ความคิดเห็นที่ 1 ผมจขกทนะครับ ผมขอเพิ่มเติม ไม่คิดว่า เป็น are เพราะ crimeS นะครับ แต่ลังเลว่า เป็นเพราะ 2 percent นั่นหรือเปล่าหนอ (แต่ดันมี article A อีก ฮ่วย ) สรุปว่า รอ...พี่ๆ อาๆ และคุณครู ทุกท่านตรงนี้แหละครับ แหะๆๆ จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 19:15:11 A:58.64.80.181 X: TicketID:215564

ความคิดเห็นที่ 2 1.  A mere = no more than. 2. 60-year-old people = 60-year-olds. จากคุณ : genf เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 19:37:19

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่ชอบเรียน grammar แฮะ เราใช้วิธีจำๆสิ่งที่ฝรั่งพูดกับเขียนมาตั้งแต่เรียนพูดแล้ว ตอนเรียนเขียนก็ใช้วิธีจำมาทั้งวลีหรือประโยค แล้วเอามารื้อเขียนใหม่ คือเราเคยเห็นฝรั่งเขียนแบบนี้บ่อยๆ นะ คือ a ...(number)...per cent of something ^ เขาใช้แบบนี้ก็ใช้ตามเขา แล้วก็ขี้เกียจไปคิดว่าอะไรเป็น singular อะไรเป็น plural crimes are ก็ใช้ are ตาม crimes นั่นแหละ เคยเห็นเขาเขียนกันว่า  a 60-year-old man แปลว่าผู้ชายอายุ 60 หนึ่งคน แล้วเคยเห็นเขาเขียนกันว่า  60-year-old men แปลว่าผู้ชายอายุ 60 หลายคน และเขียนอีกอย่างว่า  a 60-year-old แปลว่าคนอายุ 60 หนึ่งคน และเขียนอีกอย่างว่า 60-year-olds แปลว่าคนอายุ 60 หลายคน ตกลงเราเรียน grammar โดยไม่เคยทำแบบฝึกหัด grammar เลย แต่ใช้สัมผัสพิเศษเอาคือฟังแล้วเลียนแบบกับอ่านแล้วเลียนแบบลูกเดียว จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 19:44:42

ความคิดเห็นที่ 4 เราไม่เคยทำแบบฝึกหัด grammr แต่เราใช้วิธีจำเอาเป็นชุดๆแบบเนี้ย เป็นต้น จำแค่นี้ก็งัดเอามาเขียนได้แล้วหละ a mere 14.4 per cent of ... a further eleven per cent of ... a staggering 84.9 per cent of ... a meagre five per cent of ... a remarkable 28.3 per cent of ... a paltry 1.3 per cent of ... a whopping 75 per cent of ... a resounding 98 per cent of ... a worrying 27.5 per cent of ... ^ โอ้ยังมีอีกบานเลยหละ แต่ใช้สมองคิดพลิกแพลงเอาเองได้ ถ้าจำของฝรั่งมามากพอสมควร จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 19:54:50

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณครับ คุณ genf แสดงว่า 1). A mere xxxxxx ----> ไม่ใช่เอกพจน์ ??? 2). เราสามารถเขียน 2.1) A mere percentages "are" ..... 2.2) A mere rates "are" ........ แบบนี้ได้ ใช่หรือไม่ครับ 3). แล้วเราสามารถเขียน 3.1) A mere amount / A mere number ---> แบบไม่เติม s หลัง amount หรือ number แบบนี้ได้ ใช่หรือไม่ครับ และ 3.2) กริยาที่ตาม 3.1) ต้อง singular ใช่หรือไม่ ครับ หากสมมติฐานของผมเป็นจริง ก็แสดงว่า เห็น article --> A โดยเฉพาะ A mere จะสรุปว่าเป็นเอกพจน์ไม่ได้ ต้องมาอ่านข้างหลังอีกทีอย่างนี้ใช่ไหมครับ โทษทีนะครับที่ถามละเอียด อยากทราบให้ชัดเจน เพราะจะนำไป สอบครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 19:56:28 A:58.64.80.181 X: TicketID:215564

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณ คุณ fortuneteller นะครับ รบกวนดู comment ที่ 5 ให้ผมหน่อยสิครับ ผมขอถามทั้ง คุณ genf , fortuneteller และ ท่านอื่นๆ ด้วยครับ หากพอมีเวลา และสะดวกให้ข้อมูลเพิ่มเติม อะนะครับ จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 20:00:48 A:58.64.80.181 X: TicketID:215564

ความคิดเห็นที่ 7 กลุ่มคำที่ขึ้นต้นด้วย A ไม่จำเป็นต้องเป็นเอกพจน์เสมอไป ต้องดูความหมายของกลุ่มคำนั้นว่าเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์ A mere 2 percent of crimes เป็นพหูพจน์ มากกว่า one crime แน่ๆ A group of students are protesting ... อันนี้พหูพจน์ A lot of dogs have fleas พหูพจน์ 2). เราสามารถเขียน 2.1) A mere percentages "are" ..... 2.2) A mere rates "are" ........ แบบนี้ได้ ใช่หรือไม่ครับ ...................... ไม่ได้ครับ A ตามด้วยคำนามพหูพจน์ไม่ได้ (mere เป็นแค่ adjective) แนะนำให้อ่านเยอะๆแล้วจำตัวอย่างการใช้ภาษาอังกฤษในประโยคต่างๆ อย่าไปท่องกฎ grammar แต่ให้สังเกตโครงสร้างของประโยคต่างๆในเรื่องที่อ่านแล้วจำไปใช้ เด็กฝรั่งตั้งแต่เล็กก็ฟังผู้ใหญ่พูดแล้วก็จำเอาไปพูดต่อ ไม่ต้องเรียน grammar ก็สามารถพูดภาษาอังกฤษกันได้ เราควรเลียนแบบวิธีเรียนภาษาอังกฤษของเด็กฝรั่งที่ยังไม่ได้เรียนหนังสือ จากคุณ : นายชัย เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 21:47:10

ความคิดเห็นที่ 8 Ahh....ขอบคุณ คุณนายชัย มากๆ เลยนะครับ กระจ่าง อะครับ กระจ่างมากๆ เลย ขอบคุณมากๆ ครับ ใช่จริงๆ ให้ดูที่ความหมายเป็นหลัก เพราะผมเคยจำได้ว่า Mr. A: I don't like a pizza. Mr. B: I don't either. เคยเรียนว่า ถ้าเป็นปฏิเสธ ให้ใช้รูปแบบที่ B ตอบ แต่ที.... Mr. C: I disagree with the proposal. Mr. D: I don't either. ทั้งๆ ที่ไม่มี don't ในประโยคของ Mr. C แต่ความหมายปฏิเสธ ก็ต้องใช้แบบนี้ เหมือนกัน ดังนั้น จึงให้ดูที่ความหมาย (ให้ลองจินตนาหาร เข้าใจเหมือนที่ เด็กฝรั่งเริ่มหัดพูด) ที่เรียนมาตามตำรา อันนั้นเอาให้เป็น reference เป็น frame ไม่ให้วิ่งหลุดกรอบ :D ขอบคุณทุกท่านครับ :D จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 10:08:22 A:210.1.24.249 X: TicketID:215564

ความคิดเห็นที่ 9 ขอโทษค่ะ ขอแย้ง คห.7 นิดนึงค่ะ A mere สามารถตามด้วย นามเอกพจน์หรือพหูพจน์ก็ได้  เช่น It took her a mere 20 minutes to win. ไม่เกี่ยวกับว่า ขึ้นต้นด้วย A แล้วห้ามตามด้วย นามพหูพจน์แต่อย่างใด   เหมือนกับคำว่า A number of people, A number of shoes นั่นแหละ A mere เป็น Adjective ใช้นำหน้านามเท่านั้น เพื่อเน้่นว่า ...เพียงแค่../ เพียงเท่านี้... จากประโยคที่จขกท. ยกมา ----- > A mere 2 percent of crimes are committed by 60-year-olds.   นามหลักอยู่ที่คำว่า "Crimes" (A mere 2 percent of ให้มองเป็นแค่ Adjective ก้อนหนึ่ง   ดังนั้น ต้องใช้กริยาให้สอดคล้องกับประทาน[S-V Agreement] จึงต้องใช้ "ARE"  ถูกแล้วค่ะ ส่วนที่จขกท. ถามว่า ทำไมไม่ใช้ 2.1) A mere percentages "are" ..... 2.2) A mere rates "are" ........ เหตุผลง่ายๆค่ะ  อย่างที่เราบอกใบว่า a mere แปลว่า เพียงแค่...  (ใช้เพื่อเน้นว่าน้อยหรือไม่สำคัญ) ดังนั้น ถ้าพูดแค่  A mere percentages "are"  ก็จะไม่รู้เรื่องค่ะ  เพียงแค่เปอร์เซ็นต์...  แล้วกี่เปอร์เซ็นต์อ่ะ ----  งง ดังนั้น จึงนิยมใช้ ตัวเลข เพื่อบอกปริมาณด้วยเสมอ เช่น A mere 2 percent of crimes  เพียงแค่... 2 เปอร์เซ็นต์ ของ อาชญากรรม เข้าใจหรือยังคะ ถ้ามีเลข กับ ไม่มีเลข ความหมายจะต่างกันยังไง ^^ แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 54 19:22:55 จากคุณ : The sweet is my revenge เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 19:22:24

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณมากครับ คุณ The sweet is my revenge จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 10:25:41 A:210.1.24.249 X: TicketID:215564