 |
ตอบ คคห 10 น้ำตาลมะพร้าวเป็นสารธรรมชาติ (ถ้าผลิตโดยไม่เติมเคมีหรือสารฟอกสี) คนและสัตว์หาน้ำตาลมะพร้าวเจอในธรรมชาติ มันไม่เป็นสารพิษ ไม่เหมือนน้ำตาลทรายขาวซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่ไม่มีในธรรมชาติซึ่งร่างกายมนุษย์ไม่ต้องการมัน กระบวนการที่ร่างกายมนุษย์พยายามขจัดสารสังเคราะห์แบบน้ำตาลทรายขาวออกไปมันรุนแรงมากๆ ถึงขั้นที่เรียกได้ว่าอาหารคาว (หรือแม้กระทั่งของหวาน) ใดๆที่ใส่น้ำตาลทรายขาวลงไปไม่น่าที่จะได้รับการยกย่องว่าเป็นอาหารเลิศรสได้เลย ........................................................................... ตอบ คคห 8, 9 และ 11
ข้อความที่เราเขียนไม่ได้มีเจตนาที่จะบอกว่าเราจะกินอาหารนอกบ้านแล้วหนีสารพิษได้ง่ายๆ คือจริงๆแล้วทำอาหารกินเองในบ้านปลอดภัยที่สุด
แต่เราต้องการที่จะบอกว่า
"จากการที่เราทดลองชิมอาหารของชนชาติหลายๆชนชาติในหลายๆประเทศมา เราไม่คิดว่าอาหารไทยเป็นอาหารที่ยอดเยี่ยมเลิศรสเหนือชั้นกว่าอาหารชาติอื่น เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่ใช้สารพิษในการปรุงอาหารค่อนข้างจะมากกว่าชนชาติอื่นๆ (รวมทั้งใช้ภาชนะอลูมิเนียมด้วย ซึ่งทำให้อาหารมีสารพิษ (แต่ถ้าไม่เชื่อว่าอลูมิเนียมปล่อยสารพิษลงในอาหารอย่างน้อยที่สุดมันก็ทำให้อาหารมีรสแปร่งๆไม่น่ากินอยู่ดีนั่นแหละ ยิ่งเอาหม้ออลูมิเนียมไปทำต้มยำหละรสชาติเสียไปเลย)...จริงๆแล้วคนจีนก็ติดอันดับใช้สารพิษสูสีกับคนไทยจนถึงกับมีศัพท์ภาษาอังกฤษเกิดขึ้นคือ Chinese restaurant syndrome คืออาการวิงเวียนหัว ปวดหัว หัวใจเต้นแรงจากการได้รับฤทธิ์ของผงชูรส"
ส่วนเรื่องจะเชื่อหรือไม่เชื่อว่าผงชูรสมีสารพิษนั้นไม่ใช่ประเด็นที่จะมาเชิดชูอาหารประจำชาติได้ เพราะแท้จริงแล้วชาวญี่ปุ่นที่เป็นนักทำอาหารธรรมชาติระดับปรมาจารย์ใช้วิธีเติมเกลือหยิบมือละน้อยๆมากๆ ลงไปในอาหาร ซ้ำๆกันในจำนวนครั้งที่พอเหมาะ และรู้วิธีคนอาหารอย่างมีศิลปะ ทำให้อาหารมีรสโอชาได้โดยไม่ต้องใส่ผงชูรสเลย ถ้าใครทำอาหารได้ระดับนี้ก็ต้องถือว่า "เลิศรสจริงๆ" ไม่ใช่ใส่ผงชูรสกับน้ำตาลลงไป แล้วบอกว่า "อาหารอร่อยและพิสูจน์แล้วว่าผงชูรสไม่มีสารพิษ"
เครื่องปรุงรสแบบเต้าเจี้ยวบดกับซีอิ๊วญี่ปุ่นยังมีชนิดที่เป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติอยู่ ที่ใช้แต่เกลือสมุทร ถั่วเหลือง และข้าวสาลีกล้อง ไม่มีสารกันบูด ไม่มีผงชูรส ไม่มีน้ำตาล ในขณะที่เต้าเจี้ยวกับซีอิ๊วจีนมีสารเคมีเพียบ และน้ำปลาดีๆซึ่งเคยเป็นเครื่องปรุ่งชัันดีของไทยและเป็นภูมิปัญญาของไทยถูกทำลายย่อยยับไปหมดแล้ว เพราะตอนนี้น้ำปลาไทยทุกยี่ห้อเติมน้ำตาลทรายขาวลงไปหมด น่าเสียดายมากๆ เมื่อ 10 กว่าปีก่อน เรายังหาน้ำปลายี่ห้อ "บ้านฉาง" กับ "ยอด" ที่ไม่เติมน้ำตาลได้ แต่ตอนนี้บ้านฉางหายไปจากท้องตลาดแล้ว เหลือแต่ยอดที่ยังอยู่ แต่มันเติมน้ำตาลไปซะแล้ว เราเลยเลิกใช้น้ำปลาไทย เราเคยลองทำต้มยำเราใส่ปลาแห้งตัวเล็กๆลงไปแทนน้ำปลาแล้วเติมเกลือสมุทรลงไปอีกนิดหน่อยก็ออกมารสชาติดีเยี่ยมได้
ส่วนเรื่องคนจีนอายุเกิน 60 ที่ไม่จู้จี้เรื่องกินแต่เก่งวรยุทธ์ที่นำมาใช้อ้างว่า "กินสารพิษก็ไม่แก่นั้น" เราก็อ้างได้เช่นกันว่าเราก็อายุเกิน 60 ปี และรู้วรยุทธ์จีนมากพอสมควร และยังมีพลังกับความคล่องแคล่วว่องไวไม่แพ้คนอายุ 30 กว่าๆ แต่ขอเกทับเรื่องที่ว่าหน้าตาเรายังไม่มีรอยตีนกา และผิวกายเราทั้งร่างยังเต่งตึงยืดหยุ่นและเนียนมากๆไม่มีริ้วรอยใดๆ และจะกระซิบบอกเคล็ดลับให้ว่า
"อาหารธรรมชาติที่ทำตามหลักวิชา Zen Macrobiotics นี้ ยิ่งถ้ากินเป็นอาหารเจด้วยแล้ว มันเพิ่มกำลังภายในให้เรามากเกินควรจนเรากลายเป็น "ตัณหากลับ (เตะปี๊บยิ่งดังไกลมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่ออายุ่ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ)"
หลายๆคนเข้าใจผิดเรื่อง
"ถือศีลกินเจ หลงคิดว่าคนกินเจจะหมดสมรรถภาพทางเพศ ถ้าจะถือศีลก็ให้กินเจ"
เรากินเจมากเกินไปจนมีความต้องการทางเพศมากเกินมนุษย์ธรรมดาจนในที่สุดเราต้องฝืนใจกินเนื้อสัตว์และอาหารขยะลงไปบ้างเป็นครั้งคราวเพื่อทำลายกำลังภายในของเราลงไปหลายๆส่วน มันจะได้ลดความต้องการทางเพศและลดสมรรถภาพทางเพศของเราลงไปได้บ้าง ม่ายงั้นเราต้องมีเมียทีละหลายๆคนซึ่งแฟนคนปัจจุบันเราคงไม่ยอมแน่ๆ...555+++...
paradoxes ก็คือ เอาไว้แฟนเราใจดียอมให้เรามีผู้หญิงทีละหลายๆคนพร้อมๆกันได้เมื่อไหร่ เราก็จะได้กลับไปกินเจแบบเคร่งๆมากๆเหมือนเดิมเพื่อให้การฝึกกำลังภายในของเรารุดหน้าไปได้รวดเร็วกว่านี้อีกตั้งหลายๆเท่า
แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 54 04:04:35
แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 54 04:03:24
จากคุณ |
:
fortuneteller
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ก.ค. 54 03:49:14
|
|
|
|
 |