 |
ทางโซเวียตนั้นได้จัดตั้งโคมินเทริ์น หรือสากลที่สาม ขึ้นมาในปี 1919 หน่ะครับ เป้าหมายก็เพื่อพยายามชี้นำและขยายการปฏิวัติสังคมนิยมออกไปยังประเทศต่างๆทั่วโลก ซึ่งก็ส่งผลสะท้อนต่อการเฟื่องฟูของแนวคิดสังคมนิยมในยุคหลังสงครามโลกครั้งแรกเป็นอย่างมาก ทว่าพอกระแสปฏิวัติในยุโรปซบเซาลงหลังปี 1922 โคมินเทริ์นก็ลดบทบาทในยุโรปลงไปบ้างครับ
ในช่วงนี้เอง ที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ถูกก่อตั้งขึ้นมา และมีสมาชิกจำนวนไม่น้อยที่เป็นกลุ่มสังคมนิยมสายโซเวียตผสมๆกับสายฝรั่งเศส-เยอรมัน ครับ แกนนำหลักๆอย่างเฉินตุ๊ซิ่ว, จางกั๋วเทา และ หลี่ต้าเจา ก็เป็นนักสังคมนิยมสายโซเวียต ที่มีความใกล้ชิดกับโคมินเทริ์นหรือสากลที่สามเป็นอย่างมากครับ
ในช่วงปี 1921-1927 นั้น ทางโซเวียตเองก็เหยียบเรือสองแคม โดยสนับสนุนทั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน และพรรคก๊กมินตั๋ง ไปด้วย เพราะโซเวียตมีความสัมพันธ์อันดีกับ ดร.ซุนยัตเซน เป็นอย่างยิ่ง (ตรงนี้เองที่ทำให้นักวิชาการรุ่นหลังหลายๆท่าน มีความเห็นว่า ดร.ซุน ท่านมีแนวคิดที่โน้มเอียงไปทางสังคมนิยมอย่างมาก ในช่วงบั้นปลายชีวิตของท่านครับ)
โซเวียตนั้นพยายามสนับสนุนก๊กมินตั๋งอย่างแข็งขัน เพื่อให้ก๊กมินตั๋งได้เป็นรัฐบาลที่ครองอำนาจในจีน โดยใช้พรรคคอมมิวนิสต์เป็นสะพานในการช่วยเหลือทางหนึ่ง และคานอำนาจทางหนึ่งด้วย
แต่เมื่อเจียงไคเช็คจัดการปราบปรามสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปี 1927 ทางสตาลินก็รู้สึกจะเห็นดีเห็นชอบไปด้วยครับ ตัวแทนของทางสากลที่สามในจีนอย่าง โบโรนิน ยังเขียนจดหมายรายงานไปมอสโคว์ว่า สหายของเราในจีนกระทำการรุนแรงเกินไป ทำให้เจียงไคเช็คต้องปราบปราม..................
หลังจากนั้นมา สตาลินก็เทความช่วยเหลือไปให้เจียงไคเช็คเกือบหมดหน้าตักครับ เพราะสตาลินก็คิดว่า ก๊กมินตั๋งมีผลประโยชน์มหาศาลกว่ามาก ทำไมต้องไปช่วยพรรคเล็กๆอย่างพรรคคอมมิวนิสต์จีนเล่า ไปเออออตามก๊กมินตั๋งดีกว่า...............
อย่างไรก็ตาม นักปฏิวัติชาญศึกอย่างสตาลิน ไม่เคยทิ้งตัวหมากอย่างเปล่าประโยชน์ครับ เพราะเขา-โซเวียต ก็ยังคงให้การสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์จีนในทางลับต่อไปในการคานอำนาจกับก๊กมินตั๋ง (แต่ก็พยายามรักษาความสัมพันธ์กับก๊กมินตั๋งด้วย) โดยพยายามที่จะทำการควบคุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนให้แน่นหนามากขึ้น ด้วยการส่งพวก 28 บอลเชวิกมาเป็นแกนนำของพรรคครับ
หลังจากการล้อมปราบครั้งใหญ่โดยกองทัพก๊กมินตั๋ง ที่ทำให้ฐานที่มั่นของกองทัพปลดปล่อยประชาชนในจีนตะวันออกถูกทำลายเกือบหมด และสมาชิกจำนวนมากต้องเดินทัพหนีการตามล่าของเจียงไคเช็ค ก็ทำให้อำนาจของพวก 28 บอลเชวิกเสื่อมลงครับ พรรคได้ผู้นำใหม่คือท่านประธานเหมา ผู้ที่จะชี้นำและนำพาชนชั้นกรรมชีพทั้งผองต่อสู้กับพวกจักรวรรดินิยมและนายทุนต่อไป
ซึ่งสตาลิน ไม่พอใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากในสายตาของนักปฏิวัติอาวุโสแบบสตาลิน ประธานเหมาก็แค่ครูบ้านนอก ที่ไม่เคยแม้แต่จะไปศึกษาความรู้อันยิ่งใหญ่ของมาร์กซ์-เลนิน ที่รัสเซียหรือฝรั่งเศส ประธานเหมาในสายตาของสตาลินก็ไม่ต่างจากผู้นำก๊กโจรเท่านั้น..............นั่นทำให้ในช่วงปี 1934-37 นั้น ความช่วยเหลือของสากลที่สามต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนเย็นชาลงไปมากครับ
ต้องมาช่วงสงครามต่อต้านญี่ปุ่นช่วงแรกนี้แล ที่โซเวียต-สหรัฐ ได้ส่งความช่วยเหลือให้ทั้งก๊กมินตั๋งและพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในการตั้งยันกับญี่ปุ่น (ก่อนที่ตอนกลาง โซเวียตจะถอนตัว เพราะดันไปลงนามไม่รุกรานกันกับญี่ปุ่น และโดดเข้ามาร่วมอีกทีตอนปลายสงคราม)
ในช่วงปี 1945-49 สากลที่สามได้ปิดตัวลง แต่การขยายแนวคิดสังคมนิยมของสตาลินไม่ได้ปิดตัวไปด้วยครับ เพราะสังคมนิยมได้พัฒนากลายเป็นกึ่งจักรวรรดินิยม สตาลินถูกกระแสแห่งอำนาจท่วมท้น จนพยายามบังคับขยายกระแสปฏิวัติไปทั่วโลกด้วยอำนาจทางเศรษฐกิจและทางทหารของโซเวียต ในจีนก็เช่นกัน โซเวียตเองก็ให้ความช่วยเหลือทางพรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่น้อยในการทำสงครามปลดปล่อยครับ
จนปี 1949 นี่แล ที่สตาลินเริ่มเห็นว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนทำผลงานได้ดีกว่าที่คาด ใกล้จะชนะอยู่รอมร่อ เขาเลยลงมาทำการช่วยไกล่เกลี่ย เพื่อให้ประธานเหมากับเจียงไคเช็คแบ่งจีนออกเป็นเหนือ-ใต้ แยกกันปกครองไปครับ ซึ่งเจียงไคเช็คดีใจอย่างมาก (เพราะเขาจะได้มีเวลาเสริมกองทัพใหม่ เพื่อกลับไปชิงภาคเหนือคืน)
แต่ประธานเหมาไม่ยอม ท่านกล่าวว่า จะกระทำการใดต้องกระทำให้ถึงที่สุด การปลดปล่อยต้องดำเนินต่อไป......นั่นทำให้กองทัพปลดปล่อยประชาชนรุกลงใต้ ตีนานกิง, กวางตุ้ง และจุงกิงแตกหมด เจียงไคเช็คต้องล่าถอยไปไต้หวันในปี 1949
เรื่องนี้เองทำให้สตาลินเคืองไม่น้อยครับ และทำการตอบโต้โดยในปี 1950 เมื่อประธานเหมาไปเยือนโซเวียตเพื่อขอความช่วยเหลือด้านต่างๆ สตาลินก็ทำมึนติงให้ประธานเหมารอพบถึง 7 วัน 7 คืน ก่อนจะให้เข้าพบและพูดคุยกันแบบมะนาวไม่มีน้ำ...........ท่านประธานเหมากล่าวว่า การพูดคุยครั้งนี้ พวกเขา (โซเวียต) ให้ความช่วยเหลือเราไม่ถึง 1 ใน 10 จากที่เราร้องขอเสียด้วยซ้ำ
แต่พอสงครามเกาหลีระเบิดขึ้นในปีนั้น สตาลินก็ต้องลืมๆความบาดหมางนี้ไปเสีย เช่นเดียวกับจีน เพื่อร่วมมือกันช่วยสหายเกาหลีเหนือต่อต้านพวกจักรวรรดินิยมสหรัฐหน่ะครับ
จากคุณ |
:
อุ้ย (digimontamer)
|
เขียนเมื่อ |
:
15 ก.ย. 54 11:06:33
|
|
|
|
 |