ความคิดเห็นที่ 1 ใครพูดหรือครับ จากคุณ : น้องส้มเช้ง เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 23:15:51

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วเจ้าของกระทู้รู้ได้ไงว่าคนพูดอิจฉา จากคุณ : BLACK CHA-CHOO เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 23:31:09

ความคิดเห็นที่ 3 เจ้าของกระทู้เคยถูกตราหน้าว่าเป็นลูกคุณหนูครับ เรื่องของความรู้สึกนั้นคงไม่ผิดแน่ครับ จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 23:34:24 A:110.168.185.159 X: TicketID:240201

ความคิดเห็นที่ 4 ลูกคุณหนูเป็นไงผมไม่ทราบ แต่ว่าใครถูกเรียกเป็นคุณหนูนั้นเป็นการมองแง่ลบแน่ๆ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 54 00:01:04

ความคิดเห็นที่ 5 แล้วคุณทำตัวเป็นลูกคุณหนูทำให้เค้าต้องตราหน้ารึปล่าวครับ บริบทที่จะเอามาตัดสินคำคำนี้ มันก็แตกต่างกันออกไป มีทั้งที่เป็ฯเชิงเสียดสี และมีทั้งที่เป็นคำพูดล้อกันเล่นสนุกๆ แต่โดยรวม ลักษณะของลูกคุณหนูที่ว่า ก็เป็นอย่างที่ทุกคนเข้าใจกัน ไม่แปลกหรอก ถ้าใครจะมาตราหน้าคุณว่า คุณคือลูกคุณหนู ถ้าคุณทำตัวเป็นลูกคุณหนู แล้วมันก็อยู่ที่ตัวคุณด้วยเช่นกันว่า คุณจะจัดการอย่างไรกับคำกล่าวนั้น คุณจะคิดว่าเขาด่า หรือคุณจะคิดว่าเขาแซวเล่น หรือประชดเล็กๆ จนถึงรู้นสึกว่า นี่มันด่ากันนี่หว่า อย่างนี้เอาไว้ไม่ได้ ต้องตายกันไปข้าง จะเลือกแบบไหนก็อยู่ที่ตัวคุณแล้วครับ จากคุณ : ลำยง เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 54 00:03:47

ความคิดเห็นที่ 6 I don't think it's entirely about your university. It's also about your lifestyle, personality, and other various factors. I graduated from a respectable college and have never once been called a "ลูกคุณหนู". But I did call some people "ลูกคุณหนู", in a derogative way of course. I'm not jealous of them, but rather tired of their behavior. To be honest, it's pretty annoying to work with these kind of people. จากคุณ : Azure_Mile เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 54 00:20:04

ความคิดเห็นที่ 7 พฤติกรรมที่ทำให้คุณหนูถูกตั้งแง่ก็เพราะว่า 1.สำรวย เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ 2.ไม่ติดดิน ไม่มีความรู้ความเข้าใจคนอื่นเพราะไม่เคยสัมผัส ต่อให้เรียนเก่งไปจบเมืองนอกเมืองนามา ก็ทำงานอยู่บนหอคอยงาช้าง รู้ทฤษฎีเยอะแยะ แต่พอถึงตอนแก้ปัญหาก็ตกม้าตายเพราะไม่ได้คิดบนพื้นฐานความเป็นจริง อย่างที่เขาว่าความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด 3.มักมีท่าทียกตนข่มท่าน ไม่ฟังคนอื่นเพราะฉันเก่งแล้ว เป้นน้ำชาล้นถ้วย ไม่รู้จักคำว่าอ่อนน้อมถ่อมตนและสุภาพเป็นไง เรื่องสิ่งภายนอกอื่นๆทางวัตถุน่ะ คนดีๆเขาไม่ยกมาเป็นข้อตั้งแง่หรอก คุณหนูมีก็เก็บไว้ใช้ของคุณหนูเถิดถือเป็นกุศลแต่ปางก่อน และในโลกนี้ถ้าหากใครมีวิจารณาญาณดีพอที่จะรู้ว่าใครเป็นคนดีมีคุณธรรมและใครไม่ใช่ แยกแยะคนที่ควรคารวะออกไดจากคนที่ควรเพิกเฉย คนคนนั้นถึงจะเป็นคุณหนูอยู่ก็จะพาตัวพ้นความเป็นคุณหนูได้ไม่ยาก มีนิทานเล่าให้ฟัง คุณครูให้นักเรียนชั้นประถมตัวน้อยๆแต่งเรียงความส่ง หัวข้อ "ความยากจน" หนูๆก็พากันเขียนอย่างขมีขมัน คุณครูตรวจไปถึงเรียงความของหนูดาริกานภากาศ ลูกสาวคนเดียวของมหาเศรษฐีแห่งยุค คุณครูก็สะดุ้งเฮือกเพราะเธอเขียนมาว่า "กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีครอบครัวยากจนมากๆอยู่ครอบครัวหนึ่ง พ่อก็จน แม่ก็จน ลูกชายก็จน ลูกสาวก็จน คนใช้ผู้ชายก็จน คนใช้ผู้หญิงก็จน คนทำสวนก็จน คนขับรถก็จน ยามเฝ้าบ้านก็จน ทุกๆคนจนหมด..." ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่า หนูดาริกานภากาศมีโอกาสค่อนข้างสูงที่จะโตขึ้นเป็นคุณหนูอย่างที่เราพูดถึงแน่เลย จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 54 00:51:46

ความคิดเห็นที่ 8 เราก็เคยโดน เหอะๆ แต่คงไม่มากเท่า เพราะโดนแค่ครั้งเดียว เหอะๆ ถ้าเท่ากันก็นะขออภัยนะ แต่เราไม่ว่าเพื่อนเราหรอก ชีวิตเรากับเพื่อนๆต่างกันมากจริงๆ มันว่าเราอ่ะถูกแล้ว คนอื่นเขาว่าเป็นคุณหนูก็ยังดีนะ แสดงว่าคนคนนั้นยังเคยทำตัวติดดินเป็นครั้งคราว ยังมีโอกาสถูกว่า ดีกว่าพวกคุณหนู 24 ชั่วโมง เป็นคุณหนูแต่ไม่รู้ตัว ถามว่าน่ารักน่าเอ็นดูไหม คงตอบว่าไม่ เช่น ถ้าเราเจอผู้ชายกลัว แมลงสาบ แบบกลัวออกนอกหน้า เห็นปุ๊บแสดงอาการปั๊บ นี่ไม่ไหว ปากไม่พูดหรอก แต่ในใจคิดแล้วว่าไอ้นี่ ลูกคุณหนู ตูเป็นผู้หญิงยังไม่กลัวเท่าเลย กินอาหารข้างทางไม่ได้ ไม่เคยเดินตลาดนัด สำหรับคนที่ไม่เคยเดินนะคะ แม่ค้าในตลาดนัดบางคนน่ารักมาก อาหารอาจจะไม่ดีเท่ากับในห้าง แต่เรายังได้รอยยิ้ม ความมีน้ำใจจากแม่ค้าเหล่านี้ ต่างจากในห้าง ถ้าไม่ทำเชียร์สินค้าจนน่าเบื่อแล้วก็บริการดีซะ เพราะเงินตัวเดียว สถานพยาบาลของรัฐไม่เคยเข้า เข้าแต่คลินิกหรือไม่ก็โรงพยาบาลเอกชน ขอแนะนำว่าให้ลองเข้าบ้างนะคะ อยากบอกว่านางพยาบาลในสถานพยาบาลรัฐน่ารัก มีน้ำใจสุดๆ ดีกับทุกคนไม่ว่าคุณจะมีเงินหรือไม่ ไม่หิวเงินแม้แต่น้อย แต่หมอจะกวนประสาทไปคนละแบบ ที่เอกชนอาจจะเสนอบริการสารพัดเพื่อเอาเงินคุณ หมอที่รพ.รัฐจะโยนคนไข้กันไปมา มองได้ว่า หมอเป็นลูกคุณหนู พ่อแม่ประคบประหงมมาแต่เด็ก โตมาทำงานเงินเดือนดี อยู่ที่ไหนก็ออกอาการพอๆกัน คำพูดคำจาหรือการกระทำนี่ไม่เห็นใจคนอื่นเลย อ้อ หมอที่ดีก็เคยเจอบ้างนะคะ แต่เป็นส่วนน้อย รถเราอะไหล่เคยหลุดออกมาครั้งหนึ่ง มันเป็นอะไหล่ที่พ่อเราเสริมเข้าไปเอง พอเรารู้ก็เอารถจอดเข้าข้างทาง มีคนกวาดถนนมาดู พร้อมกับเอากรวยมากั้นให้ มีผู้ชายอีกคนมาช่วยดูรถให้ แต่เรายืนยันไม่รบกวนเพราะเดี๋ยวพ่อเราก็มาแล้ว ผู้ชายคนนั้นก็ไป แต่คนกวาดถนนยังอยู่ อยู่เป็นเพื่อนเรากับแม่เกือบชั่วโมง ถ้าเป็นสังคมคุณหนู สถานการณ์แบบนี้ ไม่มีผลประโยชน์ให้ จะมีคนพวกนั้นจะมาดูดำดูดีเราไหม? ถามว่าถ้าเราเจอพวกลูกคุณหนูเราจะทำอย่างไร เราก็เผ่นดิ เราเข้ากับพวกนี้ไม่ได้อยู่แล้วและไม่อยากคบด้วย ที่เล่ามานี่ ไม่อยากให้คุณคิดว่าโลกของชาวบ้านมันแย่ไปหมดเท่านั้นเอง คนรวยเอาเงินมาเลี้ยงใจ คนจนเขามีน้ำใจมาเลี้ยงกันและกัน คนจนส่วนมากเขาไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่พวกเขามีอยู่นั้นมีค่าแค่ไหน ถึงได้พยายามทำตัวเหมือนคนรวย คุณจะหาว่าเราบ้าก็ไม่ว่านะ แต่เราสงสารคนรวยในบางครั้ง คนจนตัวเหม็น อาบน้ำก็หาย แต่ถ้าคนรวยใจเหม็น เอาน้ำอะไรมาล้างก็ไม่หายหรอกนะ จากคุณ : ขวัญ (khumchalong) เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 54 06:45:43

ความคิดเห็นที่ 9 คุณหนูจริงเขาไม่แสดงตัวว่าเขาเป็นคุณหนูหรอก   ไอ้ที่ทำตัวเป็นคุณหนู ส่วนใหญ่เป็นคุณหนูเกรดสอง จากคุณ : akebi1 เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 54 08:49:22

ความคิดเห็นที่ 10 ลูกเศรษฐีใหม่กระมังครับ พ่อแม่เคยลำบากเหงื่อต่างน้ำมา พอรวยแล้วมีลูกก็เลยพะเ้น้าพะนอเอาอกเอาใจ ทำอะไรไม่เป็นเลยทีนี้ ผู้ดีมีสาแหรกจริงๆ เขารวยมาตั้งแต่ต้นโคตร เขาเข้าใจสังคมและทำตัวได้เนียนกว่าคนเพิ่งรวยครับ จากคุณ : ปลาทองสยองเมือง เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 54 10:04:58

ความคิดเห็นที่ 11 จบ จาก ม. แถวสามย่าน ตอนสอบติดเพื่อนก็แซว ไฮโซ ลูกคุณหนู ทั้งที่ผมเป็นคนต่างจังหวัด ยังต้องนั่งรถเมล์ไปเรียน เพื่อนร่วมรุ่นบางคน ก็ลูกคุณหนูจริงๆ คนหนึ่งลูกชายผู้ว่าราชการจังหวัด  ไปเข้าค่ายธรรมต้องนอนวัด เขากลับหนีไปนอนโรงแรม สาวอีกคน พอมีรถยนต์หรูมารับรีบกระโดดขึ้นทันที อีกคนพอสอบติด ขอพ่อซื้อรถขับไปเรียน อยู่คอนโด พ่อก็มาบ่นต้องหาค่าน้ำมันรถให้ลูกทุกเดือน (ก็ไม่บอกลูกละว่าอยู่หอในก็ได้ ไม่ต้องเสียค่าซื้อรถ ค่าน้ำมัน คอนโด) อีกคน ต้องไปต่างจังหวัดกัน หารถส่วนตัวไปกันไม่ได้ ให้นั่งรถตู้ (รถร่วม บขส.) ไป เธอบอกนั่งรถตู้ไม่เป็น (แค่ไปที่ท่ารถ ซื้อตั๋ว ขึ้นนั่งบนรถ แค่นั้น นั่งไม่เป็นหรือไม่อยากนั่ง) คนแรกเขาลูกผู้ว่า สามคนหลังลูกชาวบ้านธรรมดา แต่อีกส่วน ก็เห็นเพื่อน นศ. ที่มีฐานะเรียนหรือทำงานลุยกันดี ติดดิน ไม่ออกอาการผู้ดี ลูกคุณหนู ปีก่อน นศ. เทคนิคการเเพทย์ จบเกียรตินิยมเหรียญทอง เด็กสลัมโดยแท้ โตในสลัม อยู่ในสลัม จนเรียนจบ ไม่ได้ตอบคำถาม จขกท. เพียงแต่ เล่าประสบการณ์ให้ฟัง ลูกคุณหนู ปัจจุบันเป็นคำเรียก ในทางแง่ลบ ตาม คห. 7 แสดงถึงพฤติกรรมส่วนบุคคล มากกว่าหมายถึงชาติตระกูลเขาจริงๆ จบ ม. ดัง แล้ว โดนเรียกว่า ลูกคุณหนู น่าจะมาจากการที่ ม. ดัง อย่างเช่น ม. แถวสามย่าน เปิดมานาน (ม. อื่นไม่รู้นะครับ) ตั้งแต่สมัย ร. 5 ซึ่งสมัยก่อน จะเป็น ลูกเจ้าลูกนาย ที่จะส่งลูกเข้าเรียนกัน เลยทำให้ถูกมองว่าเป็น ลูกคุณหนู มาตลอด แต่สมัยหลังๆ ลูกชาวบ้านธรรมดาก็มีโอกาสเข้าเรียน แต่เรียนจบแล้ว มีการศึกษา ความรู้ กริยามารยาทดี สมเป็นผู้มีการศึกษาดี เลยถูกมองว่าเป็น คุณหนู คุณชาย แต่ยุคปัจจุบันมีผสมปนเปกันหมด จะรวยจน ลูกท่านหลานเธอ หรือลูกชาวบ้านธรรมดา ที่ จขกท บอกว่า จบ ม. ดัง แล้วมีคนพูดว่า ลูกคุณหนู  อย่างที่ผมบอกแต่ตอนต้น ว่าโดนเพื่อนแซว อาจเป็นแค่คำแซวกันเล่นๆ แต่บางทีก็เป็นคำพูดประชด หรือ อิจฉา ก็ได้ แล้วแต่บริบทครับ เพราะผมเองก็อยากว่าเพื่อน นศ. บางคนทำตัว ลูกคุณหนู เสียจริงด้วยความรำคาญปนมั่นไส้ จากคุณ : หมาป่าดำ เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 54 11:15:44

ความคิดเห็นที่ 12 ต้องขอบอกเลยค่ะกระทู้แบบเนี่ยคนจะชอบเข้ามาแสดงความคิดเห็น หลายๆครั้งก็ไม่มีข้อสรุป และบางครั้งก็นำมาซึ่งปัญหา เข้าใจว่าจขกท.คงจะไม่สบายใจมากและน่าจะเป็นคนที่ sensitive มากเช่นกัน บางทีเรื่องบางเรื่องถ้าได้ยินมาก็ทำเป็นไม่ใส่ใจบ้างก็ดี เพราะหลายๆครั้งคนที่ทุกข์คือเรา ไม่ใช่หรอ อย่าคิดมากค่ะ(จิงๆ มันอาจไม่มีอะไรก็ได้ บางทีเราอาจจะคิดไปเองทั้งหมด) ลองมองในอีกแง่นึงนะคะ คุณอะโชคดีแล้วที่มีต้นทุนสูงกว่าคนอื่น เสียดายเวลาที่อุตส่าห์เล่าเรียนมาอย่างหนัก บางครั้งก็"อย่าได้แคร์"ค่ะ มันจะทำไม อะไรกันนัก ให้ข้อคิดนะคะ (มิบังอาจสอนค่ะ) เรืื่องๆเดียวกันแต่ต่างคนฟัง ผลลัพธ์ที่ได้ก็ต่างกัน วิถีการคิดจึงสำคัญมาก ถ้ามองในแง่ลบชีวิตก็มีแต่อะไรลบๆ บางครั้งบางปัญหาก็แค่เราเข้าใจมัน และรู้จักยอมรับความเป็นไปของมันบ้าง ชิวิตจะสุขใจขึ้นนเยอะ ทำบุญๆๆ ลองดูนะคะ แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 54 11:27:07 จากคุณ : NK@pantip เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 54 11:26:08

ความคิดเห็นที่ 13 คุณหนู โตขึ้นมาก็เป็นคุณนาย ไม่ก็คุณชาย โดยทั่วๆ ไป เราเข้าใจว่า เป็นคำพูดในแง่ลบ ว่า ทำอะไรด้วยตัวเองไม่เป็น ทั้งเรื่องส่วนตัวและความสามารถในการทำงาน คือ ที่มีอยู่ เป็นอยู่ได้ (อย่างสุขสบาย) เพราะเกิดมารวยน่ะค่ะ จากคุณ : ต้นจั่น เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 54 14:18:21

ความคิดเห็นที่ 14 กำ ผมเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าคำว่าลูกคุณหนูนี่เป็นคำในแง่ลบ - -'' โดนซะบ่อยเลย ปกติจะโดนว่าจากการทำอะไรไม่เป็น แต่ไม่เคยคิดอะไรมาก ถ้าโดนว่ามาเนี่ยควรปรับปรุงตัวใช่ไหมครับ??? จากคุณ : รัตนลาวัณย์ เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 54 17:54:27

ความคิดเห็นที่ 15 บางทีคนเราก็จะมีภาพลักษณ์ที่ติดตาอยู่ การที่คนเรามองกันแค่ภายนอก ยังไม่มีโอกาสทำความรู้จัก เขาก็อาจจะตัดสินไปก่อนแล้ว ไม่ว่าจะตัดสินในใจ หรือ แสดงออกมา เหมือนๆ กับที่ - ผู้ชายหน้าตาดีแต่เงียบๆ = ขี้เก๊ก,ผู้หญิงสวยแต่เงียบ = หยิ่ง (ถ้ามองให้กว้าง คนเหล่านี้อาจจะไม่ใช่คนช่างคุยก็ได้) - คนแต่งตัวดี หน้าตาภูมิฐานเอาข้อมูลเยอะๆ มาพูด ตัวผู้ฟังก็อาจเชื่อไปแล้ว(โดยยังไม่ได้คิดก่อนเชื่อ) ว่าสิ่งที่ฟังมานั่นเป็นจริง (ทั้งที่ความจริง ข้อมูลที่เขาได้มา อาจจะผิดก็ได้) - ดาราเกาหลี จีน จะโดนตัดสินว่า ทำศัลยกรรมทุกคนเพียง เพราะ"ได้ยินมาว่า" "เขาว่ากันว่า" ชาตินี้นิยมทำศัลยกรรม (ซึ่งถ้ามองตามจริง ทุกชาติมีสิทธิ์มีคนหน้าตาดีจริงๆ และอยากเป็นดารา) - ฝรั่งฉลาด และน่าเชื่อถือ รวยกว่าคนไทย นิสัยดีกว่าคนไทย (ทั้งที่เป็นมนุษย์เหมือนๆกัน) บางที มันก็อาจเกิดจากที่ คนเราติดภาพลักษณ์จากสิ่งที่ได้ยินมาก่อน หรือ มีวิธีคิดที่ไม่ดี - ไม่กว้าง ก็ได้ครับ ผมว่าถ้า การที่มีคนที่ไม่สนิทมาต่อว่า หรือ ตัดสินเราจากสิ่งที่เห็นไม่ก็อย่าง เราก็ไม่ควรไปสนใจครับ เอาไว้ถ้าคนใกล้ตัว มากกว่า 5 คนพูดไม่ดีกับตัวเรา ค่อยแก้ไขก็ไม่เสียหายอะไร แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 54 18:01:11 จากคุณ : Stress เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 54 17:57:32

ความคิดเห็นที่ 16 แค่ลูกคุณหนู ต้อง สวย ด้วยนะ ถึงจะเรียกได้  ว่าไหม จากคุณ : นู๋นัน เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 54 19:07:06

ความคิดเห็นที่ 17 ดีแล้วครับ  ดีกว่าเป็นอัทธพาล  เป็นโจร ครับ จากคุณ : oti (oti) เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 54 21:45:56

ความคิดเห็นที่ 18 ต้องดูว่า คนที่พูดว่าคุณแบบนั้นมีเทือกเถาเหล่ากอแบบไหน ลักษณะที่เรียกว่าคุณหนู คือ ผิวพรรณดี การศึกษาสูง ฐานะทางสังคมดี พ่อแม่มีหน้ามี ตา ได้เรียนมหาวิทยาลัยที่มีภาพลักษณ์ดีหรือโรงเรียนดีดี เช่น พวกนานาชาติ ซึ่งลักษณะทั้งหมดนี้ ดีแน่นอน นับว่าคุณดีทั้งเกิดมาดีและทำตัวดีแน่นอน ไม่งั้นคงจะ ไม่สามารถเรียนโรงเรียนดีดีได้ แม้ที่บ้านส่งไปเมืองนอก ก็ยังเรียนจนจบได้ คนที่พูดมีลักษณะแบบนี้ มีสองแบบคือพวกอิจฉาริษยา เคยเจอเหมือนกัน แต่พอไปเล่า ให้เพื่อนฟัง เลยรู้ประวัติผู้พูดว่า เป็นลูกเมียน้อย เคยได้เรียนมหาวิทยาลัยดีดีแต่ไม่จบ บ้านฐานะไม่ดี ตอนนี้กำลังล้มละลาย (เลยไม่ค่อยโกรธมัน ตอนแรกก็โกรธเหมือนกัน) กับอีกพวกที่เป็นคุณหนูคือเกิดมารวยแล้วทำอะไรไม่เป็น ซึ่งจริง ๆ แล้วจะไปว่าเขาก็ไม่ ได้อีกแหล่ะ คนรวยถ้าเขาทำอะไรไม่เป็น เขาก็ไม่เป็นภาระต่อสังคม เหมือนศิลปินน่ะ ถึงวัน ๆ จะวาดรูปขายไม่ออก รูปไม่สวย แล้วไงอ่ะ เขาก็รวยอยู่ดี มีตังอยู่ดี มีความสุข ไม่ตัวผิดกฎหมายบ้านเมือง แล้วไงอ่ะ แต่ไอ้พวกว่าเขาเนี่ย ส่วนใหญ่ที่เห็นมักจะจนน่ะ ปัญหาเยอะด้วย ทั้งชาติกำเนิด ฐานะ การศึกษา เรื่องครอบครัว ซึ่งไอ้พวกเนี้ยตัวปัญหา ของจริง จ่ายภาษีก็น้อย อยู่ในสังคมที่เสื่อมโทรม แล้วก็ขี้อิจฉาด้วย ป.ล. เห็นหลาย ๆ คนบอกอิจฉาลูกคุณหนูผิวบาง ผิวขาว บอกว่าซีดโทรม แต่ตัวเองดำ เหนี่ยงแล้วบอกว่าดี (แต่ลองไปบ้านมันสิ มีไวท์เทินนิ่ง กลูต้าไทโอนด้วย) จากคุณ : TOP เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 08:56:50 A:210.86.128.35 X: TicketID:091427

ความคิดเห็นที่ 19 เอาเป็นว่าเพื่อนเขาประชด(แอบแรง) ถ้ารู้ตัวแล้วหัดติดดินบ้าง มันจะมีประโยชน์นะครับ จากคุณ : RageMachine เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 00:40:09

ความคิดเห็นที่ 20 เราเคยโดนคนถามว่า.. ทำตัวไม่เหมือนเด็กจุฬาฯ เลย จบจุฬาฯ จริงป่าวเนี่ย ? บางคนก็ถามว่า.. จบจุฬาฯ มางานแบบนี้จะทำได้เหรอ ? พอสอบเอ็นท์ติดจุฬาฯ เราจะต้องเปลี่ยนไปแบบไหนเหรอ ? เรียนจุฬาฯ แล้วปีกจะงอก หรือ อะไร ? ที่บ้านเราค้าขาย เราก็ต้องช่วยขายของตั้งแต่เด็ก งานในร้านทุกอย่างต้องทำหมด ไม่มีลูกน้องช่วยหรอก บ้านเราไม่ได้มีกิจการอะไรใหญ่โต เพียงแค่คนค้าขายสุจริต แต่ให้ความสำคัญกับการศึกษา ตั้งแต่สมัยเด็ก ถุงกระดาษหนังสือพิมพ์ใส่อะไรมาเราก็อ่าน (ถูกสอนแบบนั้น) ก่อนไปโรงเรียนก็ต้องส่งหนังสือพิมพ์ทุกวัน ช่วยเปิดร้านให้เรียบร้อยก่อน เลิกเรียนกลับบ้านมาช่วยที่บ้านขายของ ไม่เคยได้ไปเที่ยวไหนกับเค้าหรอก สมัยนั้นที่บ้านขายของคนดึกดื่นเที่ยงคืน เราก็อยู่ช่วยขาย (อ่านหนังสือ ทำการบ้านไปด้วย) ที่บ้านสอนให้ตั้งใจทำงาน งานบางงานได้เงินน้อยหน่อย แต่ได้ประสบการณ์ก็สมควรทำ กับการทำงานสุจริตแลกเงินไม่ใช่เรื่องน่าอับอายอะไร เพราะไม่ได้ไปโกงใครเค้ากิน สารพัดจะโดนคนว่าแหละ หลังๆ เริ่มปลงได้เลยปล่อยมันไป ใครอยากว่าอะไรก็ช่างเค้า เราอย่าไปใส่ใจเป็นพอ จากคุณ : Living Extreme เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 05:00:04

ความคิดเห็นที่ 21 เอ่อ ไม่เข้าใจนิทานคุณลุงแอ๊ดอะครับ แปลให้ฟังที จากคุณ : psychowat (psychowat) เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 16:26:02