ความคิดเห็นที่ 1 ได้ยินว่าประดิษฐานอยู่ในพระโกศครับ จากคุณ : arawadee เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 18:09:15

ความคิดเห็นที่ 2 ผมคิดว่าพระองค์ท่านทรงเป็นพระราชธิดาของกษัตริย์ ทรงอิสริยยศสูงส่ง เลยต้องถวายพระโกศทรงพระศพตามราชประเพณี... จากคุณ : peeradol33189 เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 18:24:19

ความคิดเห็นที่ 3 ได้ยินเหมือนกัน เห็นผู้ประกาศข่าวพูดว่าจะนำลงพระโกศด้วย น่าจะกระทำหลังจากในหลวงกับสมเด็จฯเสด็จฯกลับแล้วครับ แก้คำผิด แก้ไขเมื่อ 29 ก.ค. 54 17:56:16 จากคุณ : อุปรากรจีน เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 18:29:31

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าเชิญลงพระโกศ ก็เชิญลงตอนประทับอยู่แหละครับ แต่เสด็จฯออกมานอกพระฉาก แล้วเชิญพระโกศพระศพมาประกับพระลองทองใหญ่(รัชกาลที่5)ประดิษฐานบนพระแท่นสุวรรณเบญจดลแล้วจึงบำเพ็ญพระราชกุศลพระราชทานพระศพครับ แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 54 18:32:22 จากคุณ : Jayskung เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 18:31:54

ความคิดเห็นที่ 5 พระศพของสมเด็จพระเจ้าภคิณีเธอฯ ตามโบราณราชประเพณีก็น่าจะลงพระโกศเหมือนสมัยก่อน แต่ในกรณีสมเด็จย่าและสมเด็จพระพี่นางน่าจะเป็นพระราชประสงค์ขององค์ผู้ล่วงลับและพระราชวินิจฉัยส่วนพระองค์ของในหลวงครับ จากคุณ : อึนบี เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 19:27:44

ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อตอนกลางวันดูข่าว เห็นเจ้าพนักงานกำลังตกแต่งพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท มุขทางตะวันตกนั้น ก็เห็นตั้งพระโกศทองใหญ่เหนือพระแท่นแว่นฟ้าตอนนั้นเข้าใจว่าคงอัญเชิญพระศพลงหีบเหมือนครั้งก่อน แต่พอดูโทรทัศน์ช่วงถ่ายทอดสด ผู้ประกาศบรรยายว่า อัญเชิญพระศพลงพระโกศ เลยงงเหมือนกันครับ รอท่านผู้รู้มาอธิบายดีกว่านะครับ แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 54 19:34:50 จากคุณ : ดุริยางคศิลปิน เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 19:34:30

ความคิดเห็นที่ 7 บรรจุพระโกศตามพระราชประเพณีครับ ขอแก้ตามคุณ UP ครับ ว่าถวายสุกำพระศพ หลังจากสรงน้ำพระศพเลย มิได้ทำตอนกลางคืนครับ แก้ไขเมื่อ 30 ก.ค. 54 04:16:09 จากคุณ : natthaset เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 19:38:14

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าเช่นนั้นช่วงที่บำเพ็ญพระราชกุศลพระราชทานคงลาดพระภูษาโยงต่อมาจากพระศพด้วยใช่ไหมครับคุณณัฐ จากคุณ : Jayskung เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 19:43:56

ความคิดเห็นที่ 9 ว่ากำลังถามพอดีเลยค่ะ สงสัย เพราะนักข่าวพูดมาแบบนั้น จากคุณ : นางพญามารเมฆไฟ เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 20:06:33

ความคิดเห็นที่ 10 เอ่อ...ผมอยากเข้าใจครับ คือไม่ถ่องแท้ในราชาศัพท์เลย วานช่วยใส่คำแปลหลังคำหน่อยพอจะได้ไหมครับ จากคุณ : Elizarah เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 20:23:24

ความคิดเห็นที่ 11 ผมไปอ่านเจอมาครับ เมื่อสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 เสด็จสวรรคต การทำพระสุกำพระบรมศพเป็นไปอย่างทุลักทุเลเนื่องด้วยทรงมีพระวรกายอ้วนท้วนมาก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทอดพระเนตรเห็นจึงตรัสไว้ล่วงหน้าว่า "อย่าเอาฉันมาทำอย่างนี้นะ ฉันอึดอัดแย่" หลังจากที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เสด็จสวรรคตลง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงมีพระราชโองการให้ต่อหีบพระบรมศพเพื่อใช้ประดิษฐานพระบรมศพแทนพระโกศ พระเพณีการชั้นพระโกศจึงจบลงที่สมเด็จพระนางรำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 และในคราวสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ สิ้นพระชนม์ลง ก็ทรงให้ต่อหีบพระศพแทนการใช้พระโกศด้วยเช่นกัน ต่อมาเมื่อสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี สิ้นพระชนม์ลง พระศพถูกบรรจุในพระโกศ จึงเป็นการเริ่มใช้พระโกศบรรจุพระศพใหม่อีกครั้ง จากคุณ : Medhawint_CPSK เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 21:34:42

ความคิดเห็นที่ 12 ทั้งหมดก็น่าจะสุดแล้วแต่พระบรมราชวินิจฉัยครับ.... จากคุณ : Jayskung เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 21:51:47

ความคิดเห็นที่ 13 น่าจะเพื่อให้สมพระเกียรติพระราชธิดาของกษัตริย์นะครับ จากคุณ : HaroldSizzler เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 22:01:25

ความคิดเห็นที่ 14 ได้ยินจากข่าวในพระราชสำนัก เหมือนกันค่ะ จากคุณ : เจ้าหญิงโบราณล้านปี เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 22:07:38

ความคิดเห็นที่ 15 อาจจะเป็นเพราะ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเฉลิมพระเกียรติยศ สมเด็จเจ้าฟ้าในพระโกศ ด้วยเป็น พระราชธิดาในพระมหากษัตริย์ ทั้งเป็นพระกุลเชษฐ์แห่งพระราชวงศ์ ซึ่ง ตลอดพระชนม์ชีพ ทรงดำเนินอยู่ในกรอบโบราณพระราชประเพณี การประดิษฐานพระศพในพระโกศน่าจะครบถ้วน ตามโบราณราชประเพณี สมพระราชปณิธาน ของสมเด็จเจ้าฟ้า พระองค์นั้น จากคุณ : หนุ่มชาวบ้าน เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 22:41:38

ความคิดเห็นที่ 16 ตามข่าวจากหนังสือพิมพ์ ...พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับหม้อน้ำพระสุคนธ์และโถน้ำขมิ้นจากเจ้าพนักงานสนมพลเรือน ถวายสรงที่ตรงพระอุระพระศพ จากนั้นทรงหวีพระเกศาขึ้นครั้งหนึ่ง แล้วหวีลงอีกครั้งหนึ่ง แล้วหักพระสางวางไว้ในพาน ซึ่งเจ้าพนักงานเชิญอยู่ จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปประทับพระราชอาสน์ ที่นอกพระฉาก เจ้าพนักงานเชิญผ้าไตร 86 ไตร ถวายทรงจบ นายแก้วขวัญ วัชโรทัย เลขาธิการพระราชวัง กราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงวางซองพระศรีบรรจุดอกบัว และธูปเทียนที่ปากพระโกศ แล้วทรงรับแผ่นทองคำจำหลักลายปิดพระพักตร์ ทรงรับพระชฎาทองคำวางข้างพระเศียร แล้วเสด็จฯ ออกไปประทับพระราชอาสน์ที่เดิม  ตำรวจหลวงเชิญพระโกศพระศพไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ ตาม ทั้งสองพระองค์ประทับพระราชอาสน์ เมื่อเชิญพระโกศพระศพขึ้นประดิษฐานบนพระแท่นแว่นฟ้าทอง เจ้าพนักงานพระราชพิธีเข้าถวายพวงมาลา แล้วพระราชทานให้เจ้าพนักงานพระราชพิธี เชิญไปวางที่หน้าพระโกศพระศพ เจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์ 12 รูปใน 86 รูป เท่าพระชมมายุ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ขึ้นนั่งอาสนสงฆ์... จากคุณ : mr.newton เขียนเมื่อ : วันภาษาไทยแห่งชาติ 54 00:59:14

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่ทราบท่านใดมีลิงค์คลิปงานพระราชพิธีไหมคะ พอดีอยู่ต่างประเทศเลยไม่ได้ชมถ่ายทอดสดค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : หนูเอ๋อ เขียนเมื่อ : วันภาษาไทยแห่งชาติ 54 04:56:04

ความคิดเห็นที่ 18 ทราบว่าเป็นพระราชประสงค์ของพระองค์ (เจ้าฟ้าเพชรรัตน์) ครับ จากคุณ : bangkokguy เขียนเมื่อ : วันภาษาไทยแห่งชาติ 54 07:21:49

ความคิดเห็นที่ 19 คุณหนูเอ๋อครับ เข้าเว็บดูทีวีย้อนหลังก็ได้ครับ เขาถ่ายทอดสดทุกช่อง www.me.in.th จากคุณ : Medhawint_CPSK เขียนเมื่อ : วันภาษาไทยแห่งชาติ 54 09:24:39

ความคิดเห็นที่ 20 คิดเห็นเพิ่มเติม คึอ เนื่องด้วยร่างกายคนไทยปัจจุบันมีขนาดใหญ่โตมากขึ้น เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการขยายขนาดของพระโกศหรือพระลองทองใน เพื่อให้ใส่ศพได้สะดวกสบายมากขึ้น เพราะเท่าที่ทราบหลายงานแล้วที่ศพเข้าโกศยากมาก เนื่องจากร่ายกายที่ใหญ่โต หรือบางท่านก็อ้วนท้วน เพราะถ้าเข้าโกศยาก ก็ต้องทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อให้เข้าได้ ก็จะดูไม่งามตามสายตาของลูกหลานหรือของผู้แอบดู เพราะคนแอบดูเนี่ยแหละที่เอาไปเล่าไปลือกันว่ามีการเหล็กแทงก้นศพ จนลือกันไปต่างๆนาๆ จนเป็นทีอุจาดตาในลักษณะนี้ ทั้งๆที่พระศพหรือพระบรมศพคือเชื้อพระวงศ์ที่เราจะกระทำการสิ่งใดแบบนั้นไม่ได้เลยแม้แต่น้อย และสุดท้ายการเข้าโกศก็จะต้องห่างหายออกไปจากวัฒนธรรมของไทยทั้งๆที่เป็นเอกลักษณ์และลักษณะการทำศพที่วิจิตรและเป็นคติความเชื่อมากในเรื่องของการกลับไปเกิดใหม่ คติเรื่องการนั่งตาย ท่านั่งในโกศ ทำไมถึงต้องนั่งโกศ อันนี้เป็นอะไรที่ทึ่งมากๆครับ  ไม่อยากให้หายไปหรือเป็นเพียงแค่ เครื่องประดับ ประกอบยศ แต่น่าจะมีการพัฒนาเพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมกับปัจจุบันมากขึ้น แก้ไขเมื่อ 29 ก.ค. 54 15:02:55 จากคุณ : คุ้มหลวง เขียนเมื่อ : วันภาษาไทยแห่งชาติ 54 12:46:23

ความคิดเห็นที่ 21 ^ ^ http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2008/12/K7328524/K7328524.html http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/01/K7399936/K7399936.html ลองเข้าไปอ่านกระทู้นี้ดูครับ เป็นกระทู้ที่ให้ความรู้ในเรื่องนี้ดีมาก แก้ไขเมื่อ 29 ก.ค. 54 14:58:12 จากคุณ : HaroldSizzler เขียนเมื่อ : วันภาษาไทยแห่งชาติ 54 14:56:45

ความคิดเห็นที่ 22 ครับ กระทู้พวกนั้นอ่านมานานมากและขอบคุณทุกท่าน ผมเองก็ได้แจมอยู่บ้าง แต่เท่าที่สรุปจากการพบเห็นการปฏิบัติงานก็จะเห็นว่าในอนาคตจะเป็นการยากสำหรับคนอ้วนครับ หรือคนรูปร่างใหญ่โต จะยากมากครับ แต่คนผอมๆ รูปร่างธรรมดา คงไม่มีปัญหาอะไร เพราะง่าย ผมเลยเกรงว่าต่อไปในอนาคต การเข้าโกศจะเลือนหายไปในที่สุด และกลายเป็นของตั้งประดับเกียรติเพียงเท่านั้นคับ และองค์ความรู้เกี่ยวกับพิธีการนี้จะหายสาบสูญไปในที่สุด แก้ไขเมื่อ 29 ก.ค. 54 16:13:51 แก้ไขเมื่อ 29 ก.ค. 54 16:11:13 จากคุณ : คุ้มหลวง เขียนเมื่อ : วันภาษาไทยแห่งชาติ 54 15:39:09

ความคิดเห็นที่ 23 กำลังสงสัยเรื่องนี้เหมือนกัน สรุปแล้วตกลงว่าเป็นแบบไหนกันแน่ ?? จากคุณ : primekun เขียนเมื่อ : วันภาษาไทยแห่งชาติ 54 16:06:29

ความคิดเห็นที่ 24 ขอเห็นต่างนะคะ าราอยากให้เลิกพิธีนี้ เรารู้สึกมันโหดร้ายกับผู้วายชนม์ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ถ้าพิธีเหล่านั้น มันไม่เหมาะกับสังคมปัจจุบัน เราจะอนุรักษ์ไปทำไมคะ จากคุณ : accytu46 เขียนเมื่อ : วันภาษาไทยแห่งชาติ 54 20:17:05

ความคิดเห็นที่ 25 ข้อสังเกตหนึ่งในพระราชพิธีพระราชทานน้ำสรงพระศพวานนี้ที่แตกต่างจากพระราชพิธีคราวก่อน คือ โต๊ะธูปเทียนเครื่องทองน้อยและเครื่องราชสักการะพระศพ ที่เจ้าพนักงานอัญเชิญไปถวายให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงจุดนั้น มีล้อหมุนสีทองสามารถเคลื่อนที่ได้ จากคุณ : Medhawint_CPSK เขียนเมื่อ : วันภาษาไทยแห่งชาติ 54 22:17:08

ความคิดเห็นที่ 26 มีเฟสบุ๊คไว้อาลัยด้วยครับ เครดิตตามภาพ จากคุณ : U4704570 เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 54 01:30:20

ความคิดเห็นที่ 27 เจ้าพนักงานถวายสุกำพระศพ เชิญลงสู่พระโกศตั้งแต่แรกถวายน้ำสรงเสร็จ และเชิญออกสู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินตาม ตามหมายกำหนดการทุกประการ ไม่มีการถวายสุกำภายหลังเสด็จพระราชดำเนินกลับครับ ทุกอย่างเป็นไปตามพระราชกิจและหมายกำหนดการ จากคุณ : นาย UP เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 54 01:35:12

ความคิดเห็นที่ 28 คุณ accytu46 ครับ ประเพณีนี้โหดร้ายกับผู้วายชนม์อย่างไรหรือครับ หากจะบอกว่าเพราะมีการเสียบร่างกายนั้นไม่จริงเลยครับ เพราะเท่าที่ผมทราบนั้น การบรรจุพระศพลงในพระโกศจะจัดพระศพในท่าคุกเข่า แล้วจะมีเหล็กรูปตัวยูรองตรงคางเพื่อจัดพระศพเท่านั้น ไอ้ที่ว่ามีเหล็กเสียบอะไรทำนองนั้นมีแต่ในนิยายแหละครับ ผิดถูกประการใดรอผู้รู้มาอธิบายเพิ่มเติมนะครับ จากคุณ : kit_ru เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 54 21:04:26

ความคิดเห็นที่ 29 จำไม่ผิดคุณ nattaset เคยเขียนไว้ในกระทู้ครั้งหนึ่งละเอียดลออมาก ลองไปค้นมาอ่านกันครับ ป็นองค์ความรู้ที่หาอ่านได้ยากมาก จากคุณ : peeradol33189 เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 54 21:11:41

ความคิดเห็นที่ 30 คุณ accytu46 คะ เท่าที่ทราบมา คนโบราณเค้าถือว่าผู้นั่งตายเป็นผู้มีบุญค่ะ คงกลายมาเป็นประเพณีการทำพระโกศเพื่อให้พระศพอยู่ในท่านั่ง ไม่ได้ทำร้ายผู้วายชนม์แต่อย่างใดค่ะ จากคุณ : apple a day เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 54 13:50:40

ความคิดเห็นที่ 31 ที่อาจจะโหดร้าย ก็เพราะว่า เรามองว่าการนอนเป็นกริยาที่สบายที่สุด แต่ในทางกลับกัน สำหรับทารกในมดลูก กริยาแบบที่ลงโกศ เป็นกริยาที่สบายที่สุดเช่นกัน จากคุณ : natthaset เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 09:23:13