 |
งานแปลอังกฤษไทย ไทยอังกฤษ ที่จะแปลให้รวดเร็วแม่นยำ แล้วคำแปลออกมาดูดี แล้วนักแปลได้เงินวันละ 10,000 บาทให้่ได้นั้น ถ้าเก่งระดับเทพ รับมาหน้าละ 700 บาท ตัวหนังสือโปร่งๆ มีแค่หน้าละ 25 บรรทัด แบบนี้แปลไม่เกิน 6 ชม ก็ได้ 15 หน้า (เงิน 10,500 บาทวันนั้นก็ได้แล้ว) หรือถ้ารับมาหน้าละ 1,000 บาท ตัวหนังสือไม่โปร่งมากแต่ไม่แน่นมาก (มีประมาณ 32 บรรทัด) แบบนี้แปลไม่เกิน 6 ชม ก็ได้ 10 หน้า (เงิน 10,000 บาทวันนั้นก็ได้แล้ว) ยิ่งรับมาได้หน้าละ 1,500 บาท ยิ่งทำเป้าได้ง่ายกว่า แต่จะรับงานได้ rate นี้นักแปลต้องมีฝีมือดีมากจริงๆและมีลูกค้าประจำดีๆมากพอสมควร หรือการตลาดดีจริงๆ หรือมี connections ดีจริงๆ ถึงจะรับงาน rate สูงๆ แบบนี้ได้
^ แต่ถ้าคุณไม่เก่งระดับนั้น เอาแค่แปลไทยอังกฤษ อังกฤษไทย ดีพอใช้การได้ นะ เราจะเผยเคล็ดลับให้ว่าคุณรับงานราคาถูกๆ ก็พอ เอาแค่หน้าละ 400 - 500 บาท (หมายถึงนักแปลต้องรับเองไม่ผ่านร้านแปลนะ)
"คุณจะแปลยังไงให้ทำเงินได้วันละ 10,000 บาท!"
^ ฟังแล้วเหมือน impossible ใช่ไหมล่ะ แต่มันเป็นไปได้
เพราะเพื่อนนักแปลคนที่เราพูดถึงใน คหห 3 ทำได้สบายๆเลยหละ เคล็ดลับก็คือ เธอทำ website ที่มี web contents ดึงดูดลูกค้ามากๆ และเธอรู้วิธีทำ search engine optimization จน google มันหา website เธอเจอในลำดับต้นๆ
^ แล้วแปลยังไงถึงได้เงินไวขนาดนั้น เคล็ดลับก็คือ
"แปลแต่เอกสารไปรับรองที่กรมการกงสุลกระทรวงการต่างประเทศ"
^ แปลพวกเอกสารแต่งงานระหว่างไทยกับต่างชาติ พวกจดทะเบียนสมรสบันทึกทะเบียนสมรส ทะเบียนการหย่าบันทึกการหย่า และรับบุตรบุญธรรมบันทึกทะเบียนรับบุตรบุญธรรม ป.ต. 14 (เอกสารสอบปากคำสถานภาพคู่สมรส) หนังสือรับรองโสด เอกสารจดทะเบียนบริษัทห้างร้านฯลฯ งานพวกนี้คนที่ไม่เคยแปลจะงงอย่างเช่นไปเจอภาษาพวกที่ว่าการอำเภอเขียนบางทีจะแปลแล้วเพี้ยนไปเลย แต่คนที่เคยแปลงานก๋วยเตี๋ยวเรือจะแปลไวมากๆ แล้วรับแค่หน้าละ 400-500 บาท แต่แปลยังไง โดยแปลแค่ครึ่งวัน ก็ได้เงิน 10,000 บาท (จริงๆแล้วเพื่อนเรารับงานหลายราคา มีรับหน้าละ 700 บาท - 1,500 บาทด้วย แต่เป็นงาน PR ที่ต้องใช้ภาษาระดับสูงๆ ซึ่งเพื่อนเราก็ไม่แปลให้ปวดหัว เธอส่งคนอื่นแปลไปซะก็หมดเรื่อง แล้วกินหัวคิวนักแปลคนอื่นไปบ้าง แต่ก็ไม่โหดเหมือนร้านแปลก๋วยเตี๋ยวเรือ)
คำตอบง่ายๆก็คือ พวกเอกสารที่แปลไปให้กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ รับรองสำหรับคนที่เคยแปล มันจะใช้เวลาแปลหน้าละไม่เกิน 20 นาที
^ เคล็ดลับอันแรก็คือ อย่าไปเขียนภาษาอังกฤษสวยมากเกินไป เพราะ จนท กระทรวงมันไม่รู้คุณค่า มันจะตีกลับมา เพราะแปลไทยเป็นอังกฤดีๆไม่เขียนภาษาอังกฤษแบบไทยๆ นักแปลจะต้อง paraphrase ซึ่งการ paraphrase ทำให้ จนท ตรวจเอกสารลำบาก และ จนท ไม่ bilingual พอ มันจะตีกลับมาไม่ยอมรับรองให้ หาว่าแปลไม่ตรงภาษาไทย ดังนั้นการแปลแบบไม่สวยมากมันทำให้แปลได้รวดเร็วมากๆ
^ ซึ่งเราจะคำนวณเวลากับเงินให้ดู
ถ้ารับงานเอกสารจดทะเบียน0สมรสไทยกับฝรั่งจากจากลูกค้า 4 รายนะ สมมุติว่าแต่ละรายมีแปล 4 แผ่น แผ่นละ 500 บาท ก็ได้ 2,000 บาท + 1,000 บาทค่ารถไปกลับไปยื่นกระทรวง (+ ค่ารับรองกระทรวงชุดละ 400 บาท เป็นอีก 1,600 บาท ที่ต้องให้กระทรวงไป ซึ่งนักแปลไม่ได้นะ)
^ ตกลงนักแปลก็จะได้ 2,000 บาท + 1,000 บาท = 3,000 ต่อลูกค้า 1 ราย
มีลูกค้า 4 รายก็จะได้ 12,000 บาท ต่อการแปล 16 หน้า
ซึ่งเอกสารพวกนี้บรรทัดน้อยมากๆ แปลหน้าละไม่เกิน 20 นาที ใช้เวลาแปล 16 หน้านี่ก็ 320 นาที = 5 ชม 20 นาที ต่อวัน เงิน 12,000 บาทที่ได้มา เราเจียดไป 1,000 บาท จ้างให้มอเตอร์ไซค์รับจ้างมันวิ่งไปยื่นกระทรวง 500 บาท แล้วรออีก 2-3 วันจ้างมันให้กลับไปรับเอกสารจากกระทรวง อีก 500 บาท
^ นักแปลจะแปลแค่ไทยอังกฤษ อังกฤษไทย คุณภาพปานกลางไม่เลิศเลอ perfect นัก ทำงานแค่ 5 ชม 20 นาที ก็ได้เงิน 12,000 บาท - 1,000 บาท (ค่ามอเตอร์ไซค์) = 1,1000 บาท ต่อวัน หักค่าส่งเอกสารให้ลูกค้า 4 ราย ทาง EMS อีกแค่ไม่กี่ร้อยบาท นักแปลก็มีรายรับประมาณ 10,000 บาท กว่าๆ ต่อวัน ได้สบายๆ
^ แต่ทั้งนี้ คุณจะทำเป้านี้ได้สำเร็จคุณจะต้องมี
1. website ที่ประสบความสำเร็จ (มี web contents ที่ถูกหลักการตลาด และ google หาเจอในระดับต้นๆ) เหมือนที่เพื่อนเราทำได้
2. คุณต้องพยายามทำการตลาดเพื่อมุ่งหวังรับแต่ลูกค้าที่อยู่ต่างจังหวัดซะเป็นส่วนใหญ่ เพื่อให้ได้ค่ารถยื่นกระทรวงจากลูกค้ารายละ 1,000 บาท ลูกค้ายอมจ่ายแน่ๆ เพราะมันถูกกว่านั่งรถไปกลับต่างจังหวัดกับ กทม แถมยังต้องจ่ายค่าที่พักใน กทม ค้างคืนอีกตั้ง 2-3 วัน (เพราะกระทรวงใช้เวลารับรองเอกสาร 2 วัน นับจากวันที่ยื่น)
ตกลง คนที่รู้ทางหนีทีไล่น่ะ ทำงานแปลไม่ถึงกับเจ็บตัวมากนักหรอก แต่คนที่ไม่รู้ทางหนีทีไล่ ทำๆไปแล้วเครียดเส้นเลือดในสมองแตกตายแบบนักแปลรุ่นพี่ๆของเราที่ตายกันไปแล้วตั้ง 3-4 คนแน่ะ ที่เหลือแก่ตายหมดแล้ว เราเป็นนักแปลรุ่นพวกเขาเพียงคนเดียวที่เรียนวรยุทธ์การแปล (ที่ไม่มีสอนในหลักสูตรปริญญาโทการแปล) มาครบแล้วทุกกระบวนท่าเพลง หากแต่เรายังมีชีวิตอยู่ และเราก็ไม่อยากทำงานบ้าแปลจนบ้าเลือด เอาแค่พอมีเงินใช้นิดๆหน่อยๆก็พอแล้ว เพราะเราไม่มีรายจ่ายอะไรเลย บ้านก็ไม่ต้องเช่า และไม่มีซื้อของเงินผ่อนใดๆทั้งสิ้น ไม่ต้องให้เงินพ่อแม่เพราะพวกเขามีเงินเหลือใช้ เราหาเงินมาได้เท่าไหร่ก็ใช้แค่ค่ากินตัวเองซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์กับเสื้อผ้าบ้าง แล้วเอาเวลาว่างไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เรื่อยๆ (เรียนรู้ด้วยตัวเอง) ไม่ไปจมอยู่กับงานแปลจนเครียดแล้วเสียสติเหมือนเมื่อก่อน
ตอนนี้เราพยายามใช้ทักษะที่เราค้นข้อมูลได้ไวกับอ่านจับใจความแล้ว paraphrase ใหม่ได้ดีๆ (ที่ได้จากประสบการณ์แปลหลายปี) ในการค้นข้อมูลเพื่อที่จะมาเขียนหนังสือ howtos ซึ่งน่าจะได้เงินจาก สนพ มากกว่าแปลหนังสือให้ สนพ นะ เราว่าเราน่าจะหา สนพ ที่รับงานเขียนเราง่ายหน่อยเพราะเราพอจะมีสายสัมพันธ์กับ สนพ อยู่บ้างพอสมควร
ตกลงนี่เราเผยเคล็ดลับให้นักแปลหน้าใหม่ๆ ที่อยู่เข้ามาสู่วงการนี้ เพื่อให้อยู่รอดได้โดยไม่ต้องเจ็บตัวมากนัก
ขอให้ think positive แล้วโชคดีโดยถ้วนหน้ากัน!
ไปก่อนแระ ไปกินเบียร์พร้อมๆกับทดสอบ computer software ต่อ จะดีกว่า งานนี้รื้อระบบเลย ถ้าเราเมา computer เราคง go up the wall ได้อ้ะ แต่ก็สนุกดี...555+++...
แก้ไขเมื่อ 02 ก.ย. 54 13:40:11
แก้ไขเมื่อ 02 ก.ย. 54 13:39:11
จากคุณ |
:
fortuneteller
|
เขียนเมื่อ |
:
2 ก.ย. 54 13:22:17
|
|
|
|
 |