ความคิดเห็นที่ 1 ความรู้ภาษาอังกฤษเป็น 0 นี่ต้องดูว่า 0 ขนาดไหนครับ คือ a b c  ไม่ทราบเลย หรือว่าได้อยู่แล้วแต่พวก ประโยคเบื้องต้น ศัพท์ ไวยากรณ์พวกนี้ยังไม่ได้ครับ คือจะเรียนภาษาทุกภาษาสิ่งแรกคือ เวลาครับ ทุกภาษาต้องใช้เวลาเรียนรู้กันทั้งนั้น บางคนอาจจะเรียนรู้ได้เร็ว บางคนอาจจะเรียนได้ช้ากว่าบ้าง ก็ไม่มีปัญหาครับ อยู่ที่ต้องไม่ท้อแท้ครับ  ลองคิดง่ายๆ เหมือนตอนเราเป็นเด็กน่ะครับ เราเริ่มจากตรงไหนก่อน พูดเลียนแบบผู้ใหญ่บ้าง ฟังแล้วจำบ้าง พอโตมาก็เริ่มอ่านหนังสือง่ายๆ ท่อง ก.ไก่ ข.ไข่ เริ่มผสมคำ เริ่มเรียนรู้ประโยค เรียนรู้ศัพท์เพิ่มทุกวันจากการใช้ประจำ นานๆไปมันก็ซึมซับเองครับ บางครั้งแทบไม่ต้องท่องเลยครับ ทุกภาษามีสิ่งที่ต้องเรียนรู้เยอะ อย่าใจร้อนครับ ค่อยๆ เรียนไปทีละส่วน พื้นฐานคือส่วนที่สำคัญที่สุด ฐานไม่เข็งขึ้นไปก็ลำบากครับ ต้องอดทนมากๆ อาจจะเริ่มจากชีวิตประจำวันก่อนก็ได้ครับ หาดิคที่ดีๆ สักเล่มนึงติดตัวไว้ พอเจออะไรในชีวิตประจำวันแล้วสงสัยก็เปิดเลยครับ เปิดซ้ำๆ นั่นล่ะครับจะได้จำแม่น พอเจอบ่อยๆ เข้าคราวนี้ก็ไม่ต้องท่องแล้วครับ จำได้เอง ส่วนรูปไวยากรณ์ก็อาจจะเรียนเพิ่มเติม หรือหาผู้รู้แนะนำ หาหนังสืออ่านเพิ่มเติมก็ได้ครับ ต้องค่อยๆเรียนรู้ไป แต่ที่สำคัญคือถ้าพอเข้าใจแล้วให้อ่านมากๆ ครับ แนะนำเลย การอ่านนี่สุดยอดแล้วครับ อ่านออกเสียง อ่านใจความ อ่านทุกอย่างครับ ช่วยได้มากจริงๆครับ อืมม อย่างอื่น...รอท่านอื่นมาต่อแล้วกันครับ  ตอนนี้นึกออกเท่านี้ครับ จากคุณ : Parindrome เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 10:50:35

ความคิดเห็นที่ 2 ออเพิ่มเติมอีกนิดครับ  อายุไม่ใช่อุปสรรคนะครับ ไม่มีคำว่าสายถ้าเริ่มซะตั้งแต่ตอนนี้เลย เริ่มได้เร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นเร็วเท่านั้นครับ ผมเคยเจอแม่ตู้ (คุณยายคนลาว ที่ย้ายไปอยู่ต่างประเทศ) เริ่มเรียนภาษาตอนที่เค้าย้ายมาอยู่ที่ประเทศอื่น ค่อยๆ จำไปๆ สุดท้ายก็ยังพูดได้อะไรได้ครับ อาจจะอ่านได้บ้างเท่านั้นเองครับ แต่สื่อสารก็ไม่มีปัญหา ถ้าตั้งใจจะเรียนให้ได้ ต้องอย่าท้อครับ ถึงท้อก็ต้องไม่ถอย ถึงถอยก็ต้องยันไว้ครับ ยันแล้วมีกำลังต่อ ก็เดินต่อไปครับ  เป็นกำลังใจให้ครับ ให้เรียนได้ตามที่หวังนะครับ จากคุณ : Parindrome เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 10:56:52

ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อคืนดูทีวีไทย ช่องไหนจำไม่ได้ สามีภรรยาอดีตข้าราชการ เกษียณแล้วทั้งคู่ เข้ารับการอบรม การใช้คอมพิวเตอร์ในชีวิตประจำวัน เช่น ใช้เฟสบุ๊ค ส่งจดหมายอีเล็กโตรนิก ฯลฯ บอกว่ามีเวลาว่างแล้ว และไม่อยากรบกวนลูกหลาน ขณะฝึกใช้คอมพิวเตอร์ เห็นเขานั่งเคียงคู่ เอาหัวชนปรึกษากัน อย่างเอาจริงเอาจัง เหมือนสมัยเป็นนักศึกษา คนดูอย่างผมยังมีความสุขเลย เรียนเถอะครับอายุ ไม่มีปัญหา อาจกลายเป็นความสุขของคุณครับ แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 54 11:41:21 จากคุณ : newcomer (gpvtu2009) เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 11:12:59

ความคิดเห็นที่ 4 33 เองครับ ยังไม่แก่หรอก   เรียนเถอะครับ ถ้าอยากเรียน อย่าคิดมาก เรื่องอายุครับ ^^V จากคุณ : art (art_ping) เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 11:15:33

ความคิดเห็นที่ 5 เหมือนความเห็นข้างบนค่ะ ที่ว่าเป็น0 นี่ขนาดไหนคะ ถ้าเอาตามหลักตรรกจริงๆ คงหมายความว่าไม่รู้อะไรเลยแม้แต่ตัวอักษร แล้วที่บอกว่าจะทันไหม...ทันอะไรคะ ความหมายของคำว่าทัน มันน่าจะแปลว่ามีกรอบอะไรอยู่ อย่างเช่น ไม่รู้ว่าจะไปถึงที่ทำงาน "ทัน" ตอกบัตรหรือเปล่า แค่ถ้าถามว่าจะเริ่มเรียนเนี่ย ถือว่าช้าไปไหม ก็ตอบว่าไม่ช้าหรอกค่ะ ตัวชาลีเองคิดว่าจะทำ/เรียนอะไรใหม่ๆ อยู่ตลอด ตอนนี้ก็เรียนศิลปะกับภาษาเวียดนาม ตอนอายุ33 ก็หวังว่าตัวเองจะเก็บเงินพอซื้อเปียโนและเรียนจริงๆ จังๆ ซะที ส่วนเริ่มยังไง ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะเรียนเพื่ออะไร จุดประสงค์ในการเรียนคืออะไร มันก็ต้องลองแพลนดูอีกที สมองช้าคงไม่เกี่ยวหรอกค่ะ...ทุกวันนี้คนเราก็ใช้งานสมองไม่เต็มประสิทธิภาพที่มันทำได้อยู่แล้วค่ะ จากคุณ : kiria chalee เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 11:17:24

ความคิดเห็นที่ 6 อย่าไปเริ่มด้วยเรื่องเครียดๆอย่าง grammar ตั้งแต่แรก มันจะเบื่อซะก่อน พยายามทำเรื่องเรียนให้เป็นเรื่องสนุกๆ เช่นหา DVD หนังฝรั่งที่มี subtitles และเสียงทั้งภาษาไทยกับอังกฤษมาเปิดดูสลับภาษากัน แล้วหัดฟังหัดพูดตาม พยายามทำความเข้าใจให้ได้โดยการเทียบภาษาอังกฤษกับไทยและตีความจากหน้าตาท่าทางคนแสดง ถ้าติดศัพท์จริงๆก็เปิด dictionaries พอชินๆกับภาษาพูดทั่วๆไปก็หาบทเรียนฟรีบน websites ฝรั่ง มีเยอะเลย เอามาฝึกอ่าน เรียน grammar ค่อยๆหัดเขียน พอเก่งอีกหน่อยก็ download พวก series หนังฝรั่งมาดูแบบไม่มีภาษาไทย แต่หา download subtitles ภาษาอังกฤษมาช่วย และพยายามหัดใช้ dictionaries อังกฤษ-อังกฤษ พยายามหาเพื่อนต่างชาติ chat ด้วย เช่นพวก language exchange กับเจ้าของภาษาอังกฤษที่อยากเรียนภาษาไทยเป็นต้น เราเห็นพวกที่เร่งๆเรียนอังกฤษเพื่อไปสอบหลายราย เรียนๆไปแล้วสมองเลอะเลือนเอาดีไม่ค่อยจะได้ แต่พวกที่เรียนเพราะรักสนุกกับสื่อต่างประเทศกลายเป็นเก่งขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วแฮะ...!!!?? เมื่อก่อนเราเคยทำการตลาดให้โรงเรียนสอนภาษาจนรู้วิธีโฆษณาแหกตาชาวบ้าน แต่พอเลิกทำอีกหลายปีต่อมาเรากลายเป็นคิดวิธีสอนภาษาอังกฤษแบบสอนให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็นเพื่อให้ผู้เรียนเอาความรู้น้อยๆไปเรียนต่อด้วยตัวเองได้ แต่เราคิดว่าถ้าเรากลับไปทำธุรกิจสอนภาษาอังกฤษแล้วนำแนวคิดใหม่ๆของเราไปใช้ เราคงหาเงินไม่ได้น่ะ เพราะคงไม่มีใครมาเรียนกับเราเนื่องจากคนไทยชินกับการสัญญาว่า "ต้องสอบผ่านภายในกี่วันกี่เดือน" ทั้งๆที่วิธีเรามันดูเหมือนไม่น่าจะทำให้สอบได้ "เพราะไม่ได้สอนทำข้อสอบ" แต่ถ้าเรียนไปมันกลายเป็นเก่งกว่า "แล้วก็ทำข้อสอบได้ด้วย" แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 54 13:00:56 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 12:58:38

ความคิดเห็นที่ 7 ช้ามาก ๆ ครับ แต่ถ้าทันไหมขึ้นอยู่กับว่า จะเอาไปใช้ทำอะไร ระดับไหน จากคุณ : ๛กอล์ฟ เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 13:44:16

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณทุกคำตอบเลยค่ะ  เป็น0 คือได้แค่ A-Z และเรียนเพื่อสื่อสาร อ่าน เขียนได้ รู้เรื่องไม่ต้องระดับสวยงามภาษาธุระกิจค่ะ ^^ จากคุณ : pandaping เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 13:57:21

ความคิดเห็นที่ 9 เรียนแบบเด็กเล็กที่หัดพูดดีไหมครับ ได้ยินอะไรก็พูดตาม พูดคำต่างๆ เริ่มจากคำเดียวพยางค์เดียวก่อน แล้วค่อยๆเพิ่มเป็น 2 พยางค์ 2 คำ เรียนพูดแบบง่ายๆ ประโยคง่ายๆ ฝึกพูดบ่อยๆเดี๋ยวก็จำได้ ใน youtube มีให้เรียนเยอะแยะ สงสัยอะไรหลังไมค์มาถามได้ครับ จะสอนให้ฟรีครับ จากคุณ : นายชัย เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 14:59:27

ความคิดเห็นที่ 10 น้องผมไม่รู้อังกฤษเลยครับ ใช้เวลาปีกว่าไปเรียนภาษาตอนนี้เก่งกว่าผมเเล้วหล่ะ เเต่ต้องเป็นที่เรียนเเบบ อาทิตย์ละ อย่างน้อย 5 วันนะครับเเบบเคร่งครัดเลยครับ ภาษาไทยยากกว่าภาษาอังกฤษเยอะมากครับ ไม่เกินสองปีผมว่าคุณใช้งานได้สบายครับ ยิ่งเป็นศุนย์ยิงเรียนง่ายครับ จะได้เีรยนที่ถูกต้องไปเลย ผมเรียนเเบบผิดๆมาตลอด เลยต้องติดตามเเก้ตลอดทาง เรื่องการเขียนการพูดออกเสียงครับ จากคุณ : Rick_Kiss เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 15:57:03

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณทุกท่านมากๆค่ะ ^^ จากคุณ : pandaping เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 17:10:40

ความคิดเห็นที่ 12 แบบนี้ไม่ถือว่าเป็น0 หรอกค่ะ เรียกว่าพอเป็นเรื่องเป้นราว...มุ่งมั่นมากๆ อีกไม่นานก็เก่งแล้วค่ะ จากคุณ : kiria chalee เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 19:25:17

ความคิดเห็นที่ 13 เคยได้ยินไหม........ที่คนเขาพูดกันว่า "ไม่มีใครแก่เกินเรียน" ผมว่า จริงที่สุดครับ จากคุณ : Chrysocolla เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 21:21:42

ความคิดเห็นที่ 14 เริ่มเรียน Phonics แบบเด็กฝรั่งไปเลยค่ะอย่าไปเรียนวิธีของโรงเรียนไทย ถ้วยชาเปล่าๆนี่แหละได้ผลนักล่ะ พวกเต็มๆถ้วยใส่ไปเท่าไหร่มันก็ล้น ขอแนะนำเวบนี้ นั่งคลิกๆฟังๆไปอาทิตย์หนึ่งก็ได้แล้วระดับเบื้องต้น ผสมคำ http://www.starfall.com/ http://www.ictgames.com/letterlifter.html ผู้ใหญ่ก็เรียนเหมือนเด็กๆได้นะ มีเยอะแยะเลยค่ะ http://www.internet4classrooms.com/kplus_phonics.htm แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 54 02:42:53 จากคุณ : yinnerella เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 02:40:26

ความคิดเห็นที่ 15 แนะนำ 1. ไปเรียนภาษาเฉพาะทางที่ต้องการไปเลย เน้นสนทนาและเขียนแบบง่าย ๆ จะไปได้ เร็ว อาจจะสักปีนึงก็อ่านออกเขียนได้ ผมใช้วิธีนี้เรียนภาษาจีนเหมือนกัน จำเขียนได้ไม่ กี่ตัว อาศัยพินอินอ่านเป็นหลัก แล้วก็จำสำนวน เรียนแค่สี่เดือนก็พูดประโยคง่าย ๆ ได้ เจ้านายไต้หวันสั่งให้พิมพ์โต้ตอบกับลูกค้า ก็จำสำนวนได้บ้าง เหมือนดาราลูกครึ่งจำคา- ราโอเกะอะไรแบบนี้ ประโยคสนทนาธุรกิจทั่วไป ส่วนใหญ่มันซ้ำ ๆ กัน 2. ไม่สนับสนุนให้เรียนแบบทางการ ไปตามลำดับ เคยมาแล้ว ต้องเรียนอะไรจุกจิกมาก มาย เรียนแล้วไม่ได้ใช้ เรียนกับเด็ก ๆ แล้วเราก็งง ๆ เพราะว่า โลกมันต่างกันเยอะ แนะ นำว่า ไปซื้อบทสนทนาสำเร็จรูป หรือดาวน์โหลดจาก google ก็ได้ สะดวกดี เล่มที่แบบ เรียน 99 ชั่วโมงอะไรแบบนี้ก็ได้ แล้วจำสำนวนเอา เปลี่ยนเฉพาะบางคำ จากคุณ : TOP เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 09:52:02 A:210.86.128.161 X: TicketID:091427

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณทุกท่านมากๆค่ะ @คุณ yinnerella ขอบคุณสำหรับ Link ดีๆค่ะ ^^ จากคุณ : pandaping เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 14:42:42

ความคิดเห็นที่ 17 ยังไม่แก่เกินเรียนหรอกคะ จากคุณ : chootrain เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 09:47:45

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่ต้องไปนึกว่าสมองจะช้าหรือไม่ช้าหรอกค่ะ คุณอาของหนูอายุ 45แล้วยังเพิ่งเรียนเลยค่ะ ตอนแรกก็ได้แค่เอบีซีล่ะค่ะ พอมีครูมาสอนที่บ้านให้ อาก็เริ่มกล้าพูดมาขึ้นแล้ว ตอนนี้พาไปปล่อยสิงคโปร์แกก็หาของกินเองได้ ไปไหนมาไหนถามทางได้ไม่หลงแล้วค่ะ ไม่ต้องกังวลนะคะ ถ้าเราคิดจะเริ่มก็เริ่มได้แน่นอนค่ะ ไม่มีใครแก่เกินเรียน ค่ะ จากคุณ : moonstarlight เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 17:49:20