|
ผ่านแค่คาบเส้น ไดัอันดับ 2 เพื่อนอีกคนผ่านเยอะหน่อย ได้อันดับ 1 ตอนปีแรกๆ จะเป็นช่วงปรับตัว เกรดอาจจะน้อยหน่อยครับ เวลาขึ้นไปปีสูงๆ เรียนเฉพาะวิชาในเมเจอร์แล้ว อาจารย์จะให้เกรดง่ายขึ้น ผมเรียนวิทยาศาสตร์ แต่ช่วงปี 2-4 ผมลงวิชาเลือกไปตามความชอบของตัวเอง เช่น - การช่วยชีวิตทางน้ำ (1 หน่วยกิต) - ประวัติศาสตร์โลกช่วงปัจจุบัน (1 หน่วยกิต) - ดำน้ำ SCUBA (3 หน่วยกิต) - ภาษาฝรั่งเศสเบื้องต้น 1, 2, 3, 4 (อย่างละ 3 หน่วยกิต) - พิมพ์ดีดไทย-อังกฤษ (3 หน่วยกิต) ส่วนใหญ่เป็นวิชาพื้นฐานด้วย ปล่อยเกรดง่ายด้วย เลยได้คะแนนค่อนข้างดี มันเลยช่วยปั๊มๆ เกรดเฉลี่ยให้ขึ้นมาเกิน 3.25 ได้ครับ ----------------------------------------------------------------- เมื่อจบมาแล้ว ทั้งผมและเพื่อน เรียนจบมาไม่ตรงสี สมัครงานกี่ที่ก็ไม่มีใครเรียกสัมภาษณ์ ถึงจะได้เกียรตินิยมก็เหอะ เราเลยไปเรียนต่อกัน ช่วงที่เรียนต่อ เพื่อนทำงานวิจัยดีมาก อาจารย์เห็นแวว ให้ทุนไปเรียนเมืองนอก ส่วนผม ออกแนวลุยหน่อย + ได้ภาษาหน่อย แต่งานวิจัยไม่ค่อยเก่ง ช่วงที่เรียนก็แวะไปทำงานลูกจ้างราชการบ้าง ทำงานล่ามบ้าง จบโทแล้วก็ไปทำงานประสานงานโปรเจค เอาตัวรอดกันไปได้เรื่อยๆ ก่อนเพื่อนผมจะบินไปเมืองนอก นัดกินข้าวกัน (แผงลอยข้างถนนตรงหน้ามหาลัย) ก็มาสะท้อนกันว่าที่ได้เกียรตินิยมมา ส่งผลอะไรกับชีวิตเราตั้งแต่เรียนจบจนกระทั่งตอนนั้น (หลังเรียนจบไปแล้วราวๆ 3-4 ปี) บ้างไหม? คำตอบคือ ไม่เลย เกียรตินิยมมันเป็นแค่เหรียญติดเสื้อครุย ได้ใช้จริงๆ แค่วันเดียว คือ วันรับปริญญา เหรียญเกียรตินิยมมันมีขอบหยักๆ เราเลยเรียกมันว่า "ฝาเบียร์" ตอนนี้เอาไปเก็บไว้ไหนแล้วก็ไม่รู้ เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 2 ครับ สิ่งที่สำคัญกว่าเกียรตินิยม คือ ความสามารถในการทำงานเป็นทีม (หรืออย่างน้อยก็ทำงานเป็นส่วนหนึ่งของทีมโดยที่ไม่เกิดดราม่า) ถ้าทำได้ ก็มีความหมายกว่าฝาเบียร์เยอะครับ อ้อ แล้วก็การปราศจากซึ่งอีโก้ด้วย สำคัญเช่นกัน เห็นบางคนที่ไม่ยอมรับความล้มเหลวของตัวเอง ไม่ยอมทำงานเงินเดือนน้อยๆ หรือทำงานที่มันลำบากหน่อยๆ เพียงเพราะว่า "จบเกียรตินิยมมา" แล้วมันรู้สึกคันๆ อ่ะ
แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 54 08:44:33
จากคุณ |
:
ฮอนโจ๊ะ
|
เขียนเมื่อ |
:
30 ก.ย. 54 08:40:55
|
|
|
|
|