ความคิดเห็นที่ 1 ผมไม่เคยใช้ ขณะนี้ก็ไม่ใช้ และอนาคตก็ไม่คิดว่าจะใช้ครับ ไม่ห้ามไม่หวงคนที่จะใช้ มันอาจจะลางเนื้อชอบลางยาก็ได้ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 54 15:15:51

ความคิดเห็นที่ 2 ดิกที่มีตั้งอยู่บนชั้นหนังสือยังไม่เคยเปิดเลยอะค่ะ อย่าว่าแต่จะจดศัพท์เลย อ่านเจอไม่เข้าใจคำไหนถึงเปิด อาศัยไม่เข้าใจก็เปิด เจออีกไม่เข้าใจอีกก็เปิด จนบางคำเจอบ่อย ใช้บ่อย ก็จำไปเอง เคยทำแล้ว จดศัพท์เนี่ย แต่จดไปจดมา กลับมาหาไม่เจอเพราะมันไม่มีระบบการเรียงคำให้หาง่าย นึกคำไหนได้ก็เขียนลงไปๆ สุดท้ายเละ จากคุณ : crazyfantasy เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 54 15:23:05

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าใช้เป็นก็เป็นประโยชน์มากเลยครับ ปกติแล้วถ้าคุณคลุกคลีกับภาษาอังกฤษอยู่บ่อยๆ เช่น ทำงานแปล เป็นล่าม เป็นต้น มันจะตอกย้ำให้จำได้อยู่แล้ว แต่หากคุณไม่ได้เป็นเช่นนั้น การจดศัพท์ไว้ท่องก็เป็นตัวเลือกหนึ่งครับ สมัยก่อนเวลาผมท่องศัพท์ก็จะใช้วิธีจด แต่ใช้วิธีแบ่งกลุ่ม จัดกลุ่มให้จำง่ายขึ้น เช่น แบบ synonym & antonym หรือจำพวก root และ affix เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีสำนวนต่างๆที่ได้ตามรายการทีวีหรือภาพยนตร์ที่ดูอีก (แต่ก่อนมีรายการของคุณแอนดรูว์ รายการของ shell eng breakfast ฯลฯ) ปล. บางทีเรามีสมุดโน้ตติดตัวไว้ ก็จดได้เลย จดเองกับมือ ผ่านมากับตา มันช่วยให้จำได้ง่ายขึ้นจริงครับ แต่เรื่องการนำไปใช้นี่อีกเรื่องหนึ่งนะครับ จากคุณ : 44SFA1 เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 54 15:47:30

ความคิดเห็นที่ 4 สมัยนี้ เด็ก ป. ๑  จดใส่  แทปเลต แล้วครับ จากคุณ : นายช่างปลูกเรือน เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 54 18:33:52

ความคิดเห็นที่ 5 เคย   ปัจจุบันก็ยังทำอยู่ Ipad ก็ใช้แต่บางเรื่องมันไม่ได้อย่างใจ ยังจะทำต่อไป จากคุณ : renu2011 (renu2011) เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 54 21:11:02

ความคิดเห็นที่ 6 ตั้งแต่เรียนภาษาอังกฤษมาเรายังไม่เคยจดศัพท์เลย สมัยก่อนตอนคอมพิวเตอร์มันยังไม่เก่ง เราใช้ dictionaries กระดาษ ลืมศัพท์ตัวไหนก็เปิดใหม่ ไม่เคยกลัวกับการเปิด dictionaries เพราะเราเปิดมันได้โคตรจะไวมากๆ ยิ่งสมัยนี้ยิ่งไม่จดศัพท์ใหญ่เลยเพราะคอมพิวเตอร์มันโคตรจะเก่งเลย ใช้ dictionaries เป็น software ลืมศัพท์ตัวไหนก็กดปุ่มเปรี้ยงปร้างก็หาเจอแล้ว ยิ่ง software บางตัวอะนะ เอา mouse ชี้ไปที่ศัพท์มันก็ให้ meanings แล้ว ก็เลยไม่รู้จะจดศัพท์ไปทำไมกันให้เสียเวลา สมัยเด็กๆเราเคยเริ่มจากการท่อง Greek and Latin roots ไปได้มากพอสมควรแล้ว ก็เลยเป็นพื้นฐานทำให้รู้ศัพท์มากอยู่แล้ว (บางทีไม่เคยเห็น แต่ก็ยังพอเดาความหมายได้จาก Greek and Latin roots) เลยช่วงหลังๆเราพยายามมุ่งเรียนแต่เอาคำศัพท์ไปหัดสร้างประโยคพลิกแพลง แล้วจำวลีหรือรูปประโยคเอาไว้เยอะๆ แต่ไม่เคยจำศัพท์เป็นคำๆโดดๆเลย "เพราะการท่องศัพท์เป็นคำๆโดดๆ มันทำให้อ่านภาษาอังกฤษแล้วตัน ตีความผิดหมด แถมยังเขียนไม่ได้อีกต่างหาก" แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 54 22:56:17 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 54 22:54:13

ความคิดเห็นที่ 7 จดครับ แยกหมวด ศัพท์ที่ได้จากเพลงและหนัง  ศัพท์วิชาการในสาขาที่เรียน ศัพท์จากข่าว อย่างศัพท์จากข่าว หรือวิชาการ จะพบคำซ้ำเดิมๆ อยู่บ่อยๆ ถ้าลืมจะกลับไปดูว่าเคยจดไว้ไหม ถ้ามีแล้วก็ท่องซ้ำ มันเหมือนเครื่องเตือนว่าศัพท์คำนี้เราเคยเจอแล้วต้องพยายามจำให้ได้อย่าลืมอีก จดเรียง เอบีซี ทำเป็นดิกชั่นเนรี่ส่วนตัว จากคุณ : หมาป่าดำ เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 54 22:56:51

ความคิดเห็นที่ 8 เราเคยเห็นอาจารย์ ส (เสาชิงช้า)  จดคำศัพท์ยากๆ ระดับ โทเฟล โทอิก จีอาร์ อี  จีแมท ฯ  ไว้บนกระดานไวน์บอร์ด  ในห้องพักส่วนตัว ตั้งหลายคำ  วันละ 5-10  คำ ไม่ซ้ำกัน  กระดานไวท์บอร์ด ของอจ. ไม่ใหญ่มาก ขนาด 3 ฟุต  โดยประมาณ   การเขียนศัพท์   ใส่กระดาษ ทุกคำที่พบ และแปลไม่ได้ เป็นสิ่งจำเป็น  เราเขียนในสมุดหลายเล่ม แล้วยังเขียนความหมายลงในบทความ ที่อ่านพบ (หากเขียนได้) เพื่อให้ผ่านมือโดยการเขียน ผ่านตาจากการอ่าน ออกเสียง ให้ผ่านหู แต่ที่จดไว้ บนกระดาษ เราไม่เคยนำมาทบทวน หากพบคำที่แปลความหมายไม่ได้  ก็จะจดใส่สมุด  แม้คำนั้น จะเป็นคำเดียวกับที่จดไว้  ก็จะจดลงบนสมุด  จนกว่าจะจำได้ จากคุณ : Stuff_shirt เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 54 08:09:37

ความคิดเห็นที่ 9 สำหรับผม, สมุดจดศัพท์มีประโยชน์อย่างเดียวคือเอาไว้เตรียมสอบ เอาไว้แบบที่ประมาณว่าเทอมนี้คำศัพท์ 100 คำนี้ต้องออกแน่ๆ หรือเอาไว้มาทวนๆสำหรับข้อสอบสอบเข้ามหาวิทยาลัยครับ แค่นี้หละที่สมุดจดศัพท์จะแผลงฤทธิ์ได้รุนแรงที่สุด เลยจากนี้ไปแล้วมันก็ไม่ต่างกับมีกระสุน แต่หาปืนที่ใช้ยิงไม่ได้ จะตุนศัพท์ต้อง >>> voanews.com เลย  ของเค้าดีจริงๆ (ได้เปอร์เซ็นต์ๆ 55) แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 54 12:38:49 จากคุณ : lze0001 เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 54 12:37:04

ความคิดเห็นที่ 10 ผมใช้ แต่แนวทางการใช้อาจจะไม่เหมือนที่หลายๆ ท่านข้างนว่ากัน เวลาผมแปลงาน ถ้าเจอคำศัพท์หรือประโยคแปลกๆ  ที่อ่านครั้งแรกแล้วนึกคำแปลไม่ออก ผมก็จะงัดสมุดสุดเยินขึ้นมาหนึ่งเล่ม จดมันลงไป แล้วก็ไปหาความหมาย คำแปลจากเน็ต จากดิกฯ แล้วก็จดคำแปลมันลงไป ทำอย่างนั้น เวลาที่เราเจอคำๆ นั้นอีกในงานแปลชิ้นนั้น เราก็จะย้อนกลับมาดูได้ ว่าเราใช้คำแปลว่าอย่างนี้นะ แล้วพอเสร็จงาน ว่างๆ ผมก็เอาไอ้คำศัพท์พวกนั้น คำไหนที่ยังไม่มีในโปรแกรมดิกประจำเครื่อง (ใช้ ThaiSoft Dict 7.0) ก็เพิ่มลงไปในพจนานุกรมส่วนบุคคล วันหน้าวันหลังก็หยิบมาใช้ได้เลย บางท่านอาจจะเถียงว่า ก็ในเมื่อมีอินเตอร์เน็ตอยู่แล้ว คราวหลังก็เปิดเน็ตก็ได้ ไม่ต้องเอาลงเครื่อง ก็ถูกครึ่งหนึ่ง แต่เวลาที่ใช้ในการโหลดข้อมูลในเครื่องกับโหลดจากเน็ต อะไรเร็วกว่า? ข้อสอง เพราะนอกจากอ่านผ่านตาแล้ว ผมยังจดต้ังสองรอบ (จดลงกระดาษ สำเนาลงฐานข้อมูลในคอม) ทำอย่างนี้ ก็จะทำให้เราจำคำศัพท์ใหม่ๆ ได้ง่ายกว่า จากคุณ : SaintPSU เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 54 13:08:40

ความคิดเห็นที่ 11 เราจดค่ะ แต่ไม่ค่อยจดที่เป็นคำๆ ส่วนใหญ่จะจดที่เป็นสำนวน หรือแสลง โดยเฉพาะเวลาที่ดูหนังหรือดูรายการอะไรที่เป็นภาษาต่างประเทศที่เราเรียนอยู่ก็จะจดไว้ บางคำเรารู้ความหมายแต่จดไว้ทบทวน บางคำเราไม่รู้หรือไม่แน่ใจก็จะจดไว้แล้วมาหาความหมายทีหลังอ่ะค่ะ จากคุณ : XODA เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 54 19:40:13

ความคิดเห็นที่ 12 ผมจดครับ แต่แล้วแต่ว่าจะคว้าอะไรเจอ ณ ตอนนั้น แล้วค่อยมาพิมพ์ใส่เวิร์ดอีกทีแล้วอัพใส่ iPad เอาไว้เปิดดูเวลาใช้ แต่ไม่ได้ท่องจำ เพราะคำคำเดียวในภาษาอังกฤษ แต่ภาษาไทยแปลได้หลากหลายมาก ตามคนนำไปใช้ เพราะฉะนั้นผมต้องจดอย่างเดียว จากคุณ : เขียนบน iPad (Air Bender) เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 19:45:33

ความคิดเห็นที่ 14 ผมจดครับ แต่แล้วแต่ว่าจะคว้าอะไรเจอ ณ ตอนนั้น แล้วค่อยมาพิมพ์ใส่เวิร์ดอีกทีแล้วอัพใส่ iPad เอาไว้เปิดดูเวลาใช้ แต่ไม่ได้ท่องจำ เพราะคำคำเดียวในภาษาอังกฤษ แต่ภาษาไทยแปลได้หลากหลายมาก ตามคนนำไปใช้ เพราะฉะนั้นผมต้องจดอย่างเดียว จากคุณ : เขียนบน iPad (Air Bender) เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 19:46:28

ความคิดเห็นที่ 15 เราจดสมัยเรียนปริญญาตรี คืออ่านหนังสือ Mythology ของ Edith Halminton ภาษามันยากอ่ะ ศัพท์แสงใหม่ๆเต็มไปหมด วันหนึ่งจดไม่ต่ำกว่า 50 คำ ลอกเอาความหมายจาก webster desk edition ลงมาใส่สมุด เลยมีคำแปลกๆเก๋ ที่คนปัจจุบันไม่ค่อยได้ใช้ คือเป็นศัพท์ในวรรณคดีเช่น slay = kill swine = pig steed = horse hound = dog แต่ในความเห็นคือจดไปอย่างนี้ ไม่ค่อยได้ประโยชน์มากเท่ากับ จดเป็นตัวอย่างประโยค จาก oxford หรือ longman จะดีกว่ามาก จากคุณ : ปรารถนาดี ไม่มีแอบแฝง เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 22:43:15 A:49.49.96.18 X: TicketID:301976

ความคิดเห็นที่ 16 อย่างที่คุณ SaintPSU #10 ทำนั้นเขาเรียก glossary หรือ terminology base เวลาทำงานแปลผมก็ทำ ทั้งนี้เพื่อความไวและความคงเส้นคงวาของชิ้นงาน ไม่งั้นคนอ่านเมาตายถ้าไปเจอศัพท์ตัวเดียวกันมีคำแปลหลายอย่าง มันค่อนข้างจะเป็นบริบทจำเพาะของการทำงานแปลชิ้นหนึ่งๆ และเป็นองค์ประกอบสำคัญของโปรแกรม CAT - Computer-Aided Translation เช่น Wordfast, Trados ทำให้ทุ่นแรงได้เยอะ นอกเหนือไปจากการแปลเป็น translation units / translation memory อย่างไรก็ตาม ผมไม่เคยจดศัพทฺ์เวลาอ่านหนังสือ ก็อ่านดุ่ยๆไปอย่างนั้นแหละ บางทีก็ต้องข้ามไปค้นเอาทีหลัง หรือบางทีอ่านๆไปยังไม่จบเล่ม บริบทต่อๆมามันก็ชี้โพรงเองแหละว่ามันหมายความว่าไง จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 54 13:10:43