ความคิดเห็นที่ 1 เรื่องของหูเป็นเรื่องลางเนื้อชอบลางยา ไม่มีหลักหรอกครับ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 23:32:34

ความคิดเห็นที่ 2 If it is Queen's English. It is easy to understand. The same with VOA English. Just listen to the Queen's address and you will see what I mean. Also compare with English spoken by President Obama. Both are excellent speakers. If you listen from the best of both sides, it is really easy to understand. จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 23:45:54

ความคิดเห็นที่ 3 สำเนียงอเมริกันทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ตะวันออกจดตะวันตกและตั้งแต่เหนือจดใต้ไม่แตกต่างกันมาก ฟังเข้าใจง่าย ในขณะที่สำเนียงอังกฤษแตกแขนงออกไปเยอะมาก บางแขนงฟังยากมาก เช่น สำเนียงอังกฤษแบบสก๊อต (เซอร์อเล็กส์ เฟอร์กุสัน) สำเนียงอีสานแถวนิวคาสเซิล และอื่นๆ แล้วยังมีสำเนียงอังกฤษแบบออสเตรเลีย แบบนิวซีแลนด์อีก แต่ถ้าเป็นสำเนียงอังกฤษแบบผู้ดีอังกฤษ (ที่มีการศึกษาดี) อันนั้นก็ฟังเข้าใจง่ายเหมือนกัน เช่น บรรดานายกรัฐมนตรีทั้งหลาย โทนี่ แบลร์ เป็นต้น พูดถึงสถานีโทรทัศน์ส่วนกลาง ถ้าเป็นพิธีกรผู้ดำเนินรายการหลัก อันนี้มักไม่มีปัญหาเพราะมักใช้สำเนียงที่ชัดเจนฟังง่าย แต่ปัญหาคือผู้ร่วมรายการคนอื่นๆ ซึ่งอาจเป็นนักฟุตบอล ดารา นางแบบ ซึ่งบางคนสำเนียงฟังยากเหมือนกัน จากคุณ : นายชัย เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 23:52:09

ความคิดเห็นที่ 4 "สำหรับคนที่ไม่เคยเรียนสำเนียงแบบไหนมาก่อนนะครับ" อ่านคำถามแล้วงง ๆ เราว่า ถ้าไม่เคยเรียนสำเนียงไหนมาก่อน เริ่มแรกมันคงยากเหมือนกันหมด ต่อไปก็คงชินและคุ้นเคยกับสำเนียงอะไรก็ตามที่เป็นสำเนียงแรกนะ เหมือนเด็กไทย ถ้าไปโตในอังกฤษ ออสเตรเลีย หรืออเมริกา ใช้เวลาซักพักก็คงฟังสิ่งที่คนรอบข้างพูดได้เข้าใจทั้งนั้น อย่างเพื่อนเราคนฟิลิปปินส์เกิดและโตในอเมริกาย่านคนดำ พูดได้แบบคนดำเลย ถ้าเมืองไทยสอนด้วยสำเนียงอังกฤษจริง ๆ เราว่าเด็กนักเรียนก็คงชินแบบนั้น เพียงแต่ว่าเมืองไทยรับสื่ออเมริกาในสัดส่วนที่เยอะกว่ามาก เช่นคนอ่านข่าว ดีเจ ก็ใช้สำเนียงอเมริกันเยอะ ภาพยนตร์หรือรายการทีวี ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ส่วนคนที่เคยชินกับสำเนียงใดสำเนียงหนึ่งมาแล้วนี่สิ สำเนียงอื่นมันถึงจะฟังยากหรือฟังง่าย เช่นเราคุ้นกับสำเนียงอเมริกัน ไปฟังคนอังกฤษพูด ก็ต้องปรับหู บางประโยคยังฟังไม่รู้เรื่องเลย หรือบางทีฟังคนพูดใต้แบบมิสซิสซิปปี้ หรือ อลาบาม่า ยังเกาหัวแกรก ๆ จากคุณ : Genuine XXX เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 03:12:01

ความคิดเห็นที่ 5 ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เขาก็มีสำเนียงของเขานะคะ มันไม่ใช่สาขานึงของสำเนียงอังกฤษ เพราะมันคนละประเทศ จากคุณ : Le Cielo เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 07:50:12

ความคิดเห็นที่ 6 เราว่าถ้าใช้ภาษาอังกฤษในระดับที่ฟังออกจริงๆแล้ว สำเนียงไหนก็ได้หมดนะคะ มันแค่แตกต่างเท่านั้นเอง แต่เรายังฟังสำเนียงสกอตไม่ค่อยออกเท่าไหร่ (แต่บางทีในทีวีเวลามีคนพูดสำเนียงสกอตก็จะมี closed captions ให้ ๕๕๕ เพราะว่ามันแตกต่างจนแบบจำไม่ได้ว่าเป็นภาษาอังกฤษน่ะค่ะ)   ที่ที่เราอยู่ รายการทีวีมีทั้งของออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อเมริกา และอังกฤษ หลังจากที่ฟังสลับกันไปมาเรารู้สึกชอบสำเนียงอังกฤษที่สุด เค้าพูดเนิบๆ ช้าๆ เน้นๆคำ รู้สึกว่ามันเพราะดี สำเนียงอเมริกันฟังแล้วก็เฉยๆ ไม่รู้สึกว่ามีอะไรน่าสนใจเป็นพิเศษ แต่วันนึงเปิดรายการ Holmes on homes แล้วต้องกรีดร้อง เพราะไม่เคยรู้สึกว่าสำเนียงอเมริกันมันน่ารำคาญขนาดนี้มาก่อนเลย คือพูดขึ้นจมูกแง้วๆ รำคาญมากจนต้องเปลี่ยนช่อง แล้วบ่นกับคนที่่บ้านว่าไม่เคยรู้มาก่อนว่าสำเนียงอเมริกันน่ารำคาญขนาดนี้ คนที่บ้านบอกว่า อาจจะเพราะคนนี้เฉยๆมั้ง เลยมานึก ก็จริงนะ เพราะรายการอื่นๆเราก็ไม่เคยรู้สึกอะไร มาเจอตาแง้วๆนี่เข้าไป ทำสำเนียงอเมริกันเค้าเสียหมด ๕๕๕ เอ่อ ว่าจะพูด สำเนียงไหนก็แล้วแต่ แม้แต่สำเนียงไทย ถ้าออกเสียงถูกต้องก็ฟังง่ายหมดนะคะ แต่ถ้าออกเสียงไม่ถูกเนี่ย สำเนียงไทยจ๋ามายังฟังไม่รู้เรื่องเลย เพราะไม่รู้ว่าเค้าจะพูดคำว่าอะไร ส่วนฝรั่งเจ้าของภาษา จะรวบเสียง รวบคำอะไร ทำไมยังฟังออกอยู่ดีก็ไม่รู้ ๕๕ จากคุณ : Le Cielo เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 08:03:40

ความคิดเห็นที่ 7 อ่อ อีกอัน เราเคยนั่งคุยกับคนอังกฤษ สองคนมาจากลอนดอน แต่ทั้งสองคนสำเนียงไม่เหมือนกันเลยค่ะ เราก็สงสัยว่ามาจากลอนดอนเหมือนกันทำไมพูดไม่เหมือนกัน เลยถาม เขาบอกว่าคนนึงเกิดที่ลอนดอนและใช้ภาษากลาง อีกคนเกิดทางเหนือและใช้สำเนียงทางเหนือ ก็เลยสำเนียงไม่เหมือนกัน เราก็สงสัยอีก ภาษากลางคืออะไร มันคือสำเนียงที่ posh ที่มีการศึกษา ที่เลิศเลอเพอร์เฟ็คท์หรืออย่างไร เขาบอกว่าไม่ใช่ มันเป็นสำเนียงกลางๆที่ไม่ติดสำเนียงท้องถิ่นน่ะ ซึ่งบางคนอยู่บ้านพูดสำเนียงท้องถิ่น เข้าลอนดอนก็พูดสำเนียงกลาง เขาบอกให้ดูพวกในทีวี พวก celeb หรือคนสำคัญ ส่วนใหญ่จะใช้สำเนียงกลาง เขาว่าอย่างนั้น ซึ่งเราก็สงสัยว่าสำเนียงอังกฤษที่เราชอบ ที่เราบอกว่า ช้าๆ เนิบๆ เน้นๆ นั่นน่าจะเป็นสำเนียงกลางนี่กระมัง จากคุณ : Le Cielo เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 08:08:40

ความคิดเห็นที่ 8 ผมชอบสำเนียงพี่อาร์โนลด์คนเหล็กครับ I'll be back! ฟังแล้วหนาวววว! จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 08:16:23

ความคิดเห็นที่ 9 ตามความเห็นผม คิดว่าคำถามว่าอะไรฟังง่ายฟังยาก เรียนง่ายเรียนยาก อะไรแนวๆนี้มันค่อนข้างเป็นเรื่องอัตวิสัย (subjective) อยู่มาก เพราะตามคำถามตัวแปรหาใช่อยู่ที่ตัวสำเนียงไม่ (มันก็เป็นของมันอยู่อย่างนั้น) แต่อยู่ที่ตัวคนฟังเองว่ามีพื้นเพ ความคุ้นชิน ความสามารถทางทักษะทางภาษา(การฟัง) หรือแม้แต่ความชื่นชอบที่เอื้อต่อการฟังสำเนียงนั้นๆออกมากน้อยแค่ไหนต่างหาก ขนาดเจ้าของภาษาอังกฤษแท้ๆบางคนบางกลุ่มยังอาจมีปัญหาเมื่อต้องฟังสำเนียงจากถิ่นอื่น ทั้งคนอังกฤษฟังคนอเมริกัน คนอเมริกันฟังคนอังกฤษด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับคนไทยที่เรียนภาษาอังกฤษ จากคุณ : โจโฉ (joechou) เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 08:17:17

ความคิดเห็นที่ 10 สำเนียงอเมริกันแบบมาตรฐาน คือ general American (GA) สำเนียงอังกฤษแบบมาตรฐาน คือ received pronunciation (RP) ^ ทั้ง 2 สำเนียงนี้ ฟังง่ายที่สุด แต่สำเนียงอื่นนอกจาก GA หรือ RP แบบที่เหน่อๆฟังยากมากๆ ทีแรกเราคิดว่าอเมริกาพื้นที่ประเทศใหญ่บะเร่อน่าจะมีสำเนียงแปลกๆฟังยากมากกว่า แต่กลับกลายเป็นตรงกันข้าม เพราะอังกฤษพื้นที่ประเทศเล็กนิดเดียวแต่มีสำเนียงประหลาดๆตั้งมากมายแบบฟังแล้วถึงกับอึ้งไม่รู้เรื่องเลยหละ สำเนียงอเมริกันที่แย่ๆมากๆแย่ยังไงก็ไม่แย่เท่าสำเนียงท้องถิ่นของอังกฤษ คาดว่าเป็นเพราะจะแย่ยังไงแต่คนอเมริกันก็ยังพูดยานคางกว่าคนอังกฤษตั้งหลายเท่าทำให้พอฟังทันแต่คนอังกฤษที่พูดได้แย่มากๆตัดพยางค์ซะจนห้วนแถมยังออกเสียงสระเพี้ยนเกือบหมด สำหรับคนไทยแล้วถ้าจะเรียนพูดให้ชัดเราว่าเรียนสำเนียงอเมริกันง่ายกว่า เพราะการลากเสียงสระ (American drawl) ของสำเนียงอเมริกัน กับการออกเสียงตัว r อย่างโดดเด่นมากๆ ทำให้ลดความซับซ้อนของ intonation ไป และทำให้ผู้เรียนพูดจนกลบสำเนียงไทยไปได้ตั้งเยอะแล้ว แต่ในทางกลับกันจังหวะกับ intonation ที่ซับซ้อนของสำเนียงอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำเนียง RP (ที่ฟังง่ายแต่พูดยาก) ทำให้คนไทยเลียนเสียงยากมากๆ ถ้าพูดไม่ดีผิดจังหวะก็เพี้ยนแล้ว ในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมาเราเจอคนไทยตั้งมากมายหลายพันคนที่เรียนภาษาอังกฤษตอนโตแล้วและพูดได้ใกล้เคียงคนอเมริกันมากๆ แต่ในทางกลับกันแทบไม่พบคนไทยที่เรียนภาษาอังกฤษตอนโตแล้วและพูดได้ใกล้เคียงคนอังกฤษเลย หาทำยาได้ยากจริงๆ แต่ขนาดหาเจอแบบงมเข็มในมหาสมุทรมาแล้วนะ คนไทยด้วยกันฟังสำเนียงอังกฤษที่คนไทยพูดก็ยังดันบอกว่า "พูดเป็นสำเนียงไทยๆ" เลยหละ แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 54 10:08:43 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 10:06:25

ความคิดเห็นที่ 11 เราเรียนอังกฤษตอนแรกจากสำเนียงอังกฤษเพราะฟังแต่บีบีซี  พอไปดูหนังเสำเนียงอังกฤษก็เฉย ๆ แล้วก็เกิดอาการงงว่า เพื่อนบอกว่าทำไมสำเนียงฟังยากจังเนี่ย อเมริกันง่ายกว่าตั้งเยอะ ทั้งที่ตอนนั้นเราก็งง ยากตรงไหน ก็มันอังกฤษอะ แถมออกคำชัดดีออก   แต่พอตอนนี้อยู่อเมริกา ก็ปรับเปลี่ยนกลับกลายเป็นอเมริกันไปแล้ว หมายถึงหูนะคะ หูมันชินอเมริกันไปแล้ว พอไปดูหนังสำเนียงอังกฤษอีกที ร้องอ๋อเลยว่าทำไมเพื่อนถึงบ่นตอนนั้น ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ คิดว่าอยู่ที่ความเคยชินมั้งคะ จากคุณ : Motdktw เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 10:13:32

ความคิดเห็นที่ 12 อาจารย์ต่างชาติ คนอังกฤษ เวลาพูด ฟังเข้าใจง่ายกว่าอาจารย์คนอเมริกัน คนอเมริกันพูดเหมือนมีอะไรอมอยู่ในคอ เสียงมันอยู่ในคอ ฟังยาก คนอังกฤษพูดออกมาชัดถ้อยชัดคำ จากคุณ : tormay เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 11:56:52

ความคิดเห็นที่ 13 ผมเดินทางมาถึงสิงคโปร์เมื่อวานก่อน ลงเครื่องแล้วเรียกแท๊กซี่ไปส่งโรงแรม พี่โชเฟอร์แกคุยเก่งจริงๆ ชวนคุยตั้งแต่ขึ้นรถยันลงรถ ผมก็เออๆออๆไปตามเรื่องเพราะลมบ่จอยตั้งแต่ขึ้นรถ มีที่ไหน อีตาโชเฟอร์ดันถาม "Where are you from?" ผมก็ตอบว่า "Thailand." มันดันถามต่อ "How long have you been in Thailand?" ผมก็ชักงง ก็ตูเป็นคนไทยแล้วมันจะให้ไปอยู่ที่ไหนฟะ ก็บอกมันว่า "I am a Thai so I have been living in Thailand all my life" โชเฟอร์ทำหน้างงๆบอก "I thought you are a Japanese. You talk like a Japanese." Japanese พ่อมรึงสิ! ผมนึกในใจ บอกว่าหน้าตาเหมือนคนญี่ปุ่น ไอ้นี่รับได้ มีคนบอกมาหลายทีแล้ว แต่ไอ้โชเฟอร์สิงคโปร์มันดันทักว่าผมสำเนียงเหมือนคนญี่ปุ่น นี่เพิ่งเป็นครั้งแรกที่ได้ยิน ให้ตายเถอะ สงสัยต้องกลับไปฟิตสำเนียงใหม่ให้ละม้ายคล้ายฝรั่งมากขึ้น ไม่ให้ไอ้โชเฟอร์เจ้ากรรมทักผิดทักถูกอีก ฮ่วย จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 17:13:20

ความคิดเห็นที่ 14 ในความเห็น สงสัยผมจะชอบแบบอเมริกันมั้งครับ เพราะรู้สึกมันคุ้นๆ พอจะจับ..ฟังรู้เรื่องบ้างนิดหน่อย แบบบริทิช ผมรู้สึกเหมือนคำมันจะสั้นๆลง หรือไม่ก็ไม่ค่อยเต็มเสียงเท่าไหร่อ่ะครับ หรือไม่ก็คงคิดไปเองมั้ง ...... แต่มีอยู่คราวหนึ่ง เคยมีฝรั่งมาถามทาง เขาพูดคำว่า The ได้สุดยอดมาก เป็น the ที่คงเหมือนที่อาจารย์สมัยก่อนเคยสอน ให้ออกเสียง th ประมาณว่า เดซอะ คือ เพราะมาก แต่ผมไม่สามารถออกเสียงเลียนแบบได้ คล้ายๆกับมีเสียง ซอ โซ่ อยู่ด้วย ผมคาดว่า เค้าคงเป็นคนอังกฤษล่ะมัี้ง แต่สมัยนี้ คำว่า the ได้ยินแต่ฝรั่งออกเสียงเป็น ดอ เด็ก ไปเลยนะครับ... ..... อ้อ ในภาษาอังกฤษสำเนียงบริทิช คำว่า all ทำไมออกเสียงคล้ายกับคำว่า old มากๆ เพียงแต่ไม่มีเสียง d ลงท้ายเท่านั้นเอง ผมลองฟังของ บีบีซี มาหลายทีแล้ว สงสัยต้องเลิกดูรายการสอนภาษาของ บีบีซีแล้วซิ จากคุณ : ไร้นาม เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 17:18:37 A:124.121.165.173 X: TicketID:300645

ความคิดเห็นที่ 15 จากความเห็นที่ 13 ผมว่าจะไปเอาอะไรกับ คนขับแท็กซี่ครับ ว่าแต่ รายได้คนขับแท็กซี่ในสิงค์โปร เมื่อตีเป็นเงินไทยแล้วเยอะน่าดูเลยนะ ^ ^ มีอยู่คราวหนึ่ง สมัยที่สนามบินยังไม่ย้าย ผมไปซื้อของที่ 7 -11 ตรงแถววัดดอนเมือง น้องแคชเชียร์ คิดว่า ผมเป็นคนญี่ปุ่น เสียเซลฟ์ไปเลย ... - -' จากคุณ : ไร้นาม เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 17:24:04 A:124.121.164.109 X: TicketID:300645

ความคิดเห็นที่ 16 จากความเห็น 14 ปกติ the ฝรั่งก็ออกเสียง th นะคะ เวลาพูดปลายลิ้นจะอยู่ระหว่างฟันบนกับล่าง เราไม่เห็นฝรั่งออกเป็น ด นะคะ จากคุณ : Le Cielo เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 18:12:32

ความคิดเห็นที่ 17 ผมเรียนที่ ออส ก็เลยชินกับสำเนียงออส มากสุด แต่ก็ไม่ได้เข้าใจไปทั้งหมด โดยเฉพาะ พวกแสลง พวกคำศัพท์ที่ผมไม่คุ้น หรือของประเทศเค้าเอง แต่พอมาคุยกับเมกัน ก็ไม่มีปัญหา อาจจะมีปัญหาแรกๆ ตอนที่เค้า ยังไม่ชินกับสำเนียงผม(ผมอาจจะติดสำเนียง ออสซี่มาบ้าง) มีปัญหากับอังกฤษ อ่ะ พูดห้วน ตัดคำ (บางคน) เคยคุยกับ สกอต ที่อยู่เมืองไทยมานานแล้ว ก็ฟังได้เข้าใจมากกว่า คนอังกฤษ ซะอีก บางที มันขึ้นอยู่กับ แต่ละบุคคลมากกว่า ส่วนเพื่อนต่างชาติ ก็จะชอบคิดว่าผมไม่ใช่คนไทย เพราะสำเนียง ก็ไม่ได้คล้ายใคร ผสม ทั้งจีน เกาหลี ญี่ปุ่น ออสซี่ 55 จากคุณ : NO one see ME เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 19:21:50

ความคิดเห็นที่ 18 เราฝึกฟังทั้งสำเนียงอเมริกัน และ สำเนียงอังกฤษพร้อมๆกัน แต่แบบอังกฤษจะฟังเยอะกว่าเพราะฟังจากข่าว BBC  ก็เลยรู้สึกชินและฟังง่าย เราว่าสำเนียงอังกฤษออกเสียงชัดและก็เพราะดีค่ะ ชอบฟังแต่ให้ออกเสียงตามทำไม่ได้  ส่วนแบบอเมริกันเราฟังจากหนังและซีรีย์ก็ฟังง่ายดีแต่ไม่เพราะเท่าอังกฤษ   เวลาคุยโทรศัพท์กับต่างชาติถ้าเค้าพูดสองสำเนียงนี้มาเราจะฟังเข้าใจ แต่ถ้าเป็นสำเนียงแบบจีน เกาหลี แม้จะคุยเห็นหน้าก็ยังงงๆ แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 54 21:27:56 จากคุณ : Luv~Berry เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 21:18:47

ความคิดเห็นที่ 19 ส่วนใหญ่ เราจะชินกับสำเนียงอเมริกันมากกว่าค่ะ ด้วยสื่อภาพยนตร์ ส่วนใหญ่หนังมากจากฝรั่งอเมริกา แล้วพอไปฟังสำเนียงบริทิช (ซึ่งแตกเป็นหลายสำเนียงสุด ๆ) มันจะฟังยากนิดนึง แต่พอฟังไปนาน ๆเรากลับชอบสำเนียงบริทิชมากกว่า โดยเฉพาะ RP ฟังแล้วลื่นหูดีค่ะ แต่ถ้าอังกฤษแถบเหนือเฉกเช่น ลิเวอร์พูล นิวคลาสเซิล ...ก็เอิ่ม.... T^T ฟังแล้วน้ำตาจะไหล Back ยัง ฟังเป็น Buck ... (อยากรู้ว่าเป็นยังไง ทดลองฟัง สัมภาษณ์ Steve G ค่ะ จะบ้าตาย) สำเนียงทางเวลล์ หรือ ไอร์แลนด์ ก็ฟังยากค่ะ แต่ไม่ยากเท่าอังกฤษเหนือแฮะ (สำหรับเรา) สำเนียงคนออสเตรเลียก็ฟังง่ายค่ะ แต่พวกคำว่า Go/No/So จะออกเสียงประมาณว่า /soiy/ (ลากยาว ๆค่ะ) แล้วก็ How are you to daiyyy.. (ดาย) ฮ่าๆ ถูกทักครั้งแรก แทบช๊อค ฮ่าๆ แต่เราชิน เพราะตอนฝึกงานแขกส่วนใหญ่เป็นชาวออสซี่ จากคุณ : Psych-Skeleton เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 21:50:36

ความคิดเห็นที่ 20 สำเนียงอเมริกัน เพิ่งดูหนังเรื่อง True Grit ไปเมื่อวันก่อน เป็นหนังแนว western (แสดงโดย Matt Damon) บางคำฟังไม่ออกจริงๆค่ะ แม้แต่เจ้าของภาษายังบอกเลย เอ่อ ฟังไม่ออกเป็นบางประโยค แต่เนื้อเรื่องโดยรวมเข้าใจนะ แต่บางทีพลาดมุขขำขันไปหลายช็อตทีเดียว 555 ส่วนสำเนียงอังกฤษนั้น แล้วแต่สำเนียงจริงๆค่ะ สำเนียง Queen ฟังง่ายจริงๆ แต่ถ้าเจอ สก็อตแลนด์เข้าไปก็จะใบ้รับประทานเลยทีเดียว สำเนียง Cockney ก็ไม่ไหวเหมือนกัน 555 จากคุณ : yinnerella เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 22:15:37

ความคิดเห็นที่ 21 บางท่านอาจสงสัยว่า ทำไมเกาะอังกฤษเล็กนิดเดียว ทำไมถึงมีสำเนียงเยอะจัง ผมเคยอ่านข้อความหนึ่ง จำได้คร่าวๆว่า บริเวณไหนที่เป็นแหล่งที่ชนชาติใดตั้งหลักแหล่งอยู่นานๆ บริเวณนั้นจะเกิดความแตกต่างของภาษาสำเนียงต่างๆได้มากมาย ยกตัวอย่างเช่นประเทศไทยในปัจจุบัน เป็นที่อยู่อาศัยของชาวไทยที่อพยพมาจากตอนใต้ของจีน ในมลฑลยูนนาน หรือสิบสองพันนา ซึ่งทำให้ภาษาไทยในประเทศไทยมีสำเนียงที่ไม่แตกต่างกันมากนัก ยังพอฟังกันรู้เรื่องกันในแต่ละภูมิภาค แต่บริเวณทางตอนใต้ของจีน ซึ่งเป็นดินแดนต้นดั้งเดิมของชนชาติไทย ซึ่งพูดภาษาในหมู่ ไต-กะได ความหลากหลายของภาษาไทยมีมากมายหลายสำเนียง เช่น ไทยดำ กระ ลาว ...เยอะแยะเป็นสิบๆ สำเนียง แต่การนับตัวเลข เสียงใกล้กันมากๆๆๆ จากคุณ : ไร้นาม เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 03:11:06 A:124.122.235.51 X: TicketID:300645

ความคิดเห็นที่ 22 ความเห็นที่ 21 ทฤษฎีที่ว่าไทยอพยพมาจากตอนใต้ของจีนมันเป็นทฤษฎีเก่าที่ถูกตีตกไปนานแล้วนี่คะ คือสรุปแล้วว่าคนไทยไม่ได้อพยพมาจากตอนใต้ของจีนน่ะค่ะ อันนี้มันเป็นทฤษฎีในวิชา สปช. สมัยประถม ไม่ใช่เหรอคะ จากคุณ : Le Cielo เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 08:05:50

ความคิดเห็นที่ 23 เออ แล้วอยากรู้ว่า คนไทยมาจากไหนอ่ะครับ ผมเข้าใจอย่างนั้นมาตลอดเลยนะ (ก็ตั้งแต่สมัยเรียนประถมอ่ะแหละ) แต่ยังไงผมก็ชอบ สำเนียง เมกัน มากกว่า ฟังเพราะกว่า lol จากคุณ : NO one see ME เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 16:01:27

ความคิดเห็นที่ 24 ให้ฟังให้รู้เรื่อง เมกัน ฟังง่ายสุดแล้ว แต่ชอบสำเนียงบริทิชเป็นการส่วนตัว ชอบมากๆ มันดูมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก จากคุณ : Blackzifer เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 20:19:40

ความคิดเห็นที่ 25 เอ...แล้วคนไทยมาจากไหนล่ะครับ สมัยก่อนบริเวณเมืองไทยในปัจจุบัน น่าจะเป็นที่อยู่ของพวกขอม และ มอญ และชนชาติอื่นนะครับ แต่ต่อมาก็คงผสมผสานกันไปแล้ว ทั้งไทย มอญ ขอม และอื่นๆ .......................................... ดูได้จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์เช่น ปราสาทขอมโบราณที่ลพบุรี ที่โคราช หรือแม้แต่ปราสาทเมืองสิงห์ที่กาญจนบุรี ที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่7 สมัยที่ขอมยังอยู่ในดินแดนประเทศไทยในปัจจุบัน แล้ว วัฒนธรรมไทยที่เก่าๆ ก็เริ่มที่รัฐโบราณทางเหนือก่อนทั้งนั้น ยกตัวอย่างเช่น หิรัญนครเงินยางเชียงแสน ในตำนานและพงศาวดารล้านนา อาณาจักรหิรัญนครเงินยางเชียงแสนหรืออาณาจักรเงินยางนี้ประกอบด้วย เมืองเงินยาง เมืองไชยนารายณ์ เมืองล้านช้าง และเมืองเชียงรุ้งในสิบสองพันนา (อยู่ในจีน นะจ้ะ) ภูกามยาว หรือ พะเยา เมืองหริภุยชัย ลำพูน เวียงกุมกาม สร้างก่อนเชียงใหม่ เมืองเชียงใหม่ สร้างโดย กษัตริย์ 3 องค์ 1 ในนั้นก็คือ พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ผู้คิดประดิษฐ์ อักษรไทยโบราณ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดลักษณะอักษรไทยในทุกวันนี้ (ไม่เหมือนอักษรไทยในปัจจุบันนะ) โดยดัดแปลงมาจากอักษรขอม และเมืองโบราณอื่นๆอีกมากมายทางภาคเหนือ ซึ่งปกครองแบบนครรัฐ แต่มีการติดต่อกันในฐานะรัฐไทยโบราณ ซึ่งจะเห็นได้ว่า เมืองเหล่านี้สร้างก่อนสมัยสุโขทัยซะอีก อีกหลักฐานหนึ่งที่สำคัญคือ คำเมืองหรือภาษาถิ่นของจังหวัดทางภาคเหนือ ซึ่งถือว่ามีความเก่าแก่กว่าคำไทยในปัจจุบัน ก่อนที่จะแปรเปลี่ยนและรับคำในภาษาอื่นๆ เช่นภาษาเขมร หรือบาลี สันสกฤต จากขอมซึ่งรับมาจากชมภูทวีปอีกทีหนึ่ง ยกตัวอย่างคำเมือง· 1 = นึ่ง · 2 = สอง · 3 = สาม · 4 = สี่ · 5 = ห้า · 6 = ฮก · 7 = เจ๋ด · 8 = แปด · 9 = เก้า · 10 = ซิบ · 11 = ซิบเอ๋ด · 20 = ซาว · 21 = ซาวเอ๋ด พืช ผัก ผลไม้ · มะละกอ = บะก้วยเต้ด · กล้วยน้ำว้า = ก้วยอ่อง / ก้วยนิอ่อง · มะตูม = บะปีน · ส้มเขียวหวาน = ส้มเกลี้ยง เขียวหวาน · แตงล้าน = ม่ะแต๋งซั้ง ( ร้านที่ทำให้เครือแตงพันขึ้นไป ทางเหนือเรียกว่า ซั้ง ) · น้อยหน่า = ม่ะหน้อแหน้ / น้อยแหน้ · บวบงู = ม่ะนอยงู · มะเขือเปราะ = บะเขือผ่อย · มะเขือยาว = บะเขือขะม้า - - ออกเสียง ม่ะเขือขะม่า / ม่ะเขือ หัม ม้า · มะระขี้นก = บะห่อย,บะลี้ · แตงกวา = บะแต๋ง · กล้วย = เชียงใหม่ เรียก ก้วยใต้ ลำปาง เรียก ก้วยลิอ่อง หรือ ก้วย โก๊ย · พุทรา = หม่ะตัน · ละมุด = หม่ะมุด · กระท้อน = บะตื๋น หมะต้อง · มะปราง = หมากปราง,บะฝาง · ฝรั่ง = บ่ะก้วย, บ่ะก้วยก๋า, บ่ะหมั้น, บะแก๋ว · ขนุน = หม่ะหนุน,บ่ะหนุน · มะพร้าว = หม่ะป๊าว · ส้มโอ = บะโอ · ฟักทอง = บะฟักแก้ว / บะน้ำแก้ว / น้ำแก้ว · ฟักเขียว = บะฟักหม่น · มะแว้ง = บะแขว้งขม · มะเขือพวง = บะแขว้ง /บ่ะแขว้งกุลา · ลูกยอ = หม่ะต๋าเสือ · มะเขือเทศ = บะเขือส้ม · กระท้อน = บะตึ๋น · ตะไคร้ = จ๊ะไค · คึ่นช่าย = ผักกะพึน,กำพึน (กะปึน) · ผักตำลึง = ผักแคบ · ชะพลู = ผักแค ใบปูนา ปูลิง สัตว์ · จิ้งหรีด = จิ้กุ่ง,จิ้ ฮีด · ค้างคก = ค้างคาก กบตู่ · ลูกอ๊อด = อีฮวก · ปลาไหล = ปลาเอี่ยน ปลาเหยี่ยน · จิ้งเหลน = จั๊กกะเล้อ. จะเลอะ · จิ้งจก = จั๊กกิ้ม · ตุ๊กแก = ต๊กโต.ต๊ดโต เห็นไหมครับ คล้ายๆกับภาษาที่พูดกันในจีนทางใต้ไหม รวมถึงพม่าด้วย แต่สำเนียงคงแตกต่างกันไป มากถึง 97 กว่าสำเนียงและยังแตกเป็นสาขาได้อีก 50-60 สาขา ซึ่งบริเวณที่มีความหลากหลายของสำเนียงภาษา ก็เป็นหลักฐานถึงต้นเนิดของภาษา ที่พูดกันในบริเวณนั้น (จีนตอนใต้ สินสองพันนา) ลองศึกษาค้นคว้า กูเกิ้ล หรือ วิกิพีเดีย ช่วยได้ครับ http://en.wikipedia.org/wiki/Tai-Kadai_languages ^ ^ ^ อันนี้คือข้อมูลเรื่องภาษาไต-กะได http://en.wikipedia.org/wiki/Thai_people ^ ^ ^ อันนี้คือข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องคนไทย กล่าวถึงอาณาจักรน่านจ้าว ในมลฑลกว่างสี ที่ๆคนจ้วงอาศัยอยู่ ผู้จ้วงนีบรรพบุรุษคนไทยเลยมั้งครับ ...................... สรุปว่า ผมคิดว่า คนไทยอพยพมาจากจีนตอนใต้นะครับ มาจากอาณาจักร น่านจ้าว ของผู้จ้วงนะครับ แต่คนไทยในปัจจุบันนี้ก็ไม่ใช่คนไทยในสมัยก่อนนะครับ มีการผสมผสานเชื้อชาติ วัฒนธรรม ภาษาอื่นๆ มากมาย ก่ายกอง ไม่ไหวจะเคลียร์ครับ - -' ..................................... http://www.youtube.com/watch?v=WHAxota5O5c ^ ^ ^ อันนี้คือ time map แอนิเมชั่นย้อนอดีต ดินแดน สุวรรณภุมินะครับ จะเห็นว่า คนไต เพิ่งจะอพยพเข้ามาตอนนาทีที่ 2.28 นะครับ โดยเริ่มมาตั้งรกรากในดินแดนไทยตอนเหนือก่อนนะครับ bye bye จากคุณ : ไร้นาม เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 03:41:40 A:124.122.235.53 X: TicketID:300645

ความคิดเห็นที่ 26 อยู่อังกฤษ อยู่เมืองนิวคาสเซิล ก็ฟังคนที่นี่ออก ไปสก็อตแลนด์ก็ฟังแบบที่คนสก็อตพูด แต่อาจจะต้องซ้ำหลายรอบหน่อย ไปเมืองอื่น ก็ต้องค่อยฟังไป แต่ไม่นานก็ปรับหูเองได้ อยู่ออสเตรเลีย ก็แบบของเขา แต่เราก็ว่าโอเคดี เราว่าไม่ได้ต่างกันมากหรอก ยกเว้นว่าคนที่ไม่ค่อยได้เรียนหนังสือ หรือระดับการศึกษาต่ำ (ไม่ได้เจตนาดูถูกนะคะ แต่ว่าเท่าที่สังเกตมา แม่บ้านที่หอจะพูดฟังแทบไม่ออกเลย) จะค่อนข้างฟังยากหน่อยนึง สรุปอยู่ที่เวลาค่ะ ความเคยชิน แต่เรามีอาจารย์สอนทั้งสำเนียง อเมริกา ออสเตรเลีย แคนนาดา จากคุณ : cat_on_a_hot_tin_roof_ เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 20:27:41

ความคิดเห็นที่ 27 คุณไร้นามคะ คุณสรุปว่าคนไทยมาจากจีนตอนใต้ ก็ไม่ได้หมายความว่าคนไทยมาจากจีนตอนใต้ค่ะ คุณอยากสรุปยังไงก็ได้ แต่หลักฐานทางประวัติศาสตร์หรือเรื่องที่นักวิชาการเค้าถกกันก็เป็นอีกประเด็นนึง ถ้าอยากทราบว่าไทยมาจากไหน ลองหาประวัติศาสตร์เรื่องนี้มาอ่านดู ดูทฤษฎีล่าสุดที่มีข้อมูลยืนยัน เพราะทฤษฎีตอนใต้ของจีนนั่นมันสมัยยี่สิบสามสิบปีมาแล้ว โดนตีตกไปนานแล้วค่ะ ลองไปตั้งกระทู้ในห้องประวัติศาสตร์ดูนะคะ จากคุณ : Le Cielo เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 54 07:55:32