 |
ย่อหน้าสุดท้ายแล้วครับ
輝いてた二人の夏 kagayaiteta futarino natsu 波がさらうように namiga sarau youni いつかはきっと遠い記憶の itsukawa kitto tooi kiokuno 彼方に消えてく kanatani kieteku
สี่บรรทัดแรก ถ้าจะแปลให้ถูกต้อง ต้องทราบก่อนว่า มันเป็นประโยคเดียวครับ ประโยคที่ยาวมาก
ผมจะใส่คำช่วยที่เขาละไว้ในเนื้อเพลง และเรียงลำดับใหม่ให้เป็นการเรียงแบบปกติ จะเป็นแบบนี้
波がさらうように、輝いてた二人の夏は、いつかはきっと、遠い記憶の彼方に消えていく。
namiga sarau youni, kagayaiteta futarino natsu (wa), itsukawa kitto, tooi kiokuno kanatani kiete(i)ku.
บอกก่อน ประโยคนี้ เพราะมากนะครับ กินใจมากด้วย
ขอเฉลยความหมายก่อนเลยละกัน
"ฤดูร้อนของสองเราอันเคยเจิดจรัสนั้น สักวันหนึ่งก็คงจะต้องจางหายไปอยู่อีกฟากฝั่งแสนไกลของห้วงความทรงจำ ประดุจดั่งถูกคลื่น(น้ำทะเล)ซัดพาหายไปฉันใดฉันนั้น"
ประโยคหลัก จริง ๆ มีแค่ futarinonatsuwa kieteiku. ฤดูร้อนของสองเรา จางหายไป (จากความทรงจำ)
แล้วมีกลุ่มคำต่าง ๆ มาช่วยขยายประโยคนี้ให้ชัดเจนขึ้น
ได้แก่ nami ga sarau คลื่นพัดพาหรือซัดหายไป you (อ่าน โย นะครับ อย่าเผลออ่านเป็นยูแบบภาษาอังกฤษล่ะ) แปลว่า สภาพแบบนั้น เช่นนั้น you ni ก็แปลว่า ประดุจดั่ง (ประโยคข้างหน้าโย)
kagayaku แปลว่า เปล่งออร่าเป็นประกาย นั่นแหละ ในที่นี้ kagayaiteita เป็นรูปที่ถ้าอธิบายแบบภาษาอังกฤษก็ต้องบอกว่าเป็นรูป past-continuous tense แล้วเอาคำนี้มาขยายคำนาม ฤดูร้อนของสองเรา
tooi ไกล kioku ความทรงจำ kanata แปลว่า เขา (สรรพนามบุรุษที่สาม) ก็ได้ แต่ในที่นี้แปลว่า สถานที่ซึ่งแสนไกล
kieru เป็นกริยาแปลว่า หายไป ทำเป็น te-form แล้วซ้อนด้วย กริยา iku ที่แปลว่า ไป ก็แปลคล้ายภาษาไทยแหละครับ kieru-หาย kieteiku- หายไป
บางครั้งเวลาเสียง i ต่อท้ายเสียง te ในกริยารูป te-form ก็ย่อเสียง i หายไปก็มี เลยออกมาเป็น kieteku ดังในเนื้อเพลง
ที่พบบ่อยในชีวิตประจำวันก็ V-teiru จะโดนย่อเหลือ v-teru เช่น tabeteiru-tabeteru กำลังกิน
ประโยคถัดมา สองบรรทัดเช่นกัน
あなたの写真 anatano shashin 大切にしまっておくわ taisetsuni shimatteokuwa
ฉันจะเก็บรักษารูปถ่ายของเธอไว้อย่างดีนะคะ
จริง ๆ ในบรรทัดบน รูปถ่ายของเธอเป็นกรรมของกริยาเก็บรักษาไว้ ต้องใช้คำช่วย を o (หรือในที่นี้จะใช้คำช่วย は wa は ก็ได้) กำกับท้ายกรรมตัวนี้ด้วย แต่... เช่นเคย โดนละไว้
สำนวน V-te oku แปลว่า ทำกริยานั้นเผื่อไว้ สำรองไว้ หรือเตรียมเอาไว้
ในที่นี้ คือจะเน้นว่า ไม่ได้แค่ เก็บรูปถ่าย (กริยา shimau แปลว่า เก็บ) เฉย ๆ แต่เป็นการเก็บเอาไว้ก่อน เผื่อในอนาคตจะได้เอามาดูหรือเอาออกมาใช้อีก
อีกสามบรรทัดต่อมา รวมเป็นหนึ่งประโยค โดยที่มีการละคำ (พยางค์) ไป 2 คำ (พยางค์) แต่ถ้าเติมให้สมบูรณ์จะเป็นดังนี้ いつかどこかでまた逢えること(を)祈って(い)るわ itsuka dokokade mata aerukoto(o) inotte(i)ruwa
(ฉัน)จะเฝ้าอธิษฐาน ขอให้(เรา)ได้พบกันอีกในสักวันหนึ่งที่ไหนสักแห่งนะคะ
ไวยากรณ์ที่จะอธิบายก็คงซ้ำ ๆ กับที่เคยอธิบายไปแล้วครับ ขอละไว้นะครับ
元気でね genkidene รักษาเนื้อรักษาตัวนะคะ
ลงท้ายเพลงด้วยประโยคนี้
元気 genki แปลว่า สุขภาพดี สบายดีไม่เจ็บป่วย
คำทักทายคำแรก ๆ ที่คนเรียนภาษาญี่ปุ่นได้เรียน ก็คือคำว่า お元気ですか? ซึ่งเทียบได้กับภาษาอังกฤษว่า Are you fine? หรือ How are you? ก็ได้
ก็คือ genki ตัวเดียวกันนั่นแหละครับ ในที่นี้เอามาเป็นคำอวยพร ขอให้อีกฝ่ายจงมีชีวิตอยู่อย่าง genki (คือมันย่อมาจาก 元気でいてください。 --- ตามความเข้าใจของผมนะ)
ในคำแปลภาษาไทย ผมเลือกใส่เป็น รักษาเนื้อรักษาตัว เพราะคิด(เอาเอง)ว่าคงให้อารมณ์เดียวกันครับ
ก็จบแล้ว...
คงไม่มีข้อสรุปตอนท้ายครับ หวังว่า กระทู้ที่ยาวเหยียดกระทู้นี้ คงจะให้ไอเดียและเป็นคล้าย ๆ ธงที่ปักไว้เป็นหลักสังเกตแก่น้อง ๆ ผู้กำลังก้าวเดินเข้ามาบนเส้นทางอันยาวไกลของภาษาญี่ปุ่นได้บ้าง ไม่มากก็น้อยนะครับ
จากคุณ |
:
star_seeker
|
เขียนเมื่อ |
:
11 ส.ค. 54 00:19:53
|
|
|
|
 |