เทศการเดือน 7 หูจิ่ง-โผ่วโต่ว อุลลัมพัน-เปรตพลี
|
 |
credit บทความนี้นำเนื้อหาและรูปภาพมาจาก บล็อกของคุณหนุ่มชาวบ้าน ซึ่งได้เรียบเรียงไว้ตั้งแต่ปี 2550 โดยผมจะขอแก้เนื้อหาบางส่วนให้ถูกต้องมาขึ้นเท่านั้น
ในเดือนที่เจ็ด ตามปฏิทินจีน จะเป็นเทศกาลสารทจีน หรือเทศกาลอุลลัมพัน ซึ่งตามศาสนสถานต่างๆของชาวจีน จะจัดงานขึ้น แต่รูปแบบของการจัดงานของวัดมหายานจีนนิกายกลับแตกต่างออกไป ถึงอยากรวบรวมมาให้ดูกัน
ตำนานที่มาของเทศกาลอุลลัมพันตามคติมหายาน
จะประกอบไปด้วยตำนาน2ตำนาน
ตำนานแรก ตำนาน "เอี่ยมคาว"หรือ "เปรตพลี"
ตามพระสูตรมหายานชื่อ"เปรตมุขอัศนีชวาล" ได้บรรยายไว้ว่า ในสมัยพุทธกาล พระอานนท์เถระเจ้าซึ่งยังไม่ได้สำเร็จมรรคผล ได้เจริญวิปัสสนาอยู่ในที่สงัด พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร(กวนอิม)มีพระประสงค์จะอาราธนาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแสดงพระธรรมเทศนาเกี่ยวกับการพิธีเปรตพลี จึงแปลงกายเป็นอสุรกายรูปร่างสูงใหญ่ มีเปลวไฟพุ่งออกจากปาก เมื่อจะทานอาหารใดๆไฟนั้นก็เผาผลาญเสีย ได้รับเวทนาอย่างมาก อสุรกายตนนั้นได้บอกแก่พระอานนท์เถระว่า ตนชื่อ "อัศนีชวาลมุข"(แปลว่าผู้มีเปลวไฟพุ่งออกจากปาก) หรือ"เอี่ยมค่าว" มีความทรมานจากการอดยาก เพราะกระทำกรรมหนัก จ๊าบจวงพระรัตนตรัย ไม่รักษาศีล ขอพระเถระโปรดอุทิศส่วนกุศลให้ด้วย หากพระเถระไม่ช่วย จะต้องถึงแก่มรณะภาพใน3 วัน พระอานนท์ได้ฟังก็มีความหวาดกลัวตามวิสัยปุถุชน ถึงเข้าเฝ้าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กราบทูลถามถึงวิธีแก้ไข พระพุทธองค์ทรงทราบด้วยพระญาณจึงทรงอธิบายว่า นั้นเป็นร่างแปลงของพระโพธิสัตว์กวนอิม เพื่อให้พระองค์ทรงแสดงพระสูตรเกี่ยวกับการ กระทำเปตรพลีอุทิศ ซึ่งได้เป็นพิธีปฏิบัติมาจนปัจจุบัน
ตำนานที่ 2 คือ พระมหาโมคคลานะเถระเจ้าผู้ได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าว่าเป็นผู้มีฤทธิ์มาก มีมารดาซึ่งมีมิจฉาทิฐิ ไม่เคารพในพระรัตนตรัย และไม่เชื่อในกฎแห่งกรรม ชอบฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เมื่อสิ้นใจ ได้ไปเสวยกรรมหนักในอบายภูมิ เป็นเปรตในอเวจี อดยากหิวโหย พระมหาเถระซึ่งเป็นพระอรหันต์ได้รับรู้ด้วยญาณว่ามารดารับกรรมอันหนัก ก็เกิดสงสาร จึงเข้าญาณสมาบัติ นำอาหารใส่บาตร ลงไปในนรก เพื่อโปรดมารดา เมื่อมาถึงเมืองนรกประตูนรกปิดอยู่ ท่านบังเกิดความสังเวชที่ไม่อาจช่วยมารดาได้จึงนำไม้เท้าธุดงค์กดลงไปที่พื้น ด้วยเดชแห่งความกตัญญูของพระเถระ ประตูนรกก็เปิดออกให้ท่านได้เข้าไปพบมารดา เมื่อท่านพบมารดาได้มอบอาหารจากบาตรให้พอมารดารับอาหารในบาตรกลับกลายเป็นเปลวไฟ ไปหมดสิ้น มารดาท่านก้ไม่สามารถรับประทานได้ พระมหาเถระจนใจไม่ทราบว่าจะแก้ไข้อย่างไร จึงกลับมาทูลถามพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์จึงทรง ชี้แนะว่า มารดาพระมหาเถระได้กระทำกรรมอันหนัก แม้พระมหาเถระจะทรงฤทธิ์ ก็เหลือกำลังที่จะโปรดให้พ้นทุกข์ได้ ต้องอาศัย บารมีของสงฆ์คือคณะสงฆ์ ในวันมหาปวารณา(วันออกพรรษา)โดยการถวายสังฆทานต่อคณะสงฆ์ (สังฆทานอันไม่เจาะจงพระสงฆ์เป็นทานอันมีกุศลมาก)และคณะสงฆ์อาศัยผลานิสงค์ ของ การบำเพ็ญ ศีล สมาธิ ในช่วงเข้าพรรษา นั้นอุทิศแด่ มารดาของพระมหาเถระก็จะช่วยให้มารดาพระมหาเถระพ้นทุกข์ได้
การเข้าพรรษาของคณะสงฆ์จีน จะเข้าตั้งแต่วัน 15 ค่ำเดือน 4 จนถึง 15 ค่ำ เดือน7 ตามปฏิทินจีน ฉะนั้น เทศกาลอุลลัมพัน จึง เป็นเทศกาล ในเดือน 7 และถูกแต่งเติมความเชื่อ ว่า เป็นเดือนผี เป็นเดือนที่ประตูนรกเปิด ทั้งที่เป็นเดือนที่ดีเป็นโอกาสให้พุทธศาสนิกชนสามารถ กระทำบุญอุทิศต่อผู้ล่วงลับโดยอาศัยบารมีจากอยู่จำพรรษาของพระสงฆ์ได้
จากทั้ง 2ตำนาน เมื่อมาผนวกกัน จึงเป็นช่วงงานเทศกาล กระทำ ทักษิณานุประทาน คือ การอุทิศส่วนกุศลให้ดวงวิญญาณบรรพบุรุษ และ เปรตพลีโยคะ คือ การให้ทานแก่ ดวงวิญญาณในภูมิอบายทั้ง6
จากคุณ |
:
<<First>>
|
เขียนเมื่อ |
:
3 ส.ค. 54 11:25:33
|
|
|
|