ความคิดเห็นที่ 1 เรื่อง Thai romanization นี้ แต่ดั้งเดิม ชื่อนามสกุลเจ้าก็สะกดแบบถอดตามหลักบาลีสันสกฤษ ก็เลยดูสวยงามดี รู้สึกว่าระบบเดิมคุณไม่น่าจะเห็น ph แทน พ ให้ขัดใจหละนะ แต่เผอิญพวกนักวิชาการของราชบัณฑิตยสภานไปทำลายความงดงามของระบบเดิมโดยตั้งระบบ RI Thai romanization ขึ้นมาใหม่ แล้วเผอิญพวกเขาไม่เก่งเท่าคนจีนที่คิด pinyin ขึ้นมา มันก็เลยยุ่ง ที่ประเทศจีนเมื่อสมัย cultural revolution เขาระดมนักภาษาศาสตร์ชั้นนำหลายร้อยคนเพื่อคิด Chinese romanization ขึ้นมา แล้วมันออกมาเป็น pinyin ซึ่งสวยงามมากๆ ต่างกับ RI Thai romanization ที่หน้าตาอัปลักษณ์เอาซะมากๆ...555+++... ถ้าใครเอา RI Thai romanization ไปสะกดชื่อถนน ก็เอาไปเหอะ แต่อย่าเอามาสะกดชื่อนามสกุลเราเป็นอันขาดเลย เราเกลียดมันมากๆ จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 54 12:21:39

ความคิดเห็นที่ 2 Oh, my god. บอกฝรั่งด้วยว่า When in Rome, do as the Romans do. พุดอีกอย่างคือ มาเมืองไทยก็ให้ทำอย่างที่คนไทยเขาทำ คนไทยเราทำอะไร? โอเค หลายๆเรื่องเราก็มั่วซั่ว แต่เรื่องเขียนตัวไทยให้เป็นตัวฝรั่งนั้นไม่ได้มั่ว เราเป็นศิษย์มีครู ครูในทีนี้่คือราชบัณฑิตยสถาน ท่านบัญญัติหลักการแทนอักษรไทยด้วยอักษรโรมันไว้เป็นบรรทัดฐานไม่ให้ลักลั่น ขอบอกว่าไม่ใช่หลักการเขียนภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษเพราะฝรั่งไม่ได้มีแต่อังกฤษอเมริกันเน้อ ฝรั่งอื่นๆก็มี จะเอาใจแต่อังกฤษไม่ได้ ก็เลยบัญญัติหลักกลางๆในการแทนอักษรไทยด้วยอักษรโรมัน หลักเกณฑ์การถ่ายเสียงนี้ไม่ใช่มีแต่ในประเทศไทย ประเทศอื่นๆเขาก็ทำ เช่นประเทศจีน เป็นต้น Deng ยังออกเสียงเป็น เติ้ง ได้เลย ไม่ได้ออกเสียงเป็น เด้ง หลักของไทยว่าอย่างไร? มันละเอียด จขกท ตามไป d/l ตำรามาดูนะครับจากเว็บราชบัณฑิตยสถาน ไม่ยาวหรอก http://www.royin.go.th/upload/246/FileUpload/416_2157.pdf นอกจากนั้น หลายๆที่อาจไม่ได้ใช้หลักเกณฑ์ของราชบัณฑิตยสถาน แต่ก็ยังมีหลักอยุ่ดี คือในกรณีคำศัพท์ที่มาจากภาษาบาลีสันสกฤต ผมก็เห็นหลายท่านถอดอักษรโดยหลักเกณฑ์การถอดคำบาลีสันสกฤตเป็นภาษาอังกฤษ อย่าง Suvarnabhumi ก็เป็นกรณีตัวอย่างดังกล่าว ส่วนใครจะถอดตามใจฉันนั้นห้ามกันไม่ได้ อธิบายให้ได้ก็แล้วกันว่าใช้ตำราอะไรเวลามีคนถาม จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 54 12:22:25

ความคิดเห็นที่ 3 ใส่ h เพื่อแยกความต่างเสียงโฆษะกับอโฆษะครับ เช่น ปลา-pla เพื่อน-phuean เป็นการถอดอักษรไทยเป็นอักษรโรมัน ไม่ใช่การถอดภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ ดูหลักเกณฑ์ของราชบัณฑิตยสถานตรงเมนูด้านซ้าย http://www.royin.go.th/th/home/ จากคุณ : ==KEN== เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 54 12:23:06

ความคิดเห็นที่ 4 เขาไม่ได้เขียนภาษาอังกฤษ เขาเขียนภาษาไทยนั่นแหละ แต่ใช้อักษรโรมัน ซึ่งประเทศในเอเชียจำนวนมากก็มีหลักการเทียบอักขระของตัวเองกับอักขระโรมันของตนทั้งนั้น ยกตัวอย่าง คำว่า guru ถ้าอ่านแบบอังกฤษก็อ่านว่า กูรู แต่ g ถ้าว่าตามสันสกฤต คือเสียง ค เพราะฉะนั้น คำนี้อ่านว่า คุรุ ตัว p ในภาษาอังกฤษเองก็ประเดี๋ยว พ ประเดี๋ยว ป เพราะฉะนั้น ในภาษาไทย ก็ใช้ h เข้ามาช่วยกำกับเสียงที่คล้ายแต่ไม่หนักเท่า ph ก็เลยกลายเป็น พ จริงๆ คนที่ใช้อักษรโรมันทั่วโลกก็ไม่ได้ออกเสียง ph เป็น ฟ ไปซะหมด ภาษาไทยยังไม่เท่าไหร่ ถ้าคุณไปดูหลักการเทียบอักขระเป็นโรมันของจีนกับเกาหลี และถ้าคุณใช้หลักการอ่านแบบอังกฤษ คุณจะอ่านไม่ถูกเลย ป.ล. ถ้าคุณเขียน Siripak ฝรั่งก็อ่านเป็น สิริปั๊ก อยู่ดี เลือกเอา จากคุณ : AntiSpam (อันตราคนี) เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 54 12:26:13

ความคิดเห็นที่ 5 จริงๆแล้วคุณ จขกท จะสะกดชื่อนามสกุลตัวเองยังไงก็น่าจะได้นี่น่า โดยเอา ph ออกไปซะ เราเห็นชื่อนามสกุลของรัฐมนตรี นักการเมือง และพวกเจ้า ก็สะกดแบบถอดมาเป็นอักษรโรมันตามหลักบาลีสันสกฤตแบบเดิมก็มีหลายคนนะ ดังนั้นคนอื่นๆก็น่าจะทำได้เพราะไม่มีกฎหมายบังคับนี่นาว่าต้องสะกดแบบ RI Thai romanization หมายเหตุ RI ย่อมาจาก Royal Institute คือ ราชบัณฑิตสถาน แต่ก็มีเรื่องขำๆนะ มีคนเล่าให้ฟังในกระทู้พันทิบเมื่อหลายปีมาแล้ว เรื่องเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศเบ่งบังคับชาวบ้านให้สะกดชื่อนามสกุลใน passport ตามระบบ RI Thai romanization คือมีคุณตาคนหนึ่งไปทำ passport และสะกดนามสกุลเป็นอังกฤษโดยถอดมาเป็นอักษรโรมันตามหลักบาลีสันสกฤต เจ้าหน้าที่กระทรวงไม่ยอม เขาบังคับให้สะกดตามหลัก RI Thai romanization (ซึ่งเราก็ไม่แน่ใจว่าเขาใช้อำนาจจากมาตรากฎหมายฉบับไหน) คุณตาแกทักท้วงว่า "ทำงั้นไม่ได้นะครับ เพราะนามสกุลผมเป็นนามสกุลพระราชทาน" เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า "โธ่ ใครๆก็อ้างแบบนี้ได้" วันรุ่งขึ้นคุณตานำพระราชโองการพระราชทานนามสกุลมายืนยัน ซึ้่งในพระราชโองการฉบับนั้นมีการสะกดนามสกุลเป็นภาษาไทย และถอดเป็นอักษรโรมันตามหลักบาลีสันสกฤตอย่างงดงามเอาไว้ให้ด้วย งานนี้ เจ้าหน้าที่ เลิกเบ่งไปเลย เพราะต้องยอมสะกดนามสกุลตามพระราชโองการนั้น สรุปแล้วใครรู้กฎหมายบ้างว่ามีมาตราไหนในกฎหมายไหนหรือไม่ที่เจ้าหน้าที่หน่วยงานใดๆของไทยจะบังคับใครให้ต้องสะกดชื้อนามสกุลตาม RI Thai romanization เราคิดว่าไม่น่าจะมีนะ ถ้ามีมันจะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง เพราะตามที่บอกไปแล้วไงว่าคนใหญ่ๆโตๆดังๆที่ไม่สะกดชื่อนามสกุลตามระบบ RI Thai romanization ก็มีตั้งเยอะแยะไป แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 54 12:41:55 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 54 12:37:57

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณและน้อมรับทุกความคิดเห็นครับ เพียงแต่อยากทราบว่าแต่ละหน่วยงานโดยเฉพาะของรัฐ ทำไมถึงเขียนไม่เหมือนกัน เช่น เชียงใหม่ บ้างเขียน Chiangmai หรือ Chiengmai หรือ -mhai คำว่าอำเภอซึ่งเป็นคำที่ต้องใช้กันมาก และพื้นฐานมากๆ เขียน อย่างไรดีครับจะให้พ้องเสียงหรือให้ถูกต้องดีครับ ระหว่าง Umper-Umpher-Ampher-Amphoe-Umphoe และอีกมากมาย ยังไม่นับรวมที่เอกชนนำไปใช้ในการระบุที่อยู่บนนามบัตรหรือที่ต่างๆ น่าจะมีหน่วยงานที่ตรวจทานก่อนนำไปใช้จะดีกว่ามั้ย ถ้าให้เฉพาะราชบัณฑิตฯ ที่วางหลักเกณฑ์ไว้เพื่อให้อ้างอิงหรือศึกษาก่อนนำไปใช้ น่าจะเป็นการยากที่จะเหมือนกันได้(หรือถ้าใกล้เคียงถือว่าใช้ได้) โดยส่วนตัวผมชอบของญี่ปุ่นครับ ถ้าจำไม่ผิดเขาบรรจุให้เรียนในห้องเรียนด้วยนะครับ... จากคุณ : ยามภาษา เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 54 13:03:03 A:124.120.31.67 X: TicketID:336275

ความคิดเห็นที่ 7 คิดว่ารัฐบาลไทยจะบังคับให้มีการใช้ romanization ที่เป็นระบบทั้งประเทศไม่ได้เพราะอาจจะไปขัดต่อพระราชนิยม ทำนองนั้นหรือเปล่าครับ จริง ๆ ระบบของราชบัณฑิตสถานก็อ้างอิงมาจาก IPA และ Thai Phonology นั่นแหละครับ ซึ่งผมว่าระบบนี้ก็ค่อนข้างดี ข้อเสียของระบบราชบัณฑิตยสถานเท่าที่ผมเห็นคือ ไม่แยกระหว่างเสียงสระสั้น-ยาว แล้วก็ใช้ "ch" แทนทั้งเสียง "จ" และ "ฉ-ช-ฌ" ซึ่งตามหลักแล้ว "จ" ควรเป็น "c" จากคุณ : Urashima เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 54 13:27:53

ความคิดเห็นที่ 8 อีกสักนิด ยกตัวอย่างนะครับ คำว่า ปรัชญา, ประวัติศาสตร์, สัปดาห์, ภูมิลำเนา, โทรคมนาคม ที่มีการบัญญัติให้อ่านได้เป็น ปรัด-ชะ-ยา (ปรัด-ยา), ประ-หวัด-สาด(ประ-หวัด-ติ-สาด), สับ-ปะ-ดา(สับ-ดา), พูม-มิ-ลำ-เนา (พูม-ลำ-เนา), โท-ระ-คม-มะ-นา-คม (โท-ระ-คะ-มะ-นา-คม) เมื่อก่อนใครอ่านแบบข้างหน้าวงเล็บถือว่าอ่อนภาษามากๆ (ถึงขั้นยี้เลยนะครับ) พาลจะสอบตกภาษาไทยเอาได้ ยิ่งได้ยิน รมต.บางสมัยของ กระทรวงโทรคมนาคม อ่านกระทรวงของท่านเป็นแบบแรกแทบบอกได้เลยว่าไม่ผ่านตั้งแต่ยังไม่ทำงาน มาสมัยนี้ราชบัณฑิยสถานให้อ่านได้ทั้งสองแบบถือว่าเป็นคำนิยม ผมยังทำใจไม่ค่อยได้ เพราะสอนลูกๆ หลานๆ ให้อ่านตามในวงเล็บ ถ้าการเขียนกำกับจะมีการเปลี่ยนแปลงตามสมัยนิยมและบังคับใช้ให้เขียนแบบนี้แบบนั้น(เฉพาะคำที่เห็นว่าสำคัญ ไม่เกี่ยวกับชื่อ-นามสกุลนะครับ)น่าจะเป็นการดี การท่องเที่ยวจะได้รับอานิสงฆ์ไปด้วย เหมือนเหล่าคำข้างบนที่ให้อ่านได้ตามสมัยนิยมและแบบเดิม บ้างจะเป็นไร... จากคุณ : ยามภาษา เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 54 13:34:20 A:124.120.31.67 X: TicketID:336275

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่ค่อยสนการถอดเป็นโรมันของราชบัณฑิตยสถานเท่าไหร่  ปกติเขียนเอาตามที่อ่านได้จริงน่ะค่ะ รับไม่ได้กับเสียง ph แทน พ และเสียง th แทน ท เลยเขียนถอดตามที่อ่านได้ตรงเสียงจริง ๆ มากกว่า อย่าง ภูเก็ต ตั้งแต่เพื่อนฝรั่งแน ฟัคเก๊ต (Phuket) ก็สะกดว่า Puhget หรือ Puhket ตลอด เห็นด้วยกับ #8 คุณยามภาษา มาก ๆ รวมถึงการสะกดคำด้วยค่ะ จำได้ว่าตอนประถมเนี่ย ใครเขียน "ยาเสพย์ติด" ผิด เป็น "ยาเสพติด"นี่ครูตีมือหัก โดนท่องแทบทุกคน "ยาเสพย์ติด" "สิ่งเสพย์ติด" กับ "เสพยา" "เสพติดยา" "เสพสม" เสพย์ = คำวิเศษณ์  เสพ = คำกริยา   เดียวนี้อนุโลมจนเสียความงามของภาษาแล้ว จากคุณ : เจ้าแสนสนิท เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 54 15:21:07

ความคิดเห็นที่ 10 ตำราแพทย์ยิ่งสนุกค่ะ : โซเดียม โสเดียม  โพแทสเซียม โปแตสเสียม จากคุณ : เจ้าแสนสนิท เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 54 15:23:50

ความคิดเห็นที่ 11 ระบบผม ศิริภักดิ์ > Sciribhakqdix อิๆ แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 54 16:04:24 จากคุณ : Paphmania (Paphmania) เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 54 16:03:36

ความคิดเห็นที่ 12 เมื่อก่อนจริงๆ เขียน Siriphakdi แต่เพื่อน(ไทย) งง จะเอาไงแน่ ศิริภักดิ์ หรือ ศิริภักดี เลยเหลือเท่าที่อ่านได้ สิ-ริ-แพ็ค, -พัก, -ปั๊ก, -แป๊ก ได้หมดครับ ที่รับไม่ได้ถ้าใส่ -h เข้าไป เป็น ฟ ฟัน แล้ว อึ๋ยยยยยยย... สนุกดีครับ คห. 11 แหล่มมาก แต่ถ้ามีคนจ้างให้เขียนซับไตเติ้ลเพลงคาราโอเกะ คห.11 จะรับพิจารณามั้ย คงมีเฮ...นะครับ คราวต่อไปคุยเรื่องเขียนไทยกำกับญี่ปุ่นแล้วอ่านแบบไทย...น่าจะสนุกไปอีกแบบ จากคุณ : ยามภาษา เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 54 16:27:58 A:124.120.31.39 X: TicketID:336275

ความคิดเห็นที่ 13 ระบบผมเปฌ้นหนึ่งต่อหนึ่งครับ ถ้ามีคนรับเขียนโปรแกรมให้ฟรี ก็แจกฟรีใช้ได้เลยครับ อิๆ จากคุณ : Paphmania เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 54 22:06:30

ความคิดเห็นที่ 14 h แทนเสียงพยัญชนะที่มีลม ไม่เชื่อลองเอามือป้องปากดูว่าเวลาออกเสียงเหล่านี้มีลมมากระทบมืออะป่าว เช่น ph (พ) th (ท) kh (ค) เป็นต้น เสียงที่ไม่มีลมจะใช้แทนว่า t (ต) p (ป) k (ก) ถ้าจำผิดมาก้อท้วงด้วยนะ ไม่ได้เปิดหนังสือตอบ แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 54 22:17:52 จากคุณ : ไข่มุขราตรี เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 54 22:16:52

ความคิดเห็นที่ 15 สำหรับตัว ฟ ถ้าเป็นโฟนเนติคไทยจริงๆ ต้องแทนด้วย f ไม่ใช่ ph โฟนเนติดไม่ว่า ชาติไหน ชาตินั้นจะเป็นผู้กำหนดขึ้นเอง เช่น g แทนเสียง เกอ ในภาษาจีน ส่วนภาษาไทย จะแทนเสียง ก ไก่ ด้วยอักษร k หรือ จ จาน ภาษาไทย แทนด้วยตัว c ส่วนภาษาจีนจะแทนด้วยต้ว z แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 54 22:23:55 จากคุณ : ไข่มุขราตรี เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 54 22:22:58

ความคิดเห็นที่ 16 ภาษาไทยมีตัวอักษรที่ออกเสียงแบบมีลม กับไม่มีลม ซึ่งบางตัวก็แตกต่างจากภาษาอังกฤษ เช่น ก/ค ป/พ ต/ท ซึ่งภาษาอังกฤษมีแต่ K, P, T ทางราชบัณฑิตฯ ต้องการให้แยกระหว่างตัวอักษรแต่ละคู่ จึงต้องใส่ h ลงไปข้างหลัง เพื่อแยกกันว่า K คือ ก และ Kh คือ ข,ค,ฆ ที่จริงตามกฎหมายไม่ได้มีกำหนดอะไรไว้ในเรื่องนี้ ดังนั้นถ้าเป็นชื่อส่วนตัว ใครจะสะกดอย่างไรก็เป็นสิทธิของแต่ละบุคคลอยู่แล้ว ซึ่งส่วนมากคนที่ไม่ได้สะกดตามแบบ ก็มักจะอิงจากภาษาอังกฤษเป็นหลัก เพราะคนไทยส่วนมากจะคุ้นกับภาษาอังกฤษมากกว่าภาษายุโรปอื่น ๆ แต่ถ้าเป็นชื่อทางราชการ เช่น ชื่อจังหวัด อำเภอ ตำบล เขต แขวง ถนน ฯลฯ ก็ควรสะกดตามหลักของราชบัณฑิตฯ ยกเว้นเป็นชื่อเฉพาะที่มีที่มาเป็นพิเศษ เช่น เขตทวีวัฒนา สะกดว่า Thawi Wathana ตามราชบัณฑิตฯ แต่เขตวัฒนา ในเอกสารราชการ มักจะสะกดว่า Vadhana เนื่องจากเป็นนามพระราชทานของสมเด็จพระพี่นางฯ แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 54 01:50:07 จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 54 01:48:56

ความคิดเห็นที่ 17 soft power ของเจ้าอาณานิคมเก่า (อังกฤษ) และพันธมิตรเจ้าโลก (อเมริกา) เข้มแข็งมาก ดูได้จากกระทู้นี้ มีพวกกลัวคนอังกฤษกับคนอเมริกันอ่านไม่ออกกันเยอะมาก โลกนี้สนุกจริงๆ จากคุณ : สามีนุ่น เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 54 01:59:10 A:140.119.143.52 X: TicketID:324122

ความคิดเห็นที่ 18 เมื่อเช้าผ่านไปทางสนามบิน ใช้ถนนกิ่งแก้ว นึกถึงกระทู้ ถ่ายรูปซอยหน้าวัดกิ่งแก้ว รูปแรกเป็นรูปรวม ป้ายซอยกิ่งแก้ว 21/3 กับป้ายวัดที่อยู่ถัดไปข้างสะพานลอย (น่าจะชำรุดแล้วนำมาพิงไว้) ป้ายซอย เขียน KINGKAEW ป้ายวัด เขียน WAT KING KAEO ตามรูปนะครับ ส่วนป้ายถนนในสนามบิน เขียน King Kaeo Road คล้ายป้ายของวัด อ่านได้ว่า กิ่งแก้วเหมือนกัน แต่เขียนต่างกัน เสียงอาจต่างกันบ้าง คิง-แค-เอว กับ คิง-แค-โอ ถ้าพูดซ้ำเร็ว ๆ ก็จะได้ คิง-แคว, คิง-แกว,... จนถึงกิ่งแก้วในที่สุด...(อันนี้ทักษะส่วนตัวนะครับ...ฮา) การเว้นวรรค ช่องไฟ การเขียนตัวพิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก ต่างกัน ควรมีทางออกอย่างไร และหน่วยงานไหนเป็นคนตัดสินและรับผิดชอบว่าที่สุดแล้วให้เขียนอย่างไรครับ จะเป็น อบต.ราชาเทวะ การท่าอากาศยาน ทางหลวง ทางหลวงพิเศษ หรืออาจารย์ของเรา...ราชบัณฑิตฯ ฯลฯ หรือ...เอาน่า...กิ่งแก้วเหมือนกัน (เพราะมีภาษาไทยเขียนกำกับอยู่แล้ว...ต่างชาติ ถ้ามีปัญหาให้ถามคนแถวๆ นั้นเอง...หรือเปล่านะ) จากคุณ : ยามภาษา เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 54 13:21:41 A:124.120.29.7 X: TicketID:336275

ความคิดเห็นที่ 19 รูปไม่แสดง แต่ข้อมูลตามนั้น ขออภัยนะครับ จากคุณ : ยามภาษา เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 54 13:26:29 A:124.120.29.7 X: TicketID:336275

ความคิดเห็นที่ 20 ผมขอร้อง จขกท ว่าอย่าสะกด  Siriphak เลยครับ มันฟังไม่ดีจริงๆ  เป็น Siripak ดีกว่า จนท ทำพาสปอร์ตไม่มีสิทธิ์มาบังคับให้เราสะกดชื่อตามเขา  พูดตามตรงส่วนใหญ่เขาจะทำกับชาวบ้านซึ่งบางคนเขาสะกดไม่เป็น จะให้ จนท สะกดให้ แต่ถ้าเป็นบุคคลมีการศึกษาเราสามารถสะกดของเราได้เอง จากคุณ : Sand Canyon เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 54 14:21:58

ความคิดเห็นที่ 21 #คห.20 ปัจจุบัน ผมใช้ Siripak เหมือนในพาสปอร์ตครับ ญาติคนอื่นลงความเห็นใช้แบบนี้ เพราะเคยเสวนาในวงศาฯ แล้ว ได้ผลสรุปตรงกัน ญาติที่เป็นเด็กรุ่นใหม่ก็เห็นด้วยครับ... เลยไม่มีการกระทบกระทั่งกันเหมือนแนวประตูน้ำ เห็นใจและเป็นกำลังใจทั้ง 2 ฝ่าย จนท.กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ (...รอลุ้นอยู่ครับ...ว่าจะเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทยในรอบหลายสิบปีกับเขาหรือเปล่า...ฮา) จากคุณ : ยามภาษา เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 54 16:14:14 A:124.120.29.7 X: TicketID:336275

ความคิดเห็นที่ 22 เคยทำระบบ Thai Romanization ตามสไตล์ตัวเองเมื่อ 10 ปีก่อน อยู่ไหนไม่รู้ คงต้องไปรื้อหา ทีนี้ ยังมีการสะกดแบบหัวมังกุท้ายมังกรอีก คือ ไม่รู้จะเอาตามราชบัณฑิต หรือ เอาตามหลักบาลีสันสฤติกันแน่ เลยปนกันมั่ว เช่น สิริภูมิ เป็น Siribhumi ผสม Siriphoom เป็น Siriphumi Siripuk ไปยุโรป จะโดนอ่าน สิริพุค จากคุณ : เขียนบน iPhone (เจ้าแสนสนิท) เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 54 23:02:43

ความคิดเห็นที่ 23 Siripak ผมอ่านว่า สิริปั๊ก ขอเป็น Siriphak เถอะครับ - - จากคุณ : ผมรู้ เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 11:55:50

ความคิดเห็นที่ 24 #คห.23 คนไทยอ่านแบบไหนก็ได้ครับเพราะมีทั้ง พ พาน กับ ป ปลา -แพ็ก, -แป๊ก, พัก, ปั๊ก แต่ถ้าเสียงอังกฤษ จะได้แค่ แพ็ก กับ พัก อังกฤษไม่มีอักษรต่ำคู่เหมือน พ พาน ที่คู่กับเสียงสูง ผ ผึ้ง และไม่มีเสียง ปอ มีแค่ p (พี) โดด ๆ ไม่มี ผี(พี๋) ปี หรือ ปี๋ ถ้าเทียบจากเสียงจริงของภาษาอังกฤษจะได้แค่เสียง พอ หรือ p ของเราได้เปรียบตรงที่มีพยัญฯ 44 ตัว อังกฤษมีแค่ 21 ตัว เราเลยหลากหลายกว่า อธิบายยังไงดี... ฝรั่งแท้ไม่อ่าน apple เป็น แอ๊บ-เปิ้น(เปิ้ล) แต่จะอ่าน แอ๊บ-เพิ้น(เพิ้ล) (เวลาเปิดดิกฯ จะมีวงเล็บการอ่านกำกับ) ที่จั่วหัวเรื่องตัว h ไว้ อยากบอกว่าในบ้านเราใช้ h กันมากเกินความจำเป็นหรือเปล่า หรือเพราะราชบัญฑิตฯ กำหนดไว้ให้เขียนอย่างนี้ โดยไม่สนว่าคนที่ใช้ภาษาอังกฤษนอกจากบ้านเราจะอ่านอย่างไร (ถ้าเทียบเสียงจากการอ่านจริง) ถ้ารับกันได้...ก็ปิดประเด็นครับ จากคุณ : ยามภาษา เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 12:15:04 A:124.120.24.102 X: TicketID:336275

ความคิดเห็นที่ 25 ผมชอบและรักเว็บนี้ครับ pantip.com ที่ไม่ใช่ phanthip.com จากคุณ : ยามภาษา เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 12:37:55 A:124.120.24.102 X: TicketID:336275