ความคิดเห็นที่ 1 ในตู้ + ใส่การบูรเอาไว้ จากคุณ : khumchalong เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 54 04:52:25

ความคิดเห็นที่ 2 ที่บ้านจะนำหนังสือที่หวงแหน   - ใส่ไว้ในตู้เหล็กปิดทึบ - เล่มหนังสือห่ออีกชั้นด้วยกระดาษสีน้ำตาล หรือกระดาษหนังสือพิมพ์ เพื่อกัน แ่ละ/หรือชลอเนื้อกระดาษเหลือง เป็นสนิม กรอบ จากทั้งอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง และปฏิกิริยาของออกซิเจนต่อตัวกระดาษ - ใส่การบูร (ตามความเห็นด้านบน) - และทุก 3 เดือน หรือ 6 เดือนตามสะดวก หมั่นเช็คดูแลความเรียบร้อยของหนังสือ แต่ถ้าต้องการโ่ชว์ตัวหนังสือ คือไว้บนชั้นเพื่อความสวยงามและหยิบอ่านได้สะดวก ตัวหนังสือก็จะชำรุดเร็วขึ้นนิดหน่อยเท่านั้นเอง จากคุณ : ลาช่า เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 54 05:45:07

ความคิดเห็นที่ 3 คุณ Zadius เป็นคนโชคดี  ที่มีคุณปู่ที่อ่านและซื้อหนังสือ และส่งกลับเมืองไทย     ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจว่าหนังสือเก่า  หนังสือหายาก  และหนังสือ พิมพ์ครั้งแรก  ไม่เหมือนกันนะคะ     กรุณาจดด้วยดินสอ  วันเดือนปีที่ซื้อ และราคา  ไว้หน้าหลังสุด ถ้ามีหนังสือเพิ่มขึ้นก็ทำทะเบียนไว้หนึ่งเล่ม  วางไว้ในตู้หนังสือเลยค่ะ   สง่างามหาใดปาน         ปัดระหว่างหน้าเพื่อกำจัดฝุ่นผงด้วยแปรงทาสีนุ่มๆราคาถูก สำรวจหรือตรวจสอบระหว่างทำทะเบียนว่าฉบับที่ถืออยู่มีจำนวนหน้าครบ มีรูปภาพครบถ้วนแล้ว ใส่ถุงซิบแบค  ในถุงไม่ต้องใส่อะไรเลย  พริกไทยสามเม็ดก็พอใช้แล้ว ถ้าวางนอนราบได้  ก็จงวางนอนราบเพราะนานไปน้ำหนังจะถ่วงให้สันเอียง เก็บในตู้กระจก  ตู้น่าจะเป็นไม้เนื้อแข็ง   น้ำหนักของไม้เนื้อแข็งในหลายกรณี ป้องกันหนังสือหายากได้เป็นร้อยปี หยิบจับหนังสือด้วยถุงมือ  เท่าที่ใช้กันอยู่ในเมืองไทยคือถุงมือฝ้าย ราคาคู่ละ ๖ หรือ ๘ บาท    บริษัทประมูลหนังสือของโลกใช้ถุงมือแพร ไม่จำเป็นค่ะ ในตู้หนังสือควรมีกล่องดูดความชื้น     ในห้องสมุดน่าจะมีเครื่องดูดความชื้น ถ้าสู้ค่าไฟไหว เปิดเครื่องปรับอากาศบ้าง อย่าให้กระทบแสงสว่างมากเกินไป ถ้ามีหนังสือพอโชว์  ก็ไปเชิญผู้มีหนังสือท่านอื่นมาชม แล้วเราจะได้ไปชมหนังสือของท่านเหล่านั้นบ้าง จะได้ทราบด้วยตนเองว่า  นักสะสมตัวจริงในเมืองไทยนั้นมีสมบัติ ที่มีค่าและหายากมากกว่าหอสมุดแห่งชาติ จากคุณ : แสนอักษร เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 54 08:14:58

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณทุกท่านสำหรับคำตอบครับ ... ตอนนี้กำลังเครียดอยู่เลยว่าจะจัดการ จัดเก็บหนังสือของคุณปู่ที่ท่านส่งมาให้เป็นระบบอย่างไรดี ที่บ้านตอนนี้ถึงแม้จะมีห้องหนังสืออยู่ (ไม่สามารถเรียกว่าห้องสมุดได้ เพราะเป็นเพียงห้องว่างที่ซื้อตู้หนังสือมาวางเพื่อจัดเก็บหนังสือตามมีตามเกิดเท่านั้น) แต่พื้นที่ก็แน่นขนัดจนไม่สามารถขยับขยายเพิ่มเติมได้แล้ว พื้นที่ส่วนอื่นของบ้านก็ค่อนข้างคับแคบ เพราะเต็มไปด้วยชั้นหนังสือ (ซึ่งถูกระเห็จจากห้องหนังสือออกมา) จนเหลือเพียงพื้นที่ภายในห้องรับแขก ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นที่ที่เหมาะสมในการจัดเก็บหนังสือหรือเปล่าน่ะครับ ที่คิดอยู่คือ อาจจะต้องหาซื้อตู้หนังสือมาวางไว้ที่ห้องรับแขกเพิ่ม เพื่อจัดเก็บหนังสือของคุณปู่ให้เรียบร้อยไปพลางๆ ก่อนที่จะทำห้องสมุดอย่างจริงจัง แต่ก็ไม่ทราบว่าจะหาซื้อตู้หนังสือไม้ดีๆได้ที่ไหน เพราะตู้หนังสือที่มีในบ้านตอนนี้ ซื้อมาจากร้านขายเฟอร์นิเจอร์ใกล้บ้านเป็นส่วนใหญ่ คุณภาพไม้ไม่ค่อยดี ทำให้หลายๆใบมีอาการไม้วางชั้นแอ่นน่ะครับ (และกลัวเรื่องปลวก แมลงเข้าไปทำลายหนังสือด้วย) หนังสือที่คุณปู่ส่งมา จากที่ผมได้เปิดดูแล้วบางลัง เกือบทั้งหมดเป็นหนังสือโบราณ เล่มที่เก่าที่สุดจากที่สำรวจตอนนี้ จัดพิมพ์ขึ้นในปี 1778 เป็นหนังสือประวัติศาสตร์อังกฤษของ David Hume ซึ่งยังอยู่ในสภาพค่อนข้างดี นอกนั้นก็เป็นหนังสือประวัติศาสตร์อื่นๆที่พิมพ์ในปี 1800 ถึงต้นปี 1900 น่ะครับ คุณปู่เป็นคนที่รักหนังสือและดูแลทะนุถนอมหนังสือมาก ท่านอุตส่าห์ไว้ใจส่งหนังสือมาให้จัดเก็บ ผมเลยกลัวว่าจะดูแลหนังสือได้ไม่ดี ทำให้หนังสือที่ท่านรักและสะสมมาตลอดชีวิตเสียหายน่ะครับ ตอนนี้ลังหนังสือเลยยังวางอยู่เต็มบ้าน ยังไม่ได้จัดการทำอะไรเลยครับ ...เฮ้อ แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 54 10:18:49 จากคุณ : Zadius เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 54 10:18:18

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าว่างๆถ่ายรูปสภาพบ้าน ชั้นหนังสือ และลังหนังสือมาให้ชมเป็นขวัญตาหน่อยสิครับ ชั้นวางหนังสือไม้เนื้อแข็ง ลองเสิรช์หาตามร้านเฟอร์ฯมือสองดูครับ เพราะถ้าซื้อเฟอร์ราคาถูกตามร้านทั่วไป เขาก็ใช้วัสดูราคาถูกอย่างไม้พาร์ติเคิลทำนะ่ครับ ไม้เนื้อแข็งจะราคาแพง และผมว่าถ้าคุณมีเวลาลองคัดแยกหนังสือดูครับ ว่ามีอะไรที่ไม่เอาหรือไม่ ก็จำหน่ายออกไป จะขายหรือบริจาคก็แล้วแต่ อะไรที่ควรเก็บ อะไรที่ไม่ควรเก็บ ถ้าคุณจะเก็บทุกอย่าง คุณต้องขอมรดกจากคุณปู่ซื้อบ้านเพิ่มเพื่อเก็บหนังสือแล้วล่ะครับ อ้างไปก็ได้ครับเรือนหอในอนาคตของคุณ คุณปู่จะได้มีเหลนเพื่อดูแลหนังสือต่อ ห้องสมุดใหญ่ๆต่างๆยังต้องคัดแยกหนังสือจำหน่ายออกทุกปีเลยครับ จากคุณ : ทูตซ้ายเอี้ยเซียว เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 54 10:30:02

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าหนังสือเยอะขนาดนั้น แนะนำให้ทำแบบที่บ้านทำจ่ะ คือซื้อบ้านสำเร็จรูปขนาดเล็ก 1 ชั้น มาตั้งไว้ข้างตัวบ้านเลย  (พอจะนึกออกไหมคะ?) ทำเป็นบ้านหนังสือ/หรือห้องสมุดเล็กแยกจากตัวบ้านเลย  เวลาเราต้องการพักผ่อนนอนอ่านหนังสือ ก็จะมาแช่แป้งรากงอกที่ห้องสมุดขนาดเล็กของบ้าน  ทำป้ายชื่อเล็กๆ ว่า "ห้องสมุด (ตามด้วยนามสกุลบ้านเรา)"   มันน่าชื่นใจจริงๆ นะ ราคาบ้านสำเร็จรูปก็ไม่แพงจนเกินไป เอาพอเรียบง่าย จากคุณ : ลาช่า เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 54 11:10:02