ความคิดเห็นที่ 1 รูปนี้เป็นส่วนขยายค่ะ จากคุณ : เมฆน้อยลอยอ้อยอิ่ง เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 54 22:15:58

ความคิดเห็นที่ 2 ซ้ำค่ะ แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 54 22:24:36 จากคุณ : เมฆน้อยลอยอ้อยอิ่ง เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 54 22:16:10

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าตามประวัติที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านเคยบอกไว้ว่า พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดบางปลาหมอ ท่านมีตำแหน่งเป็นพระอุปัชฌาย์ เพราะท่านได้อุปสมบทให้กับพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดบางนมโค นี่เป็นประการที่หนึ่ง เพราะฉะนั้นช่วงเวลาจึงน่าจะอยู่ราว ๆ สมัย ร.๕ ตอนกลางเป็นอย่างมาก และไม่เกินสมัย ร.๖ ครับ จากคุณ : ผ้าพับไว้ เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 54 00:05:32

ความคิดเห็นที่ 4 ตรงกลางตาลปัด มีรูปคล้ายโกศเลยนะครับ จากคุณ : เขียนบน iPhone (Bryophyta) เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 54 03:28:01

ความคิดเห็นที่ 5 พัดนี้ไม่ใช่พัดยศ  แต่เป็นพัดรองที่ระลึกงานพระเมรุ จ.ศ. ๑๒๔๘ ตรงกับ พ.ศ. ๒๔๒๙  คงต้องตรวจสอบดูว่าปีนั้นมีงานพระเมรุเจ้านายพระองค์ใด จากคุณ : V_Mee เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 54 07:53:06

ความคิดเห็นที่ 6 พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์ ในรัชกาลที่ ๕ หรือพระนามเดิม หม่อมเจ้าปิ๋ว ลดาวัลย์ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 54 08:36:59

ความคิดเห็นที่ 7 ภาพ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 54 08:38:54

ความคิดเห็นที่ 8 ท่าละสังขารของหลวงพ่อสุ่น หลวงพ่อสุ่นท่านละสังขารในท่าเข้านอนสีหไสยยาสน์ ระงับเวทนาและท่านก็เข้านิโรธออกไปเลย ซึ่งไม่ใช่เป็นการจัดการศพหลังจากท่านมรณะภาพ เพราะร่างกายจะแข็ง จัดห่มคลุม จัดท่าได้ยาก แต่นี่ท่านได้ห่มคลุมจีวรเรียบร้อยแล้วค่อยละสังขารไป จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 54 08:57:38

ความคิดเห็นที่ 9 ขอขอบพระคุณ คุณผ้าพับไว้, คุณBryophyta, คุณV_Mee และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณหนุ่มรัตนะ ที่ให้ความกระจ่างอย่างยิ่งค่ะ จากคุณ : เมฆน้อยลอยอ้อยอิ่ง เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 54 09:56:39

ความคิดเห็นที่ 10 ในพระราชนิพนธ์"ประพาสต้น" ครั้งที่2(พ.ศ.2449)ของพระพุทธเจ้าหลวง กล่าวถึงหลวงปู่สุ่นไว้ว่า "วันที่5 เช้าโมงหนึ่ง น้ำลดสะพานเดินได้ขึ้นไปถ่ายรูปในมณฑปที่พูดเมื่อวานนี้ มีพระป่าเลไลย และรูปเจ้าอธิการวัดบางปลาหมอ ที่เขาเรียกในคำจารึกแต่ว่าพระอาจารย์หมอ รูปร่างหน้าตางาม ขนาดเท่าตัว ท่านอาจารย์คนนี้เป็นหมอรักษาบ้า ว่าเป็นพระญาติสมเด็จพระปวเรศ" ขอเรียนถามท่านผู้รู้ว่าหลวงปู่สุ่น ท่านมีความเกี่ยวข้องกับสมเด็จพระปวเรศในทางใดบ้าง เพราะที่ไปสนทนากับเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ท่านก็สัณนิษฐานว่า หลวงปู่สุ่นนี้อาจเป็นพระราชวงศ์เพราะในละแวกนั้นไม่มีสาแหรกของท่านอยู่เลย จากคุณ : เมฆน้อยลอยอ้อยอิ่ง เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 54 10:35:08

ความคิดเห็นที่ 11 หากย้อนลำดับสายแห่งพระราชบิดาของสมเด็จพระปวเรศ ฯ ได้ดังนี้ พระราชบิดาของสมเด็จพระปวเรศ คือ สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์ (พระโอรส ร.๑) และเป็นพระเจ้าน้องยาเธอในรัชกาลที่ ๒ คาดว่าสมเด็จพระปวเรศ พระชนมายุมากว่าหลวงพ่อสุ่น ๕-๖ ปี แต่จะเป็นญาติทางไหนคงต้องวิเคราะห์กันต่อไปครับ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 54 10:55:49

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าจะเป็นพระญาติ  น่าจะเป็นทางพระมารดา  เพราะหากเป็นพระญาติทางกรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์แล้ว  ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ ซึ่งทรงเป็นกุลเชษฐ์ของพระบรมราชวงศ์  ย่อมจะทรงรู้จักหรือสืบสาวถึงความเกี่ยวเนื่องได้  เพราะลำดับชั้นและชนมายุน่าจะยังพออ้างอิงกันได้ จากคุณ : V_Mee เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 54 21:49:09

ความคิดเห็นที่ 13 สมเด็จกรมพระยาปวเรศ เป็นพระโอรสในสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์ ที่ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาน้อยเล็ก (ไม่ทราบที่มาของท่าน) โดยมีพระอนุชาร่วมครรโภทร อีก ๒ พระองค์คือ พระเจ้าราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสาททิพากร และ พระเจ้าราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ายุคันทร กรมหมื่นอนัตตการฤทธิ์ หากนับว่าเป็นพระญาติ ก็ต้องไปค้นหาสาแหรก ของเจ้าจอมมารดาน้อยเล็ก ว่าท่านมีนิวาสสถานจากแหล่งใด และมีพี่น้องอย่างไรบ้าง จากคุณ : พระนายไวย เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 54 21:55:11

ความคิดเห็นที่ 14 ขอเสริมประเด็นเรื่องการมรณภาพของหลวงปู่วัดบางปลาหมอสักนิดครับ ผมไม่แน่ใจว่า ที่คุณหนุ่มเขียนว่า หลวงปู่ท่านละสังขารโดยเข้านิโรธแล้วไปเลยนั้น จะหมายถึงว่า ท่านเข้าสมาบัติในระดับ สัญญาเวทยิตนิโรธ( นิโรธสมาบัติ ) ตามปกติ พระที่ท่านได้สมาบัติต่าง ๆ โดยมาก ท่านจะละสังขาร โดยการออกจากร่างกายหลังจากเข้าฌาน ๔ ครับ แม้แต่ในพระพุทธประวัติ ก็จะพบว่าองค์สมเด็จพระทศพล ก็ทรงปรินิพพานหลังจากทรงเข้าฌาน ๔ ครับ ส่วนท่าละสังขารแบบนี้ เท่าที่เห็นก็ยังมีพระดีอีกองค์ที่ละสังขารท่านี้ คือ หลวงปู่เนียม วัดน้อย อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ซึ่งก็เป็นพระอีกองค์ที่เป็นครูของหลวงปุ่วัดบางนมโคครับ จากคุณ : ผ้าพับไว้ เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 54 11:48:22

ความคิดเห็นที่ 15 ชอบภาพหลวงปูสุ่นครับ..สวยมาก........อยากได้ครับ..ถ้าจขกท.จะให้บูชา หลังไมค์มาได้นะครับ..ชอบจริงๆ จากคุณ : chattarin1970 เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 54 14:03:09

ความคิดเห็นที่ 16 รบกวนเรียนถามคุณหนุ่มรัตนะ จากรูป ที่วงสีแดงไว้นั่นคือ พระนามย่อของพระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์ ใช่หรือไม่คะ แล้วพอจะทราบหรือไม่คะว่ามีหลวงพ่อหรือหลวงปู่รูปใดได้รับพัดรองแบบนี้บ้าง แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 54 15:28:10 แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 54 14:49:29 จากคุณ : เมฆน้อยลอยอ้อยอิ่ง เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 54 14:49:09

ความคิดเห็นที่ 17 ขอโทษค่ะลืมรูป จากคุณ : เมฆน้อยลอยอ้อยอิ่ง เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 54 14:53:11

ความคิดเห็นที่ 18 คุณchattarin1970คะ ทางคณะเราได้จัดพิมพ์หนังสือประวัติหลวงปู่สุ่น ฉบับพิมพ์ครั้งที่1ไว้เป็นธรรมทาน หากคุณchattarin1970หรือท่านผู้ใดสนใจ  ส่งที่อยู่มาที่หลังไมด์ของเรา เราจะจัดส่งให้ค่ะ ถ้าคุณchattarin1970สนใจบูชาเป็นภาพขนาดใหญ่ บูชาได้ที่วัดบางปลาหมอค่ะ เลยวัดบางนมโคไปนิดเดียว ส่วนในการจัดพิมพ์ครั้งที่2นั้น ทางคณะของเราต้องการค้นคว้าข้อมูลให้ละเอียดสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เราจึงมาขอความรู้จากท่านผู้รู้ในห้องนี้ค่ะ ขออนุโมทนาในผลบุญนี้ ขอให้ทุกๆท่านเจริญในผลบุญนี้มากยิ่งๆขึ้นไปอีก จากคุณ : เมฆน้อยลอยอ้อยอิ่ง เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 54 15:18:53

ความคิดเห็นที่ 19 คณะของเราได้ถวายหุ่นไฟเบอร์หลวงปู่สุ่นในงานกฐินปีที่แล้วของวัดบางปลาหมอค่ะ จากคุณ : เมฆน้อยลอยอ้อยอิ่ง เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 54 15:24:48

ความคิดเห็นที่ 20 ท่านนั่งอยู่เป็นพระประธาน ตามด้วยท่านเจ้าอาวาสค่ะ จากคุณ : เมฆน้อยลอยอ้อยอิ่ง เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 54 15:26:46

ความคิดเห็นที่ 21     กราบ หลวงปู่สุ่น   *** วัดบางปลาหมอ อย่างสุดหัวใจ เจ้าค่ะ *** จากคุณ : ปาดศรี เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 54 17:18:04

ความคิดเห็นที่ 22 ใช่แล้วครับคุณเมฆน้อยฯ เป็นการผูกอักษรย่อพระนาม ลักษณะแบบนี้เรียกว่า "นมพัด" ทำด้วยวัสดุหลายอย่าง เช่น โลหะ ไม้ งาช้าง ทองแดง แต่ดูจากภาพไม่แน่ใจว่าจะเป็นการปักผ้าเดินลายอักษร หรือว่าเป็นการฝังมุก นะครับ ในภาพพระเกจิที่ผมมีตอนนี้ยังหาไม่พบพระอาจารย์ที่ถ่ายภาพกับพัดรองที่ระลึกนี้ เพราะเก่าแก่มากตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๒๙ หากพระอาจารย์ท่านอื่นได้พัดรองในวโรกาสที่สำคัญ ๆ กว่านี้ก็เปลี่ยนการถ่ายภาพกับพัดรองได้ อนูโมทนาบุญทำหนังสือด้วยนะครับผม ไว้หนังสือเสร็จแล้วน่าจะขอมาอ่านสักหน่อยก็ดีนะครับ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 54 18:21:24

ความคิดเห็นที่ 23 ภาพที่คุณหนุ่มรัตนะนำมาให้ชมเป็นบุญตานั้น  น่าจะเป็นพระราชาคณะในฝ่ายธรรมยุติกนิกาย (ดูจากการห่มผ้าไม่มัดอก พัดเล่มบนน่าจะเป็นพัดยศพระราชาคณะชั้นเทพหรือชั้นธรรมเลยทีเดียว  พัดรองแถวบนเล่มทางซ้ายดูออกทึมๆ ไปนิด  แต่พอสังเค้าโครงได้ว่าเป็นพัดรัตนาภรณ์ในรัชกาลที่ ๖  (พัดรัตนาภรณ์นี้ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ ทรงสร้างพระราชทานพระภิกษุที่ทรงนับถือเป็นส่วนพระองค์แทนเหรียญรัตนาภรณ์ที่พระราชทานแก่ข้าราชการ)  เล่มกลางเป็นพัดงานพระเมรุรัชกาลที่ ๖  ถัดไปเป็นพัดไอยราพตที่รัชกาลที่ ๕ โปรดให้สร้างขึ้น  ถัดไปทางขวาที่เห็นพระมหาเศวตรฉัตรเป็นพัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกรัชกาลที่ ๗ ภาพนี้พอจะระบุได้ว่าถ้่ายในรัชกาลที่ ๗ แน่นอนครับ จากคุณ : V_Mee เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 54 23:49:27