เรื่องตลกเกื่ยวกับหนังสือแปลของ สนพ มติชน ก็คือ เราเคยติดต่อกับบรรณาธิการเขาได้สำเร็จ และคุยกันตกลงกันว่าเขาจะให้เราแปลหนังสือเขาเป็นเล่มแรก พอเขาส่งหนังสือมาให้เราที่บ้านเราอ่านดูแล้วเห็นมันโป๊มากๆ เราขี้เกียจประดิบประดอยเขียนคำแปลภาษาไทยเลี่ยงๆไม่ให้มันโป๊เพื่อไม่ให้สำนักพิมพ์โดนข้อหาตีพิมพ์สื่อลามก เราก็เล่าให้นักแปลรุ่นน้องฟัง นักแปลรุ่นน้องก็บอกว่าอยากแปลเล่มนี้ เราก็ให้เบอร์โทรเธอติดต่อกับบรรณาธิการคนนี้ พอคุยกันตกลงกันว่าเปลี่ยนคนแปลเป็นเธอ นักแปลรุ่นน้องเราแค่ของคำยืนยันจากบรรณาธิการคนนี้ คือเซ็นสัญญาว่าจ้างกันก่อน แล้วอยู่ดีๆบรรณาธิการก็หายต่อมไป ไม่ตอบกลับมาอีกเลย
แล้วเราก็ติดต่อบรรณาธิการคนเดิม แต่คุยกันว่าจะแปลหนังสืออีกเล่มหนึ่ง แล้วตกลงกันได้โอเค ให้เราเริ่มแปล พอเราติดต่อไปอีกทีเพื่อขอหนังสือแจ้งให้เริ่มแปล (หรือสัญญาว่าจ้าง) บรรณาธิการก็หายต๋อมไปอีก...งงอ้ะ...!!??? เราไปคุยกับนักแปลรุ่นน้องเราเรื่องนี้เธอก็บอกว่างงเหมือนกันอ้ะ...!!???
^ เหตุการที่ว่านี้เกิดขึ้นในเชียงใหม่ คือเราติดต่อกับบรรณาธิการมติชนคนนี้ทางโทรศัพท์และ email
อีก 4 ปีต่อมาเรากลับมาอยู่ กทม แล้วไปงานหนังสือ เห็น booth มติชน แล้วเห็นบรรณธิการคนนี้ยืนอย่างแสนเท่อยู่ในนั้น กำลังโปรโมทหนังสืออยู่ เราจึงเดินเข้าไปทักทายเขา แล้วบอกว่าเราเป็นใคร แล้วเขาก็บอกว่าเขาจำเราได้ดี แต่เขาบอกว่าเขาจำไม่ได้ทุกเรื่องเกี่ยวกับข้อตกลงเรื่องการแปลหนังสือระหว่างตัวเขากับนักแปลรุ่นน้องเรา และระหว่างตัวเขากับเรา แต่เขาก็พูดด้วยความจริงใจมากๆว่า
"ผมเปลี่ยนเบอร์มือถือและ email address ใหม่หมด โปรดติดต่อผมที่เบอร์ใหม่และ email ใหม่ แล้วเดี๋ยวผมจะเดินเรื่องการแปลหนังสือเล่มนั้นให้คุณ!"
^ เรามองดูแววตาเขา ทุกอย่างเป็นความจริงใจหมด!
ถ้าอย่างนั้นมันหมายความว่าอะไร?
คำตอบน่าจะเป็น บรรณาธิการคนนี้ป่วยเป็น Alzheimer's disease เพราะหลังจากนั้นเราคุยกับเพื่อนของเพื่อนที่มีเพื่อนเป็นนักแปลอยู่ใน สนพ มติชน พวกเขาก็ยืนยันว่าบรรณาธิการคนนี้ชอบลืมทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องงาน น่าจะป่วยเป็น Alzheimer's disease จริงๆ!
^ ไม่รู้ว่ามันจะมีผลกระทบต่อคุณภาพหรือเปล่า เพราะถ้าเป็นอย่างนี้บางทีเขาอาจลืมส่งหนังสือที่แปลเสร็จแล้วให้ไปได้รับการตรวจแก้ (edited) จากบรรณาธิการต้นฉบับ แต่เราคิดๆไปมันก็น่ากลัวแฮะ เพราะเผื่อเราแปลหนังสือให้เขาเสร็จไปแล้ว และเขาลืมไปว่าเขาจ้างเราแปลหนังสือเรามิซวยชวดค่าแปลไปหรอกหรือ เพราะบางที (จากที่เราเห็นปฏิบัติกันนะ) ไม่เซ็นสัญญาว่าจ้างกันก็มี คือพูดกันด้วยปากเปล่าแบบเชื่อใจกัน แล้วนักแปลก็แปลไป แล้วก็ส่งคำแปลไปเรียกเก็บเงินค่าแปล มันก็ไม่ค่อยมีปัญหา แต่นี่คุณบรรณาธิการคนนี้แกเล่นจำอะไรไม่ได้เอาซะเลย น่ากลัวอ้ะ!
แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 54 10:23:07
แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 54 09:21:08
จากคุณ |
:
fortuneteller
|
เขียนเมื่อ |
:
13 ก.ย. 54 09:15:28
|
|
|
|