ขอตอบกระทู้นี้อีกครั้งว่า
ระบอบประชาธิปไตยเป็นระบอบการปกครอง
ที่เหมาะกับทุกสังคม รวมทั้งสังคมไทย
แต่ผมไม่ได้หมายความว่า ระบอบประชาธิปไตย
เป็นระบอบการปกครองที่ไม่มีจุดอ่อนหรือข้อบกพร่องเลย
เพราะผลของข้อบกพร่องเหล่านั้น ก็แสดงให้เห็น
ในประเทศอย่างอเมริกาและยุโรปที่มีวัฒนธรรมทางประชาธิปไตย
และความเจริญทางเศรษฐกิจในขณะนี้ ว่ายังมี
ประชาชนจำนวนไม่น้อยเลยก็ยังคงอดอยากยากจนอยู่
ยังคงไม่เท่าเทียมกันในทางเศรษฐกิจ
เพียงแต่ว่า ถ้าไม่เอาประชาธิปไตยแล้ว เราจะปกครองกันอย่างไรดีล่ะ?
ผมเติบโตขึ้นมาในยุคสฤษดิ์-ถนอม-ประภาส
ยุคแห่งการพัฒนา ยุคแห่งมาตรา 17 ยุคที่ "ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว"
ขอยกตัวอย่างการกำหนดนโยบายสักเรื่องหนึ่ง
ผู้เผด็จการในยุคนั้นมีนโยบายจะพัฒนาประเทศด้วยการส่งเสริมการส่งออก
สินค้าทางการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าว และส่งเสริมอุตสาหกรรม
ด้วยการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ
ในสมัยนั้นรัฐบาลมีการจัดเก็บรายได้สำคัญส่วนหนึ่งมาจาก
"พรีเมี่ยมข้าว" ซึ่งก็คือภาษีการส่งออกข้าวนั่นเอง
การเก็บพรีเมี่ยมข้าวจากผู้ส่งออกนี้ ส่งผลให้ราคาข้าวหน้าโรงสี
ต่ำลงไปอย่างน้อยเท่าๆกับอัตราภาษีที่ถูกเรียกเก็บนั้น
ผมจำไม่ได้แน่นอนว่าเป็นเกวียนละเท่าไร(ในแต่ละปีไม่เท่ากัน)
แต่เป็นตัวเลขที่มีนัยสำคัญทีเดียว (ใครพอมีข้อมูลช่วยบอกด้วย)
อัตราพรีเมี่ยมข้าวนี้จะเปลี่ยนแปลงตามที่รัฐบาลกำหนด
ผลก็คือชาวนาที่มีรายได้ที่ไม่แน่นอนจากผลผลิตทางการเกษตรอยู่แล้ว
แทนที่จะมีรายได้ที่ดีและสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีที่ราคาข้าวในต่างประเทศสูงขึ้น
กลับต้องถูกเก็บภาษีที่เรียกว่าพรีเมี่ยมข้าวนี้
ถ้าในเวลานั้น ชาวนามีสิทธิ์มีเสียง และเข้าใจความจริงข้อนี้
พวกเขาคงจะโหวตให้กับพรรคการเมืองที่มีนโยบายยกเลิกพรีเมี่ยมข้าวแน่ๆ
พรีเมี่ยมข้าวนี้มีผลดีกับเศรษฐกิจของประเทศอย่างไร
1) รัฐบาลจัดเก็บรายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายของรัฐได้
2) ชาวนาในชนบทล้มละลายมากขึ้น ต้องละทิ้งที่นา
เข้ามาเป็นแรงงานราคาถูกมากขึ้น ทำให้ภาคอุตสาหกรรมเติบโต
ผลจากนโยบายที่ประชาชนไม่มีสิทธิ์เลือกนี้
สร้างเศรษฐีใหม่จากการส่งออกและนายทุนอุตสาหกรรมขึ้นมามากมาย
ลูกหลานของคนเหล่านี้อยู่ดีมีสุข ได้รับการศึกษาที่ดี
มีความรู้ กิริยามารยาทงดงาม มีวัฒนธรรม รู้การใดควรไม่ควร
ส่วนชาวนาที่ล้มละลายละทิ้งที่นาเข้ามาเป็นแรงงาน
มีรายได้ไม่พอเลี้ยงชีพ ชักหน้าไม่ถึงหลัง ครอบครัวมีปัญหา
ลูกหลานขาดการศึกษา มองไม่เห็นอนาคต บ้างติดยาเสพติด
ไม่มีความรู้ ไม่รู้วัฒนธรรม ไม่รู้มารยาท บางครั้งก็ไม่รู้ว่าการใดควรไม่ควร
อย่างที่พวกเขาถูกเหยียดหยามว่าโง่เป็นวัวเป็นควายอยู่ในขณะนี้
การตัดสินใจทางนโยบายที่มีผลกระทบต่อผลประโยชน์
และวิถีชีวิตของผู้คนทั่วทั้งสังคมอย่างนี้ จะฝากไว้ในมือใครดี??
ฝากไว้กับ "คนดี" ที่เป็นผู้เผด็จการ หรือ "ระบบที่มีการตรวจสอบ" ดีล่ะครับ?
ระบบที่มีการตรวจสอบและคานอำนาจได้ดีกว่า ย่อมไม่ใช่ระบอบเผด็จการแน่ๆ
ส่วน "คนดี" นั้นถ้าไม่ถูกตรวจสอบ-ไม่นานหรอกครับ ก็ "ดีแตก"
สฤษดิ์ก็เริ่มด้วยการเป็น "วีรบุรุษ"
แต่ก็จบลงอย่างฉาวโฉ่ กระทั่งพวกเดียวกันเองก็ไม่กล้าปกป้อง
อย่าว่าแต่สฤษดิ์เลยครับ ไม่ว่าคุณไม่ว่าผม
เรามันแค่ปุถุชนคนธรรมดา โลภ โกรธ หลง
มากบ้างน้อยบ้างไม่ต่างกันนักหรอกครับ
ตรวจสอบกันผ่านกลไกระบอบประชาธิปไตยจะไม่ดีกว่าหรือ!!!
สำหรับการบริหารงานของรัฐบาลเพื่อไทยเท่าที่ผ่านมานี้
ผมว่าสอบไม่ผ่านครับ แต่ก็เป็นรัฐบาลที่ชอบด้วยกฎหมาย
ผมสนับสนุนให้คนที่ไม่ชอบเพื่อไทย
ช่วยกันรณรงค์ให้ประชาชนเลือกตั้งอีกฝ่ายหนึ่งขึ้นมา
ถ้าเราผลิตสินค้าออกมาแล้วขายไม่ได้ เราจะด่าว่าผู้บริโภคเป็นควาย
หรือพยายามปรับปรุงสินค้าของเราและสื่อสารให้ผู้บริโภคยอมรับล่ะครับ
เวลาที่เราสื่อสารให้ "ผู้รับสาร" เข้าใจเราไม่ได้
เป็นความผิดของผู้รับสารฝ่ายเดียวหรือครับ?
"ผู้ส่งสาร" จะไม่พิจารณาตัวเองบ้างเลยหรือครับ???