|  | 
๑.หากเราแคร์(Care)สรรพสิ่งมากขึ้น ไม่แบ่งฝ่ายไม่ว่าชีวิตคน สัตว์ ต้นไม้ เขาคือเราเราคือเขา(เลี้ยงสุนัขแต่กินสุนัข จิตพิสัยและสมองแบบนี้ กฏหมายมนุษย์ด้วยกันเองคงไร้ประโยชน์)
 ๒.ลดช่องว่างระหว่างอัตวิสัย/วัตถุวิสัย(Subjectivity/Objectivity)ลง
 
 ๓.ช่วยกันลดความต่างศักย์ทางชนชั้นสังคม,ทางอำนาจการเมือง,ทางการศึกษา,ทางเศรษฐกิจ
 ๔.ลดความต่างศักย์ของความเป็นเมืองหลวง-หัวเมือง-ชนบท ลง(มีผลต่อรูปแบบกายภาพ/ความต่างแหล่งงาน-เงินเลี้ยงชีวิต/การบังคับใช้กฏหมาย)
 ๕.ผู้ที่มีอำนาจสร้าง/รักษารัฐธรรมนูญและกฏหมายคือ นักการเมือง-และข้าราชการ/กลไกรัฐ,
 ส.ส.ผู้ทำหน้าที่นิติบัญญัติ/พัฒนากฏหมาย,ฝ่ายตุลาการ ล้วนเป็นผู้มีอิทธิพลลำดับต้น ต่อประชาชน
 คือการเคารพกฏหมายที่เท่าเทียมเสมอกัน ยุติธรรมไม่๒มาตรฐาน(ความต่างศักย์ทางการใช้กฏหมาย?)
 -------------------------------------------------
 
 เหตุการณ์เชิงประจักษ์:จากงานในองค์การอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ตาม รธน.๒๕๔๐/มาตรา๖๗วรรคสอง.
 กรณีมาบตาพุดเป็นเรื่องคอขาดบาดตายระดับเมือง(นิคม) ก็เป็นเรื่องของการละเมิดกฏหมายของทุกฝ่าย/ไม่บังคับใช้หรือไม่อาจบังคับใช้ได้
 (พรบ.ส่งเสริมสิ่งแวดล้อมฯ) คือผู้ประกอบการโรงงานสารก่อมลพิษ(คนไทยและต่างชาติ),
 องค์การนิคมอุตสาหกรรมที่มีอำนาจควบคุมตามกฏหมาย,
 กระทรวงฯที่เกี่ยวข้องและราษฎรทั้งปวงที่ยากจนและร่ำรวย ต่างทยอยอพยพเข้ามาหางาน ปักหลักเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง
 --------------------------
 ประเด็นการเคารพกฏหมาย ก็เหมือนประเด็นอื่น
 ไม่มีอะไรมากไปกว่าทุกคนควรปรับตัว(ปฏิรูป)ให้เร็วทันการเปลี่ยนแปลงของโลกาภิวัตน์
 
				 
				
					| จากคุณ | : 
ขามเรียง       |  
					| เขียนเมื่อ | : 
7 ก.ย. 54 11:41:34 |  
					|  |  |  |  |