ความคิดเห็นที่ 1 ตัวอย่างคำที่ช่วยให้เชื่อครับ blood จากคุณ : IceSwaN เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 00:17:17

ความคิดเห็นที่ 2 ลองศึกษาเพิ่มเติมมาแบบเร็วๆ ได้ความว่าขึ้นกับสำเนียงครับ ที่จริงแล้วในบางท้องถิ่นของอังกฤษก็ออกเสียง food, book ว่า ฟัด บัค ก็คงไม่ต่างกับภาษาอื่นๆในโลกน่ะครับ โดนแปลงไปมา ตามกาลเวลาและวัฒนธรรม ถ้าอ่าน wiki อันนี้รู้เรื่องอาจจะเข้าใจมากขึ้น แต่ผมไม่ถนัดแฮะ ใครผู้รู้มาตอบก็ดีครับ :P http://en.wikipedia.org/wiki/Phonological_history_of_English_high_back_vowels จากคุณ : IceSwaN เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 00:24:53

ความคิดเห็นที่ 3 It is what it is, so remember it. Listen. ไฟล์เสียง จากคุณ : genf เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 00:51:20

ความคิดเห็นที่ 4 แนะนำเจ้าของกระทู้ว่า เพื่อสุขภาพจิตของตัวเองอย่าสงสัยเรื่องการออกเสียงคำอังกฤษเลย เพราะคำอังกฤษไม่ค่อยมีหลักการออกเสียงแบบตายตัวเหมือนภาษาสเปนหรือภาษาฝรั่งเศส put = พุท   แต่ but = บัท คำที่ลงท้ายด้วย -ough มีการออกเสียงตั้งไม่รู้กี่แบบ เช่น rough = รัฟ cough = คอฟ bough = บาว though = สระ โอ through = สระ อู trough = ทรอฟ nought = นอท lieutenant คนอเมริกันอ่านว่า ลูเท็นเนิ่น แต่คนอังกฤษออกเสียงว่า เล็ฟเท็นเนิ่น ผมเองก็สงสัยว่าเสียง เล็ฟ มาได้ยังไง แต่ปกติผมออกเสียงแบบอเมริกัน เรียนภาษาอังกฤษแบบเด็กๆเรียนภาษาเถิด คือได้ยินผู้ใหญ่พูดอะไรก็พูดตาม แล้วก็จำ ไม่มีเด็กคนไหนมัวแต่ถามพ่อแม่ว่าทำไมคำนั้นคำนี้ต้องออกเสียงแบบนั้นหรือแบบนี้ ถ้ามัวแต่สงสัยการออกเสียงคำอังกฤษทุกคำ เกรงว่าจะเป็นบ้าก่อนเก่งภาษาอังกฤษนะซี จากคุณ : นายชัย เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 02:04:03

ความคิดเห็นที่ 5 เป็นคำถามที่น่าสนใจมากครับ อาจจะต้องไปศึกษาภาษาศาสตร์เชิงประวัติดู จากคุณ : Urashima เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 02:04:04

ความคิดเห็นที่ 6 มันก็เป็นไปตามกลไลหลักภาษาศาสตร์ มันไม่ได้ตายตัวหรือคงรูปเสมอไป สงสัยมากก็ไปศึกษาเรื่อง Phonetic Phonemic เลยนะ เอาให้ถ่องแท้เลย ปล.เรียนภาษาพูดภาษาพูดไปเถอะไม่ต้องคิดมากไม่ต้องคิดลึก พูดผิดไปคนฟังมันไม่ได้ชักแหง่กๆหลังจากได้ยินเราหรอก จากคุณ : FIRSTFOZO เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 03:29:03

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าสงสัยเรื่องเหตุผลการออกเสียงว่าคำนี้ทำไมออกเสียงนั้นๆ ให้ไปศึกษาเรื่องนิรุกติศาสตร์ สัทศาสตร์ ซึ่งสองวิชานี้เกินความสามารถผมจะอธิบายได้เพราะไม่รู้เรื่อง แต่ชี้ทางให้ไปได้ เดินไปหาตำราสองวิชานี้เลยครับสำหรับการศึกษาด้วยตนเอง แล้วถ้าอยากศึกษาเป็นทางการให้ลึกซึ้งก็ลงเรียนคณะที่มีวิชาภาษาศาสตร์เลย เขามีสอนตั้งแต่ระดับปริญญาตรี โท เอก ถ้าไม่สงสัยมากอย่างผม ฝรั่งเขาออกเสียงว่าไง ผมก็ออกอย่างนั้น ก็ไปได้ร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ เขียนหนังสือให้ฝรั่งอ่านได้ บรรยายให้ฝรั่งฟังได้ ฟังฝรั่งพุดก็รู้เรื่อง ผมก็เลยพอใจแค่นั้น ดีครับ เป็นคนช่างสงสัย ขอให้เจริญๆ ความเจริญทั้งหลายมันเกิดก็เพราะคนช่างสงสัยนี่แหละ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 08:54:12

ความคิดเห็นที่ 8 แล้ว จขกท คิดว่ามันควรออกเสียงว่าอะไรล่ะถึงข้องใจกับคำตอบของผู้ใจดีทั้งหลาย จากคุณ : marnwimol เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 09:23:53

ความคิดเห็นที่ 9 ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ non-phonetic อันนี้เราไม่ได้พูด นักภาษาศาสตร์เขาพูด คือรูปเขียนไม่สามารถรักษาเสียงอ่านได้ บ้างก็ให้เหตุผลว่าที่เป็นแบบนี้เพราะภาษาอังกฤษยืมคนอื่นมาเยอะมาก แต่เราว่า คำที่มันดูเป็นคำพื้นๆ อย่าง  put กับ but ตามที่ได้มี คห.ก่อนหน้ายกมา ยังอ่านไม่เหมือนกันเลย หรือคำว่า I ออกเสียง ไอ แต่ is ดันออกเป็น อิส ซะงั้น ========= อย่างไรก็ดี เราจะพยายามตอบเจ้าของกระทู้ตามความรู้อันน้อยนิดที่มี ภาษาใดๆ ก็ตามนั้น ภาษาพูด มาก่อนภาษาเขียน ก่อนหน้านี้ เราเข้าใจว่าชาติพันธุ์ในอังกฤษเองก็มีสารพัด เหมือนในดินแดนสุวรรณภูมินี่แหละ ไม่ต่างกัน ต่างเผ่าก็มีภาษาของตน ถ้าไปดูใน wiki จะพบว่าอังกฤษเองมีอักษรของชาวแองโกลแซกซอน (และน่าจะมีอักษรแบบอื่นๆ อีก) ใช้ ซึ่งแตกต่างจากระบบอักขระลาติน/โรมัน ที่เรารู้จักกัน มีความเป็นไปได้ที่พอเอาอักขระลาตินไปเทียบกับภาษาเดิม ต่างคนต่างใช้ พอกลายเป็นภาษาอังกฤษสมัยใหม่เข้า มันก็เลยกลายเป็นคนละทิศแบบนี้ เหมือนภาษาไทย อย่างคำว่า เสมียน เรารู้ว่าอ่านว่า สะเหมียน แต่ถ้าคุณไม่ใช่คนไทย คุณน่าจะอ่านตามระบบไทยว่า เส มี ยน หรือ เส มี ยะนะ แต่คำนี้เป็นคำเขมร วิธีอ่านไปอ่านแบบเขมร นี่อาจจะไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีนัก แต่คงพอทำให้คุณเห็นภาพได้ว่ามีความเป็นไปได้ที่ภาษาหนึ่งๆ จะมีระบบการสะกดและออกเสียงที่ไม่สอดคล้องกัน จากคุณ : AntiSpam (อันตราคนี) เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 11:29:42

ความคิดเห็นที่ 10 ที่ไม่เข้าใจคือ "จะสงสัยไปทำไม" ก็เค้าอ่านแบบนี้ ก็อ่าน ๆ ตามเค้าไปสิครับ คุณเรียนหนังสือมา หรือฝรั่งพูดก็พูด ๆ ตามเค้าเหอะ อย่างคำว่า "ทราย" เค้าอ่านเป็น "ซาย" ผมก็สงสัย แต่ก็ไม่คิดจะถามอะไรให้มันวุ่นวาย ก็เค้าอ่านแบบนี้ คุณจะไปอะไรมากมาย หาอย่างอื่นทำดีกว่ามั้ย เดี๋ยวต่อไปจะมีความเห็นประมาณว่า "การสงสัยคือการทำให้คิด ใช้สติปัญญา" คอยดูล่ะกัน ว่าไปนั่นอีก จากคุณ : ปีเตอร์นอร์ธ เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 14:22:26

ความคิดเห็นที่ 11 ทำไม ทราย อ่านว่า ซาย เพราะคำนี้มาจากเขมรไง ทร เป็นพยัญชนะ อ่านเสียง ตรฺ ออกลิ้นแบบไทยๆ ก็เป็นเสียง ซ แค่นั้นเอง คุณไม่สงสัย แต่เราสงสัย แล้วเราก็ได้คำตอบ นำไปสู่องค์ความรู้อื่นอีกมาก คุณไม่สงสัย คุณก็เลยไม่รู้ว่า ทร ทำไมออกเสียง ซ ในภาษาไทย และจากความรู้อันนี้ ทำให้เรารู้เลยว่าภาษาไทย โดยเฉพาะไทยกลางกับเขมรนั้นแนบแน่นเป็นพี่น้องกันกว่าภาษาอื่นใด เอาเป็นว่าเราไปหาคำตอบจากปราชญ์ราชบัณฑิตทางภาษาไทยท่านหนึ่งมาตอบคนที่เขาอยากรู้ก็แล้วกันว่าทำไม ทราย ถึงอ่านว่า ซาย http://www.royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=1261 ส่วนที่บอกว่าไปหาอย่างอื่นทำดีไหม เราขอตอบว่านี่แหละคือเรื่องที่พร้อมจะศึกษาและรักที่สุด ความรักในภาษานั้นเป็นเรื่องลึกและกว้าง และคุยกันได้เป็นวันเป็นเดือนเป็นปี กรมพระยาดำรง พระยาอนุมานราชธน จิตร ภูมิศักดิ์ แสงทอง ฯลฯ คนเหล่านี้เขามีความรักในภาษาและสร้างสรรค์บทความในเชิง ศัพท์สันนิษฐานและอักษรวินิจฉัยไว้มากมาย ถ้าคุณไม่มีจริตทางนี้ คุณก็อย่าไปขัดขวางความรักในภาษาที่คนรักทางนี้เขามีกันเลยคุณปีเตอร์นอร์ธ แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 54 15:18:06 จากคุณ : AntiSpam (อันตราคนี) เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 15:17:01

ความคิดเห็นที่ 12 ก็เรื่องของคุณสิครับ ผมไปขัดขวางอะไรใครตั้งแต่เมื่อไรไม่ทราบ ก็แค่แนะนำเฉย ๆ ว่าอย่ามาอะไรมากมายเลย ไปหาอย่างอื่นทำไม่ดีกว่าหรอ คุณจะรักอะไรมันก็เรื่องของคุณ ผมก็รักภาษาไม่ได้น้อยไปกว่าคุณหรอกครับ แต่ผมแค่ไม่มาเสียเวลาแล้วก็แค่แนะนำ จขกท คือไปทำอย่างอื่นมากกว่า ส่วนคำว่าทราย อืมมมม หรอครับ แล้วไงครับ มาจากภาษาเขมรแล้วไงครับ ขอบคุณที่บอก แต่ผมไม่ได้อยากรู้ เพราะผมพูดมาแบบนี้ตั้งแต่เด็ก แล้วก็ไม่ได้สนใจต้นตออะไรมากมาย ขอแค่สื่อสารได้เป็นพอ จบ ปล. เพราะคำนี้มาจากเขมรไง ทร เป็นพยัญชนะ อ่านเสียง ตรฺ ออกลิ้นแบบไทยๆ ก็เป็นเสียง ซ - ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีแหละครับ นำไปสู่องค์ความรู้อื่นอีกมาก คุณไม่สงสัย คุณก็เลยไม่รู้ว่า ทร ทำไมออกเสียง ซ ในภาษาไทย - เห็นมั้ย พูดไม่มีผิดจะต้องมีพวกทำเป็นคนดีเข้ามาทำเป็นแบบบ เอ่อออออ............ แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 54 20:56:07 จากคุณ : ปีเตอร์นอร์ธ เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 20:53:12

ความคิดเห็นที่ 13 ขอขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านนะครับ ที่เข้ามาอ่านแล้วให้ความรู้ต่างๆกับผม จริงๆแล้ว ที่ผมตั้งกระทู้ถามในหัวข้อนี้ ผมไม่ได้รู้สึกว่าจะต่อต้านหรือไม่ยอมรับในการออกเสียงคำนี้ ว่า ฟลัด แต่เพราะว่า ผมต้องการแค่อยากรู้ว่า ที่มาที่ไปในการออกเสียงของคำๆนี้เป็นมาอย่างไร เพราะเท่าที่ผมเคยเรียนมา มันไม่น่าออกเสียงแบบนี้ มันน่าจะออกเสียงว่า ฟลูด เช่นมีคำว่า fat อ่านว่า แฟท เติมแอลเข้าไป เป็น flat ก็ยังอ่านว่า แฟลท   คำว่า back อ่านว่า แบ็ค เติมแอลเข้าไป เป็น black ก็ยังอ่านว่า แบล็ค คำว่า food อ่านว่า ฟู๊ด เติมแอลเข้าไป เป็น flood ก็น่าจะอ่านว่า ฟลูด หรือ ฟลู๊ด เพราะแอล เป็น พยัญชนะ ไม่น่าจะมีผลต่อการออกเสียงของสระได้ นี่คือข้อสงสัย จึงอยากได้คำตอบครับ และจากที่ได้อ่านความเห็นของเพื่อนๆ ก็พอจะสรุปได้ว่า น่าจะเป็นการออกเสียงที่ต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น คงจะเป็นอย่างนั้นนะครับ เพราะในภาษาไทยเองคำๆเดียวกัน แต่ท้องถิ่นต่างกัน เสียงยังเปลี่ยนไปได้ เช่น มดกินน้ำตาลหมด ในภาษาถิ่นทางภาคใต้ ยังออกเสียงว่า หมดกินน้ำตาลมด ทั้งๆที่คำๆเดียวกัน ... ขอบคุณเพื่อนๆใจดีทุกท่านนะครับ เพื่อนๆที่นี่น่ารักทุกคนเลย ขอบคุณครับ ... จากคุณ : ชื่อนี้สบายใจดี เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 21:55:49

ความคิดเห็นที่ 14 สงสัยนัก เราก็เลยสงสัยต่อเลย ถาม จขกท กลับเลยนะ ว่า จริง ทำไมไม่ออกเสียง ร หล่ะ สำรวจ ทำไมออกเสียง หรวด หล่ะ ปรารถนา ทำไมไม่อ่าน ปรา รด นา หล่ะ ตอบได้ให้สิบบาท คริคริ จากคุณ : ปากจัดชะมัดยาด เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 22:33:41 A:49.49.96.18 X: TicketID:301976

ความคิดเห็นที่ 15 เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้คะ ตอบได้ง่ายๆว่าอาจจะเป็นเพราะ เรื่องการเปลี่ยนแปลงทางภาษาซึ่งมีอยู่ตลอดเวลา ถ้าภาษานั้นๆยังมีผู้ใช้งานอยู่ .... คำว่า flood อาจเป็นหนึ่งในคำพวกนั้นก็ได้คะ ...เพราะคำนี้ในยุคMiddle English อ่านว่า ฟลอด (flod) ซึ่งมากจากอีกคำ (ซึ่งน่าจะอ่านว่า โฟลด) ในยุค old English จากคุณ : Kelly (Ceelicious) เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 54 01:01:09

ความคิดเห็นที่ 16 คุณปีเตอร์นอร์ธเข้าไปอ่านที่อาจารย์จำนงค์ ทองประเสริฐ อธิบายไว้ตามลิงก์ที่ดิฉันให้ไปหรือยัง ท่านอธิบายไว้เข้าใจง่ายมาก ถ้ายังไม่เข้าใจอีก ดิฉันว่าเรื่องศัพท์สันนิษฐานคงไม่เหมาะกับคุณจริงๆ จากคุณ : AntiSpam (อันตราคนี) เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 54 09:41:40

ความคิดเห็นที่ 17 คนบางคนก็เป็นบัวใต้น้ำอยู่ในตมจริงๆ พอใจที่จะอยู่ใต้น้ำคนเดียวไม่พอ ยังจะหาเพื่อนอีก จากคุณ : เฮ้อ เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 15:55:08 A:61.90.47.52 X: TicketID:106200