ความคิดเห็นที่ 1 คือจะถามว่า   1. คิดว่า econ จำเป็นมั้ยคะ จำเป็น   2. ระหว่างที่เราคิดไว้ตอนแรกคือ econ+FIRM  เราจะเปลี่ยนไปเรียน โท สถิติ ดีกว่าหรือเปล่าคะ (จะเป็น econ+สถิติ หรือ สถิติ+FIRM อะไรประมาณนี้จะ work มั้ยคะ)  เพราะเราเริ่มกังวล skill math ของเราเองค่ะ ว่าจะไม่แน่นพอที่จะต่อ FE พูดตามตรง สถิติมันเรียนกันเองได้ ไม่จำเป็นต้องไปเรียนโทเลย ถ้าไม่อยากออกมาทำงานทางด้าน marketing, poll sampling   3. หรือที่เราคิดมามันอาจจะผิด (หลงทาง) หรือเปล่าคะ  ถ้าอย่างไรรบกวนชี้ทางให้ด้วยค่ะ ไม่ต้องเรียนแยะหรอกครับ เอาแค่ econ+FIRM   ก็พอแล้ว   4. พอมีช่องทางไหนที่จะหาทุนได้บ้างหรือเปล่าคะ   (ทุนเรียนต่อต่างประเทศค่ะ) ต้องดู กพ แบงค์ชาติ กระทรวงการคลัง   5. ถ้าได้เรียนจริง กว่าจะสำเร็จคงอีก 4-6 ปีข้างหน้า (คงอายุประมาณ 30 แล้วค่ะป่านนั้น)  พี่ๆ คาดว่าตอนนั้นความต้องการของตลาดจะเป็นอย่างไรบ้างค่ะ ถ้าได้ทุนก็ต้องออกมาใช้ทุน ถ้าไปทุนส่วนตัว ก็ต้องมีความรู้ลึกซึ้งทั้งทางด้านวิชาการ ด้านเศรฐกิจระดับอ่านบทความของปรมาจารย์ต่างๆ ได้รู้เรื่อง เช่น Krugman ที่ลงทุกอาทิตย์ใน Bangkok Post และคนอื่นๆ ที่มีลงใน นสพ นี้เป็นประจำ สามารถ ทำ oral presentation ได้อย่างดี เพราะคุณยังไม่เคยทำงานด้านนี้มาเลย ต้องสามารถขายความสามารถตัวเราได้ จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 02:27:43

ความคิดเห็นที่ 2 ลองดูที่ AIT ไหมครับเห็นเขามีทุนเรียน MBA จากคุณ : เทนนิจ (เทนนิจ) เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 11:05:16

ความคิดเห็นที่ 3 ผมสงสัยตรงที่ว่าทำไมคุณอยากเรียนเยอะไปหมด - เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาเศรษฐศาสตร์การเงิน (Monetary Economics) จุฬาฯ - M.S. in Financial Investment and Risk Management นิด้า - M.S. in Financial Engineering ต่างประเทศ สิ่งที่ผมอยากถามคือ คุณอยากทำงานสายไหน หรือทำงานเป็นอะไรกันแน่ครับ ถ้าคุณอยากเป็นนักวิเคราะห์เศรษฐกิจขนานแท้ คุณควรเรียน เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต เลือกสาขา เศรษฐศาสตร์การเงิน (Monetary Economics), เศรษฐศาสตร์เชิงปริมาณ (Quantitative Economics) หรือ เศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ (International Economics) ก็ได้ครับ ถ้าคุณอยากทำสายวิเคราะห์หลักทรัพย์ วิเคราะห์การลงทุน หรือ บริหารความเสี่ยง คุณควรเรียน M.S. in Financial Investment and Risk Management ครับ หากคุณอยากมีความรู้แน่นให้สมเป็นมืออาชีพในสายวิเคราะห์การลงทุนหรืออยากขึ้นทะเบียนเป็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ก็ไปสอบ CFA เพิ่มเติมครับ หากคุณอยากมีความรู้แน่นให้สมเป็นมืออาชีพในสายบริหารความเสี่ยงก็ไปสอบ FRM หรือ PRM ครับ ถ้าคุณมีความสนใจในตราสารอนุพันธ์ หรืออนุพันธ์ทางการเงิน (Financial Derivatives) เป็นพิเศษ สนใจพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงิน (Financial Products) ใหม่ ๆ ให้กับบริษัทหลักทรัพย์ หรือตลาดหลักทรัพย์ และทำหน้าที่บริหารความเสี่ยงด้านต่าง ๆ ให้กับบริษัท คุณควรเรียน Financial Engineering ครับ ผมไม่ได้บอกว่าการเรียนให้ครบทั้งสามปริญญาเป็นสิ่งที่ไม่ดีนะครับ แต่มันเสียเวลา เพราะเนื้อหาพื้นฐานหลัก ๆ มันทับซ้อนกันเยอะอยู่แล้วครับ ที่เหลือคุณไปศึกษาเพิ่มเติมหรือสอบใบอนุญาตพวก CFA หรือ FRM ก็ได้ ตอบคำถามนะครับ 1. สำหรับ Financial Engineering ควรมีพื้นฐานทางด้านเศรษฐศาสตร์มาครับ โดยเฉพาะด้านเศรษฐศาสตร์การเงิน Financial Economics (คนละสาขากับ Monetary Economics ที่จุฬาฯเปิดสอนนะครับ) เพราะสาขานี้เป็นสาขาที่เนื้อหาใกล้เคียงกับ Financial Engineering มากที่สุดครับ 2. ได้ A แคล มาสมัยเรียนวิศวกรรมศาสตร์ ผมคิดว่าคงไม่จำเป็นที่จะไปเรียนปริญญาโททางด้านสถิติครับ FE หลาย ๆ ที่มี Math/Stat Refresher courses ให้อยู่แล้วครับ 3. คำตอบอยู่ในคำแนะนำข้างต้นแล้วครับ 4. ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกร ฟูลไบร์ท 5. ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ผมมองว่าสายอาชีพวิศวกรการเงิน (Financial Engineer) ในไทย ไม่ได้เติบโตอะไรมากมายอยู่แล้ว เพราะในไทย ขนาดคนลงทุนในตลาดหุ้น ยังน้อยมาก ๆ แล้วตลาดอนุพันธ์จะไปเหลืออะไรครับ แค่ SET50 Index Futures ผมยังมองว่าคนเล่นน้อยเลย หรือ Algorithmic Trading คนยังแทบไม่รู้จักเลย ปัจจุบันนี้ บริษัทหลักทรัพย์ในไทย ก็จ้างวิศวกรการเงินไม่กี่คนคอยออก Derivative Warrants ธนาคารแห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์ก็จ้างไว้คอยบริหารความเสี่ยงค่าเงิน ฯลฯ ซึ่งผมมองว่า ถ้าจะต้องไปเรียนสูงถึงพวก Stochastic Calculus แล้วมาบริหารความเสี่ยง ไปสอบ FRM ก็พอครับ ทำได้เหมือนกัน * ถ้าทำงานที่ต่างประเทศ อีกเรื่องหนึ่งนะครับ จากคุณ : Rifle D. เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 54 12:47:14

ความคิดเห็นที่ 4 @คุณ K.Senior & คุณเทนนิจ : ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ @คุณ Rifle D. : ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ อยากเรียนเยอะไปหมด เพราะไม่มีคนให้ปรึกษาค่ะ เลยคิดไปเองว่าคงจำเป็น อยากเป็นนักพยากรณ์/วิเคราะห์/วิจัย ประมาณนั้นค่ะ อยากมีความรู้ที่จะสร้าง Model ที่สามารถพยากรณ์เศรษฐกิจ, ตลาด หรือค่าดัชนีต่างๆได้อย่างแม่นยำ  (เพราะคิดว่ามันคงประยุกต์ไปใช้วิเคราะห์อย่างอื่นทางสถิติได้ด้วย) แบบนี้ควรเรียนอะไรดีคะ .. ขอคำแนะนำด้วย สงสัยในที่คุณบอกว่า econ จุฬา เป็น Monetary Finance  แล้วถ้า Financial Economics จริงๆ มีที่ไหนเปิดสอนบ้างคะ  (ใช่ MAIEF หรือเปล่า ?  แต่กังวลว่าเราไม่มีพื้นฐานทาง ศศ เลย กลัวจะเรียนไม่ไหวอ่าค่ะ เลยมองที่กว้างๆ) ที่ทำงานจะปั้นให้เป็นผู้จัดการ เริ่มรู้สึกว่าไม่ใช่สิ่งที่ต้องการค่ะ  อยากนั่งวิจัยวิเคราะห์อยู่กับข้อมูลต่างๆ มากกว่า  T_T จากคุณ : ::Som-O:: เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 54 14:32:22

ความคิดเห็นที่ 5 เรียนให้ทราบก่อนว่า ในปัจจุบันนี้ ไม่มีใครสามารถพยากรณ์เศรษฐกิจ หรือดัชนีต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ 100% สิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์ประจำธนาคารกลาง หรือกระทรวงการคลังทำ หรือ สิ่งที่นักวิชาการ ประจำ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทำ คือรันแบบจำลองเพื่อพยากรณ์คร่าว ๆ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการกำหนดนโยบายเท่านั้น อยากเป็นนักพยากรณ์เศรษฐกิจ - ควรเรียน M.Econ. (Quantitative Economics) - ควรเรียน M.S. (Applied Statistics) - ควรเรียน M.S. (Operations Research) ใกล้เคียง Financial Engineering ทั้งสามสาขาด้านบนจะได้เรียนการสร้างแบบจำลอง (Mathematical Models) หลากหลายรูปแบบครับ แต่ถ้าเน้นแบบจำลองการพยากรณ์เศรษฐกิจ (Macroeconometric Models) ควรเรียน M.Econ. (Quantitative Economics) ครับ อยากเป็นนักวิเคราะห์เศรษฐกิจ - ควรเรียน M.Econ. (Quantitative Economics, Macroeconomics, International Economics, etc.) อยากเป็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์/นักวิเคราะห์การลงทุน - ควรเรียน M.S. (Finance) - ควรเรียน M.S. (Financial Investment and Risk Management) - สอบ CFA ในไทย ที่ผมทราบตอนนี้ สถาบันที่เปิดสอน Financial Economics มีที่เดียวคือนิด้าครับ เพราะ จุฬาฯ ธรรมศาสตร์ เกษตรศาสตร์ และ หอการค้าไทย เปิดสอน Monetary Economics หมดเลย ส่วน MAIEF เป็น International Economics ครับ ไม่ต้องกลัวว่า ไม่มีพื้นฐานแล้วจะเรียนไม่ได้ครับ ถ้าคุณสามารถเข้าไปเรียนได้ คณะกรรมการที่รับเข้า เขาต้องมั่นใจระดับหนึ่งแหละครับ ว่าคุณมีศักยภาพเพียงพอ อ้อ ลิมบอกว่า M.Econ. ของจุฬาฯ นี่เน้นวิจัยหนักพอสมควรนะครับ ส่วนใหญ่ใช้เวลาเรียนรวมวิจัยประมาณ 3-4 ปี ถึงจบการศึกษา จากคุณ : Rifle D. เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 54 16:54:13

ความคิดเห็นที่ 6 เรียนที่ชอบค่ะ เรียนอะไรก็ได้ที่ทุกขณะที่ได้เรียนแล้วหัวใจมันเต้นแรง อยากเรียน FE ก็เรียน พื้นฐานเราอ่านเองได้ทั้งนั้นจะ econ, stat ไม่ต้องกลัว อย่างที่คุณ Rifle D. บอก ไม่มีใครพยากรณ์เศรษฐกิจได้แม่นยำทั้งนั้น แม้แต่ ดร.โกร่ง มือหนึ่งด้าน Econometric ของไทยยังบอกเลยว่า ไม่มีใครพยากรณ์ได้ ทุกอย่าง Run Model และก็มี Assumption มาประกอบ ความถูกต้องก็ถูกต้องบนพื้นฐานของ Assumption นั้น นอกเหนือจาก Assumption ก็ไม่รับประกันค่ะ หากไม่แน่ใจก็เรียนกว้าง ๆ ไว้ก่อน จะทำให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น (สงสัยเราจะรู้จักกันน่ะคุณ มันคุ้นๆๆ) แต่แน่ใจแล้วก็เลือกเลย เรียนแล้วมันไม่ใช่ก็เรียนใหม่อีกก็ได้ ไม่เห็นเป็นไรนะคะ คนอื่นทำ FEแล้วไม่รุ่ง เราทำแล้วอาจรุ่งมาก ๆ ก็ได้ ไม่มีใครรู้ค่ะ (อยากรู้มากกว่านี้ก็ลองถามเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่ทำงานที่เขาเรียนมาก่อนและกำลังเรียนดูสิค่ะ) จากคุณ : bestwish (bestwish) เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 00:50:16