ความคิดเห็นที่ 1 เราควรมองโลกในแง่ดีเสมอครับ มันทำให้ไม่เสียกำลังใจ มีความมานะ สุขภาพจิตดี มีแรงใจในการแก้ปัญหา การแก้ปัญหาที่ดีเริ่มด้วยการประเมินปัญหาตามที่เป็นจริง ไม่เข้าข้างตัวเอง พิจารณาปัญหา ข้อเท็จจริง ข้อพิจารณา ออกมาเป็นหนทางแก้ไขต่างๆพร้อมทั้งข้อดีข้อเสีย ทางหนีทีไล่ของแต่ละหนทาง การมองโลกในแง่ดี + การประเมินปัญหาตามที่เป็นจริง เป็นสิ่งที่อยู่ร่วมกันได้เสมอ ไม่ใช่สิ่งที่ค้านกัน ปัญหาที่คุณเรียกว่าการหลอกตัวเองจะเกิดเมื่อกระบวนการประเมินปัญหาและแก้ปัญหามันบิดเบือน มันมีความลำเอียง มีอคติเข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้าเกิดกับใครก็ซวยไป ถือเป็นกรรมของสัตว์ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 23:30:28

ความคิดเห็นที่ 2 การมองโลกทั้งในแง่ดีและแง่ร้ายล้วนแต่เป็นการมองสิ่งที่เป็นจริง เพียงแต่มองด้านที่ต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น เวลาฝนตกคนที่มองโลกในแง่ร้ายก็จะมองว่าฝนเป็นสิ่งที่ไม่ดี เพราะทำให้ไม่สะดวกต่อการเดินทาง พื้นก็แฉะ ตัวก็จะเปียก เวลาฝนตกหนักร่มแทบป้องกันไม่ให้ตัวเปียกไม่ได้ ฝนตกมากๆก็ทำให้น้ำท่วม หน้าฝนการทำมาหากินก็ลำบาก ขายของได้น้อย แต่คนที่มองโลกในแง่ดีก็มองว่าฝนนำความชุ่มฉ่ำให้แก่ธรรมชาติ ทำให้ต้นไม้และพืชพันธ์ต่างๆเจริญเติบโต ทำให้มีป่าที่สมบูรณ์ ทำให้มีแม่น้ำและลำธาร มีประโยชน์ต่อมนุษย์ทั้งในการเพาะปลูกและการใช้สอย มีน้ำใช้และมีน้ำดื่ม ฝนมีคุณค่ามหาศาลทั้งต่อคนและสิ่งแวดล้อม ส่วนการหนีจากความเป็นจริงนั่นเป็นโรคจิตชนิดหนึ่งแล้ว ไม่เกี่ยวกับการมองโลกทั้งในแง่ดีและแง่ร้าย จากคุณ : นายชัย เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 23:39:45

ความคิดเห็นที่ 3 การมองโลกในแง่ดีจะคาบเกี่ยวกับมองโลกด้วยความเป็นจริงอยู่ยางส่วน...ซึ่งถ้าเรามองอะไรด้วยความเป็นจริงตามสภาพของมัน สิ่งใดมันก็เป็นอย่างที่มันเป็น เราไม่ต้องไปตัดสินว่าอยู่ในแง่ไหน ไม่ต้องคิดอะไรมาก เราจะใช้หลักมองโลกในแง่ดี เวลาที่ตัดสินใจไม่ได้ว่าสภาพจริงของสิ่งใดสิ่งหนึ่งคืออะไรกันแน่...เราจะคิดในแง่ดี มองในด้านดี โดยอาศัยเหตุผลแวดล้อมประกอบเท่าที่จะทำได้...คนที่มีสภาพจิตใจดีมักจะเลือกวิธีปฏิบัติแบบนี้ ส่วนการหลอกตัวเอง...คือการที่รู้สภาพจริงของสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ใช่ไม่รู้ เพียงแต่ไม่อยากยอมรับไม่ว่าในแง่ไหนก็เท่านั้น... จากคุณ : kiria chalee เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 23:41:54

ความคิดเห็นที่ 4 มองโลกในแง่ดี กับ หลอกตัวเอง มันต่างกันตรงที่ว่ามองสถานการณ์บนพื้นฐานของความเป็นจริงหรือเปล่า การมองโลกแง่ดี ไม่ใช่ว่าจะมองข้ามปัญหาต่างๆ ไป แต่เป็นการมองว่าปัญหาต่างๆ นั้นแก้ไขได้ และหาทางแก้ปัญหา/เตรียมรับมือกับปัญหาอย่างมีสติ มันจะเป็นการหลอกตัวเองก็ต่อเมื่อคิดว่า ปัญหาเหล่านั้นไม่เป็นปัญหาหรอก จากคุณ : ก็แล้วแต่จะคิด เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 23:57:13 A:61.90.43.37 X: TicketID:106200

ความคิดเห็นที่ 6 ในหนังจีนเรื่องหนึ่ง.... จอมยุทธบอกกะเมียว่า "ข้าไม่อยากจะอยู่ไปวันๆ " เมียซึ่งมาตามย้อนถามว่า "อยู่ไปวันๆ ไม่ดีตรงไหน" ความเห็นต่างตามที่ยกมา ทำให้เห็นว่า "การมองโลกในแง่ดี" ... และ ... "การหลองตัวเอง" .... อาจเป้นความเห็นแย้งก็ได้ ............... อีกมุมมองหนึ่ง "การมองโลกในแง่ดี" .... บ่งชี้ถึงความตรงกันข้ามคือ.... "การมองโลกในแง่ร้าย" ตามที่พอจะจำได้ เค้าบอกว่า ปรัชญาตะวันตกมีแนวคิดว่า "ปรับสิ่งแวดล้อมให้เข้ากับตนเอง" .... แต่ปรัชญาตะวันออกบอกว่า "ปรับตัวเองให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม" ถ้าจะประเมินค่าแล้วตัดสิน การมองโลกในแง่ดีหรือแง่ร้าย น่าจะเป็นเพียง "คุณค่า" ซึ่งต้องไปขึ้นประเด็นใหม่ .............. อนึ่ง วิชาปรัชญามีคำหนึ่งคือ rationalization ซึ่งแปลกันว่า "การกระทำให้มีเหตุผล" หรือ "เหตุผลเข้าข้างตัวเอง" ความแตกต่างระหว่างการมองโลกในแง่ดีกับการหลอกตัวเอง น่าจะอยู่ที่ว่า การมองโลกในแง่ดี มักจะมีระบบเหตุผลรองรับชัดเจน ส่วนการหลอกตัวเองเป้นเพียงการทำให้มีเหตุผลหรือเหตุผลเข้าข้างตัวเองเท่านั้น มั่วไปมั่วมา นัยสุดท้ายนี้แหละ น่าจะตรงตามประเด็นกระทู้..... จากคุณ : ณ. ลังค่าย เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 00:20:08

ความคิดเห็นที่ 7 ที่ผมมาตั้งกระทู้ถามเพราะว่า เวลาผมบ่นกับเพื่อนเรื่องปัญหาต่าง เขามักจะบอกว่ามองโลกในแง่ดีเข้าไว้ ผมก็เลยงงว่ามันจะให้มองโลกในแง่ดีได้อย่างไรเพราะ ผมมองว่าถ้ามันเกิดเหตุการณ์แบบนี้นะ มันจะเกิดมีปัญหาอื่นๆตามมา คือถ้ามันมีเหตุผลรองรับว่ามันจะเกิดปัญหาขึ้นมา เราไม่ควรที่มองโลกในแง่ดีใช่มั้ยครับ การมองโลกในแง่ดีในกรณีแบบนี้เรียกว่าเป็นการหลอกตัวเองใช่มั้ยครับ ที่ คห 1 เสนอมาผมว่าดีนะครับ เพราะการมองโลกในแง่ดี มันจะช่วยให้สุขภาพจิดดี การแก้ปัญหาที่ดีเริ่มด้วยการประเมินปัญหาตามที่เป็นจริง คห 3 ก็น่าสนครับที่ว่า เราจะใช้หลักมองโลกในแง่ดี เวลาที่ตัดสินใจไม่ได้ว่าสภาพจริงของสิ่งใดสิ่งหนึ่งคืออะไรกันแน่ คห 6 "การมองโลกในแง่ดี มักจะมีระบบเหตุผลรองรับชัดเจน" ช่วยยกตัวอย่างได้มั้ยครับ จากคุณ : infineon เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 00:46:41 A:164.107.57.31 X: TicketID:248989

ความคิดเห็นที่ 8 มองโลกในแ่ง่ร้าย  - น้ำเหลือแค่ครึ่งแก้ว  ไม่พอกินแน่ๆ !!!!! มองโลกในแง่ดี  - น้ำเหลืออยู่ครึ่งแก้ว ยังพอจิบๆ ไปได้นะ หลอกตัวเอง  - เราไม่ต้องกินน้ำละนะ ไม่เห็นจะต้องไปสนใจมัน จากคุณ : นู๋เองง่ะ เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 03:20:02

ความคิดเห็นที่ 9 มองโลกในแง่ดี กับ หลอกตัวเอง มันต่างกันอย่างไร . . มองโลกในแง่ดี คือการมองอย่างเป็นธรรมชาติ โดยหยิบยกส่วนดีนั้นมาไว้ในใจ  ในความคิดของเรา ถึงแม้ว่าส่วนดีนั้นมันจะมีเพียงอยู่น้อยนิดก็ตาม    อย่างเช่น... คุณมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง ที่ชอบตำหนิติเตียนคุณอยู่ตลอดเวลา  แต่เมื่อใดที่คุณอยู่ในภาวะเข้าตาจนจริงๆ คนที่คุณมีปัญหามาด้วยตลอดไม่เคยมาซ้ำเติม ( ถึงแม้ไม่เคยมาปลอบใจก็ตาม ) ถ้ามองในแง่ดี  ก็จะเห็นว่าคนๆนี้ไม่ใช่คนที่เห็นคนล้มแล้วข้าม หรือซ้ำเติมคนอื่น อย่างน้อยเวลาอื่นๆ เขาอาจจะตำหนิคุณ  แต่เวลาแบบนี้เขาไม่ทำ ก็ต้องถือว่าเป็น ส่วนที่ดีของเขาอย่างหนึ่ง แต่อย่างว่าบางทีคนเรา   ถ้าเกลียดใคร มีปัญหากับใคร ก็มักจะมองไม่เห็นส่วนดีของคนๆนั้นหรอก . . ส่วนการหลอกตัวเอง  มันคือการมองโลกแบบปิดประตูตาย  ไม่สนใจโลกภายนอกว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลง เช่น มีคนมาบอกคุณว่า   คุณทำงานไม่ดี เพราะ.. 1.2.3.4.   แต่คุณไม่ยอมรับในเหตุผลเหล่านั้น คุณก็เถียงไปทุกข้อกล่าวหา โดยไม่ได้พิจารณาว่า จริงหรือไม่  บางคนก็ต้องเรียกคนพวกนี้อีกว่า . . พวกยอมรับความรับความจริงไม่ได้ จากคุณ : อัยศิกา เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 05:00:11

ความคิดเห็นที่ 10 "..ถ้ามันมีเหตุผลรองรับว่ามันจะเกิดปัญหาขึ้นมา เราไม่ควรที่มองโลกในแง่ดีใช่มั้ยครับ .." >> ไม่ใช่ครับ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 07:01:14

ความคิดเห็นที่ 11 ขอร่วมแสดงความเห็นครับ การมองโลกในแง่ดี ก็โดนความคิดหลอก การหลอกตัวเอง ก็โดนความคิดหลอก ทางที่ดีให้มองโลกตามความเป็นจริงครับ เช่น น้ำท่วม ถ้ามองในแง่ดี โอ้วเป็นสิ่งดีทำให้คนไทยสามัคคีกัน - ผลคือสบายใจไปวันๆ ถ้าหลอกตัวเอง โอ้วเป็นสิ่งดีทำให้คนไทยสามัคคีกัน - ใจอาจจะไม่เชื่ออย่างที่เราหลอกตัวเอง อาจจะไม่สบายใจ ถ้ามองโลกตามความเป็นจริง ใช่น้ำท่วม ยอมรับ แก้ยังไงดีหรือป้องกันยังไงดี :) ผมพยายามฝึกให้ตัวเองมองโลกตามความเป็นจริงเสมอ(ถ้าทำได้) จะไม่มองโลกในแง่ดี เพราะว่าเมื่อมันมีปัญหา มันไม่มีกะจิตกะใจมามองในแง่ดีหรอกครับ(ส่วนตัวนะครับ คนอื่นอาจจะทำได้ ^______^) ขอแสดงความเห็นแค่นี้ครับ จากคุณ : เมื่อลมแรง...ใบไม้ก็ร่วง เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 08:02:44

ความคิดเห็นที่ 12 สำหรับเราคืดว่า การมองโลกในแง่ดีคือการคิดบวก (positive thinking) จากคุณ : เจ๊ว่าแล้ว เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 08:26:18

ความคิดเห็นที่ 13 เจ๊#12...มาขยายเงื่อนไขเพิ่ม เรื่องการคิดบวก งงมากเข้าไปอีก จึงเกิดอาการมองเจ๊ได้ว่า เจ๊ตอบสั้นๆ=หวงวิชา ...มองโลกแง่ร้าย ผมสังเกตมานาน คนมองโลกแง่ร้าย ไม่ค่อยได้ทำงานอะไรเป็นผลสำเร็จ และขี้โรค ตายเร็ว คิดใหม่อีกที ทำให้เรามีความพยายามไปค้นหาความรู้เอาเองเรื่องมองโลกแง่ดีและการคิดบวก คืออย่างไร...มองโลกแง่ดี เมื่อสองวันก่อน ไปงานพระราชทานเพลิงศพ ศ.นายแพทย์เสม พริ้งพวงแก้ว ทราบว่าท่านอายุ๑๐๐ปีเศษ ตามประวัติ ท่านปฏิบัติงานจากวิธีคิดและมองโลกแง่ดีมาตลอดชีวิตครับ มองและคิดทั้งแง่ดีและแง่ลบ(บางคนอาจบอกว่ามองตามความเป็นจริง) แล้วนำแนวคิดแง่ดีไปปฏิบัติให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อไป ผมคิดว่า ความสำคัญของการมองโลกแง่ดีมันอยู่ตรงการนำไปปฏิบัติต่อนะครับ ผู้รู้เขาจึงพูดกันว่า "ทำปัญหาหรืออุปสรรคให้เป็นโอกาส" จากคุณ : ขามเรียง เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 09:33:30

ความคิดเห็นที่ 14 ใน คห 10 ทำไมถึงไม่ใช่ครับ ขอความกรุณาอธิบายเพิ่มหน่อยครับ คห 11 และ 13 น่าสนใจดีครับ ผมว่าเราควรจะมองโลกในความเป็นจริงก่อน คือพยายามตระหนักถึงปัญหาที่มีก่อนแล้วนำแนวคิดแง่ดีไปปฏิบัติให้เป็นจริง จากคุณ : infineon เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 10:00:27 A:69.58.115.8 X: TicketID:248989

ความคิดเห็นที่ 15 ป.ล. การมองโลกตามความเป็นจริงไม่มีคำว่าดีและไม่ดีครับ มีแต่มันเป็นอย่างนั้นเพราะว่ามีเหตุ :) เหมือนกับ เราลืมมือถือไว้ที่บ้าน เหตุคือ เราลืมมือถือ ผลคือ ตอนนี้เราไม่มีมือถือใช้ จบ หาทางแก้ แต่ส่วนมากแล้วเราจะไป "คิด" ต่อครับ ไปให้ค่าเช่น ซวยจริงๆ เลยวันนี้ เป็นต้น บางคนมองในแง่ดีก็บอกว่า "ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องรับสายมากวันนี้" ทั้ง ซวย และ ดีเหมือนกัน ล้วนแต่เป็นความคิดที่เราสร้างขึ้นมาครับ :) จากคุณ : เมื่อลมแรง...ใบไม้ก็ร่วง เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 10:39:43

ความคิดเห็นที่ 16 มองโลกในแง่ดีกับหลอกตัวเอง ต่างกันที่มุมมองครับ เพราะว่าสองอย่างนี้ทำจากวัสดุยี่ห้อเดียวกัน แต่นำไปใช้ต่างกัน จากคุณ : jazz..a.a.minor เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 12:30:51

ความคิดเห็นที่ 17 มองโลกแง่ดี  เป็น ทัศนคติ หรือ โลกทัศน์ อย่างหนึ่ง ที่ตั้งบนฐานคติที่ หวัง  เชื่อ  และเจตจำนงของความเป็นไปได้ บนชั้นของความเชื่ออีกอันหนึ่ง ได้แก่   ชีวิต ยังไงก็ต้องดำเนินต่อไป (ทั้งที่มันเป็น และให้เป็น) ส่วนว่า มันจะดี หรือร้าย  นั่นเป็นระบบอ้างอิงอย่างที่คนส่วนใหญ่ถือกัน ไม่ว่าจะ  ทรัพย์  เงินทอง  ชื่อเสียง  เกียรติ  หน้าตา  เหล่านี้คือ  สิ่งที่ดีหรือไม่ดี ที่โลกทัศน์ไปอิงแนบ ดังนั้นแก่นแกนของชีวิต  จึงเป็นความรอด หรือ สัญชาตญาณในตัวชีวิต ซึ่งห่อหุ้มด้วยชั้นวงของตัวตนในความสัมพันธ์กับโลก  สิ่งแวดล้อม และสังคม หรือคนอื่น เมื่อเป็นเช่นนี้  การพูดว่ามองโลกแง่ดี  จึงมุ่งสื่อสารจุดยืนและวิริยภาพต่อแนวโน้มข้างหน้าที่จะกระทำ ต่อมาคำว่า หลอกตัวเอง  เป็นคำในภาษาจิตวิเคราะห์ อันถือเป็นส่วนหนึ่งของ กลไกป้องกันตนเองของจิต   ซึ่งในกลไกนี้มีรูปแบบหรือวิธีมากมาย  เช่น การหาเหตุผลมาอ้าง   การปฏิเสธความจริง   การทดแทน  การทดเทิด   การโยนความผิดให้ผู้อื่น การฝันหวาน   การเก็บกด   การหลีกเลี่ยง   การติดยึด   การก้าวร้าว   การถดถอย  และการปลีกตัวออกจากคนอื่น   เป็นต้น อาจกล่าวได้ว่า  กลไกป้องกันตนเองเป็นธรรมชาติของมนุษย์   มันมีอยู่เสมอ  ปํญหาอยู่ที่ระดับความเข้มหรือการใช้มัน   เพราะถ้าใช้มากทำมาก  ก็บ่งบอกถึงการปรับตัวไม่ดี และอาจนำมาซึ่งปัญหาทางจิต หรือบุคลิกภาพได้   แต่การหลอกตัวเองก็ยังต้องมีเพราะ มันมีอยู่จริง ภายในจิตแหงตัวตนของเรามาแต่ต้น   นั่นเพราะ   ความต้องการของเรา ไม่อาจบรรลุได้ทุกอย่างดังใจ หรือปรารถนาได้   เราจึงต้องไขว่คว้า พยายาม  และเรียนรู้ที่จะอยู่บนและในโลกแห่งการดิ้นรนร่วมกับ คนอื่น  หรือ กับธรรมชาติ   โดยเรียนรู้กฏเกณฑ์ต่างๆที่ครอบสรรพสิ่งไว้  แล้วปรับใช้ให้เข้ากับสภาวะที่ แปรเปลี่ยนต่างๆ    ไม่ใช่การทำตามสัญชาตญาณดิบโดยใช้กำลัง  แต่โดยใช้ปัญญาบนวิริยภาพของความแปรเปลี่ยน   เราจึงจักอยู่ได้ และอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี จากคุณ : dicky5 เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 12:45:02

ความคิดเห็นที่ 18 "..ใน คห 10 ทำไมถึงไม่ใช่ครับ ขอความกรุณาอธิบายเพิ่มหน่อยครับ .." >> ปัญหาคือปัญหา ถ้ามันมีปัญหามันก็มีปัญหา มีปัญหาแล้วก็แก้ไป ก็แค่นั้น การแก้ได้แก้ไม่ได้หรือแก้ได้ดีแค่ไหน ก็เป็นเรื่องของแผนและกลยุทธ์ มุมมองหรือทัศนคติต่อปัญหาเป็นตัวทำให้วางกลยุทธ์ได้ต่างกัน จะมองแง่ดีแง่ร้ายก็เป็นเรื่องของบุคคล การจะมองแง่ดีแง่ร้ายไม่ได้ขึ้นกับการมีหรือไม่มีปัญหา คนมองแง่ดีก็มีปัญหาได้เท่ากับคนมองแง่ร้าย แต่มันต่างกันตรงวิธีแก้แค่นั้นแหละ คุณถามว่า ถ้ามีปัญหาเราไม่ควรมองโลกในแง่ดีใช่ไหม? ผมถึงตอบว่าไม่ใช่ มันไม่สมเหตุสมผลกัน จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 20:35:40

ความคิดเห็นที่ 19 เป็นกระทู้ที่น่าตอบมากครับ และก็เคยเจอกับตัวเอง คิดว่าหลายคนน่าจะเจอเหมือนกัน ถามว่ามองโลกในแง่ดี กับหลอกตัวเองนั้นต่างกันไหม ต่างกันครับ แต่อยู่แค่คืบขึ้นอยู่กับมุมมอง วิจารณญาณ ประสบการณ์ เซนต์ อย่างผมเองถ้ารู้สึกว่ากำลังมองโลกในแง่ดีอยู่ แต่คิดไปคิดมามันมีความร้ายกาจเข้ามาแอบแฝง แล้วยังทำเป็นมองโลกในแง่ดีอยู่ผมก็จะไม่ทำครับ จะให้เหมือน E เย็นขนาดนั้นก็ไม่ใช่ สมมุติว่าคุณรู้ตัวว่าผลงานคุณไม่ขี้เหร่ คุณรู้อยู่แก่ใจนะ แต่เพื่อนร่วมงานอีกคนผลงานธรรมดา งั้น ๆ ไม่ได้เลวหรือแย่ อีกคนสนิทกับเจ้านายมากไปเที่ยวด้วยกัน อะไรด้วย แต่คนที่ผลงานธรรมดา ๆ กลับได้งานน้อยกว่าและได้โปรโมต ส่วนคนที่คิดว่าผลงานตัวเองยอดเยี่ยมไม่แพ้ใครกลับไม่ได้โปรโมต เจ้านายไม่ได้เกลียด แต่ไม่สนิทด้วย ถ้าเหตุการณ์เป็นแบบนี้ คิดในแง่ดี : งานเยอะ เจ้านายจะได้รัก หรือที่เราได้งานเยอะหรือเจ้านายมอบหมายให้เพราะเจ้านายไว้ใจ สักวันน่าจะเป็นวันของเราแหละน๊ะ คิดในแง่ร้าย : เจ้านายเกลียด เจ้านายไม่ชอบ รู้สึกเฉย ๆ ปล่อยให้ชั้นทำงานคนเดียว โปรโมตก็ไม่ได้โปรโมต อะไรก็ไม่เคยได้ ท้อแล้วนะ ทำไมอีกคนนึงได้ทั้งเงินเดือนเพิ่มและประกาศชมเชย อีกแง่มุมนึงถ้ารู้อยู่แก่ใจว่าเหตุการณ์มันเป็นอะไร คุณจะยังรู้สึกกับการมองโลกในแง่ดีอยู่มั้ย นั่นแหละ มาเสริมเพิ่มเติม จากปัญหาด้านบนนั้น ถ้าผมเป็นพนักงานคนนั้นผมไม่สามารถหรือคนอื่น ๆ ก็เหอะ จะหลอกตัวเองให้มองโลกในแง่ดีได้ ฉะนั้น คห. 13 ชามเรียง เป็นสิ่งที่จะนำมา support กับปัญหาได้ดีทีเดียว เช่นก็ในเมื่อชั้นผลงานดีอะไรดี ทำยอดก็ดีกว่า ผลงานก็ดีกว่า ให้มองมันเป็นโอกาสเพื่อหางานใหม่คร๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ แงะ แงะ แงะ แก้ไขเมื่อ 20 ต.ค. 54 00:12:25 แก้ไขเมื่อ 20 ต.ค. 54 00:10:59 จากคุณ : ปีเตอร์นอร์ธ เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 54 00:06:46

ความคิดเห็นที่ 20 มองโลกในแง่ดี = เข้าใจว่าโลกมีทั้งแง่ดีและร้าย แต่เลือกที่จะมองในแง่ดี หลอกตัวเอง = ไม่ยอมรับว่าโลกมีแง่ร้าย ดื้อดึงจะให้โลกมีแต่แง่ดีเท่านั้น แต่ตัวผมเลือกที่จะมองโลกอย่างรอบด้าน แล้วทำใจให้ไม่ทุกข์ร้อนไปกับมัน ไม่ว่ามันจะดีหรือร้ายก็ตามครับ จากคุณ : สามีนุ่น เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 54 00:51:33 A:140.119.143.52 X: TicketID:324122

ความคิดเห็นที่ 21 เพื่อนผมบางคนมักจะพูดเสมอว่าให้มองโลกในแง่ดี ซึ่งผมกลัวว่ามันจะเหมือน ที่ คห 20 กล่าวมาคือ ไม่ยอมรับว่าโลกมีแง่ร้าย ตามที่ได้อ่าน คห จากหลายๆท่าน สำหรับตัวผมแล้วคิดว่าเราควรจะมองโลกในตามความเป็นจริง แล้วมองโลกในแง่ดีเพื่อเป็นกำลังใจและเป้าหมายในการเผชิญปัญหา แต่ก็ไม่ควรที่จะลืมมองในด้านอื่นด้วยเพื่อความไม่ประมาท จากคุณ : infineon เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 54 11:52:28 A:69.58.115.8 X: TicketID:248989

ความคิดเห็นที่ 22 โอ้มายก็ก็อต!!! ขอยืมประโยคสุดท้ายไปสรุปในเรียงความได้มั๊ยคะ5555 จากคุณ : positive เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 54 17:23:31 A:202.91.18.170 X: TicketID:319560

ความคิดเห็นที่ 23 ...... แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 54 07:40:17 จากคุณ : toytoytoy เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 07:39:50

ความคิดเห็นที่ 24 แล้วแต่คนครับ จากคุณ : คนเก็บตัว เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 54 00:24:05