 |
ตอนเด็กๆเรามี iq ต่ำกว่ามนุษย์ทั่่วๆไปเลยเรียนอะไรไม่ค่อยจะสำเร็จ
แต่หลังจากฝีก Zen Macrobiotics มาได้หลายปี เราเปลี่ยน cells ร่างกายและสมองเรา เราเลยเรียนรู้อะไรได้รวดเร็วมากๆ
เราเริ่มเรียนการแปลด้วยตัวเองเมื่ออายุ 40
และนี่คือสิ่งที่เราคิดค้นได้จากการเรียนการแปลด้วยตัวเอง อยู่ในกระทู้เก่าอันนี้
http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/06/K7934208/K7934208.html
จากนั้นเราเริ่มเรียนการใช้คอมพิวเตอร์กับอินเตอร์เน็ตด้วยตัวเองเมื่ออายุ 50 ปี ตอนอายุ 55 เรากลายเป็นนักทดสอบ software ซึ่งติดตั้งรื้อและดัดแปลงระบบคอมพิวเตอร์เป็นว่าเล่น คุณเคยเห็นพวกชมรมสอนคอมพิวเตอร์ให้คนแก่ไหมล่ะ...ใครเคยสอนคอมพิวเตอร์ให้คนแก่บ้างแล้วจะรู้ว่าสอนยากแค่ไหน แต่เราเรียนคอมพิวเตอร์ด้วยตัวเองตอนอายุมากๆ
Zen Macrobiotics กับการฝึกสมาธิและลมปราณจากคัมภีร์โบราณของเต๋าคงทำให้เกิด biological transmutation ได้จริงๆนั่นแหละ เพราะตอนนี้ cells ร่างกายและสมองเราเปลี่ยนไปอย่างผ่าเหล่าผ่ากอ ตอนอายุเกิน 60 เราไม่มีรอยเหี่ยวย่นใดๆบนใบหน้าหรือผิวกายเลย เนื้อหนังเรากลับกลายเป็นเนียนเหมือนเด็กวัยรุ่นเพราะการฝึกคัมภีร์โบราณกับการทดสอบสมุนไพรกับการกินอาหารปลอดสารพิษมาหลายสิบปี ทำให้ร่างกายเราสร้าง sex hormones ได้มากผิดปกติจนถึงขั้นตัณหากลับตอนอายุมากๆ ซึ่งผิดกับคนแก่โดยทั่วๆไป
เรามีโอกาสเรียนต่อเพื่อเอาวุฒิสูงๆ แต่เรากลับคิดแหกคอกไม่ยอมเรียนเอาวุฒิสูงๆ เพราะเราเคยไปสมัครงานในเมืองไทยแล้วโดนกีดกันว่าวุฒิต่ำไป เราเลยมีความทะเยอทะยานอยากจะเป็น super genius เมื่ออายุ 100 ปี โดยไม่เรียนต่อในมหาลัย แต่จะพยายามเก่งกว่าคนจบวุฒิสูงๆจากมหาลัยให้ได้ในทุกเรื่อง เพราะเราชื่นชมคนที่ไม่จบวุฒิสูงๆจากมหาลัย แต่เป็นอัฉริยะอย่างเช่น Thomas Edison, Bill Gates และ Steve Jobs
เราพยายามเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองเพื่อแข่งกับคนเรียนเอกอังกฤษในระดับปริญญาโทกับปริญญาเอก เราว่ามันสนุกดีท้าทายดี วิธีเรียนเราใช้ precise logic กับ creative imaginations โดยใช้ความรู้ ICT (ซึ่งเราเรียนมาด้วยตัวเอง) เป็นเครื่องทุ่นแรง ส่วนใหญ่เราจะไล่ล่าหา digital media เพื่อการเรียนการสอนภาษาอังกฤษมาใช้สอนตัวเอง หาไปหามา ทดสอบไปทดสอบมาเรากลายเป็นนักทดสอบ software ที่คิดอะไรพลิกแพลงมากๆ จนตอนนี้เราเกือบจะเลิกเรียนภาษาอังกฤษไปแล้ว และหันไปเอาดีทาง IT เราเพิ่งไปสอยเอา videos สอนวิชา computer science มาศึกษาด้วยตัวเอง และกำลังจะทบทวนภาษาจีนอีกรอบหนึ่งเพื่อหารายได้พิเศษจากการแปลภาษาจีนเป็นอังกฤษ (เพราะตอนนี้เราแปลได้แต่อังกฤษไทย ไทยอังกฤษ งานมันยังจำกัด)
ถามว่าตอนอายุมากกว่านี้เราอยากเปลี่ยนอาขีพเป็นอะไร นักแปลที่เก่งกาจ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์
ตอบ
ไม่ใช่เลย เราอยากเป็นอาจารย์สอนวรยุทธ์จีนกับสอนโยคะ
เพราะตอนนี้ร่างกายเรายิ่งอายุมากเรายิ่งหน้าตาเด็กขึ้นเรื่อยๆอย่างน่ามหัศจรรย์ และเราเคลื่อนไหวร่างกายออกอาวุธท่าเพลงมวยจีนได้ทรงพลังมากกว่าสมัยเราเป็นเด็กๆอีกตั้งหลายเท่า
ตอนนี้เรากำลังดูแลพ่อเราถ้าไม่มีพ่อเราแล้วเราคงบินออกนอกประเทศไทยไปสอนวรยุทธ์จีนกับสอนโยคะในต่างแดน และไปตายต่างแดน
^
นั่นก็เพราะว่าความรู้เราซึ่งส่วนใหญ่เราเรียนรู้ด้วยตัวเอง ใช้ประโยชน์ในเมืองไทยไม่ค่อยจะได้ เนื่องจากประเทศไทยต้องการคนจบวุฒิสูงๆซะมากกว่า (ขนาดเราไปสมัครสอนภาษาอังกฤษระดับ ม.ปลายในโรงเรียนกวดวิชา เรายังโดนโรงเรียนกวดวิชาปฏิเสธหาว่าไม่จบปริญญาโทมาเลย) และจากการที่เราเป็นคนชอบเรียนรู้อะไรด้วยตัวเอง แต่หนทางที่จะใช้ความสามารถของเราทำงานเพื่อมวลมนุษย์ในประเทศไทยมันแทบจะตัน เราจึงไม่คิดที่จะตายในประเทศไทย
แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 54 15:17:25
| จากคุณ |
:
fortuneteller   
|
| เขียนเมื่อ |
:
วันเกิด PANTIP.COM 54 05:59:17
|
|
|
|
|
ขอตัวอย่างบุคคล ที่เปลี่ยน สาขาเรียน หรือ สาขางาน ตอนแก่หรือเริ่มมีอายุ ด้วยครับ
