PANTIP.COM : K11057366 ใครที่ทำงานงานแปลสิทธิบัตรอยู่บ้างคะ รบกวนถามหน่อยค่ะ []

ความคิดเห็นที่ 4

ถ้าหมายถึงแปลไทยเป็นอังกฤษนะ ไม่ได้แปลก็ดีแล้ว เพราะอะไรรู้ไหม?

ไอ้ตัวร้ายก็คือ "ข้อถือสิทธิ" นี่แหละ ต่อให้นักแปลที่เก่งที่สุดก็แปลผิดหมด!

เพราะในรอบ 15 ที่เราเคยแปลเอกสารมามากมายหลายประเภท แล้วมาเจอเอกสารแบบนี้นะ คนไทย (เจ้าของงานประดิษฐ์) ที่เขียนเอกสารพวกนี้ขึ้นมา เกือบ 100 ทั้ง 100 เขียนภาษาไทยด้วย meaning shift หมด! คือพูดอย่างหนึ่งแต่หมายถึงอีกอย่างหนึ่ง

อย่างเช่น

ไปกดเงิน = ไปกด ATM เบิกเงิน
เมนูนี้อร่อย = อาหารในเมนูนี้อร่อย
สินค้าในตู้เรียกพนักงาน = ถ้าลูกค้าต้องการสินค้าในตู้ให้เรียกพนักงาน

^
เรื่องพวกนี้นักแปลพอเดาได้ แต่ถ้าเป็นประดิษกรรมที่ซับซ้อน ขนาดเขียน diagrams มาให้นักแปลก็ยังอ่านไม่รู้เรื่องเลย

เราคิดว่าในรอบ 15 ปีที่ผ่านมานี้ของการตะลุยแปลเอกสารมากมายหลายประเภท เราคง (ถึงคราวซวย) ได้แปลงานสิทธิบัตรหลงๆเข้ามาประมาณเกือบๆ 100 ชิ้น แล้วเราก็

"ดำน้ำแมร่งไปหมดเลยหละ...555+++..."

^
เพราะอะไรเราถึงไม่พยายามแปลให้ถูกต้อง? คืองานพวกนี้ลูกค้าไม่ได้มาจ้างเราโดยตรง ถ้ามาจ้างเราโดยตรงเราก็จะออกแรงเดินทางไปหาคนเขียนภาษาไทยแล้วให้เขาแปลไทยเป็นไทย คือสัมภาษณ์สดให้เขียนภาษาไทยโดยไม่ใช้ meaning shift เราถึงจะแปลได้ถูกต้อง 100% แต่ในเมื่อคนเอาเอกสารมาส่งเราแปล ซึ่งบางทีก็เป็นเอเจนซี่ หรือบางทีก็เป็นนักแปลคนอื่นรับมาจากลูกค้าผ่านหน่วยงานบางหน่วยงานเช่นศูนย์แปลในสถาบันบางแห่ง คนเอาเอกสารมาส่งเราเขาก็ตีความภาษาไทยให้เราไม่ได้ ดังนั้นโอกาสที่เราจะแปลผิด จึงมีมากโข

meaning shift ซึ่งรองศาสตราจารย์ดอกเตอร์ท่านหนึ่งซึ่งเป็นอาจารย์สอนในมหาลัยระดับรองๆเคยพลาดท่าตกม้าตายมาแล้วก็คือ นักศีกษาแปลบทคัดย่อ แล้วเขียนภาษาไทยมี meaning shift (จริงๆแล้วมันไม่ใช่ meaning shift แต่นักศึกษาเอาประธานไปซ่อน ทำให้ตัวเองแปลภาษาไทยที่ตัวเองเขียน แล้วงง) เท่ากับขุดหลุมฝังศพให้ตัวเอง คือเขียนข้อความนี้ นักศึกษาเอามาให้เรา edit (ตรวจแก้) ภาษาอังกฤษ

ข้อความเป็นแบบนี้

3. ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า...(แล้วก็มีเนื้อหาว่าพบอะไร)....
^
เราแก้คำแปลภาษาอังกฤษของนักศึกษา (เขียนมาแบบแปลตรงตัวอ่านไม่รู้เรื่อง) เป็น

3.Hypothesis test results:...(แล้วก็มีเนื้อหาว่าพบอะไร)....

แต่อาจารย์ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดอกเตอร์ท่านโดนภาษาไทยหลอกเอา ท่านเลยเล่นแก้มาเป็นอะไรทำนองนี้ ถ้าจำไม่ผิดนะ (คือแปลตรงตัวกลับไปเหมือนนักศึกษา)

3. The results of hypothesis test found that ...(แล้วก็มีเนื้อหาว่าพบอะไร)....

^
ซึ่งในเชิงตรรกะแล้ว มันผิดแหงๆ เพราะคนที่ทำกริยา found มันต้องเป็น "นักวิจัยซึ่งเป็นมนุษย์" ไม่ใช่ "results"

^
สรุปแล้วงานนี้นักศึกษาขุดหลุมฝังศพตัวเองโดยการเขียนภาษาไทยเอาประธานไปซ่อน เราฉุดเธอขึ้นมาจากหลุม แต่อาจารย์เธอผลักเธอกลับลงหลุมไปอีกรอบหนึ่ง!

^
ถ้าใครได้แปลสิทธิบัตรจากไทยเป็นอังกฤษบ่อยๆก็จะรู้ได้ว่า

"คนเขียนภาษาไทยขุดหลุมฝังศพไว้ดักนักแปล แล้วพอนักแปลตกหลุมไป คนเขียนภาษาไทย (เจ้าของงาน) ก็ซวยคือลงหลุม แล้วกลบไปพร้อมๆกันทั้งนักแปลและเจ้าของงานเลยหละ...555+++..."

ดังนั้นคุณไม่ต้องเสียใจเลย งานแบบนี้ ถ้านักแปลต้องรับผิดชอบต่อค่าเสียหายที่เกิดจากงานแปลละก้อ รับรองว่า

"เสี่ยงเกินไป ไม่คุ้มกับเงินที่ได้รับหรอก"
แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 54 17:53:03

จากคุณ : fortuneteller

เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 17:28:52