ความคิดเห็นที่ 1 อาชีพรองรับก็พอจะมีเช่นทำงานโรงแรม ทำงานในสปา เป็นต้น ถ้ามีเงินทุนเองก็ยิ่งดี อาจเปิดสปาไทย เน้นใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยที่เอาความรู้จากที่เรียนมาทำผลิตภัณฑ์เอง เผลอ ๆ อาจมีฐานะมั่นคงกว่า แต่ทั่ว ๆ ไปคงหางานรองรับยากกว่าสายสังคมศาสตร์ที่ยกตัวอย่างมา จากคุณ : elenote เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 11:58:39

ความคิดเห็นที่ 2 ทำงานที่รพ.ของรัฐก็ได้ค่ะ จากคุณ : urina เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 12:53:49

ความคิดเห็นที่ 3 มองว่าเป็นอาชีพที่มีอนาคตดีนะ ปัจจุบันกำลังได้รับการยอมรับมากขึ้น ที่คณะแพทย์แผนไทย ของมหาวิทยาลัยที่ผมไปใช้บริการ รับนักศึกษาปริญญาตรีปีละหกสิบคน มีสอนโทด้วย อนาคตดีครับ จากคุณ : newcomer (gpvtu2009) เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 13:55:37

ความคิดเห็นที่ 4 ผมว่าสมัยนี้การแพทย์ทางเลือกเป็นอะไรที่นับวันยิ่งน่าจะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆนะ คนโหยหาธรรมชาติ และใช้ธรรมชาติในการบำบัดมากขึ้น เพราะได้ผลจริงกับหลายๆ โรค แถมยังถูก+ดี ที่พูดแบบนี้เพราะมีประสบการณ์กับตัวเองตอนไปอยู่จีน ตอนนั้นเป็นโรคปัสสวะอักเสบแบบว่าฉี่เป็นสีทับทิมเลย(น่ากลัวมากๆ นึกว่าจะไม่รอดแล้ว) สาเหตุเพราะอั้นฉี่+เกลียดการเข้าห้องน้ำที่จีนมากๆ ท่าจะไม่ได้การตัดสินใจไปหาหมอที่โรงพยาบาล เพื่อนคนจีนที่ไปเป็นเพื่อนถามว่าจะรักษาแบบยาจีน หรือยาฝรั่ง(แผนปัจจุบัน) เลยลองรักษากับแพทย์แผนจีน ได้สมุนไพรมา 2 ห่อ แค่ 25 หยวน (ถูกเหลือเชื่อ!!) ต้มกินไม่ถึง 5 วันดี หายเป็นปลิดทิ้ง นี้ถ้าไปหาหมอแผนปัจจุบันคงได้นอนโรงพยาบาล ค่ารักษาอานนนนนแน่ๆ (ซึ่งตรงนี้คิดว่าสรรพคุณสมุนไพรไทยเราเองก็ไม่น่าจะด้อยกว่าสมุนไพรจีนนะ) ตอบ จขกท ว่า คนเราเรียนอะไรก็ดีทั้งนั้น ถ้าเรียนแบบจริงๆ จังๆ ตั้งอกตั้งใจ ขยันขันแข็ง เรียนให้เก่งๆ จบมามีคุณภาพ คิดว่าอนาคตดีทุกคนแน่นอน จากคุณ : โจโฉ (joechou) เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 17:04:36

ความคิดเห็นที่ 5 ตอนนี้ประเทศไทยมีกรมแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกแล้วนี่ครับ ซึ่งก็เป็นหน่วยงานสำคัญที่รองรับบัณฑิตทางด้านแพทย์แผนไทย ถ้าคุณเรียนจบแล้ว รอสมัครสอบแข่งขันเข้ารับราชการที่กรมนี้ก็ได้ครับ จากคุณ : อืม เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 22:23:59 A:115.87.136.236 X: TicketID:148075

ความคิดเห็นที่ 6 การแพทย์ทางเลือก โดย Sagen Ishizuka เป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ เขาเป็นหมอทหารมา 22 ปี แล้วเห็นอาการเจ็บป่วยมามาก แล้วก็คิดว่า "แท้จริงแล้วมันมีวิธีง่ายๆที่จะรักษา" พอเกษียณอายุ ก็เปิดรักษาฟรีโดยไม่ให้ยาคนไข้ ใครป่วยมา เขาก็บอกว่าควรเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารยังไงหรือปฎิบัติตนอย่างไร เขาประสบความสำเร็จในการรักษาคนไข้โดยไม่ใช้ยาและไม่ใช้การแพทย์แผนปัจจุบันที่เขาเรียนมา และมีคนไข้มารอคิวอยู่เต็มไปหมดทุกวัน อ่านประวัติอันน่าทึ่งของเขาได้ที่นี่ http://en.wikipedia.org/wiki/Sagen_Ishizuka Sagen Ishizuka เป็นอาจารย์ของ Manabu Nishibata ซึ่งเป็นอาจารย์ของ Yukikazu Sakurazawa (George Ohsawa) ผู้ที่เผยแพร่วิชา Zen Macrobiotics อันโด่งดังไปทั่วโลก อาจารย์สอนวิชา Zen Macrobiotics ของเราคือ Bill Tara (ผู้เป็นศิษย์ของ George Ohsawa) เล่าให้เราฟังว่าครั้งหนึ่งเขาไปเยี่ยมเพื่อนที่ป่วยหนักที่โรงพยาบาลในอเมริกา พอเห็นเพื่อนแล้วงงว่าทำไมมีสายอะไรระโยคระยางเสียบอยู่เต็มตัวไปหมด ถามเพื่อนว่าเป็นอะไรเพื่อนบอกว่า "น้ำท่วมปอดหายใจไม่ออก" คุยไปคุยมาก็ค้นพบความจริงว่าเพื่อนเขาดื่มน้ำชาวันละตั้งหลายกาใหญ่ๆ (ในเมืองหนาวใครดื่มน้ำมากๆเหงื่อมันไม่ออก มีสิทธิ์ป่วยหนัก อย่างน้อยๆก็ไตอักเสบ อย่างแรงๆก็บางทีถึงตายได้) เขาบอกเพื่อนเขาว่า "เฮ้ยแกไม่ต้องรักษาให้เปลืองเงินหรอกเฟ้ย ไปๆๆๆ กลับบ้าน ฉันจะพาแกกลับบ้าน แกแค่ดื่มน้ำชาให้น้อยลง ก็หายเอง" เขาลากตัวเพื่อนกลับบ้านโดยไม่ฟังคำคัดค้านหมอ แล้วสั่งเพื่อนว่า "ต่อไปนี้แกต้องกินน้ำให้น้อยๆ" อีกไม่กี่วันเพื่อนเขาก็หายเป็นปกติดี และขอบคุณ Bill Tara ที่ช่วยทำให้เขาประหยัดเงินค่ารักษาพยาบาลไปได้บานเบอะ! จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 10:28:01