ความคิดเห็นที่ 1 ภาพเหล่านี้ผมถ่ายด้วยตัวเองทั้งหมดไม่ได้ทำการคัดลอกแต่ผู้ใดมา จึงมีลิขสิทธื์ ผู้ใดอยากนำไปใช้ แม้ว่ามันมิงามทัศนา และเจ้าของภาพมิได้หวง เพียงแต่ติดต่อให้ทราบจักเป็นพระคุณ จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:11:47

ความคิดเห็นที่ 2 ...เจ้าอาวาสบอกว่าไม่ค่อยมีคนมาดู มีก็แต่นู่น เลยไปเขาค้อ เขากะหล่ำกันหมด ของเก่าๆแบบนี้ไม่มีใครมาดูดอก จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:13:15

ความคิดเห็นที่ 3 ภาพถ่ายบางภาพเอียงๆ เพราะอยู่สูงมาก ปีนบันไดยังไปไม่ถึง จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:14:05

ความคิดเห็นที่ 4 งามนัก ทรวดทรงองค์เอว งามกว่านังโมหินีที่บ้านเป็นไหน จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:15:08

ความคิดเห็นที่ 5 ดูกันชัดๆ จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:15:45

ความคิดเห็นที่ 6 อันนี้เป็นชาย โพกผ้านี่ไม่รู้ว่าทางเหนือหรืออีสาน คงต้องรอท่านผู้ทรงคุณวุฒิมาช่วยตอบ จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:17:11

ความคิดเห็นที่ 7 พักนี้พี่พันก็ช้าได้ใจ ภาพนี้ไม่รู้ว่ามานั่งทำอะไรกันบนบ่อน้ำ(?) จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:19:06

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่รู้ว่าเล่นกัน หรือทะเลาะกัน พระเจ้ายังเคือง จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:20:17

ความคิดเห็นที่ 9 ฟังธรรม จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:20:49

ความคิดเห็นที่ 10 ... จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:21:15

ความคิดเห็นที่ 11 ... จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:21:49

ความคิดเห็นที่ 12 พวกนี้ใส่เสื้อผ้าครบ น่าจะเป็นชาววังหน่อย ดูมีอารยะ จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:22:48

ความคิดเห็นที่ 13 ... จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:23:14

ความคิดเห็นที่ 14 ดั้งขอ... จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:23:39

ความคิดเห็นที่ 15 ... จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:24:20

ความคิดเห็นที่ 16 ... จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:24:56

ความคิดเห็นที่ 17 คนเลี้ยงช้าง จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:25:55

ความคิดเห็นที่ 18 ภาพต่อไปนี้ ติดเรท ด้วยความเคารพ มีตั้งแต่สมัยกรีกโรมัน ยันอยุธยาและรัตนโกสินทร์... จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:27:28

ความคิดเห็นที่ 19 ด้านบนนี่ไม่รู้ว่าสื่ออะไร สู้กันจนผ้าหลุด หรือ ไปทำนองนั้น ไม่เข้าใจคนวาด ถ้าไม่เหมาะสม แจ้งลบนะครับ ต่อ จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:29:59

ความคิดเห็นที่ 20 ... จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:30:31

ความคิดเห็นที่ 21 วงดนตรีไทยเดิม งามวิจิตร จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:31:11

ความคิดเห็นที่ 22 ... จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:31:47

ความคิดเห็นที่ 23 ภาพสวยงามมากครับ มีเสน่ห์มากตรงใช้ใช้สีน้ำเงินเยอะมาก ๆ ไม่เหมือนกับทางภาคกลางที่เน้นแดง ดำ ขาว แต่ออกไปทางเหนือ สีฟ้าคราม สีน้ำเงินให้น้ำหนักได้สวยงามจริง ๆ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:31:51

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณพี่หนุ่มที่แวะมาทัศนาครับ...หะแรกที่เห็นผมข้องใจเหมือนกัน ว่าในใบสั่งงาน เป็นภาพสมัยอยุธยา... ผมไม่เคยเห็นภาพเขียนสมัยอยุธยาแบบครบๆสักครั้ง เพราะที่เห็นมีก็เลือนๆหมด แต่ที่วัดนี้ครบดีครับ จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:34:19

ความคิดเห็นที่ 25 ลืมถามเจ้าอาวาส ว่าช่างที่วาดนี่คนภาคใด จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:35:31

ความคิดเห็นที่ 26 ... จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:36:00

ความคิดเห็นที่ 27 .... จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:36:24

ความคิดเห็นที่ 28 ... จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:37:01

ความคิดเห็นที่ 29 ภาพส่วนใหญ่ที่มีอาการ "แสดง" อวัยวะเครื่องเพศ มีบ้างที่ถูกขีดทำลาย ไม่รู้ว่าคุณพระคุณเจ้าสมัยไหนเป็นผู้ทำ จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:38:36

ความคิดเห็นที่ 30 นรกภูมิ จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:39:36

ความคิดเห็นที่ 31 ที่รองกะทะยังเป็นหัวคน แสดงว่าตกกรรมหนักมากกว่าคนอยู่ในกระทะอีก จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:40:40

ความคิดเห็นที่ 32 ต้นงิ้วกระทะทองแดงเอาหอกแหลมแทงทุกวันๆ จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:41:23

ความคิดเห็นที่ 33 เอาเบาๆบ้าง นอกนอกพระอุโบสถ จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:42:26

ความคิดเห็นที่ 34 ... จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:42:46

ความคิดเห็นที่ 35 ... จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:43:11

ความคิดเห็นที่ 36 เจ้าอาวาสฝากมาครับ "ญาติโยมที่ไปเที่ยวเขาค้อ และแวะมากินขนมจีนหล่มน่ะ เลยมาอีกนิดเดียวก็วัดแล้ว แวะกันมาบ้าง ของดีมีอยู่นะโยม" บุญรักษาทุกท่านครับ จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:44:40

ความคิดเห็นที่ 37 เห็นภาพที่ 18 แล้วถึงกับผง่ะ ! แต่ภาพอื่นสวยงามและทรงคุณค่ามากครับ ขอบคุณที่อุตส่าห์เอาลงมาให้ชมน่ะครับ โหวตๆๆๆ จากคุณ : Autompne de Horizon เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 12:00:34

ความคิดเห็นที่ 38 ดูให้เป็นธรรมชาติกับศิลปครับ จริงๆ มันก็เป็นความเป็นอยู่สมัยก่อนนะครับ สมัยนี้เองก็ใช่ว่าจะย่อยอยู่ ผู้หญฺิงสมัยนี้ ก็เริ่มไปแบบเก่า นุ่งน้อยห่มน้อยกันอีกแล้ว รูปสวยมากๆครับ ขอบคุณ จขกท ครับ จากคุณ : นะนะ เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 12:06:05

ความคิดเห็นที่ 39 วัดนาทรายไม่น่่าถึงอยุธยานะครับ น่าจะสักร้อยปี หรือราวๆรัชกาลที่ 4-5 เป็นอย่างเก่า การใช้สีฟ้าเช่นนี้ไม่ใช่ครามแบบไทย แต่เป็นสีนำเข้าที่เริ่มมาฮิตสมัยรัชกาลที่ 4 ลงมา เป็นสมัยนิยมทีเดียว ในภาคกลางเอง วัดหลวงสมัยรัชกาลที่ 4 หลายๆวัดลงมา ก็เห่อสีฟ้ากับเขาด้วย โทนสีจึงเปลี่ยนจากแดงเขียวดำ เป็นฟ้า ที่ทำให้บรรยากาศดูลึกลับและทำให้อาคารดูกว้างขึ้น จิตรกรรมในสิมอีสาน ยังไม่เคยมีหลังใดที่เก่าถึงสมัยอยุธยาครับ จากคุณ : ปลาทองสยองเมือง เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 12:15:32

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาทัศนาครับ.. พี่ปลาทองฯ อันนี้ตามที่เขาแจ้งมาในเอกสารน่ะครับ ว่า 200 ปี และผมก็มีใบปลิว(โบรชัวร์)ของทางวัดอยู่ 1 ใบ เขียนไว้ว่าอย่างนั้นครับ ผมไม่ทราบว่าจริงๆแล้วประมาณไหน อันนี้ข้อมูลที่ผมได้จากใบปลิว "วัดนาทรายเป็นวัดเก่าแก่ สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น เนื้อที่ประมาณสามไร่เศษ หลวงพ่อโง้ง เจ้าอาวาสองค์แรกและชาวบ้านตั้งชื่อว่า วัดทรายงาม แต่ต่อมา เปลี่ยนชื่อเป็นวัดนาทราย และวัดศรีมงคลในเวลาต่อมา" และ "...จิตรกรรมฝาผนัง ที่อยู่รอบภายในโบสถ์ ซึ่งยังคงมีความสมบูรณ์มากที่สุด ในบรรดาภาพยุคเดียวกัน ตามประวัติจากทางวัด ภาพถูกเขียนโดยนายแดงหรือตาขี้ทูต ใช้เวลาเขียนนานสามปีเศษ ได้รับค่าจ้าง หนึ่งชั่งสี่ตำลึง ลักษณะของภาพเขียนสื่อถึงเรื่องราวของ พระเจ้าสิบชาติ มีศิลปะจีนเข้ามาผสมผสาน..." "...ใช้สีฝุ่นผสมกาวยางไม้ สีเปลือกดินและสีดิน ระบายภาพ ตัดเส้นแบบแบน เขียนภาพบนฝาผนังปูน..." ครับ เพิ่มเติม เอกสารแนบ http://202.29.34.19/artculture/news/view.php?id_view=18 แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 54 12:34:01 แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 54 12:29:19 จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 12:27:39

ความคิดเห็นที่ 41 รูปสวยมากค่ะ  บางรูปสีสดใสมาก   ขออนุญาตหยิบยืมบางรูป เดี๋ยวจะเขียนหลังไมค์บอกรายละเอียดนะคะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ต้นจั่น เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 14:06:42

ความคิดเห็นที่ 42 ชอบคะ สวยมาก ใครมาทีหลังกรุณาอย่างแจ้งลบรูปเลยนะคะ เราว่าถึงจะทะลึ่งไปหน่อยแต่มันก็คืออารมณ์ขันของคนสมัยก่อน เราเป็นคนหนึ่งที่ชอบไปดูภาพเก่าๆตามวัด ดูแล้วสนุกมากยิ่งเจอแบบทะลึ่งๆด้วยจะขำมากเป็นพิเศษ จากคุณ : Memory of life เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 14:32:15

ความคิดเห็นที่ 43 สวยงามมากครับ จากคุณ : ชัชบุคส์ (alexiz) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 15:07:38

ความคิดเห็นที่ 44 อย่าลบรูปเลยคะ รูปแบบนี้มีอยู่ทั่วไปในงานจิตรกรรมรุ่นเก่าๆ ดูแล้วก็ยิ้มๆขำๆดีออก เราก็ว่างานไม่น่าจะเก่าไปถึงสมัยอยุธยา เพราะการเขียนต้นไม้เขียนไม่ได้ตัดเส้นเป็นใบๆแล้ว และมีการใช้แสงเงาเพิ่มมิติของต้นไม้ด้วย ส่วนใหญ่งานจิตรกรรมสมัยอยุธยามีสีเขียนไม่เยอะ สีฟ้าแบบนี้ไม่เคยเห็นเลยค่ะ ถ้าเห็นรายละเอียดงานสถาปัตยกรรมอาจจะบอกได้มากกว่านี้ แต่ภาพเขียนสวยดีค่ะ ดูแล้วยิ้ม จากคุณ : apple a day เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 15:51:12

ความคิดเห็นที่ 46 ตัววัดอาจสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลายเป็นไปได้ครับ แต่จิตรกรรมจะเขียนเมื่อไรก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ต้องพิจารณาต่อ เหมือนกับหลายๆวัดที่อายุวัดกับของในวัดไม่สัมพันธ์กัน เพราะโดนรื้อซ่อมตลอดเวลา จากคุณ : ปลาทองสยองเมือง เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 16:08:25

ความคิดเห็นที่ 47 แม้ว่าประวัติวัตจะเริ่มก่อสร้างเมื่อกว่า ๒๐๐ ปีที่ผ่านมา แต่ภาพจิตรกรรมฝาผนังนั้นวาดไว้เกิน ๑๕๐ ปี ก็ตกประมาณรัชกาลที่ ๔ ครับ เมื่อประมาณ  ๔๐  กว่าปีมาแล้วนิ้วก้อยข้างขวาขององค์พระประธานหัก (สงสัยจะเป็นพวกมารศาสนาหักดู  เพราะเข้าใจว่าข้างในองค์พระประธานเป็นทองคำ) และมีพระพุทธรูปแกะสลักจากไม้จำปาและเขาควายเป็นจำนวนมากอยู่ในโบสถ์หลังนี้  เมื่อประมาณ  ๘๐  กว่าปีมาแล้วมีทหารฝรั่งเศสพวกล่าอาณานิคม ๙ คน คล้าย ๆ ทหารไทยหนึ่งคนมีอาวุธครบมือพร้อมทั้งเป้สนามมาจากประเทศลาวเข้าไปในวัดนี้และขอกุญแจโบสถ์จากเจ้าอาวาสเปิดเข้าไปในโบสถ์  เลือกเอาพระพุทธรูปที่เป็นทองคำ  ๗  องค์ใส่ในถุงเป้  เจ้าอาวาสที่ไปยืนดูอยู่จะขอร้องไม่ให้เอาไปพูดอย่างไรทหารฝรั่งก็ไม่สนใจ  เจ้าอาวาส  พระสงฆ์และสามเณรคิดจะต่อสู้กับทหารฝรั่งเศสเหมือนกันแต่ก็ไม่กล้า  เพราะทหารฝรั่งเศสมีอาวุธครบมือ  จึงปล่อยให้ทหารฝรั่งเศสเดินลงจากโบสถ์ไป  เจ้าอาวาสและพระสงฆ์  สามเณรต่างก็ยืนร้องไห้ด้วยความเสียใจ  พระพุทธรูปที่ทหารฝรั่งเศสเอาไปนั้นเป็นพระพุทธรูปปางสะดุ้งมาร        ๖  องค์  พระสังกระจาย  ๑  องค์  องค์ใหญ่ที่สุดนั้นโตเกือบเท่าแขนและเหลืออีกองค์หนึ่งเป็นพระคำตันโตกว่าหัวแม่มือ  ระยะต่อมาคุณตาทิดเหล็กและคุณตาต่วนกลัวว่าจะมีคนมาขโมยไปอีกจึงนำพระองค์นั้นไปไว้ที่ถ้ำบ้านภูปูน  พระพุทธรูปที่ตั้งอยู่ศาลาการเปรียญกับพระพุทธรูปปางห้ามญาติ  สร้างขึ้นเมื่อปี  พ.ศ. ๒๔๙๔  เสร็จเรียบร้อยปี     พ.ศ. ๒๔๙๕  คนปั้นชื่อ  คุณตาหลุม  อยู่บ้านวังเวิน  ตำบลหล่มเก่า  ค่าจ้างปั้นทั้งสององค์เป็นเงิน  ๔๕๐  บาท ส่วนฝาผนังโบสถ์  หน้าจั่วโบสถ์ด้านหน้าและด้านหลังมีจิตรกรรมฝาผนัง  อายุประมาณ  ๑๘๐  ปี  ผู้เขียนภาพชื่อ  นายแดง  ไม่ทราบว่าท่านมาจากที่ใด  ท่านเป็นโรคคุดทะราด  พวกชาวบ้านเรียกว่า  “ตาขี้ทูด”   ค่าจ้างช่างเขียนภาพยังสรุปไม่ได้แน่นอนเพราะบางท่านบอกว่า  ๑  ชั่ง  ๔  ตำลึง  แต่บางท่านบอกว่า  ๕๐  ชั่ง  การเรี่ยไรเงินจากชาวบ้านมาให้ค่าช่างเขียนภาพในครั้งนั้นบางคนไม่มีเงินต้องขายควาย  ขายทองคำ  บางคนก็ไปรับจ้างมาบริจาคให้ค่าช่าง ช่างใช้เวลาเขียนเกือบ  ๔  ปี ลักษณะของภาพที่เขียนถ้าเราหันหน้าเข้าโบสถ์  หน้าจั่วโบสถ์ด้านหน้าตอนบนเป็นภาพพระพุทธเจ้าเสด็จโปรดพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์  ต่อจากข้างบนลงล่างติดขอบประตูเข้าโบสถ์  ด้านขวามือภาพเขียนมารผจญ  ล่างลงมาทางซ้ายมือภาพเขียนพระพุทธเจ้าโปรดปัญจวัคคีทั้ง ๕  หน้าจั่วด้านหลังเป็นภาพเขียนชาวบ้านทำบุญปราสาทผึ้งเมื่อปี  พ.ศ. ๒๕๐๘  เจ้าอาวาสและคณะกรรมการวัดได้ทาสีภาพเขียนหน้าจั่วด้านหน้านี้เนื่องจากภาพเขียนชำรุดเลือนรางมาก ส่วนฝาผนังภายในโบสถ์ทั้ง  ๔  ด้าน  เหนือหน้าต่างขึ้นไปมีจิตรกรรมฝาผนังประวัติของทศชาติ (พระเจ้าสิบชาติ)  เป็นเรื่องที่มาจากชาดกซึ่งมีชื่อเต็มว่า  “มหานิบาตชาดก”  เขียนไว้ครบทั้งสิบเรื่อง  คือ  เต  ชะ สุ  เน  มะ  ภู  จะ  นา  วิ  เว (เต  หมายถึง  เตมีย์ใบ้  ชะ หมายถึง พระมหาชนก  สุ หมายถึง สุวรรณสาม  เน หมายถึง พระเนมิราช  มะ หมายถึง  มโหสถบัณฑิต  ภู  หมายถึง  พระภูริทัต จะ หมายถึง จันทกุมาร  นา หมายถึง พระพรหมนารถ   วิ หมายถึง วิธุรบัณฑิต  เว  หมายถึง  พระเวสสันดร)  สภาพชีวิตของชาวบ้านในการประกอบอาชีพ  หาเนื้อ  หาปลา  ตัดฟืน  และมีสภาพหมู่บ้านคนจีนเขียนแทรกซ้อนอยู่กัยพระเจ้าสิบชาติ  ฝีมือในการเขียนประณีตมาก  เป็นจิตรกรรมแบบไทยโบราณแท้ คุณยายบุรีเล่าให้ฟังอีกว่า  จิตรกรรมฝาผนังในโบสถ์แห่งนี้  ได้มีนายช่างเขียนภาพมาดูตัวอย่าง  แล้วนำไปเขียนที่กรุงเทพฯ  (ไม่รู้ว่านำไปเขียนวัดใด)  และถ้าใครมีโอกาสพบเห็นจะมีความวิจิตรพิสดารของจิตรกรรมฝาผนังโบสถ์วัดศรีมงคลบ้านนาทราย  ซึ่งมีแห่งเดียวในจังหวัดเพชรบูรณ์ หากท่านใดสนใจเข้าอ่านประวัติอย่างละเอียดได้ที่ http://www.education.thai-enjoy.com/archives/107 ครับ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 19:16:32

ความคิดเห็นที่ 48 ได้คำตอบยืนยันแล้วว่าเขียนในสมัยใด ขอบพระคุณพี่หนุ่มรัตนะที่หาข้อมูลมาเพิ่มเติมให้ครบครับและขอบคุณพี่ปลาทองที่เข้ามาช่วยท้วงติงครับ เดี่ยวพรุ่งนี้สายๆไปทำงานจะแอบโพสภาพเพิ่มเติมครับ ที่บ้านไม่มีเนตครับ จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 20:21:44

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ย้ำคิดย้ำฝัน เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 20:34:14

ความคิดเห็นที่ 50 ภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดศรีมงคล น่าจะมีอายุประมาณรัชกาลที่ ๕  จากภาพที่ปรากฎ บุคคลสวม ชุดราชปะแตน ที่ผนังทิศใต้ในเรื่องจันทกุมาร   และ จากประวัติวัด เมื่อประมาณ  พ.ศ. ๒๔๔๗  มีพระมหาเสนา เจ้าพ่อเมืองซ้าย  อยู่ที่หล่มสักได้มาชักชวนพี่น้องชาวบ้านนาทรายจัดงานฉลองโบสถ์ ท่านเจ้าพ่อเมืองซ้ายว่าชื่อวัดทรายงามไม่เป็นสิริมงคลจึงเปลียนชือวัดจาก วัดทรายงาม เป็นวัดศรีมงคล จึงเกิดสิริมงคลแก่หมู่บ้าน (จริงของท่านเจ้าเมืองตรงตัวมาก) ซึ่งเป็นเหตุการณ์ในช่วงรัชกาลที่ ๕ การเขียนภาพน่าจะเกิดขึ้นก่อนการฉลองโบสถ์ไม่มากนัก ที่ตั้ง ประวัติ และ ภาพสิมวัดศรีมงคล http://www.gis.finearts.go.th/fad50/fad/display_data.asp?id=0006898# แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 54 22:50:40 แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 54 22:46:07 จากคุณ : อ้ายจัน เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 21:20:44

ความคิดเห็นที่ 51 รูปข้างในสวยจัง แต่รบกวนขอรูปโบสถ์ข้างนอกด้วยครับ อยากเห็นอ่ะ จากคุณ : อุบาสกฉางชุน เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 22:14:43

ความคิดเห็นที่ 52 มาเพิ่มภาพตามสัญญาครับ... ภาพด้านนอก มีไม่มากเพราะกล้องที่ถ่ายด้านนอกเป็นของอีกคนหนึ่งที่ไปด้วยกัน อยู่ที่ผทจึงมีแค่ สอง สามภาพ จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 10:57:56

ความคิดเห็นที่ 53 ด้านหลัง... จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 10:58:16

ความคิดเห็นที่ 54 น่าจะเรียกว่าใบระกามั๊ง ผมไม่มีความรู้ด้านนี้จริงๆ ถ่ายภาพอย่างเดียว แถมไม่สวยอีก... จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 10:59:14

ความคิดเห็นที่ 55 ด้านในพระอุโบสถ ปกติปิดตายตลอด เพราะกลัวเรื่องแแดดจะมาทำลายสีภาพ จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 11:00:28

ความคิดเห็นที่ 56 .....พระพุทธรูปอื่นๆ จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 11:00:55

ความคิดเห็นที่ 57 ... จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 11:01:16

ความคิดเห็นที่ 58 ภาพหน้าบรรณ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 11:02:00

ความคิดเห็นที่ 59 ดูใกล้ๆ จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 11:02:31

ความคิดเห็นที่ 60 ... จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 11:02:51

ความคิดเห็นที่ 61 ... จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 11:03:05

ความคิดเห็นที่ 62 ....ปิดท้ายครับ จริงๆมีอีกแยะมาก สองสามร้อยรูป แต่เป็นรูปที่ต้องเอาไปส่งให้ผู้ว่าจ้าง จึงได้แต่คัดพวกที่ถ่ายเกินๆไม่ค่อนตามจุดประสงค์เก็บไว้ดูเอง อย่าลืมแวะไปชมกันเยอะๆนะครับ ต่ออายุบวรพุทธศาสนา... จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 11:05:08

ความคิดเห็นที่ 63 ภาพจิตรกรรมฝาผนัง อารมณ์ขันแกมทะลึ่งเล็กๆ ความรู้จากภาพถ่ายและคุณหนุ่ม ทำให้อมยิ้มได้ครับ จากคุณ : techkon_d เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 11:41:08

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณมากๆค่ะสำหรับรูปโบสถ์ ตัวโบสถ์น่าจะสร้างขึ้นสมัยอยุธยาตอนปลายจริงๆ แต่จิตรกรรมน่าจะเป็นแบบที่เค้าบอกๆกันมาอ่ะค่ะว่าสมัยรัตนโกสินทร์แล้ว จากคุณ : apple a day เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 14:36:13

ความคิดเห็นที่ 65 สวยครับบ แอบทะลึ่งเล็กน้อย อิอิ จากคุณ : วุฒิสันติ์กุล เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 21:16:40

ความคิดเห็นที่ 66 ขอบคุณมากนะคับ เห็นภาพคห.18 แล้วตกใจมาก ไม่คิดว่าจะโจ่งแจ้งขนาดนั้น ฮ่าาา แสดงว่ามีมาทุกยุคทุกสมัยตั้งแต่สมัยกรีก-โรมันเหมือนที่อธิบายไว้จริงๆๆ จากคุณ : A Boy From The Moon เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 18:55:47

ความคิดเห็นที่ 67 สีสวยคลาสสิค ลายเส้นจริงใจมากๆ ครับ ขอบคุณที่เอามาให้ชม จากคุณ : Nagano เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 23:05:24

ความคิดเห็นที่ 68 งามมากค่ะ ดิฉันก็ชอบถ่ายภาพจิตรกรรมฝาผนังสไตล์นี้เหมือนกัน มี folder Erotic Emotion โดยเฉพาะเลย ^___^ จิตรกรรมฝาผนังไทย เสน่ห์อยู่ตรงภาพกากนะ ดิฉันว่า จากคุณ : มาลัยใบจันทร์ เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 14:28:29

ความคิดเห็นที่ 69 สวยงามจนอยากไปดูให้เห็นกับตาสักครั้ง... จากคุณ : jemuay เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 17:13:33

ความคิดเห็นที่ 70 ชอบจริงๆ ของทรงคุณค่าอย่างนี้ ขอบคุณครับ จากคุณ : นส.3ก เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 22:23:13

ความคิดเห็นที่ 71 คนให้ give คห.18 นี่คงจะเป็น.......? จากคุณ : สมภพ เจ้าเก่า เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 13:00:40

ความคิดเห็นที่ 72 เห็นจากรูปแล้วทำให้อยากไปดูที่วัดด้วยตาจริงๆครับ คุณเจ้าของกระทู้น่าจะเอาไปโพสต์ในห้องบลูด้วยนะครับ เผื่อช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวและช่วยอนุรักษ์ของดีบ้านเราด้วยครับ จากคุณ : กุ้งบก เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 22:36:25

ความคิดเห็นที่ 73 ถ่ายรูปสวยมาก ขอบคุณค่ะที่นำมาให้ชม จากคุณ : PiN.VE เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 09:24:58

ความคิดเห็นที่ 74 ฝากบอกห้องบลูไว้ก่อนนะครับ สิมนี้ห้ามสุภาพสตรีเข้าข้างใน กุญแจอยู่กลับท่านเจ้าอาวาส หากไปช่วงรับกิจนิมต์อาจไม่ได้ชมข้างใน แต่ข้างนอกก็มีภาพที่ผนังห้มกลองด้านหน้าเรื่องพุทธประวัติสามารถชมได้ และที่ศาลาการเปรียญมีภาพถ่ายจิตรกรรมข้างในในชม จากคุณ : อ้ายจัน เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 18:52:38

ความคิดเห็นที่ 75 ขอบคุณครับ :-) จากคุณ : ครับผม เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 54 18:34:10

ความคิดเห็นที่ 76 ขอบพระคุณทุกๆท่านที่เข้ามาชม บุญรักษาทุกคนครับ เข้ามาปิดกระทู้ ด้วยความยินดี ^-^ จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 10:32:09