ความคิดเห็นที่ 1 เอิ่มมม........................ แล้ว..................... ยังไงต่อ................ จากคุณ : Jouette เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 54 21:01:13

ความคิดเห็นที่ 2 มันก็มีพื้นฐานความเป็นจริงด้วยละค่ะ เพราะชายหนุ่มสมัยก่อนเค้าชอบปล่อยเทสโทสเตอโรนกันด้วยการรังแกสัตว์แบบนี้แหละ ไม่ยักจะกล้าเข้าป่าโดยที่มีแค่เขี้ยวกับเล็บตัวเองมั่งเนอะ จากคุณ : Beauty&Stupid เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 54 22:01:20

ความคิดเห็นที่ 3 สมัยก่อนการล่าสัตว์ถือว่าเป็นการกีฬาแต่สมัยนี้มันกลับกลายเป็นเรื่องของธุรกิจครับ ด้วยความเคารพครับ... จากคุณ : ผ่านมา-ผ่านไป (Come N Go) เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 54 22:23:12

ความคิดเห็นที่ 4 เหตุการณ์คนละสมัย คนละแนวคิด .. เคยอ่านแล้วสนุกตอนเป็นสาว ๆ ตอนนี้กลับมาอ่านอีก .. ไม่ไหวจริง ๆ จะฆ่าจะแกงอะไรกันขนาดนั้น จากคุณ : บานเช้า เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 54 17:17:13

ความคิดเห็นที่ 5 ผมยังคิดถึงผลกระทบสิ่งแวดล้อมในป่าอีก หลังจากที่พรานใหญ่สั่งลูกน้องยิงทิ้ง ยิงขว้าง สัตว์ป่านานาชนิดแล้ว ยังแล่เนื้อ ถกหนัง ไว้ใช้งานอีก...               แล้ว  "ซาก"  ต่างๆของสัตว์นานาชนิด นั้น รวมถึง  "เครื่องใน"  ของสัตว์นานาชนิดดังกล่าว เอาไปทิ้งไว้เสียที่ไหน  "กลิ่น"  คงโชยเหม็นตลบไปถึงทำเนียบรัฐบาลแน่...              เฮ้อ....เคราะห์ดี ที่เป็น แค่  "นวนิยาย" จากคุณ : ป.ปาแปง เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 54 19:24:12

ความคิดเห็นที่ 6 อย่าไปเสียดสีคุณพนมเทียนแกเลยครับ   ในยุคสมัยหนึ่งมันมีค่านิยมอย่างนั้นจริงๆ ถึงในปัจจุบัน   ในหลายประเทศที่มีพื้นที่ป่ามากพอ   การล่าสัตว์ก็ยังจัดเป็นกิจกรรมกลางแจ้งที่สร้างมูลค่าทางธุรกิจมากโขอยู่ จากคุณ : Tanis เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 54 20:00:18