ความคิดเห็นที่ 1 น่ำเล่ายี่  “มีนักเขียนใหม่อยู่ท่านนึงชื่อ จิ่วถู ซึ่งกอซิงแซแนะนำให้ผมนำมาแปล” กอเล่าซิงแซ “มันเป็นซีรีย์สามภาค ตอนนี้คนเขียนเขาเขียนมาสองภาคครึ่งแล้ว ชื่อภาษาจีนคือ สุยร่วน” น่ำเล่ายี่  “ซึ่งผมติอยู่ที่ว่ามันไม่ใช่กำลังภายใน และเรื่องนี้เขาเขียนยาวมากภาคแรกอยู่ในช่วงปลายสุยต้นถัง ไปจนถึงภาคสามที่บูเช็คเทียน ซึ่งไม่รู้ว่าคนอ่านจะรับได้ไหม? ตอนนี้ก็ต้นฉบับจีนซัดไปสามสิบกว่าเล่มแล้ว” กอเล่าซิงแซ “ก็มองว่ามันเหมือนกับเจาะเวลาหาจิ๋นซีสิ ที่ไม่ใช่กำลังภายในแต่สนุก พระเอกเรื่องนี้มีปฏิภาณไหวพริบดี และเก่งมากๆด้วย ในภาคแรกผมขอตั้งชื่อไว้ก่อนเลยว่า 'ยุทธการล่าแผ่นดิน' ผมไม่คิดค่าลิขสิทธิ์นะ” น่ำเล่ายี่  “ขอบคุณครับ” กอเล่าซิงแซ “ว่าแต่คุณแปลอุ้ยเสี่ยวป้อเสร็จแล้วหนิ แปลเรื่องนี้ต่อเลยแล้วกัน” แว่วเสียงจากเบื้องล่างเวทีว่า เซี่ยวเฮ้ง "ไม่ได้...ถ้าทำสุยร่วนนานเกือบสองปี...ต้องทำหลงเหยินก่อน!!!" น่ำเล่ายี่รับลูกโดยบอกว่า  “คงต้องทำเรื่องอื่นคั่นก่อนเพราะจะต้องใช้เวลานานกับสุยร่วน” กอเล่าซิงแซ “งั้นคุณไม่ต้องแปลทั้งหมดก็ได้ เพราะคุณแปลแค่ภาคหนึ่งก่อน เพราะภาคสองมันเสียที่ว่ากว่าพระเอกจะเก่งมันนาน คนจะเบื่อเอาได้ เพราะพระเอกภาคแรกเริ่มจากสิบ แต่ภาคสองพระเอกเริ่มจากติดลบ เพราะฉะนั้นทำภาคแรกก่อน แล้วค่อยพักมาทำหลงเหยินก็ได้” แว่วเสียงจากด้านล่างเวที เซี่ยวเฮ้ง “สำนักพิมพ์เขากำหนดแล้ว” ทั้งห้องโถงเก้ามังกรเงียบสงัด แม้เข็มสักเล่มนึงตกก็ได้ยินเสียง น่ำเล่ายี่  "ให้ผมได้พักก่อนแล้วกัน เพราะถ้าทำสุยร่วน มันเป็นเรื่องใหญ่ ภาคแรกก็สิบกว่าเล่มแล้ว เกรงว่าจะไม่ได้ทำเรื่องอื่น ไว้ปีหน้าค่อยทำแล้วกัน" นายหญิงบ้านหมื่นเหมยหันมองหน้าเซี่ยวเฮ้งแล้วเอ่ยวจีที่ไร้เสียงแต่อ่านจากริมฝีปากได้ความว่า "ช่างกล้านะเอ็ง!!!" แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 54 07:09:24 แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 54 23:23:31 จากคุณ : บัณฑิตHalfBlue เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 23:20:04

ความคิดเห็นที่ 2 น่ำเล่ายี่  “ตอนนี้เจิ้งฟงได้ออกเรื่องใหม่มาแล้ว ต้นฉบับจีนสามเล่มจบ กอซิงแซอ่านแล้วเป็นยังไงบ้าง?” กอเล่าซิงแซ “ผมขอตั้งชื่อเลยว่า 'จอมโจรลักแผ่นดิน' ไม่สงวนลิขสิทธิ์เช่นเคย” แว่วเสียงจากด้านล่างเวทีว่า ลิลลี่ "รัก รอเรือ หรือ ลอลิง" กอเล่าซิงแซ “ลอลิงครับ” น่ำเล่ายี่  “ขอบคุณอีกครั้งนึงครับที่กรุณาตั้งชื่อเรื่องให้” กอเล่าซิงแซ “ไว้แปลต่อจากยุทธการล่าแผ่นดินเลยก็ได้ แต่เรื่องนี้ผมไม่ค่อยชอบเท่าไร?” ด้านล่างเวที เซี่ยวเฮ้ง+นายหญิงฯ+ลิ้วชั้งเอี้ยง หันมองหน้ากันแล้วพูดพร้อมกันเบาๆว่า "มันต้องสนุกแน่นอน" กอเล่าซิงแซ “เพราะพระเอกเรื่องนี้ไม่เก่งด้านวิชายุทธ์ แต่เก่งเรื่องลักขโมย” น่ำเล่ายี่  “ก็เรื่องเขาก็บอกแล้วว่า 'ทีแอ๋ซิ้งเทา' จอมโขมยแห่งใต้หล้า” กอเล่าซิงแซ “แต่เจิ้งฟงเขียนเรื่องนี้ได้ดีตรงที่ว่า พระเอกต้องแบกรับความผิดเพื่อเข้าไปขโมยของกับฝ่ายตรงข้าม ซึ่งตรงนีเจิ้งฟงเขียนได้ดราม่ามาก ผมชอบในจุดนี้นะ” ด้านล่างเวที เซี่ยวเฮ้ง+นายหญิงฯ+ลิ้วชั้งเอี้ยง หันมองหน้ากันแล้วพูดพร้อมกันเบาๆว่า "ซวยแล้ว กลับมาชอบทำไมฟร่ะ?" แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 54 23:37:04 จากคุณ : บัณฑิตHalfBlue เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 23:35:22

ความคิดเห็นที่ 3 กอเล่าซิงแซ “กลับมาที่สุยร่วนนิดนึง” น่ำเล่ายี่  “กอซิงแซมีความเห็นยังไงกับเรื่องนี้” กอเล่าซิงแซ “ผมถือว่าจิ่วถูเขากล้ามากนะ ที่เขียนประวัติศาสตร์ยุคเดียวกับมังกรคู่ฯ แต่มุมมองเขากลับแปลกไปจากของหวงอี้” น่ำเล่ายี่  “กอซิงแซให้คะแนนเท่าไร? สำหรับเรื่องนี้” กอเล่าซิงแซ “เอาอย่างงี้นะ ถ้าจอมคนแผ่นดินเดือด ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่สุดของหวงอี้ได้100 คะแนน สุยร่วนภาคแรกผมให้ถึง 92 คะแนนทีเดียว” ด้านล่างเวที เซี่ยวเฮ้ง+นายหญิงฯ+ลิ้วชั้งเอี้ยง หันมองหน้ากันแล้วพูดพร้อมกันเบาๆว่า "มันต้องไม่สนุกแน่นอน!!" จากคุณ : บัณฑิตHalfBlue เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 23:41:46

ความคิดเห็นที่ 4 น่ำเล่ายี่  “อย่างตอนนี้ที่จีนแผ่นดินใหญ่ก็มีนักเขียนที่น่าสนใจอยู่สองสามคน” กอเล่าซิงแซ “แต่ผมมองว่ามันออกแฟนตาซีเกินไป ไอ้ครั้นจะเอานักเขียนเก่าๆ มาทำก็ไม่น่าสนใจ อย่างเซี่ยวกัวเตี้ยนี่แต่ก่อนผมชอบนะ แต่ตอนนี้กลับมาอ่านอีกทีอย่างเรื่องอะไรนะ ฉิกโป่วกังคออะไรเนี่ย” น่ำเล่ายี่  “ศึกสายเลือด ของพี่ ว.” กอเล่าซิงแซ “นั่นแหละ แต่ก่อนผมอ่านต้นฉบับภาษาจีนผมชอบมาก แต่ตอนนี้มาอ่านอีกที รู้สึกว่ามันไม่ค่อยได้อรรถรส เพราะนิยายเก่าๆ มันมีจุดบอดอยู่เรื่องนึงตรงที่ไม่มีที่มาที่ไปของ 'เงิน' ของพวกตัวเอกว่าทำมาหากินอะไร ถึงมาเงินมาใช้จ่าย อย่างตั้งคี้ซิมในเรื่องศึกสายเลือดยังจนถึงขนาดซํกผ้าเช็ดหน้าที่มีอยู่ผืนเดียวจนขาวสะอาด อันนี้ค่อยสมเหตุสมผลหน่อย” น่ำเล่ายี่  “งั้นกอซิงแซกำลังหมายถึงเรื่อง 'มาเฟียบู๊ลิ้ม' ใช่ไหม?” กอเล่าซิงแซ “ใช่ เพราะแม้กระทั่งของกิมย้งก็มีจุดบอดในเรื่องที่มาของเงินที่ตัวเอกใช้ แต่เรื่องนี้เขาอธิบายเลยว่าการได้มาซึ่งเงินทองของตัวเอกมีที่มายังไง? ค่ายพรรคสมาคมเอาเงินมาจากไหน?” ด้านล่างเวที เซี่ยวเฮ้ง+นายหญิงฯ+ลิ้วชั้งเอี้ยง หันมองหน้ากันแล้วพูดพร้อมกันเบาๆว่า ลิ้วชั้งเอี้ยง "ดำกินดำ!!" นายหญิงฯ "ชอลิ้วเฮียงมีที่นาให้เช่า!!" เซี่ยวเฮ้ง "ลอกมือพิสดารของท่านมัตซึโอะชัดๆ" กลับไปที่บนเวที น่ำเล่ายี่  “แต่คงยังไม่แปลตอนนี้นะ หึหึหึ  เพราะที่ไล่มาก่อนหน้านี้ สิ้นปีหน้าก็ยังไม่หมดเลย” แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 54 01:05:14 แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 54 00:01:04 จากคุณ : บัณฑิตHalfBlue เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 23:56:22

ความคิดเห็นที่ 5 พิธีกร "ไม่ทราบว่าทางฟลอร์มีคำถามจะถามไหมค่ะ?...เชิญค่ะ" ลิ้วชั้งเอี้ยง "ไม่ทราบว่าคุณน่ำเล่ายี่มีโครงการที่จะนำเอาเรื่องของนักเขียนเก่าๆ มาแปลไหมครับ ไม่ว่าจะเป็น ลิ้วชั้งเอี้ยง เซียวอิด ซีเบ๊เหล็ง หรือ ฮุนตงงัก เพราะนักเขียนใหม่ๆ เขียนใช้ไม่ค่อยได้ อย่างหวงอี้เนี่ย เขียนดีแค่เรื่องเดียวคือ เหยี่ยวเหนือฟ้า ที่เหลือใช้ไม่ได้" ทั้งห้องโถงเก้ามังกรฮือฮากันดังสนั่น ลิ้วชั้งเอี้ยง "ไม่ว่าจะเป็นมังกรคู่ฯ ที่ตัวละครก็ลอกดาบกระชากเลือดของซีเบ๊เหล็งมาทั้งดุ้น และก็เขียนโครงเรื่องใหญ่แต่คุมโครงเรื่องไม่อยู่ ออกทะเลจนกู่ไม่กลับ โดยเฉพาะจอมคนแผ่นดินเดือด มีแต่น้ำ ทั้งเรื่องไม่เดินไปไหน ตัวละครก็ไม่ชัดเจน ตัวนางเอกก็ซ้ำๆ ซากๆ ปิดชื่อแล้วอ่านคำพูดยังแยกไม่ออกเลยว่าใครพูดไม่เหมือนกิมย้งโกวเล้งที่อ่านปุ๊บรู้ปั๊บว่าใครพูด" ทั้งห้องโถงเงียบกริบ นายหญิงฯหันมาถามเซี่ยวเฮ้งว่า "พี่ลิ้วแกกะจะถล่มมารดามันจริงๆเลยใช่ไหม?" น่ำเล่ายี่รีบแก้สถานการณ์ว่า "ของลิ้วชั้งเอี้ยงผมมีอยู่เรื่องนึงผมซื้อมานานแล้ว แต่ไม่ได้แปล เพราะพี่ ว.แกแปลไว้แต่ไม่จบเรื่องอะไรน้า..." เซี่ยวเฮ้งตะโกนไปว่า "ยอดทรชน!!!" น่ำเล่ายี่ "นั่นแหละ ไว้ถ้ามีโอกาสอาจจะเอามาทำ แต่ต้องดูคิวก่อนนะ ผมไม่ได้รับปากอะไรนะ....ส่วนของฮุ้นตงงัก ผมอยากให้ลองอ่าน สุยร่วน ดูก่อนเพราะเขียนคล้ายฮุนตงงัก ตรงที่ฉากต่อสู้จะสมจริงจนนึกภาพตามได้เลย ส่วนของเซียวอิดที่ดีก็คือซีรีย์ราชวงค์หมิง ซึ่งเขาเขียนได้ดี" ลิลลี่ลุกขึ้นถามว่า "ทายาทมังกรใช่หนึ่งในนั้นไหมค่ะ" น่ำเล่ายี่ "ไม่ใช่ จะเป็นอีกเรื่องนึงเลย และนักเขียนอีกท่านนึงทีน่าสนใจคือฉิ่นอั้ง แต่เรื่องที่ดีที่สุดคือที่พี่ ว. แปล คือ บ้อซังเกี่ยม" พิธีกร "แล้วไม่ทราบว่ายังมีอยู่ในท้องตลาดไหม?" เซี่ยวเฮ้งพูดเสียงดังว่า "มี!!" และเบาเสียงลงว่า "ของสร้างสรรค์บุ๊คส์" ด้วยเกรงกลัวสายตาของไซมึ้งเต็งที่ชำเลืองมองมา จากคุณ : บัณฑิตHalfBlue เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 54 00:18:40

ความคิดเห็นที่ 6 55555555555555555 สุดบรรยายโดยเฉพาะ ด้านล่างเวที เซี่ยวเฮ้ง+นายหญิงฯ+ลิ้วชั้งเอี้ยง หันมองหน้ากันแล้วพูดพร้อมกันเบาๆว่า "มันต้องไม่สนุกแน่นอน!!" จากคุณ : saturn เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 54 00:23:07

ความคิดเห็นที่ 7 ใส่รูปปลากรอบให้ท่านบัณฑิต 1 รูปเพื่อเพิ่มบรรยากาศให้เล่าต่อ จากคุณ : mamiya เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 54 00:30:35

ความคิดเห็นที่ 8 อีกรูปนะ....รีบกลับมาเล่าเร็ว ๆ เนื้อหาอีกมาก จากคุณ : mamiya เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 54 00:36:25

ความคิดเห็นที่ 9 พิธีกรถามอย่างกลัวๆ กล้าๆ ว่า "ไม่ทราบยังมีคำถามอีกไหมค่ะ?....เชิญค่ะ" เซี่ยวเต็ก "ช่วงนี้มีนิยายจีนหลายเรื่องที่แต่งโดยคนไทย ไม่ทราบว่าคุณน่ำเล่ายี่ มีความเห็นยังไงบ้างค่ะ และมีนักเขียนคนใดที่ คุณน่ำเล่ายี่คิดว่ามีฝีมือเทียบเท่าของไต้หวันหรือจีนบ้างไหมค่ะ?" น่ำเล่ายี่ "มีอยู่คนนึงนะ เขาแต่งเรื่อง 'มือพิสดาร' ผมอ่านแล้วรู้สึกว่าใช้ได้ที่เดียว แต่ไม่รู้ว่าทางสำนักพิมพ์เขาติดต่อกันยังไงนะ แต่ผมบอกได้เลยว่า ถ้าเกาหลีเขามีนิยายกำลังภายในที่เขียนโดยคนเกาหลี ไทยเราก็มีไม่ยิ่งหยอ่นไปกว่ากันขอรับ" ลิลลี่ "ลี่แนะนำ พยัคฆ์คำรณ ค่ะ คนแต่งเป็นลูกครึ่ง เขาแต่งให้อ่านในเวบ เขาแต่งได้ดีมาก ลี่ชอบมาก เขาเขียนอีกเรื่องสองเรื่องคือ ดาบโลกันตร์ ที่จบแล้ว แต่อีกเรื่องยังไม่จบ" พิธีกร "แล้วไม่ทราบว่า พอจะมีเวบไหมค่ะ?" ลิลลี่ + นายหญิงฯ "อันนี้ไว้หลังไมค์แล้วกันค่ะ!!" แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 54 00:41:55 จากคุณ : บัณฑิตHalfBlue เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 54 00:38:06

ความคิดเห็นที่ 10 เมื่องานเสวนาเสร็จสิ้น เซี่ยวเฮ้ง "อาจารย์น่ำเล่ายี่ขอรับ มิทราบว่าอาจารย์จะให้เกียรติไปทานข้าวเย็นกับพวกผมได้ไหมขอรับ?" น่ำเล่ายี่ "เอาสิ ผมก็ยังอยากจะคุยกับพวกคุณอยู่เลย" จากนั้นก็ย้ายที่คุยมาเป็นร้านไซเล่อ ชั้นสอง สำนักใหญ่ฉิกจับอิด ระหว่างนั้นลิ้วชั้งเอี้ยงต้องขอตัวไปก่อน ในขณะที่นายหญิงใช้เคล็ดวิชาโยกย้ายฟ้าดินจนสำเร็จจึงได้นั่งกินกันต่อ ระหว่างทาง น่ำเล่ายี่ "ยังไงก็ให้ผมเลี้ยงพวกคุณมื้อนี่ก็แล้วกัน ตอบแทนที่พวกคุณเป็นนักอ่านที่เหนียวแน่นของผม" เซี่ยวเต็ก "ไม่ได้ค่ะ ต้องเป็นพวกหนูเลี้ยงอาจารย์ต่างหาก" นายหญิงฯ "ถ้าอาจารย์อยากตอบแทน อาจารย์ช่วยทำ 'ไร้จิตไร้ใจ' ออกมาให้อ่านเร็วๆ จะดีกว่าค่ะ" น่ำเล่ายี่ "ต้นฉบับเขาส่งมาแล้วน่ะ แต่ยังไม่ครบล่ะนะ" เซี่ยวเฮ้ง "เห็นเล่าปาฯบอกว่าท่านอุนเขียนในเวบใกล้จบแล้ว แต่....." นายหญิง "แต่อะไรเฮ้งน้อย" เซี่ยวเฮ้ง "แต่มันยังไม่ใช่ตอนจบ เพราะจบไร้จิตไร้ใจคือจบวัยหนุ่มบ้อเช้ง จะต้องมีอีกตอนนึงถึงจะฆ่าขุนพลสยองขวัญได้" ลิลลี่+นายหญิงฯ+เซี่ยวเต็ก "เวรกรรม!!" แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 54 01:00:29 จากคุณ : บัณฑิตHalfBlue เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 54 00:58:48

ความคิดเห็นที่ 11 เวรกรรม!! จากคุณ : thrasherjeff666 เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 54 01:17:14

ความคิดเห็นที่ 12 ภาพรวมไม่รู้กี่เรื่อง  เอามาประกอบเรื่องเล่า จากคุณ : mamiya เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 54 01:50:05

ความคิดเห็นที่ 13 ถล่มกันจิงๆด้วย จากคุณ : dorajung99 เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 54 02:05:44

ความคิดเห็นที่ 14 @12 ฝ่าความตาย Hero ฟงอวิ๋น คัมภีร์กระเรียนเซียนเหยียบฟ้า ไม่มีน่ำตาวีรบุรุษ ดาบมังกรหยก มังกรหยก มังกรคู่สู้สิบทิศ ผู้ยิ่งใหญ่ ลี้คิมฮวง รอยแหนเงาจอมยุทธ์ เดชขนนกยูง และอะไรไม่รูอีกสี่เรื่อง ขอรับ ส่วนข้างล่าง มังกรหยก แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 54 07:47:19 แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 54 07:06:27 จากคุณ : บัณฑิตHalfBlue เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 54 07:01:55

ความคิดเห็นที่ 15 เพลงกระบี่ที่สิบห้าของอี้จับซา จากคุณ : บัณฑิตHalfBlue เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 54 07:25:16

ความคิดเห็นที่ 16 ย้อนกลับไปที่ห้องโถงมังกร สำนักใหญ่ฉิกจับอิด น่ำเล่ายี่เดินมาหาเซี่ยวเฮ้ง ขณะที่มีการแสดงบนเวที พร้อมถามว่า น่ำเล่ายี่ "เฮ้งน้อย คุณรู้ไหมว่าเพลงนี้ผู้ชายที่ร้องชื่ออะไร?" เซี่ยวเฮ้งด้วยอารามตกใจเพราะนั่งคุยกับมวลหมู่กำลังเพลินจึงตอบไปว่า "ไม่ทราบขอรับ" นายหญิงฯ "รู้สึกว่าจะชื่อ Alan Tam ค่ะ" เซี่ยวเฮ้ง "ไม่ใช่ขอรับ Ronald Tam แต่ผมไม่รู้ชื่อภาษาจีน" น่ำเล่ายี่ "อย่างงั้นรึ??" เมื่อน่ำเล่ายี่เดินไปนายหญิงฯก็หันมาเอ่ยมธุรสวาจาว่า นายหญิงฯ "เดี๋ยวนี้เก๋นะย่ะ ถึงกับให้น่ำเล่ายี่เดินมาคุยด้วย" เซี่ยวเฮ้ง "ไม่ถึงขั้นนั้นขอรับ" น่ำเล่ายี่เดินกลับมาอีกครั้งพร้อมถามต่อว่า น่ำเล่ายี่ "คนนี้ใช่ที่ร้องลี้คิมฮวงด้วยใช่ไหม?" เซี่ยวเฮ้งอารามตกใจก็ตอบไปว่า "ครับ" น่ำเล่ายี่ก็เดินกลับไป นายหญิงฯก็เอื้อนเอ่ยมธุรสวาจาอีกคราว่า นายหญิงฯ "ฉันว่านะ แกขึ้นไปเป็นพิธีกรซะเลยดีกว่าไหม?" เซี่ยวเฮ้ง "ก็อยากอยู่" เซี่ยวเฮ้ง + นายหญิงฯ + ลิ้วชั้งเอี้ยง "5555555" จากคุณ : บัณฑิตHalfBlue เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 54 08:17:22

ความคิดเห็นที่ 17 ลงคลิปผิด ขออภัยๆ จากคุณ : บัณฑิตHalfBlue เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 54 08:25:33

ความคิดเห็นที่ 18 ข้าพเ้จ้าชื่นชมนะคะที่มีการจัดเสวนาแบบนี้ เพราะปกติข้าพเจ้าไม่ค่อยได้อัพเดทข้อมูลหนังสือกำลังภายในที่ยังไม่ได้แปลมาเป็นภาษาไทยซักเท่าไหร่  ก็รู้สึกว่าอยากจะฟังว่าทางเมืองจีนเค้ามีเรื่องอะไรที่น่าแปลมาบ้าง และตอนนี้เราีมีแนวโน้มว่าจะได้อ่านอะไรกันในอนาคต  จะอย่างไรข้าพเจ้าก็เคยผ่านยุคสมัยของการไม่มีอะไรอ่าน ได้แต่วนเวียนอ่านเรื่องเก่าๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่ามาจนกระทั่งกระแสกำัลังภายในกลับมาตีพิมพ์อีกครั้งพร้อมเรื่องใหม่ๆ ความรู้สึกอยากอ่านเรื่องใหม่ๆ นั้นมีอยู่เต็มเปี่ยมค่ะ เพราะหลังๆ กลับไปอ่านเรื่องเก่าๆ แล้วความสนุกน้อยลงกว่าที่เคยอ่านสมัยเด็กๆ จริงๆ สิ่งที่เราคุยกันหลังจากงานเสวนาก็คือ กำลังภายในยุคเดิมนั้นมิติตัวละครเป็นไปด้านเดียว ในขณะที่ยุคหลังๆ มิติตัวละครกว้างมากขึ้น คนอ่านได้เปลี่ยนไปแล้ว คนอ่านรุ่นปัจจุบันอาจจะไม่ชอบผลงานเก่าๆ   สิ่งนี้จะว่าไปก็มีผลอย่างยิ่งต่อการเลือกที่ีจะแปลเรื่องอะไร ตัวข้าพเจ้าคิดว่านิยายรุ่นหลังๆ แบบหวงอี้นั้นมีการแสวงหาหนทางใหม่ๆ เช่นนำเอาปรัชญาศาสนามาผนวกกับวิทยายุทธ แต่ข้อที่ข้าพเจ้าไม่ชอบคือตัวละครมีแนวคิดสมัยใหม่กันเกินไปทำให้อารมณ์แบบกำลังภายในสูญเสียไปไม่น้อย อนึ่งการที่คิดแบบสมัยใหม่นี่แหล่ะที่ทำให้ตัวละครดูเฉลียวฉลาดในขณะที่บุคคลิกก็ไม่ได้ดำจัดขาวจัดซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดปัจจุบันที่ว่าไม่มีใครดีหรือเลวเพียงด้านเดียวซึ่งจริงๆ ไม่ใช่ข้อเสีย อาจเป็นที่ข้าพเจ้าเองที่หวนหาอารมณ์ในอดีตสมัยเด็ก ๆ เลยอยากจะอ่านอะไรเชยๆ แต่อีกใจหนึ่งก็ยอมรับว่าเงื่อนไขของเวลาทำให้กำลังภายในต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้คงอยู่ได้ กำลังภายในแบบเชยๆ ของข้าพเจ้านั้นคงเป็นที่ข้าพเจ้าต้องการอ่านอะไรที่ไม่ใคร่จะสมจริงนัก อ่านบุคคลิกและพฤติกรรมของคนที่หาไม่ใคร่ได้ง่ายนักในโลกของความจริง เรื่องของเซียวอิด มีการคุยกันในงานเสวนาว่าได้รับการยกย่องเทียบเคียงกับกิมย้งด้วยซ้ำ ข้าพเจ้าก็ออกจะชอบเซียวอิดอยู่มาก เพราะตัวละครมักจะฝึกวิชาจากธรรมชาติ หรือคิดวิชาได้เองจากการดูสัตว์ต่อสู้กัน (ซึ่งก็มาจากธรรมชาติอีก) แต่ก็มีการเล่าว่าเรื่องแย่ๆ ก็มีอยู่มากเช่นกัน เรื่องของนักเขียนท่านนี้จะว่าไปก็มีแปลมาเป็นภาษาไทยน้อย ถ้ามีโอกาสข้าพเจ้าก็อยากให้หาเรื่องดีๆ ของเีซีียวอิดมาแปลให้นักอ่านชาวไทยได้ชื่นชมบ้าง ฮุ้นตงงักนั้นก็มีการพูดคุยกันอยู่ค่ะ ข้าพเจ้าว่างานของฮุ้นตงงักนั้นบางเรื่องก็เชยๆ แบบมาตรฐาน แต่เรื่องยุคหลังๆ นั้นค่อนข้างสมจริงกล่าวคือ ตัวละครสร้างตัวจากคนธรรมดา ไม่ได้มีชาติตระกูลสูงส่งแต่มีความทระนง และฝึกฝนด้วยตัวเองคือค่อนข้างสู้ชีวิต ถ้าจะมีการแปลก็คงต้องเลือกเรื่องยุคหลังที่ถูกจริตนักอ่านส่วนใหญ่มากกว่า คือข้าพเจ้ามองว่าเรื่องราวแบบมาตรฐานคงจะนำมาแปลใหม่ได้ยากแล้ว เพราะตลาดเปลี่ยนไปแต่เรื่องที่เป็นเอกลักษณ์ของนักเขียนรุ่นเก่าแต่ละท่านนั้นน่าจะมีการแปลมาให้อ่านกันค่ะ อีกท่านนึงคือซีเบ๊เหล็ง ฟังจากเสวนาแล้ว ได้ยินว่ามีอีก 2 เรื่องดังๆ ที่ยังไม่ได้มีการแปลเป็นภาษาไทย  ข้าพเจ้าฟังแล้วอยากให้มีการแปลออกมาจริงๆ ค่ะ ใครที่จำชื่อของสองเล่มนั้นได้รบกวนโพสต์บอกหน่อย ฟังๆ จากที่เสวนา มีหลายเรื่องที่น่าอ่านซึ่งไม่รู้ว่าที่เล่าๆ กันนี่กี่ปีถึงจะแปลออกมาหมด ใจคนอ่านงี้ร้อนผ่าวอยากจะอ่านเสียวันนี้พรุ่งนี้เลยทีเดียว แต่สิ่งที่น่าคิดคือคนแปลนั้นต้องใช้เวลากว่าจะแปลแต่ละเรื่อง ๆ ที่จริงเราก็ควรสนับสนุกให้มีนักแปลภาษาจีนเยอะ ๆ นะคะ นักเขียนที่ข้าพเจ้าชอบอีกท่านนึงคืออุนสุยอัน ไม่ได้ถูกเอ่ยถึงในงานเสวนานี้เลย อาจเป็นเพราะนักเขียนท่านนี้เขียนเรื่องได้ช้าและไม่ค่อยจบ  แต่ในการคุยกันต่อหลังงานเราได้คุยกันถึงท่านอุนอยู่เยอะเหมือนกันค่ะ ในฐานะแฟนผลงานของท่านอุน ถ้าเขียนไร้จิตไร้ใจจบแล้วขอให้แปลให้นักอ่านได้อ่านหน่อยนะคะ ยังกลัว ๆ อยู่เลยว่า ชีวิตไม่แน่นอน ไม่รู้เราจะตายก่อนได้อ่านชุดศาสตรวุธของอุนสุยอันหรือเปล่า ขณะเสวนาใจนึกอยากจะถามว่าเป็นไปได้ไหมที่จะแปลเรื่องของเฮ้งโต้วโล้ว ในชุดของผู้กล้าอาชาเหล็ก  แต่ได้ยินท่าน น. พูดในงานว่าเรื่องนี้ขายไม่ออกก็เลยเงียบไป จริงๆ ข้าพเ้จ้าชอบผู้กล้าอาชาเหล็กมากนะคะ คงจะไม่มีวาสนาได้อ่าน คุณค่าของนิยายกำลังภายในนั้นย่อมต้องมีค่ะ กำลังภายในหล่อหลอมให้ข้าพเจ้าเป็นข้าพเจ้าอยู่จนวันนี้ กำลังภายในนอกจากความสนุกสนานในวัยเด็กแล้ว พอเติบโตมาได้กลับมาอ่านอีกครั้งก็พบปรัชญาแฝงอยู่มากมาย ซึ่งตอนเด็กๆ นั้นอ่านไม่พบเลย คงจะขึ้นอยู่กับวุฒิภาวะของผู้อ่านจริงๆ นั่นแหล่ะ ตััวข้าพเจ้าออกจะเป็นห่วงอนาคตของหนังสือกำลังภายในไม่อยากให้สูญหายไปจากวงการหนังสือ การที่พวกเราหันมาสนใจกำลังภายในกันอีก การที่มีการจัดพูดคุยเสวนาเกี่ยวกับกำลังภายในบ้าง เป็นสิ่งที่ดีและน่าจะจัดกันบ่อยๆ นะคะ จากคุณ : Lily of the Valley เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 54 08:58:03

ความคิดเห็นที่ 19 เสียดายไม่ได้ไป ทำไมไม่จัดหลังเวลาเลิกงานข้าน้อยบ้าง T_T จากคุณ : et009 เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 54 10:32:24

ความคิดเห็นที่ 20 ท่านผู้กล้าลิ้วฯครับ  คารวะหนึ่งจอกขอรับ จากคุณ : สายลมแห่งความคิดคำนึง เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 54 15:44:53

ความคิดเห็นที่ 21 ขอคารวะท่าน Lily of the Valley ตรงใจข้าพเจ้าจริงๆ นิยายกำลังภายในส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต แต่บางทีเมื่อนักเขียนรุ่นใหม่เช่นหวงอี้นำความคิดคนในยุคนี้ใส่เข้าไปก็เลยดูแปลก บอกตรงๆเลยว่าเรื่องจอมคนแผ่นดินเดือดมีคำนำเสนอว่าสนุกมาก อ่านๆไปก็ออกทะเลกว่าจะจบได้ดีว่าเช่าอ่านไม่ได้ซื้อเก็บไว้ ส่วนหลงเหยินก็มาแนวเดียวกันกับหวงอี้  ข้าพเจ้าอาจจะเป็นคนรุ่นเก่าก็ได้ที่ถวิลหาอดีต เมื่อได้อ่านยอดบุรุษเหล็กของเซียวอิด เคยอ่านตอนวัยเยาว์ ปัจจุบันหวนกลับมาอ่านอีกก็ยังสนุกอีก เรื่องนี้ซื้อเก็บไว้ เพียงแต่ว่าถือหนังสือไปไหนมาไหนคนที่รู้จักมักจะทักว่าอายุขนาดนี้ยังอ่านการ์ตูนอีกเหรอ ชอบมากที่ท่าน Lily of the Valley พิมพ์ข้อความที่ว่า คุณค่าของนิยายกำลังภายในนั้นย่อมต้องมีค่ะ กำลังภายในหล่อหลอมให้ข้าพเจ้าเป็นข้าพเจ้าอยู่จนวันนี้ เมื่อได้อ่านแล้วอยากจะบอกว่า สหายที่มิเคยพบพาน หากแต่มีสิ่งที่เชื่อมโยงให้รู้ในกันและกันนั่นก็คือนิยายกำลังภายใน สุดท้ายขอบคุณท่านน.นพรัตน์ และท่านบรมครูว.ณเมืองลุง ที่ทำให้สหายทุกท่านมีความรักชอบในสิ่งเดียวกัน แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 54 21:37:45 จากคุณ : ป๊กเอ็ง (พฤกษาชน) เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 54 21:35:48

ความคิดเห็นที่ 22 ส่วนตัวข้าพเจ้าตั้งใจไปเพราะอยากพบท่านน่ำเล่ายี่มากกว่า แล้วก็สมใจยิ่งนัก ได้ลายเซ็นต์ทั้งภาษาไทยและจีน ลงบนกระเป๋าเลย (เหมือนฟ้าจะเป็นใจข้าพเจ้าเตรียมปากกาเขียนผ้าไปด้วย 555) ส่วนที่ท่านประมุขบรรยายมา ยังเป็นเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของเหตุการณ์ในหอเท่านั้น ระหว่างที่ประชุม ก็มีเสียงจากทั้ง 3 เป็นระยะเช่น "เยอะไปไหมเนี่ยยยยย" "อวยอะไรนักหนา" แต่ข้าพเจ้าก็ชื่นชอบบรรยากาศเช่นนี้เยี่ยงนัก ทั้งได้ประคารมกับบนเวที และสนทนากับสหายสาสมใจยิ่งนัก เห็นด้วยกับท่านลิลลี่ว่า "คุณค่าของนิยายกำลังภายใน" นั้นมีอยู่แน่นอน ข้าพเจ้ายามเหน็ดเหนื่อยกับโลกแห่งความเป็นจริง ก็หันไปหาการปลอบประโลมจาก ท่านโกวเล้ง อุนสุยอัน กิมย้ง อยู่เสมอๆ ยังหวังว่า นิยายกำลังภายในจะสืบต่อลมหายใจต่อไปได้อีก จากคุณ : ล็อกอินนี้นิสัยดีแต่ปากเสีย เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 54 23:43:27

ความคิดเห็นที่ 23 Ronald Tam ใช่หฃอเหวิน หรือเปล่า จากคุณ : เสือดำขโมยใจ เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 13:27:24

ความคิดเห็นที่ 24 นอกจากท่านประมุขแล้ว... ต้องขอคาราวะท่านลิ้วฯ สามชามใหญ่ครับ!!! แสดจุดยืนได้ถูกใจวัยรุ่นมากๆ ผมตั้งความหวัง (หรือฝัน?) เอาไว้ว่าก่อนตายขอให้ได้อ่านยอดทรชนฉบับสมบูรณ์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะเป็นจริงขึ้นมา งานของฮุ้นตงงักก็ถูกจริตผมมากเหมือนกันครับ อยากให้มีแปลออกมาอีก งานของซีเบ๊เหล็งนี่ยังไม่เคยอ่านเลย...คงต้องไปหามาซักหน่อยแล้ว รอดาบกระชากเลือดนี่ล่ะครับ ;) ถึงผมจะเป็นคนรุ่นใหม่ แต่ก็รู้สึกว่านิยายรุ่นเก่าๆ มีความคลาสสิกและรักษาแก่นแท้ไว้ได้ดีกว่านะครับ มันพอดี...ไม่เกินงาม แต่อาจจะเป็นเพราะผมชอบของ Vintage ก็ได้ครับ จากคุณ : Dirty Deeds Done Dirt Cheap เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 15:05:57

ความคิดเห็นที่ 25 พยัคฆ์คำรณ กับ ดาบโลกันตร์ ที่ว่า มีลิงค์เวปให้อ่านมั๊ยครับ จากคุณ : kokleang เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 20:53:01

ความคิดเห็นที่ 26 #12 ฝ่าความตาย Hero ฟงอวิ๋น คัมภีร์กระเรียนเซียนเหยียบฟ้า ไม่มีน่ำตาวีรบุรุษ ดาบมังกรหยก มังกรหยก มังกรคู่สู้สิบทิศ ผู้ยิ่งใหญ่ ลี้คิมฮวง รอยแหนเงาจอมยุทธ์ เดชขนนกยูง และอะไรไม่รูอีกสี่เรื่อง มาเพิ่มเท่าที่จะรู้ ไกว้เสียอี้จือเหมย(จอมโจรอิลจิแมเวอร์ชั่นจีน) แล้วก็เฉินคุนในบทฟ่านหลีชื่อเรื่องไทยไม่รู้อะไร ชื่อจีนว่า "เจิงป้าฉวนฉี"  และเซียนเจี้ยน ภาค 1 น่าจะมีหูเกอจากเรื่องขุนศึกตระกูลหยางด้วย ท่านบัณฑิตฯ จบแล้วหรือ? กำลังมันส์เลย กระทู้นี้คึกคักดี จากคุณ : mamiya เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 21:28:54

ความคิดเห็นที่ 27 ดูภาพสาวงามในยุทธจักรกันบ้าง จากคุณ : mamiya เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 21:39:14

ความคิดเห็นที่ 28 วันที่ 9 เดือน 9 ข้าพเจ้ามิว่างเลยขอรับ อดไปกันเลยทีเดียว แฮะ ๆ จากคุณ : เสี่ยวเก้า (กระบี่เก้าเดียวดาย) เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 22:08:20

ความคิดเห็นที่ 29 มารดามันเถอะ!!! ถ้ารู้ว่ามันสนุกขนาดนี้จะยอมลางานไปเลยเอ้า 55555 แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 54 13:03:50 จากคุณ : Sayfert เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 13:03:22