ความคิดเห็นที่ 1 ได้ครับ เพราะเวลาพูดกัน ก็ได้ยินแต่เสียง ไม่เห็นตัวหนังสือ แต่จะรู้ว่า เสียงไหน หมายถึง อะไร ก็ขึ้นอยู่กับ ข้อความประกอบ และความชำนาญ หรือการรู้ศัพท์ จากคุณ : นายช่างปลูกเรือน เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 14:16:32

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าเป็นสนทนาพื้นฐานที่ใช้ศัพท์สักพันพันห้าละได้ แต่ถ้ายิ่งเรียนสูงไปเรื่อยๆ รับรองว่าตันแน่นอน เพราะเสียงมันจะเริ่มซ้ำกันเรื่อยๆ จนคุณไม่อยากเรียนต่อไปอีกเลย (ไม่มีตัวอักษรเป็นหลักในการเรียนรู้จดจำความหมายที่หลากขึ้นในบริบทที่ฝันแปรไปได้ร้อยแปด) ฉะนั้นไหนๆ จะเรียนจีนทั้งทีควรเรียนอักษรจีนด้วยดีที่สุด เพราะการเรียนรู้ให้ถึงแก่นภาษา+เข้าใจวัฒนธรรมอันล่ำค่าของภาษานี้อยู่ที่ตัวอักษรเป็นหลัก จากคุณ : โจโฉ (joechou) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 19:11:42

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าคุณไม่คิดจะเรียนระดับกลางก็เรียนเฉพาะพินอินได้ ถ้าอยากจะเรียนสูงกว่านั้นลงทุนหน่อยดีกว่าค่ะ คนที่เรียนภาษาจีนเกินกว่าครึ่งใช้พินอินแชท เพื่อนเราหลายคนยกเว้นพวกญี่ปุ่นรักการใช้พินอินสุดหัวใจ เรียนจบมา ภาษาจีนก็ดี สอบระดับภาษาได้ระดับสูงแล้ว ยังไม่ยอมพิมพ์อักษรจีนก็มี ภาษาจีนหลักๆคือ เอาคำขยายมาไว้หน้า ในภาษาไทยพูดว่า หมาดำ ในภาษาจีนจะพูดว่า ดำหมา อีกหลักที่อยากให้ระวังคือการแสดงความเป็นเจ้าของ ในภาษาจีนให้เจ้าของอยู่หน้า เช่น ฉันของหมา ในภาษาไทยก็หมาของฉัน สองจุดนี้ที่คุณต้องระวัง นอกนั้นก็ ประธาน กริยา กรรม ธรรมดาทั่วไป ยกเว้นมีคำพิเศษแต่เดาว่าคุณไม่ต้องใช้มันมั้ง จากคุณ : ขวัญ (khumchalong) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 20:15:28

ความคิดเห็นที่ 4 คห 2 พูดเป็นเรื่องจริง ผมเคยเรียนภาษาญี่ปุ่น หลักสูตรเป็นแบบ เริ่มจากอ่านเป็นภาษาอังกฤษ ใช้ตัวอักษรฝรั่ง หรือที่เขากันเรียกว่า romanization แล้วขั้นสูงหน่อยค่อยเริ่มเรียนชุดอักษรญี่ปุ่นและจีน ก็นึกว่า เออ ดีวุ้ย ไม่ยุ่งยาก อ่านสะดวก แต่เรียนไปจะกระโดดไปขั้นต้นขั้นที่ 2 เกิดอาการตันครับ ตาลาย งง สอบไม่ผ่าน เพราะศัพท์เริ่มเยอะขึ้น เสียงซ้ำ แถมไวยากรณ์ญี่ปุ่น ก็ยุ่งยาก ผลสุดท้าย..เลิก เพราะไม่รู้จะจำจากอะไร เรียนอะไรควรให้ครบเครื่อง และพื้นฐานต้องแน่นครับ เริ่มแรกจะรู้สึกกลัวตัวหนังสือ แต่่ผ่านๆไปมันก็ชิน แล้วจะจดจำง่ายกว่าด้วย ช่วงแรกๆไปช้าหน่อย แต่ระยะยาวสบาย แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 54 11:09:53 จากคุณ : music maniac เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 11:08:48