|
1. เดิมทีการกินเจนั้นเป็นพิธีกรรมหนึ่งของลัทธิเต๋าและลัทธิพื้นบ้านของจีนครับ แต่โบราณชาวจีนก็เชื่อกันว่า ผู้ที่จะละทิ้งโลกสำเร็จเป็นเซียน ควรจะกินเจเพื่อรัีกษากายให้บริสุทธิ์ หรือเมื่อจะกระทำพิธีกรรมที่ศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ก็มักจะมีการกินเจกันก่อนสัก 3-7 วัน เพื่อเป็นการทำร่างกายให้บริสุทธิ์เช่นกัน
แนวคิดนี้แพร่หลายในจีนมานานพอสมควรครับ ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะมาจากอิทธิพลของศาสนาพุทธมหายาน หรือลัทธิเต๋าพัฒนาขึ้นมาเองนะครับ แต่อย่างน้อยการกินเจ หรือมังสาวิรัติแบบจีนก็น่าจะมีมานานแต่สมัยสุยหรือถังแล้วแน่ๆ
2. ทีนี้ช่วงเดือน 9 ตามคติความเชื่อโบราณของลัทธิเต๋าบางสำนักนั้น จะถือว่า 9 วันแรกของเดือน 9 เป็นช่วงมงคลที่จะบูชาบรรพกษัตริย์โบราณทั้ง 9 องค์ครับ (นับแต่เล่าจื้อเผยแพร่แนวคิดเต๋าเมื่อเกือบ 2500 ปีก่อน ลัทธิเต๋าก็แตกแขนงออกเป็นหลายสาขาสำนักมากครับ มีทั้งเป็นปรัชญา, โหราศาสตร์, ไสยศาสตร์ และ ฯลฯ มากมาย)
ซึ่งแนวคิดนี้เอง ทำให้เกิดการพัฒนาขึ้นเป็นฤดูกาลหรือช่วงเวลาที่คนที่เลื่อมใสในลัทธิเต๋าสำนักนี้ จะรับประทานอาหารเจ เพื่อเป็นพิธีกรรมหน่ะครับ
ทว่าเมืองจีนนั้นกว้างใหญ่ไพศาล ลัทธิเต๋าเองก็มีหลายสำนัก ทำให้แนวคิดเรื่องเทศกาลเดือน 9 นี่ อาจจะจำกัดอยู่แค่คนบางกลุ่มหรือบางลัทธิเท่านั้นครับ เพราะตามเทศกาลมาตรฐานของจีน เดือน 9 ต้นเดือนจะเป็นเทศกาลฉงหยางในการชมดอกไม้และเดินขึ้นเขาหน่ะครับ
3. ทีนี้ความเชื่อเรื่องการกินเจในช่วง 9 วันของเดือน 9 ก็คงจะกระจัดกระจายกันในหมู่คนจีนทางใต้สารพัดกลุ่ม ตามแต่พวกนักพรตลัีทธิเต๋าจะเอามาแผยแพร่กัน และกลายเป็นธรรมเนียมของกลุ่มสมาคมลับ อั้งยี่ หรือกลุ่มชนตามหมู่บ้านต่างๆครับ ไม่ได้เป็นเทศกาลมาตรฐานเหมือน ไหว้พระจันทร์ หรือ แข่งเรือมังกรไหว้บะจ่าง
4. ทีนี้พอชาวจีนทางใต้อพยพมาอยู่ในเมืองไทย ก็เอาความเชื่อเหล่านี้ติดมาด้วย และมาผสานกับแนวคิดเรื่องการรวมกันเป็นกลุ่มก้อน โดยอาศัยเทพเจ้าหรือสมาคมลับที่นับถือร่วมกัน เลยพัฒนากลายเป็นพิธีกรรมการกินเจนี้แลครับ
ผมว่าตอนนี้มีแต่เมืองไทยนี่แล ที่จัดกันเป็นเทศกาลขนาดใหญ่ และกินกันเกือบทั้งประเทศ จะคนไทยเชื้่อสายจีน, คนไทยและประชากรเชื้อชาติต่างๆ ตอนนี้พอถึงเทศกาลกินเจ ก็ทานกันตามไปหมดเลย
จากคุณ |
:
อุ้ย (digimontamer)
|
เขียนเมื่อ |
:
28 ก.ย. 54 15:30:52
|
|
|
|
|