ความคิดเห็นที่ 1 If I am Dave and I am innocent, I will feel the same way that you are annoying. Is there any reason that make you paranoid? If there is, you are justified to chat like that. If there is not, then you are out of line in trying to find a story when there is none. By the way, I think your relationship does not sound good right now. If you want to keep relationship going, you need to amend your way. Again, you're an annoying woman if Dave is innocent. If Dave is not, then you should be prepared for bad news as it seems that Dave will not tolerate your annoying persistence for long. จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 15:10:57

ความคิดเห็นที่ 2 K.Senior สงสัยเราจู้จี้เกินไปจริงๆใช่ปะคะ คือที่ถามเค้าเรื่องนี้ เพราะมันมีเหตุให้สงสัยอะค่ะ ก็เลยถามไปตรงๆ แต่หลายท่านบอกมาว่าไม่น่าถาม เหมือนหาเรื่อง... คงต้องเงียบๆไปสักพักแล้วค่อยโทรไปคุยดีๆดีกว่าเนอะ... เห้ออ.. จากคุณ : beer112 เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 15:13:30

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าตอบไปแล้วจะโดนโกรธไหมเนี่ย แฮ่ๆ เรารู้สึกว่า คุณ a bit too much อะค่ะ ขนาดเราเป็นผู้หญิงนะ ยังรู้สึกเลยว่าคุณมากไปอะค่ะ พูดในฐานะคนที่ผ่านประสบการณ์มาก่อนเนาะ การมีความสัมพันธ์กับใครสักคน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความไว้เนื้อเชื่อใจ หรือ trust แต่จากบทสนทนาที่คุณแปะมา คุณไม่ trust แฟนคุณเลย ยกตัวอย่างนะคะ เขาบอกว่าเจอไม่ได้ เพราะว่าเขายุ่งมาก เราก็ควรจะไว้ใจและเชื่อเขาว่า เขายุ่งมากอย่างที่เขาบอก ไม่ใช่ไปถามว่า เธอไม่อยากเจอฉันเพราะเธอกำลังหาคนอื่นด้วยใช่ไหม ซึ่งถ้าเป็นเรานะคะ แฟนเราถามเรามาแบบนี้ เราก็โกรธเหมือนที่แฟนคุณโกรธนะ เพราะก็บอกไปแล้วว่าไม่ว่าง เจอไม่ได้ แล้วทำไมมาถามแบบนี้ ทำไมพูดเหมือนไม่ไว้ใจกัน ตอนเริ่มต้นบทสนทนา เราก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมคุณถึงถามว่าเขาโอเคกับคุณหรือเปล่า เหมือนกับว่าคุณไม่มั่นใจในความสัมพันธ์นั้น และพยายามจะ push มากไป ลองปล่อยสบายๆ คุยกันทีไรก็ให้มีแต่ความสบายใจดูไหมคะ เชื่อใจเขา เชื่อใจตัวเอง เชื่อมั่นในความสัมพันธ์ แต่ถ้าคุณไม่เชื่อมั่น เราว่าอีกไม่นานก็คงเลิกกัน เพราะแค่เราอ่านบทสนทนาแค่นี้ เรายังรู้สึกอึดอัดมากๆเลย แล้วถ้าคุณ push มากไป ถ้าเขาทนไม่ได้ขึ้นมา อาจจะบอกเลิกเอาง่ายๆ เรื่องโทรเช้าเกินไป แปดโมงเช้าเช้ามากนะคะ โดยเฉพาะวันหยุด เพราะบางคนก็ชอบ sleep in แล้วคุณโทรไปปลุกเขา มันก็หงุดหงิดได้ง่ายๆ ลองดูใหม่เนอะ เชื่อมั่นในตัวเขา เชื่อมั่นในความสัมพันธ์ ในเมื่อตกลงเป็นแฟนกันแล้ว คงไม่จำเป็นต้องไปคาดคั้นเขาอีกว่า เธอยังอยากให้ฉันเป็นแฟนเธออยู่หรือเปล่า มั่นใจในตัวเองหน่อยค่ะ ถ้าเขาไม่ต้องการคุณ เขาคงไม่ตกลงคบกับคุณตั้งแต่แรก ลองปล่อยให้มีช่องว่างระหว่างกันให้หายใจดู อย่าคาดคั้นมากไป บางทีที่เขาไม่ค่อยอยากคุยกับคุณทางโทรศัพท์เพราะคุยทีไรก็เป็นแบบนี้ รู้สึกไม่สบายใจสักที เขาก็เลยเลี่ยงซะอะไรแบบนี้ เอาใจช่วยนะคะ ลองปรับตัวดูใหม่ ขอให้ทุกอย่างดีขึ้น แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 54 15:18:16 จากคุณ : Le Cielo เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 15:16:38

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณทุกท่านค่ะ คุณ Le Cielo ที่จี้เขาเรื่องนั้นเพราะมีเหตุให้ชวนสงสัยค่ะ สงสัยว่ามีแฟนอยู่แล้วหรือเปล่าหว่า (เจอมูลเหตุมาจากเฟสบุคเขา ที่เรายังไม่ได้แอดไปเป็นเพื่อนอะค่ะ แต่เราเข้าดูได้ เหมือนเขาไม่ได้ตั้งไพรเวทเยอะ) เคยถามแล้วแต่เขาก็ตอบแบบไม่ค่อยตรงประเด็น ก็เลยหายกันไป 1 วันแล้วมาถามใหม่ ซึ่งเกิดเป็นบทสนทนานี้อะค่ะ ตอนนี้รู้แล้วว่าเราเองแหละที่ Pushy มากเกินไป...... สงสัยต้องทบทวนตัวเองใหม่แล้วก็เงียบๆไปสักพัก... แต่ยังแอบสงสัยว่าทำไมคำถามสุดท้ายเขาไม่ตอบ เห้อ....... จะยากอะไรแค่เยสกับโน จากคุณ : beer112 เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 15:21:12

ความคิดเห็นที่ 5 ดิชั้นถือคติ คบคนชาติ ภาษาเดียวกัน ยังไปไม่รอด ชายต่างชาติ  คนละภาษา สื่ออย่างได้ความหมายอย่าง ปวดหัว !!! . จากคุณ : สวยสะพรึง เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 15:21:16

ความคิดเห็นที่ 6 คำถามสุดท้ายที่ไม่ตอบ อันนี้ตอบโดยสมมติว่าเป็นตัวเองนะคะ ที่ไม่ตอบเพราะถ้าหากจะตอบตามอารมณ์ตอนนั้นคือ No แต่เพราะรู้ตัวว่ากำลังโกรธ เลยปิดไปดีกว่า ก่อนที่จะพูดอะไรที่อาจจะเสียใจทีหลัง เวลาเราทะเลาะกันกับสามีทางโทรศัพท์ (มันยังสามารถทะเลาะกันอีก ฮ่า ฮ่า) ถ้าหงุดหงิดมากแล้ว พูดต่อไปก็มีแต่จะแย่ลง เราก็จะตัดสายทิ้ง อารมณ์เย็นขึ้นค่อยมาคุยกันใหม่ ประมาณนี้น่ะค่ะ เพราะถ้าพูดตอนนั้น มีแต่จะฟาดฟันกันให้ย่อยยับไปตามอารมณ์ที่กำลังลุกเป็นไฟแน่ๆ แต่ถ้าคุณมีเหตุอันควรให้สงสัย คงต้องลองเงียบๆและรวบรวมหลักฐานและค่อยๆพินิจดูว่ามันเป็นอย่างที่เราสงสัยหรือเปล่า อย่าเพิ่งแหวกหญ้าให้งูตื่น คนโกหก ทำไปได้ไม่นานหรอกค่ะ มันจะหลุดออกมาให้จับได้เรื่อยๆ ลองแกล้งโง่ดูก่อน เค้าตายใจว่าเราอยู่ในกำมือแล้วจริงๆ ค่อยจับให้มั่นคั้นให้ตายค่ะ เอาใจช่วย ไม่ชอบพวกหลายใจเหมือนกัน จากคุณ : Le Cielo เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 15:28:32

ความคิดเห็นที่ 7 จขกท รู้สึกว่า แฟนคุณไม่ค่อยแคร์ตรงคำพูดเค้าดูห้วนๆ เหมือนถามมาตอบไป ถามกลับอะไรงี้หรือเปล่าคะ พอคุณไปถามแฟนว่า Are you okay with me now? แฟนจขกท.ก็คงงงแหละค่ะ ว่าไปทำอะไรเข้า คือเราก็เคยโดนคล้ายๆ แฟนคุณเหมือนกันค่ะ แต่ของเราเป็นเพื่อน เพื่อนเราเค้าถามเราเรื่องงานทีสิส เค้าถามมา เราก็ตอบไป ถามกลับบ้าง เค้าก็พิมพ์กลับมาว่า เราเหมือนไม่เต็มใจจะคุยกับเค้า มันเป็นข้อเสียของการคุยด้วยตัวอักษรด้วยมั้งคะ เราไม่ได้อะไรนะ ก็คุยปกติ เพราะตัวจริงเราก็ไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว แต่เพื่อนมันเอาคำพูดแล้วเติมน้ำเสียงแบบใส่อารมณ์ แล้วมันก็คิดมาก พาลหาว่าเราอารมร์เสียใส่มัน เราไม่อยากคุยกับมัน เราก็มึนสิคะ เราไปทำอะไรตอนไหน(วะ) ตอบก็ไม่ได้ตอบช้าอะไรเลย ก็ตอบปกติ เราเลยคิดว่า จขกท อาจจะคิดมากไปเหมือนเพื่อนเรา ปล. ที่แฟนคุณจขกท ไม่ตอบประโยคสุดท้าย เค้าอาจจะคิดว่าคุณกำลังร้อน(โกรธ) รอให้ จขกท ใจเย็นก่อนค่อยกลับมาคุยอะไรแบบนี้ก็ได้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 54 15:33:10 จากคุณ : ~mini_thirds เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 15:31:20

ความคิดเห็นที่ 8 คุณ ~mini_thirds ขอบคุณค่ะ ^^ ที่เราถามเขาว่า Are you okay with me now? เพราะเพิ่งทะเลาะกันไปสองวันที่แล้วอะค่ะ แล้วเราก็เงียบไป 1 วันเต็มไม่ได้คุยกัน พอเริ่มแชทกันก็เลยเปิดประเด็นถามเลยว่าตอนนี้ยูโอเคยัง... จากคุณ : beer112 เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 15:34:37

ความคิดเห็นที่ 9 If I were him I would feel the same way like he did... you know!! I don't know maybe you are a little bit too much :( Sometime we jus need some little spaces. So,be understood the man especially if they come form another culture. จากคุณ : gujame เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 15:45:20

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่เคยนึกว่า ผู้ชายฝรั่งจะแตกต่างกับผู้ชายไทยสักเท่าไร ล้วนมีดีมีเลวเหมือนกัน ดังนั้น แม้คุณจะคุยกับชายฝรั่ง คุณก็สามารถเอาความเป็นมนุษย์ปุถุชนอย่างชายไทยเข้าตัดสินได้ ไม่จำเป็นต้องเห็นว่า เป็นฝรั่งแล้ว จะต้องใช้มาตรฐานอะไรที่แตกต่างกัน บางทีก็นึกขันความ"แกล้งโง่"ของสาวบางคน ที่เพิ่งคบหาฝรั่ง (ไม่ได้หมายถึงกรณีกระทู้นี้) แล้วดันไปโดนฝรั่งขึ้หลีจุ๊บแก้มอย่างไม่ทันตั้งตัว แล้วแม่คุณเขาก็มาตั้งกระทู้ถามว่า ฝรั่งแอบจูบเป็นเรื่องปกติไหม อพิโธ่ อยากรู้จริงๆ ถ้าแม่คุณโดนชายไทยแอบจูบบ้าง หล่อนจะมาตั้งกระทู้ถามไหม หรือ ตบหน้าคนแอบจูบไปแล้วก็ไม่รู้ อิอิอิ เฮ้อ....ฝรั่งปกติมีมารยาทที่ไหนมันจะโชว์ความขี้หลีอย่างนี้ล่ะ สำหรับกรณีกระทู้นี้ ผมชื่นชมเจ้าของกระทู้เสียด้วยซ้ำว่า เป็นคนที่ straightforward and hit the point ! จะมัวแต่ชักช้า เหนียมอาย เดี๋ยวก็ตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว เพราะว่า แฟนคุณเขาไปๆมาๆ ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งให้คุณไปสืบดูความเป็นอยู่อย่างชัดเจน ใครจะไปรู้ว่า ฝรั่งนั้น มีเมียอยู่ที่ ตจว หรือ ตปท หรือไม่ การที่คุณสงสัยไว้ก่อน กลับจะเป็นการป้องกันตัวคุณเอง ไม่คิดว่าคุณเป็นคน pushy ถ้าเขาแคร์คุณจริงๆ เขาควรที่จะดีใจด้วยซ้ำที่คุณโทรหาเขา หลังจากคุณเงียบไป 1 วัน ดังนั้น ผมว่า ดูเหมือน เขาจะไม่แคร์คุณเท่าไร อย่างไรก็ตาม คุณไปจำเป็นให้เขาเป็นคน judge คุณนี่ครับ คุณก็ judge เขาได้ บอกตรงๆ ฝรั่งที่เล่นพวก facebook เนื้อหอมจะตายไป หญิงไทยแอดเข้าไปแชทกันเป็นว่าเล่น ไม่โดนฟันฟรีก็โชคดีไป จากคุณ : ใช้สติ เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 16:22:42 A:113.53.18.165 X: TicketID:168918

ความคิดเห็นที่ 11 ผมเป็นผู้ชาย เห็นคุณคุยกับ BF คุณแล้ว ดูเหมือนว่าคุณกำลังให้เค้ายืนยันในสิ่งที่เขายังไม่กล้ายืนยัน คิดว่าเค้าคงไม่มีคนที่ลองคบหาด้วยอยู่คนเดียว (อันนี้มั่นใจ) ฝรั่งต่างชาติทำงานเมืองไทย เนื้อหอมจะตายไป แต่คุณก็กำลังทำให้เค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ว่าจะเลือกใคร การที่จะชนะใจใครต้อง Give ก่อน และต้อง Give โดยไม่หวัง Take ด้วย แล้วคุณจะชนะ ผู้ชายชนะใจได้ไม่ยากถ้าคุณมีคุณค่าพอ จากคุณ : Peet Reloaded เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 16:40:29

ความคิดเห็นที่ 12 เป็นกำลังใจให้นะคะ เราคิดคล้ายๆ คุณใช้สติค่ะ และก็เห็นว่าฝรั่งก็มีทั้งดี และไม่ดีค่ะ จะยังไง เราว่าคุณรู้อยู่แล้วละค่ะ เพราะคุณคบกัน คนคบกันมันจะมี sign อะไรๆ มาเองอ่ะค่ะ  เราก็บอกไม่ได้ แต่ส่วนตัวเรา ไม่ค่อยคบต่างชาติเป็นแฟน เพราะเรารู้สึกว่าบางอย่างมันสื่อกันไม่ได้จริงๆ อาจเป็นเพราะวัฒนธรรม แต่ยืนยันค่ะ ว่าต่างชาติขี้หลี มือไว มีเยอะค่ะ จากคุณ : จั๊กกะจุ่น เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 16:46:58

ความคิดเห็นที่ 13 ภาษาคุณอ่อนเกินไป ทำให้ไม่สามารถเปิดบทสนทนาฯ ในระดับที่เค้าจะเพิ่มระดับความสำคัญของคุณให้มากขึ้น .... ทำให้เค้าพูดอะไรโดยไม่เกรงใจคุณด้วย .... และเค้าก็ไม่เห็นคุณค่าของความเอาใจใส่/สนใจของคุณที่มีต่อเค้าด้วย .... สรุป .... ให้ถือว่าคุยกับเค้าเพื่อพัฒนาระดับการใช้ภาษาอังกฤษของตัวเองละกัน .... ไม่ใช่เพื่อหวังจะมัดตัวเค้า ลองคุยอะไรลึกๆ ขึ้นสิ .... หรือเปิดหัวข้อบทสนทนาที่เค้าอาจจะอยากศึกษาลึกๆ ขึ้นครับ .... คุณมี advantage ที่เป็นคนในพื้นที่ .... จะได้ทดสอบว่าเค้าจะเห็นค่าในตัวคุณมากขึ้นหรือไม่? (ในฐานะ Informant) แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 54 16:49:47 จากคุณ : iamdanai เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 16:49:02

ความคิดเห็นที่ 14 พอดีมาสะดุดกับคำพูดนี่ของฝรั่ง "U asked questions I dislike" ...... ฝรั่งนี่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่หนิ? จากคุณ : iamdanai เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 16:52:42

ความคิดเห็นที่ 15 #14 บทสนทนาทั้งหมดเราพิมพ์เอาอ่ะค่ะ พิมพ์ลวกๆ มองๆตรงไอโฟนที่แชทไว้แล้วมาพิมพ์ หลายๆคำตกหล่นไปเยอะ และส่วนนายคนนี้ที่คบอยู่ เป็น Black American อะค่ะ แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 54 16:58:27 จากคุณ : beer112 เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 16:57:43

ความคิดเห็นที่ 16 dislike ก็แปลว่า ไม่ชอบนี่คะ ผิดตรงไหนเหรอ จากคุณ : Le Cielo เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 17:02:26

ความคิดเห็นที่ 17 ที่คุณ iamdanai พูดใน #13 กับ #14 ว่าภาษาอังกฤษของ จขกท "อ่อนเกินไป" น่ะ เราว่าจริงๆแล้วภาษาอังกฤษของ จขกท อยู่ในขั้นที่กำลังเริ่มพัฒนาไปเรื่อยๆนะ ถึงมีเขียนผิดอยู่บ้าง แต่ถ้าฝึกต่อไปอยู่เรื่อยๆ ก็จะเก่งขึ้นได้ แต่ในขณะที่คุณไปว่าคนอื่นเขาว่า "อ่อนเกินไป" น่ะ คุณลองทบทวนข้อความนี้ที่คุณท้วงติงดูดีๆว่า "พอดีมาสะดุดกับคำพูดนี่ของฝรั่ง "U asked questions I dislike" ...... ฝรั่งนี่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่หนิ?" ^ เราคิดว่ามันถูกธรรมชาติดีนี่นา   คุณ iamdanai คงยังไม่เคยเห็นรูปประโยคภาษาอังกฤษมามาก พอเห็นอะไรแปลกๆหน่อยก็เลยคิดว่ามันผิด แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 54 17:31:14 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 17:30:21

ความคิดเห็นที่ 18 ความจริงที่ จขกท ควรจะรู้ ผู้ชายทุกชาติโดยส่วนใหญ่แล้วเป็นเพศที่ไม่ซื่อสัตย์ มักมาก อยากได้ผู้หญิงหลายๆคน สมัยเราอยู่ต่างแดนเราค้นพบว่าฝรั่งทั้งหญิงชายเวลาเป็นแฟนกันส่วนใหญ่มักจะนอกใจกันและกันซึ่งเป็นเรื่องปกติมากๆ แต่ข้อดีก็คือสมัยเรามีแฟนเป็นผู้หญิงฝรั่งมาหลายราย เราไม่เคยเจอผู้หญิงฝรั่งรายไหนมาซักไซร้ไล่เรียงเราเรื่องส่วนตัวว่า "ไปไหนมา ไปเจอใครมา คิดจะมีหญิงอื่นหรือเปล่า บอกมานะว่ารักเดียวใจเดียวหรือเปล่า" พอกลับมาเมืองไทยเรามีแฟนผู้หญิงไทย 2 คนที่จะซักถามกดดันเรามากกว่า จขกท หลายเท่าคือทุกวันจะถามเราว่า "ไปไหนมา ไปเจอใครมา คิดจะมีหญิงอื่นหรือเปล่า บอกมานะว่ารักเดียวใจเดียวหรือเปล่า" บางทีจะทำรุนแรงถึงขั้นแอบเปิดสมุดจดที่อยู่เบอร์โทรศัพท์ (สมัยนั้นไม่ได้จดบนคอมพิวเตอร์) แอบดูหมายเลขโทรเข้าออกบนมือถือเรา แล้วสอบสวนเราเพื่อเค้นเอาความจริงว่าเบอร์นั้นเบอร์นี้เป็นของใคร มันทำให้เราเครียดมากๆจนต้องทะเลาะกันทุกวันแล้วเลิกรากันไปเลย คือมีมาที่ละคน แล้วเลิกรากันไปทั้ง 2 คนด้วยเหตุผลอันเดียวกัน จากนั้นเราเข็ดขยาดเรื่องผู้หญิงไทย เลยกำลังเตรียมตัวจะหาแฟนใหม่เป็นผู้หญิงฝรั่งอีกรอบหนึ่งแล้วทำใจว่าถ้าเธอนอกใจเรา เราว่ายังดีกว่ามีแฟนขี้หึงแล้วทำตัวเป็นสารวัตรสืบสวนจนเราต้องเครียด แต่เผอิญเราไปเจอผู้หญิงไทยอีกรายซะก่อนพอคบเป็นแฟนกันเธอรู้ประวัติว่าเราเลิกกับแฟนเก่าคนไทย 2 คนมาเพราะอะไร เธอเลย "ขู่" เราว่า "รู้ไหมว่าฉันหึงรุนแรงกว่าแฟนเก่า 2 คนที่แล้วของเธอตั้งหลายเท่า!" ^ เราก็ชักใจไม่ค่อยจะดีแต่ก็ทำใจดีสู้เสือแฮะ คบๆกันไป เราเริ่มรู้สึกว่ามันเป็นความสัมพันธ์ที่กลั่นกรองมาจากความบริสุทธ์ใจจริงๆ เธอดีกับเรามากๆคอยรักและห่วงใยเราตลอดเวลาไม่ว่าเราจะยากดีมีจนอย่างไรเธอก็ไม่เคยทอดทิ้งเรา เราเห็นความดีของเธอแล้วเราคิดว่าเราไม่กล้านอกใจเธออะนะ เราคิดว่าการที่ผู้หญิงคอยไปหวาดระแวงว่าผู้ชายจะมีหญิงอื่นแล้วไปคอยกดดันผู้ชายอยู่เรื่อยๆมันไม่ได้ช่วยอะไรเลยแม้แต่สักนิดเดียว เพราะอะไร? กลับไปอ่านบรรทัดที่ 2 ข้างบนใหม่อีกรอบหนึ่ง มันคือ "ผู้ชายทุกชาติโดยส่วนใหญ่แล้วเป็นเพศที่ไม่ซื่อสัตย์ มักมาก อยากได้ผู้หญิงหลายๆคน" ^ แต่ถ้าผู้ชายเขาเห็นความดีของผู้หญิง เขาจะไม่กล้าทำให้ผู้หญิงต้องเสียใจและผิดหวัง ทั้งนี้คุณต้องศึกษาความสัมพันธ์ให้ดีๆด้วยว่ามันเป็นความเข้าใจกันเห็นอกเห็นใจกันอย่างแท้จริงหรือมันเป็นความนิยมชมชอบที่มีวัตถุเข้ามาเกี่ยวข้อง ยกตัวอย่างเช่นถ้าเราเป็นผู้ชายที่มีเงินมีทองมากมายแล้วเราเห็นผู้หญิงมานิยมชมชอบเรา แล้วถ้าเราฉลาดพอเราก็จะอ่านเกมออกว่าถ้าเราไม่มีเงินมีทองผู้หญิงคนนี้ก็คงไม่เข้ามาใกล้ๆเรา ถ้าเจอแบบนี้เข้าเราก็คงไม่ให้ความสำคัญกับเธอ หรือถ้าเราเป็นฝรั่งแล้วมีผู้หญิงไทยมาชอบแค่เพราะเราเป็นฝรั่ง เพราะเธออยากไปแสวงหาโอกาสในต่างแดน ถ้าเราฉลาดพอ เราก็คงไม่ให้ความสำคัญกับเธอมากนักหรอก เราก็จะเล่นเกมไปวันๆ แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 54 18:09:43 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 18:03:58

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นด้วยกับความเห็นที่ 17 ของคุณ fortuneteller ค่ะ ภาษาอังกฤษของเจ้าของกระทู้ไม่ได้แย่เลย ถือว่าพื้นฐานดี พร้อมที่จะพัฒนาต่อไป ส่วนของคุณ iamdanai เราว่ายังไม่ดีเท่าไหร่ เพราะกับประโยคนี้ "U asked questions I dislike" อย่างที่เราถามไปข้างบนแหละว่า มันผิดตรงไหน??? จากคุณ : Le Cielo เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 18:10:55

ความคิดเห็นที่ 20 3D Tattoo เป็นยังไงก็ไม่รู้ อยากเห็นมั่งจัง จากคุณ : a friend เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 19:26:12

ความคิดเห็นที่ 21 ในมุมกลับกัน หากเขาตอบมาดี เอาใจเรา ก็ยังไม่ได้หมายถึงสิ่งนั้นจริง ฝรั่งคนนี้ อาจจะดีตรงที่ตอบตรง  ไม่หลอกเรา นะค่ะ ดูหลายๆเรื่องประกอบกันแล้วกัน ไม่มีใครที่ดี เพอเฟค    บางคนก็ยังมีความสุข บนความหลอกลวง หรือ รู้ว่าเขาหลอก แต่ก็ชอบเขา  ทำไงได้   แต่เท่าทีอ่าน จขกท ก็ไม่ต้องถามที่จะให้เขาตอบ เยส ตอบโน หรอกค่ะ บางทีมันก็มีวิธีอื่น หรือ ถามแบบอื่น ให้ชุ่มชื้นหัวใจกันดีกว่า จากคุณ : ภูเก็ต-ป่าตอง เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 19:44:04

ความคิดเห็นที่ 22 ดูจขกท.บุกมากไปป่าว คุณเรียกเค้าในฐานะ bf แล้วเค้าล่ะรู้สึกกับคุณในฐานะอะไร ผู้ชายคนนี้ดูเข้าถึงยาก ขี้โมโห หงุดหงิดง่าย ส่วนคุณก็ดูจะถามคำถามย้ำมากไปหน่อยเค้าเลยรู้สึกอึดอัด เท่าที่อ่านดูบทสนทนาและคาดเดาดูก็คงประมาณว่าเค้่ยังไม่จริงจังอะไรกะคุณมากนัก ถ้าไม่เป็นการรบกวนอยากถามว่าเคย FaceTime กันบ้างรึยัง เค้าเคยเห็นหน้าคุณและคุณเคยเห็นหน้าเค้าจริงๆ แบบ movement รึเปล่ากลัวจะเห็นแค่ภาพแล้วคุยกันอย่างเดียง สุดท้ายขอให้ good luck belongs to u แล้วกันนะจ๊ะ จากคุณ : Nobitalover เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 19:51:54

ความคิดเห็นที่ 23 อ่านที่คุณคุยกับแฟนฝรั่งแล้วคิดว่าเขาไม่ได้แคร์อะไรคุณหรอก ไม่จริงใจ แล้วก็ไม่คิดจะคบกับคุณระยะยาว เลิกกันได้ก็ดีครับ จากคุณ : นายชัย เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 20:41:29

ความคิดเห็นที่ 24 กำลังจะถามว่าในขณะที่คุณมองว่าเขาเป็นแฟน แล้วเขาคิดว่าคุณอยู่ในฐานะอะไรกับเขา มาเห็น คห. 22 ถามอย่างที่คิดเสียก่อน เริ่มแรกเลยก่อนจะมานั่งวิตกทุกข์ร้อนให้ไกลไปถึงไหนๆ นะคะ ลองพิจารณาดูก่อนดีไหมคะว่าเขาคิดว่าคุณเป็น girlfriend ของเขาหรือเปล่า บางทีคนต่างเชื้อชาติกันอาจมองระดับความสัมพันธ์ลักษณะนี้ไม่เหมือนกันค่ะ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องของผู้หญิงผู้ชายที่มองการเป็นแฟนกันว่าหมายถึงอะไรแค่ไหนเลยด้วยซ้ำ คุณอาจมองว่าการรู้จักกัน คุยกัน แสดงว่าเป็นแฟนกันแล้ว พอคิดว่าเป็นแฟนกันก็มีความรู้สึกว่าคุณเข้าไปใน space ของเขาได้มากกว่าธรรมดา จะถามเรื่องส่วนตัวในลักษณะไหนกับเขาก็ได้ แต่ในเวลาเดียวกันเขาอาจมองว่าคุณเป็นเพียง casual friend ที่คุยๆ กัน ดูๆ กันเผื่อมีทางเป็นไปได้เช่นเดียวกับผู้หญิงอีกหลายๆ คนที่เขารู้จักก็ได้ค่ะ คิดว่าถ้าคุณเข้าใจว่าเขาจัดระดับความสัมพันธ์ระหว่างกันไว้แค่ไหน บางทีคุณอาจไม่ต้องมาวิตกทุกข์ร้อนว่าเขากำลังมีใครอื่นหรือเปล่าก็ได้ค่ะ เพราะบอกตรงๆ นะคะ อ่านจากคำตอบของเขา (โดยไม่รู้จักตัวเขาและที่สำคัญไม่รู้ความสัมพันธ์ที่คุณและเขามีต่อกันอยู่ในระดับไหน) ไม่เห็นว่าเขามีความรู้สึกลึกซึ้งกับคุณสักเท่าไหร่เลยค่ะ คือปกติคนรักกันถึงขั้นเป็นแฟนกันแล้ว จะแคร์ความรู้สึกของกันและกันมากกว่านี้ และถ้าเป็นความสัมพันธ์ระดับนั้นคุณมีสิทธิถามว่าเขามีคนอื่นหรือเปล่าค่ะ เรื่องนี้บอกได้จากประสบการณ์นาน น้าน นาน มาแล้วของตัวเองนะคะ ของตัวเองตอนนั้นเป็นความสัมพันธ์คล้ายๆ คุณเจ้าของกระทู้เหมือนกันค่ะ คือแม้จะอยู่ประเทศเดียวกันแต่ก็อยู่กันคนละรัฐ ตัวเองเรียนหนังสืออยู่รัฐหนึ่ง ทำงานด้วย เขาก็ทำงานอยู่อีกรัฐ แต่ตลอดเวลา 4 ปีที่คบกันเขาไม่เคยทำอะไรให้คิดว่าอาจมีคนอื่นเลย แถมแคร์ด้วยว่าเราอาจมีวันสงสัยได้ เขาเองจะเป็นคนอธิบายตลอดถ้าเกิดกรณีน่าสงสัยขึ้นมา นี่ว่ากันในแง่ของคนอเมริกันนะคะ คืออย่างน้อยก็เป็นคนชาติเดียวกันกับคนที่คุณเจ้าของกระทู้พูดถึง คงมีอะไรหลายอย่างคล้ายกันก็ได้ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 20:47:20

ความคิดเห็นที่ 25 เห็นด้วยมากๆกับ คคห 23 ของ Kนายชัย กับ 24 ของ คุณ กุลธิดา (kdunagin) จากถ้อยคำที่ผู้ชายคุยมานะ เราว่าเขาไม่ได้คิดแม้แต่นิดเลยว่า จขกท เป็นแฟนของเขานะ คิดแค่ว่าเป็นเพื่อนที่รู้จักกันในทำนองแบบ "รู้จักไว้เผื่อเลือก(แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ จขกท มากเท่าไหร่)" ก็เท่านั้นเอง คนไทยหลายๆคนให้นิยามของคำว่า boyfriend กับ girlfriend ไม่เหมือนฝรั่งนะ ฝรั่งจะเรียกอีกฝ่ายหนึ่งว่า boyfriend หรือ girlfriend ได้ เกือบร้อยทั้งร้อยก็ต้องเข้าขั้นเคยมีเพศสัมพันธ์กันมาแล้ว ดังนั้นถ้าผู้ชายเขาไม่ได้คิดอะไรกับ จขกท แล้ว จขกท ไปซักถามเรื่องส่วนตัวเขามากๆ เขาก็จะไม่พอใจเอาได้ ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ต้องสงสัยอะไรไปให้มาก ในบริษัทที่แฟนเราทำงานก็มีสาวไทยคนหนึ่งเคยเห็นฝรั่งแค่ครั้งเดียวตอนที่ฝรั่งคนนั้นบินมาเมืองไทยเพื่อช่วยทำงานในบริษัท พอฝรั่งกลับไปประเทศเขาแล้วสาวไทยคนนั้นก็ติดต่อกับฝรั่งโดยการ chat มาตลอด "โดยที่สาวไทยรุกหนักเพราะเข้าใจผิดคิดว่าการที่หนุ่มฝรั่งคุยด้วยแปลว่าเขารักเธอ" ในขณะที่ฝรั่งยังไม่เข้าใจด้วยซ้ำไปว่ามันเรื่องอะไรกัน สาวไทยคนนั้นก็พยายามให้แฟนเราช่วยแปลข้อความที่ chat กันให้ แฟนเราก็ปวดหัวที่ต้องแปลข้อความแบบสาวจีบหนุ่มเพราะรู้ดี (จากการเข้าใจภาษาอังกฤษมากกว่า) ว่าฝรั่งไม่ได้สนใจสาวไทยคนนั้นเลย แปลๆไปชักจะเซ็ง ก็เลยแนะนำให้สาวไทยคนนั้นไปเรียนภาษาอังกฤษจะได้คุยกันเองรู้เรื่อง สาวไทยคนนั้นตอนนี้เลยลงทุนไปเรียนภาษาอังกฤษที่ Wallstreet อยู่พักใหญ่ๆแล้วหละ แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 54 21:27:41 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 21:24:04

ความคิดเห็นที่ 26 เท่าที่อ่าน แฟน จขกท.ก็คงรำคาญคุณเหมือนกันที่เซ้าซี้ถามเรื่องเขามีหญิงอื่นรึป่าวอยู่นั่นล่ะ แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมตอบตรงๆ ว่าเขาไม่มี  คบคุณคนเดียว ซึ่งทำให้น่าสงสัยว่าอาจคบคนอื่นอีกด้วย เขาอาจไม่อยากพูดโกหก แต่ก็ไม่อยากตอบตรงๆ แล้วดูเขาไม่ค่อยมีอารมณ์อยากคุยกับคุณเลย ถามคำตอบคำ เป็นแฟนประสาอะไร แถมขยันมาก ลุกมาทำความสะอาดห้องตอนแปดโมงเช้า แล้วบ่นว่า จขกท.โทรมาเช้าเกินไป ไม่ได้โทรมาปลุกตอนนอนอยู่สักหน่อย จะเป็นไรไป คิดในแง่ร้าย ตอนที่คุณโทรไป เขาอาจกำลังอยู่กับคนอื่นที่นั่น เลยไม่อยากให้คุณไปหาเขา และไม่ค่อยอยากรับโทรศัพท์คุณ เขาอาจมีหญิงอื่นมาค้างด้วย จากคุณ : tormay เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 21:34:00

ความคิดเห็นที่ 27 เป็นเรา คงออฟไลน์ไปตั้งแต่คุยกันไม่ถึงครึ่งทาง กดดันเกินค่ะ จากคุณ : papa mama love u เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 23:12:17

ความคิดเห็นที่ 28 คคห 13 เราแอบสงสัยว่าคนที่ภาษาระดับสูงนี่เค้าคุยกันเรื่องอะไร ไม่ได้สื่อสารตามความต้องการหรอกหรือ จากที่อ่านมา  คจขกท ดูเซ้าซี้ไปค่ะ คนที่เราคบมา 5 ปี ไม่เคยถามเรื่องแบบนี้เลย แต่เราก็มั่นใจว่าเขาไม่ได้ไปมีใคร เวลาทะเลาะกันจะเป็นเพราะคิดไม่ตรง ต่างกันที่เราอยากอยู่เฉยๆ ไม่อยากคุย แต่เขาจะต้องการเคลียร์ทันที จากบทสนทนา สังเกตุนะคะ คุณมักเป็นฝ่ายถามเขาก่อน แล้วเขาก็ตอบแบบไปเรื่อยๆ ถ้ามีใครโทรหาเราในตอนเช้าๆ เราก็หงุดหงิดนะคะ คุณเจ้าของกระทู้ดูดีๆนะคะ เราเข้าใจความรู้สึกผู้หญิงว่ามันละเอียดอ่อนและคิดเยอะ รวมทั้งมีสัญชาตญาณ ฝรั่งที่อยู่ในเมืองไทยเจ้าชู้นะคร้า จากคุณ : YoleCk_TammY เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 00:01:06

ความคิดเห็นที่ 29 อาจจะเป็นเพราะว่าเพิ่งทะเลาะกันไปมั้งค่ะ พอกลับมาคุยกัน ตอนแรก แรก ก็ดูเหมือนจะคุยดีดีอยู่นะค แต่พอเจ้าของกระทู้เริ่ม ฟื้นฝอย กับคำถามเดิม ๆ ที่เคยทำให้ทะเลาะกัน ก็เลยดูเหมือนคุยกันด้วยอารมณ์มากกว่าเหตุผล การคบกันแบบนี้ต้องใช้เวลานานนานคะ คุยกันไปเรียนรู้กันไปเรื่อยเรื่อย การคาดคั้นบางทีก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่กลับจะทำให้เขารู้สึกรำคาญ ที่ต้องมานั่งตอบคำถามเดิมเดิม ซ้ำ ซ้ำก็ได้นะคะ  ก็เข้าใจว่า เราก็อยากให้เขา พูดว่าเขาคบเราเป็นแฟนเพียงคนเดียว รักเรา แคร์เรา แต่ตัวเขาเองก็อาจจะมีเหตุผล บางประการที่ยังพูดไม่ได้ ความจริงเขาก็อาจจะมีคนอื่น ๆ ที่คุยๆ อยู่เช่นกัน และอาจจะเกิดการเปรียบเทียบ การที่เราจู้จี้เกินไปก็อาจจะเป็นเหตุผลทำให้เขาเอนเอียงไปหาอีกคนที่ไม่เคยมีปัญหากับเขาเลย มีหลายเหตุผลค่ะ คุณสองคน เท่านั้นที่จะตัดสินได้ดีที่สุด รู้ดีที่สุดว่าอะไรเป็นยังไง เพราะพวกเราได้อ่านก็แค่ตอนหนึ่งของบทสนทนาเท่า ไม่ทราบที่มาที่ไป ก็คิดดีๆ คุยกันนานๆ แล้วกันนะคะ ถ้ารู้ว่าจู้จี้แล้วเขาไม่ชอบ ก็ลองเปลี่ยนดูค่ะ เอาใจช่วยแล้วกันนะคะ จากคุณ : แม่บ้าน Uk เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 05:22:11

ความคิดเห็นที่ 30 Strange ...... lots of people were bothered by my criticism, while ignoring the disturbing kiss-up of the poor shunned girl whom literary thrown herself at the mercy of the cold shouldered foreigner BF. แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 54 09:50:17 จากคุณ : iamdanai เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 09:47:37

ความคิดเห็นที่ 31 เป็นกระทู้ที่คนเข้ามาตอบเยอะมากสำหรับห้องสมุด~ จากคุณ : HaroldSizzler เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 10:52:12

ความคิดเห็นที่ 32 เรื่องผัวๆเมียๆ เราไม่ยุ่ง เจ็บตัวมาเยอะ อีตอนเขาทะเลาะกันก็มาปรึกษาเรา พอเขาดีกัน เราเป็นหมาหัวเน่าเฉยเลย ฮ่วย จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 11:07:52

ความคิดเห็นที่ 33 ขอโทษนะ เราว่าคุณน่ารำคาญ และคิดมากไปด้วยอะ จากคุณ : PaBo เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 12:53:17

ความคิดเห็นที่ 34 ^ 5555 ฮาคุณแอ๊ดมาก จริงๆ เราว่าคุณจะเลือกถามผิดที่ผิดเวลามากกว่า เพราะเพิ่งทะเลาะกันด้วย ลองคุยกันใหม่ตอนเค้ากลับมากรุงเทพฯ ดีกว่า จริงๆเราว่าเรื่องแบบนี้ไม่ควรถามนะ เราก็คบกับแฟนมา 3 ปีกว่า ไม่เคยถามเลย  ทั้งๆเราระแวง ขี้หึงสุดยอด ช่วงคบกันแรกๆ เราแอบดูเมลล์ แอบดูโทรศัพท์สารพัด (กรุณาอย่าลอกเลียนแบบ) คือจากที่เราแอบดู มันก็เจอนะ เราก็นิ่งๆ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะเราก็คิดว่าถ้าเราทำดีที่สุดแล้ว เค้ายังอยากจะไป ก็ปล่อยเค้าไป ช่วงหลัง 3-4 เดือนแรก ก็ไม่เจออะไรแล้ว แล้วก็เลิกบ้าด้วย เพราะบ้าไปก็ปวดหัว แถมคิดว่าถ้าเค้ามารุกล้ำ privacy เรา เราก็คงไม่พอใจเหมือนกัน ทำดีที่สุดต่อไปดีกว่า หลังจากนั้นไม่นานเราก็หมั้นกัน ตอนนี้เรามีความสุขมากๆ แฟนก็รักเรามากๆ สปอยล์เราจนเสียคน เราซะอีกกลับไม่ค่อยสนใจเค้า ฮ่าๆ เราว่าสิ่งที่พลาดไปแล้วก็ปล่อยไป ลองกลับมาคุยกันใหม่ เราไม่ทราบว่าความสัมพันธ์ของคุณกับเค้าเป็นแบบไหน เลยไม่สามารถตัดสินได้ว่า จะคบต่อ หรือเลิกดีกว่า (แต่จากที่อ่านบทสนทนา ดูเหมือนเค้าไม่ค่อยแคร์นะ -*-) แต่ถ้าจะคบกับผู้ชายคนนี้ต่อ ลองเลิกหรือลดนิสัยจู้จี้ลงนิดนึง ทุกอย่างน่าจะไปในทางที่ดีขึ้นค่ะ แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 54 14:06:42 จากคุณ : โคอาล่าบ้องแบ๊ว เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 13:14:13

ความคิดเห็นที่ 35 ถ้าคู่กรณีเป็นคนไทย ... ไม่ใช่ฝรั่งเมกันผิวดำเนื้อหอมคนนี้ ... คง attitude เดิมไว้ ... สงสัยว่าเพื่อนๆ จะ tolerate กันขนาดนี้เหมือนเดิมรึเปล่า? จากคุณ : iamdanai เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 14:02:12

ความคิดเห็นที่ 36 เราว่าคุณถามคำถามจี้เค้ามากไปนะ บางคำถามก็ฟังดูขอโทษนะคะ.....งี่เง่า ถ้าเราเป็นผู้ชายเราก็อารมณ์เสียนะอยู่ๆก็ขุดคำถามเก่าๆ มาซักฟอกเค้า ลองเงียบกันไป 2-3 วันก่อนดีมั็๊๊ย เราว่าไม่ว่าชาติไหนหรือผิวสีอะไรล้วนไม่ชอบคนจู้จี้ ยังไงก็ลองดูไปยาวๆนะคะ เพราะยังไงซะเรื่องนี้อยู่ที่คนสองคนจริงๆ จากประสบการณ์ที่มีแฟนเป็นผิวดำทั้งอังกฤษและอเมริกันนะคะ เค้านิสัยต่างจากฝรั่งผิวขาวค่อนข้างมาก มัน tough กว่าเยอะในการจะประคองความสัมพันธ์ สำหรับเราคนดำจริงใจ รักแรง พูดตรง ชอบเหวี่ยงและวีน รำคาญบอกรำคาญ ยุ่งไม่สามารถคุยด้วยได้ก็จะบอกเลยว่าไม่คุย ถ้าเซ้าซี้โทรจิกๆหรือบีบีจิกจะโดนตอกกลับประมาณว่า "Stop calling me it's starting to piss me off."  หรือไม่ก็ "I told you I'm busy,can't talk right now why don't you understand?"  "Leave me alone." โดนมาเยอะค่ะ แรกๆอึ้งและโกรธนะว่าทำไมพูดห้วน พูดเหมือนไม่แคร์ตรูเลยฟะ ตอนนี้คบกัน 2 ปีแล้วก็เข้าใจ, ชินและยอมรับนิสัยกันได้  ยังไงก็โชคดีนะคะ จากคุณ : Kwasi to be (++Posh 'n' Snotty++) เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 16:34:53

ความคิดเห็นที่ 37 ตอนแรกๆ ก็ดูเหมือนจะเป็นการกวนเค้าเพราะโทรเช้าเกินไป ..... แต่มาติดตรงนี้สิ   'No, Don't come'   .... เป็นการปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อไยเลย .... สงสัยเรื่องของโทนเสียงของฝรั่งนี่ด้วยซ้ำ ณ ตอนนั้น จากคุณ : iamdanai เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 17:10:45

ความคิดเห็นที่ 38 Forced love does not last. จากคุณ : ร่วมด้วยช่วยกัน เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 17:14:19 A:115.87.193.32 X: TicketID:255444