|
ถ้ากล่าวกันถึงการก่อตั้งคอมมูนในช่วงนโยบายธงแดง 3 ผืน นั้น จริงๆเนื้อหาของคอมมูนและหลักการเป็นสิ่งที่ดีมากครับ
คอมมูนประชาชนเป็นการรวบรวมเอาไร่นาย่อยๆของชาวนาหรือหมู่บ้านเล็กๆหลายๆแห่ง มารวมตัวกันกลายเป็นกลุ่มทางเศรษฐกิจขนาดย่อมๆครับ กล่าวคือในคอมมูนจะเป็นการรวมเอากลุ่มชาวนาที่มีที่ดินคนละเล็กคนละน้อยที่ได้มาจากการปฏิรูปที่ดินในปี 1950-55 มาอยู่ร่วมกัน ตั้งเป็นองค์กรขึ้นมา
ประมาณกันว่าในแต่ละคอมมูนจะประกอบไปด้วยชาวนา 5000 ครัวเรือน ประกอบด้วยหลายๆหมู่บ้านในท้องที่ใกล้ๆกันครับ (ในปี 1958-59 จีนมีคอมมูนกระจายอยู่ทั่วประเทศราวๆ 24000 แห่ง) ชาวนาในคอมมูนก็จะทำงานร่วมกันครับ
แต่มากกว่านั้น คอมมูนไม่ใช่แค่การรวมตัวกันเป็นกลุ่มทางเศรษฐกิจแบบสหกรณ์ แต่มันเป็นการรวมกลุ่มกันทางสังคมด้วย ในแต่ละคอมมูนจะมีการคัดเลือกประธาน, เลขาธิการ และกรมการบริหารของคอมมูน, มีการตั้งโรงอาหารและฐานเก็บเสบียงขึ้นมาเพื่อดูแลด้านอาหารให้แก่ชาวบ้านในคอมมูน, มีการจัดสร้างสถานีพยาบาล, โรงเรียน, หน่วยรักษาความปลอดภัยประจำคอมมูน, โรงงานแปรรูปขนาดย่อมๆ รวมไปถึงฐานในการผลิตปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตต่างๆในแต่ละคอมมูนขึ้นมาครับ กล่าวง่ายๆคือ คอมมูนเสมือนรังผึ้งขนาดใหญ่ ที่สามารถรวมกันอยู่ได้โดยตนเอง มีอำนาจบริหารงานในระดับนโยบายย่อยๆของตัวเอง ประชาชนทุกคนในคอมมูนมีส่วนร่วมทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และความเป็นเจ้าของคอมมูนเหมือนๆกันหมด โดยมีเป้าหมายก็เพื่อรวบรวมเอาชาวนาทั่วประเทศที่กระจัดกระจายมาทำงานร่วมกัน เพื่อให้ง่ายต่อการวางนโยบายจากส่วนกลางลงไปควบคุมทิศทางการผลิตหน่ะครับ (คือส่วนกลางวางแผนลงมา คอมมูนก็รับไปปฏิบัติ โดยอาจจะปรับปรุงเนื้อหาปลีกย่อยให้เหมาะสมกับรูปแบบหรือเหตุการณ์ของสมาชิกในคอมมูนก็ได้)
นอกจากนี้ในเขตอุตสาหกรรมทางภาคตะวันออกและภาคใต้ของประเทศ (เช่นในเมืองใหญ่อย่างเซี่ยงไฮ้ และ กว่างโจว) ก็มีการจัดตั้งคอมมูนแบบกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมครับ โดยรวบรวมเอาโรงงานในละแวกเดียวกัน ที่อาจจะผลิตสินค้าเหมือนหรือต่างกันมาเป็นหน่วยบริหารหรือชุมชนขนาดย่อมๆ มีการเลือกจัดตั้งหัวหน้ากลุ่มตามแบบคอมมูน และมีสมาชิกคือแรงงานในคอมมูนนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีการเปิดกว้างทางแนวคิดด้านการผลิตและวางแผนของคอมมูนอุตสาหกรรมครับ โดยการให้กลุ่มผู้ปฏิบัติงาน (แรงงานระดับล่าง) กับกลุ่มวิศวกร และกลุ่มผู้บริหาร มีอำนาจในการตัดสินใจด้านการผลิตโดยการโหวตหรือประชุมกันอย่างสม่ำเสมอ และเพื่อยกระดับทางด้านการศึกษาของแรงงานระดับล่าง ในทุกๆคอมมูนอุตสาหกรรม จะต้องมีเวลาหยุดงานให้แรงงานไปศึกษาหาความรู้ทางด้านเทคนิคและวิชาการอีกด้วย (คือมีการตั้งโรงเรียนประจำโรงงานขึ้นมา ประมาณกันว่าแรงงานระดับล่าง 60-80% ได้เข้าเรียนในโรงเรียนดังกล่าว ในช่วงเวลาพักหรือหลังเลิกงาน)
จากคุณ |
:
digimontamer
|
เขียนเมื่อ |
:
30 มิ.ย. 54 10:12:14
|
|
|
|
|