครัวสมัยใหม่เดี๋ยวนี้เค้าไม่แคร์กับเรื่องพวกนี้แล้ว ไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้ด้วยซ้ำ (เหมือนบ้านเราปัจจุบัน) http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=moti&group=2 จากคุณ : ต็กโกวคิ้วป้าย เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 19:48:23

ความคิดเห็นที่ 21 not caz สังคมอุตสาหกรรม krub but service social (like thailand) girl have more important than boy krub จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 01:24:46