PANTIP.COM : K11143414 นักศึกษาแพทย์มาแชร์ประสบการณ์การณ์กันหน่อยค่ะ [การศึกษา]

ความคิดเห็นที่ 1

ผมเรียนจบมาแล้วนะครับ แสดงว่าวิธีของผมนี่มันก็ไม่น่าจะเลวนัก พาผมจบมาได้ เห็นคุณไปถามคนกำลังเรียนมันให้ข้อมูลจะไม่ครบ

- เป็นวิธีการเรียนการทบทวนยังไงคะ ให้เก่งในวิชายากๆหลายๆวิชา อ่านหนังสือกันวันละกี่ชม.คะ
>> เอาแน่ไม่ได้ ว่างก็อ่าน แต่ว่าปกติเป็นคนชอบอ่านหนังสืออยู่แล้วทุกอย่าง

- มีเทคนิกการจำอะไรเป็นพิเศษไหม พวกศัพท์เฉพาะทางภาษาอังกฤษ ละติน ท่องกันยังไงคะ
>> ท่องศัพท์? โอ เดียร์ เป็นวิธีเรียนภาษาที่ผมไม่เห็นด้วยเป็นที่สุด ถ้าคุณหมายถึงศัพท์ทางแพทย์จำพวกกายวิภาคศาสตร์ มันก็มีความหมายและหลักในตัวอยู่เป็นส่วนมากด้วยการเติม suffix/prefix

- แบ่งเวลายังไงคะระหว่างการเรียน เวลาส่วนตัว กับ กิจกรรม
>> ผมไม่ได้แบ่งเด็ดขาดอย่างนั้นหรอก มันขึ้นกับว่าเมื่อไรเรามีธุระด้านไหน เราก็ทำไป เรื่องเรียนผมก็ไปเรื่อยๆ เรื่องเที่ยวก็เที่ยวพองาม เรื่องกิจกรรมเอาทุกอย่างตั้งแต่เป็นนักกีฬาคณะและมหาวิทยาลัย เป็นกรรมการนักศึกษาคณะและมหาวิทยาลัย เป็นนักดนตรีวงนักศึกษา กิจกรรมพิเศษนี้เบียดบังเวลาดูหนังสือพอสมควร มีผลต่อคะแนนบ้าง แต่ผมไม่ได้เรียนเอาเหรียญเลยไม่ซีเรียส

- มีใครมีความรักไปด้วยไหม กระทบการเรียนกันบ้างรึเปล่า
>> อ๋อ มีหลายคน คบๆเลิกๆแต่ทีละคนนะ แต่คนที่ลงเอยด้วยนี่มีตั้งแต่ข้ามฟากแน่ะ อยู่คนละฟากแม่น้ำ ไปมาหาสู่กันง่าย เขาจบก่อนแล้วไปอยู่ต่างจังหวัด เรายังแต่งเพลงให้เลย อัดใส่เทปส่งไปให้ ป้องกันรักแท้แพ้ใกล้ชิด ไม่เห็นมีอะไรนี่ อย่าให้เรื่องคบๆเลิกๆมันมากระทบเรามาก คบก็คบ เลิกก็เลิก ไปด้วยกันไม่ได้เป็นเรื่องธรรมดาของเด็กๆที่ต้องเรียนรู้ ต้องรู้หน้าที่ว่าเราเป็นใครและจะทำอะไร อย่าให้พ่อแม่เสียใจ

- ปีที่เท่าไหร่ถึงรู้ว่า ชอบเฉพาะทางด้านไหน แล้วทำอย่างไรที่จะมีโอกาสศึกษาด้านนั้นให้มากขึ้น เช่น ไปฝึกวอร์ดนั้นมากขึ้นได้ไหม
>> สำหรับผม จบแล้วยังไม่รู้หรอกว่าตัวเองชอบอะไร ต้องไปทำงานสักสองสามปีโน่นแหละ ได้รู้ได้เห็นสภาพการทำงานในอนาคตมันก็บอกได้ว่าเราควรไปทางไหน อ้อ แล้วก็ไม่ได้เคยคิดอยากจะเอาสบายใส่ตัวด้วยการเรียนสาขาที่ไม่เคยมีฉุกเฉินแต่ว่าทำเงินได้เยอะๆเหมือนเด็กสมัยนี้จำนวนมาก ผมเลือกเรียนไอ้อย่างที่มันเหนื่อยแสนสาหัสแล้วก็หาเงินไม่ค่อยได้ แต่เอาเข้าจริงๆ ก็ไม่ได้จนแล้วก็ไม่ได้รวย มันก็ไปเรื่อยๆ มีบ้าน มีรถ มีสิ่งอำนวยความสะดวก เหมือนเพื่อนๆคนอื่นน่ะแหละ ไม่ได้น้อยหน้า

- โดยรวมเรียนกันมีความสุขไหมคะ สุขภาพล่ะ เครียดไหม แล้วได้นอนกันวันละกี่ชม.
>> อ้าว ถามได้ เรียนแล้วไม่มีความสุขจะเรียนได้จบหรือ? เรื่องสุขภาพนั้นผมเองไม่เคยเจ็บไข้ เล่นกีฬาออกกำลังกายตลอดก็เลยไม่มีปัญหา ใครไม่แข็งแรงอย่ามาเรียน ออดแอดสามวันดีสี่วันไข้มันจะเรียนได้จบหรือเพราะว่าต้องทรหด อดหลับอดนอน ก็วิชานี้มันต้องยกประโยชน์ท่านมาก่อนประโยชน์ตนเสมอ ดังนั้นการบริหารกิจกรรมให้รักษาสุขภาพได้ดีพอจะรับงานหนักได้จึงจำเป็นอย่างยิ่ง

- อะไรสำคัญมากกว่ากันเวลาไปใช้ทุน, ศึกษาเฉพาะทางต่อและสมัครงานคะ ระหว่าง GPA, ผลสอบขั้น1 2 3, สถาบันศึกษาที่จบมา หรือ ผลงานวิจัยและรางวัล
>> อ๋อ สำหรับผมมีคนให้ทุนเรียนครับ ตอนจบเขาก็รับเข้าทำงานเลย ไม่มีสิทธิ์หนีไม่งั้นนายประกันคือพ่อแม่ใช้หนี้หูตูบ ใครจะไปทำลง เรื่องที่คุณถามมาน่ะไม่เป็นประเด็นสำหรับผม อย่างไรก็ตาม ผมเคยคัดเลือกเด็กมาทำงานด้วย ไอ้ที่คุณถามน่ะเป็นแค่ส่วนประกอบ ที่สำคัญคือความรับผิดชอบต้องมาที่หนึ่งครับ รู้ได้ไง? เราหาข่าวจากจดหมายรับรองของเจ้านายเก่าครับ เขาเขียนมาว่าไงเราพอจะอ่านออกระหว่างบรรทัดว่าเด็กคนนี้เป็นไง บางคนสเป็คอย่างที่คุณถามดีมากแต่พอดูประวัติการทำงานงี้เบี้ยวเพียบแสดงว่าเรียนเก่งอย่างเดียว นอกจากนั้นตอนเรียนเฉพาะทาง เรามักจะกลับไปสมัครในสถาบันเดิมที่เรียน ความเอาไหนไม่เอาไหนนั้นอาจารย์และรุ่นพี่ๆเขารู้ดีว่าใครเป็นยังไง ใครที่สร้างเวรสร้างกรรมไว้มากก็มักจะรู้ตัว ไม่ไปสมัครให้เขาถีบออกมาหรอก สำหรับเรื่องวิจัยคงเป็นคะแนนบวกสำหรับหน่วยงานที่ทำงานวิจัยแต่หน่วยงานทางการแพทย์ทั่วไปคงไม่สำคัญนัก ผมก็เคยพิจารณาคนที่มาสมัคร ก็ให้แต้มตรงนี้เพิ่มด้วย

นี่สอบเข้าเป็นนักเรียนแพทย์ได้หรือยังนี่? โห คิดละเอียดจัด ตอนผมอายุเท่านี้ยังไม่เคยคิดอย่างนี้เลย แสดงว่าเป็นคนรอบคอบดีมาก

อย่าลืม ขยันและรับผิดชอบด้วยนะ แล้วก็อดทน

จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด

เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 15:45:30