ความคิดเห็นที่ 1 ตอบตามที่เข้าใจส่วนตัว 1.ทำไมวรรค k -ทำไมบางคำไม่เติม " ยังออกเสียงเป็นตัว ก เลยอ่ะครับ เช่น ねこ อ่ะครับ     เป็นคำเดี่ยว -ทำไมบางคำเติม " แต่ออกเป็นเสียง ง แทน ก อ่ะครับ      1 เป็นคำผสม      2 อิทธิพลจากพยางค์ตัวก่อน (คำเสียงอื่นก็มี ไม่เฉพาะแค่ ka-gyo) 2.คำที่ลงท้ายด้วย すเช่น です นี่จะสะกดด้วย s(เดส) หรือออกเสียงเร็วๆว่าเดสึ ฟังคนญี่ปุ่นพูดเค้าเป็นแบบหลังแต่ทำไมอาจารย์คนไทยที่เคยเรียนเสียงเป็นแบบสะกดอ่ะครับ       พื้นฐานเลย  คือภาษาญี่ปุ่นลงท้ายพยางค์ด้วยสระ   อาจารย์คนไทยก็คงติดนิสัยจากการออกเสียงในภาษาไทย (เหมือนคนไทยเวลาพูดภาษาอังกฤษ ฝรั่งอาจจไม่ฟังรู้เรื่อง เพราะเราจะออกเสียงแบบ ภาษาไทย) 3.ทำไมคำญี่ปุ่นบางคำไม่ลงท้ายด้วยสระที่ทำให้ต้องออกเสียงยาว(あ,い,う) แต่บางคำกลับออกเสียงยาวอ่ะครับ แทบจะครึ่งต่อครึ่งศัพท์เลยอ่ะครับ แล้วอย่างงี้มันแตกต่างจากการใส่ あ,い,う ยังไงอ่ะครับในเมื่อออกเป็นเสียงยาวเหมือนกัน       อันนี้อยู่ที่ความสั้นยาวไม่เท่ากันของเสียงในภาษาไทยกับภาษาญี่ปุ่น   เพราะฉะนั้นการรับฟังจากหูของคนไทยกับคนญี่ปุ่นจะไม่เท่ากันไปด้วย (พิสูจน์ได้จากการ ดูกราฟคลื่นเสียง)       อีกอย่างอยู่ที่สำเนียงของแต่ละคนด้วย(ตามถิ่นฐานกำเนิด)     4.ตัว つ นี่ถ้ามีพยัญชนะอะไรตามหลังต้องสะกดหมดรึเปล่าครับ หรือว่าแล้วแต่บางคำต้องจำเอา      ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า soku-on แปลว่าเสียงปิด (ปิดด้วยเสียงพยัญชนะของคำที่ ตามมา)  เพราะฉะนั้น ใช่แล้ว คือต้องออกเสียงตัวสะกดของพยัชยนะต้นของคำที่ตามมา)     ถ้าเป็นคำอุทาน เช่น 　あっ　！  ไม่มีเสียงพยัญชนะตามมา ก็ออกเสียงปิดที่กล่องเสียง   "  จริงๆมีอีกหลายคำถามเกี่ยวกับการออกเสียงนี่แหละครับแต่นึกไม่ออกละ ฟังในCDของหนังสือมันไม่ค่อยตรงกับที่เรียนมาเท่าไหร่ ถ้านึกออกเมื่อไหร่จะรบกวนอีกนะครับ " แถมท้ายนิด  ใน CD น่ะ อย่าลืมว่าคนอ่านต้นฉบับก็คือคนญี่ปุ่นทั่วไป  คนทำหนังสือเขา ไปจับได้มาจากไหน ก็มานั่งอ่านอัดเสียงเลย  คนอ่านเป็นคนญี่ปุ่นก็จริง น้อยที่จะเคยเทรน การอ่าน การออกเสียง  เพราะฉะนั้นเขาก็มีสำนวนตามแบบฉบับของเขา  สำเนียงแค่ไหน ก็แค่นั้น  ฟังแล้วก็เอาเป็นข้อมูลเท่านั้น จะเป็นมาตรฐานได้นะมีน้อยค่ะ จากคุณ : akebi1 เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 08:59:57

ความคิดเห็นที่ 2 วรรค K ถ้าวางอยู่ในตำแหน่งแรกของคำ มักจะอ่านเป็น ค แต่ถ้าวางอยู่ในตำแหน่งอื่นมักจะอ่านเป็นเสียง ก นอกจากนี้ยังมีเสียงอื่นที่ยังอ่านในลักษณะแบบนี้อีกเช่น วรรค G ถ้าวางอยู่ในตำแหน่งแรกของคำ มักจะอ่านเป็นเสียง ก แต่ถ้าวางอยู่ในตำแหน่งอื่นที่ไ่มใช่ตำแหน่งแรกมักจะอ่านเป็นเสียง ง วรรค T ถ้าวางอยู่ในตำแหน่งแรงของคำ มักจะอ่านออกเสียง ท แต่ถ้าวางอยู่ในตำแหน่งอื่นที่ไม่ใช่ตำแหน่งแรกมักจะอ่านเป็นเสียง ต ส่วนใหญ่ที่เคยฟังมามักจะเป็นลักษณะแบบนี้ ส่วน Tsu ถ้าเป็นตัวขนาดปกติให้ออกเต็มเสียงตัวอักษร แต่ถ้าเป็น Tsu ตัวเล็กให้อ่านเป็นเสียงปิดและให้เอาพยัญชนะในตัวถัดไปเป็นเสียงตัวสะกดครับ จากคุณ : KenshiroJr. เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 11:24:22

ความคิดเห็นที่ 3 ๑.๑ 「か=คะ」「 が=กะ」เสียง 'ก' กับ 'ค' ใช้ต่างกันอย่างชัดเจน ไม่มีทางที่พอเปลี่ยนตำแหน่ง แล้วจะออกเสียงเป็น 'ก' แทน 'ค' แต่ที่ฟังเป็นอย่างนั้นก็เพราะเราตั้งธงไว้ในใจแล้ว ฟังยังไง มันก็จะเป็นอย่างที่ใจเราอยากจะฟังไปตลอด ตอนเรียนภาษาเปิดใจให้กว้าง หลักการทางภาษาไทย ปล่อยวางไว้มั่งก็ดีครับ ๑.๒ จริงๆแล้วมันใช้แทนได้ทั้งคู่ เพียงแต่ว่าการออกเสียงวรรค か ที่มี ” มันต้องกักเสียงในปากนิดนึง ก่อนใช้พลังปลดปล่อยเป็นคำพูดออกมา พออายุมากขึ้นแก่ตัวไปจะพูดอะไรสักคำมันก็ยุ่งยาก เหนื่อยง่าย ยิ่งไม่มี 'ฟัน' เป็นตัวช่วยกักเสียง เสียง 'ง' เลยใช้ง่ายกว่า 'ก' เช่นเดียวกับ 'ย' ที่ใช้ง่ายกว่า 'จ' เคยไปสั่งอาหารในร้านญี่ปุ่นเฟรนไชตามห้างบ้านเรา มีน้องคนไทยหน้าตาไฉไลเข้ามารับออเดอร์ สั่ง "あじ・たたき" ออกเสียงไปว่า อะจิ ทะทะคิ มีหรือเปล่าครับ ? น้องเค้าทำหน้างงอยู่ซักครู่ ก่อนเดินไปถามพี่อีกคนที่เคาท์เตอร์ แล้วเดินกลับมาตอบว่า 'อะจิ' ไม่มีค่ะ ที่ร้านทำอาหารตามเมนูที่มี ถ้าจะทาน 'ทาทากิ' พี่ไม่ลอง 'อะหยิ' ดูบ้างหรือค่ะ? ฟังคำตอบที่ได้กลับมาเราก็ได้แต่...ในใจ แล้วตอบกลับไปว่า อะหยิ ก็ได้ครับ นี่ขนาดเดินไปถามรุ่นพี่ในร้านอีกคนแล้วน่ะ ทุกครั้งที่มีโอกาสไปทานที่นั่น ก็จะสั่งเป็น 'อะหยิ' ตลอด เพราะรู้ว่าฝืนสั่ง 'อะจิ' ไปก็คงเสียเวลาเปล่า ฝากไว้ว่ายังหนุ่มยังแน่นอย่าไปใช้เสียงเหมือนคนแก่เลยครับ ๒. ลืมๆเรื่องตัวสะกดในภาษาไทยไปบ้างก็ดี เพราะในภาษาญี่ปุ่นไม่มีเรื่อง ตัวสะกด ครับ แต่ผมว่าคงเป็นเพราะครูคนไทย ท่านออกเสียงไม่เคลีย น่าจะยกมือถามตอนนั้นเลยน่ะ ๓. น่าจะยกตัวอย่างมาด้วยน่ะ ไม่งั้นก็มองว่า ตั้งธง อคติ อีกแล้ว ๔. เรื่อง 'つเล็ก' จะใช้หลักการตัวสะกดมาช่วยจำก็ได้ แต่ย้ำว่าในภาษาญี่ปุ่นไม่มีเรื่อง ตัวสะกด ครับ ๕. ไปหาดาว์นโหลด ไฟล์เพลง ที่มีเนื้อเพลงติดมาด้วย มานั่งฟังเสียงอ่านตามไปด้วยจะดีกว่า ได้ภาษา ได้สำเนียง ได้ร้องเพลงด้วย วันหลังมีโอกาสเข้า karaoke จะได้มีเพลงอะไรที่เราร้องสนุกกับเค้าได้บ้าง จากคุณ : ZephyranthesFb เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 17:08:26

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่ได้ยึดติดเป็นภาษาไทยครับ แต่เราคุ้นเคยกับภาษาไทยมากกว่า ดังนั้นการอธิบายอะไรบางอย่างมันก็ต้องเริ่มมาจากสิ่งที่เราคุ้นเคยก่อน ซึ่งการอธิบายอะไรที่มันดูเป็นภาษาไทย มันก็เข้าใจง่ายกว่าครับ แต่สำคัญคือ มันก็ต้องทราบถึงที่มาที่ไปของมันว่าที่แื้ท้จริงว่าเป็นอย่างไร จริงอยู่ว่าการใช้ tsu เล็กไม่ใช่ตัวสะกด แต่การอ่านเสียงหยุดสำหรับภาษาญี่ปุ่น มันก็คล้ายกับการออกเสียงตัวสะกดนั่นแหละครับ (อาจจะเหมือนเลยด้วยซ้ำ) ถ้าคนที่เรียนใหม่ๆ มาบอกว่านี่คือเสียงหยุด บางคนอาจจะไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร แต่ถ้าอธิบายโดยใช้สิ่งที่ง่ายและคุ้นเคย คือใช้หลักการแบบไทยๆ เชื่อมโยงไปสู่ิสิ่งที่ยากคือหลักการที่แท้จริง มันจะทำความเข้าใจได้ดีกว่าครับ การวางตำแหน่งตัวอักษรก็เช่นกัน ในอดีตที่ผมเริ่มเรียน ผมก็มีคำถามแบบนี้เช่นกัน สิ่งที่อาจารย์บอกผมมา ก็ตามที่ผมอธิบายครับ ว่าส่วนใหญ่ก็มักจะออกเสียงแบบนี้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกกรณี ซึ่งอาจารย์ก็บอกว่าิสิ่งนี้เป็นแค่คีย์ที่จะทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องฟังเสียงจากเจ้าของภาษาอีกครั้งว่า จริงๆ แล้วส่วนใหญ่เขาออกเสียงว่าอย่างไร ซึ่งการเรียนภาษา ในแต่ละเรื่องมันก็มีวิธีเรียนหลากหลายรูปแบบ คงจะไปยึดหลักการใดหลักการหนึ่งไม่ได้ เช่นการเรียนสนทนาก็อาจจะต้องใช้อีกหลักหนึ่ง การอธิบายโครงสร้างก็อาจจะต้องเรียนอีกรูปแบบหนึ่ง หรือหลายๆ รูปแบบผสมผสานไป แ่ต่สำคัญที่สุดคือ เมื่อเรียนแล้วผู้เรียนควรจะเข้าใจได้ง่าย ใช้เป็น และใช้ได้อย่างถูกต้องครับ แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 54 16:34:55 แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 54 16:22:33 จากคุณ : KenshiroJr. เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 16:16:07

ความคิดเห็นที่ 5 มาตอบแบบนักภาษาศาสตร์ มันคือการเปลี่ยนแปลงเสียงตามสภาพแวดล้อม จากคุณ : leprosy-cat เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 10:11:06