 |
เราแย่ยิ่งกว่าคุณอีก เราเกิดมา iq ต่ำกว่าคนทั่วๆไป ตอนวัยเรียนเราเรียนสายวิทย์ แต่สอบเคมีได้ศูนย์ ฟิสิกส์ได้ศูนย์ ชีวะตอบได้แต่คำถามเรื่องระบบการสืบพันธ์เพราะเราอ่านแต่หนังสือพวกเพศศึกษา คณิตศาสตร์ได้คะแนนนิดหน่อย ภาษาอังกฤษได้ศูนย์ ไม่กระดิกหูเลย
เราไปอยู่ในประเทศอังกฤษ แล้วป่วยเป็นโรคจิต (ocd (ย้ำคิดย้ำทำ) กับวิตกจริต) เรียนหนังสือไม่ได้ แต่โชคดีที่รัฐบาลอังกฤษรับเลี้ยงดูเรา จ่ายค่ากินค่าเช่าบ้านให้ ให้เรายืมหนังสือฟรีไปศึกษา เราเลยอ่านทุกอย่างที่ Sigmund Freud เขียนไว้ (อ่านคำแปลจากเยอรมันเป็นอังกฤษ) และอ่านคัมภีร์ของนักพรตเต๋าที่แปลจากจีนเป็นอังกฤษ อ่านไปทั้งๆที่ไม่รู้ภาษาอังกฤษมากนัก เพื่อหวังจะรักษาตัวเองและเพิ่ม iq ตัวเอง
กาลเวลาผ่านไปหลายสิบปี เรารักษาอาการป่วยเราได้หมด ตอนอายุมากๆ เราเพิ่ม iq ตัวเองได้อย่างน่าประหลาด
เราเริ่มเรียนการแปลด้วยตัวเองเมื่ออายุ 40 ตอนอายุ 50 กว่าๆแปลเอกสารไปหลายหมื่นหน้า และแปลหนังสือกับเป็นบรรณาธิการต้นฉบับหนังสือแปลไปหลายเล่ม และในที่สุดเราก็สร้างคัมภีร์การแปลแบบไร้รูปของเราขึ้นมาได้เมื่ออายุ 50 กว่าๆ ดูรายละเอียดได้ที่ในกระทู้นี้
http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/06/K7934208/K7934208.html
เราเคยทำวีรกรรมทะเลาะกับคนโอ้อวดว่าเรียนภาษาอังกฤษระดับปริญญาโทปริญญาเอก โดยการเถียงกับพวกเขาเป็นภาษาอังกฤษเพื่อระบายความโรคจิตของเราที่เราเรียนหนังสือด้วยตัวเอง แล้วเก่งไม่แพ้หรือเก่งกว่าพวกเขา แต่กลายเป็นไม่มีงานทำในเมืองไทย
เรารับงานแปลเองได้ราคาเศษสวะ แค่หน้าละ 200 บาท แต่เผอิญเราโชคดีมีแฟนที่จบด้านภาษาอังกฤษระดับปริญญาโทเอาวุฒิการศึกษาเธอรับงานแปลในชื่อเธอแล้วโยนมาให้เราทำ หน้าละประมาณ 1000 บาท เราเลยพออยู่รอดได้ ช่วงไหนไม่มีงานทำพ่อเราก็แบ่งเงินให้เราใช้ เราเลยมีเวลาตอบกระทู้กวนประสาทชาวบ้าน
เราเริ่มเรียนวิธีใช้ computer สมัยใหม่ที่มี operating system เป็น windows และเริ่มหัดใช้ Internet เมื่ออายุ 50 กว่าๆ ทีแรกเรียนจากการอ่านหนังสือคอมพิวเตอร์ ตอนหลังๆเราไม่ซื้อหนังสือเลย แต่เรียนจาก google ลูกเดียว ตอนอายุ 60 เรารื้อและประกอบระบบคอมพิวเตอร์ได้ทั้ง hardware และ software กลายเป็นนักทดสอบ software ที่หาของฟรีได้เพียบไม่ว่าจะเป็น software, ebooks หรือ vidoes เพื่อการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ภาษาจีน โยคะ การแพทย์ทางเลือก และวิชา computer science ทุกวันนี้ช่างคอมพิวเตอร์ยังไม่รู้มากเท่าเรา แต่เราก็ยังใช้บริการช่าง เพราะเราขี้เกียจมือเปื้อนขี้ฝุ่นเวลาจับสายไฟ ซึ่งบางทีเราก็สอนช่างว่าจะแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ยังไง
เรามีความจำที่ดีมากๆ และมีความคิดที่แล่นรวดเร็วทันใจ ยิ่งอายุมากสมองเรายิ่งดึขึ้น
ที่สำคัญก็คือตอนนี้เราไม่มีรอยตีนกาหรือรอยเหี่ยวบนผิวหนังเราเลย ผิวหนังเราเนียนเหมือนคนอายุน้อยๆ หน้าตาเรายังเด็กอยู่ และมีแฟนอายุคราวลูกเรา
ตอนนี้เราไม่ค่อยได้ทำงานหนักนัก วันๆได้แต่ทดสอบ software และเรียนคอมพิวเตอร์ระดับยากๆขึ้นเรื่อยๆ พยายามเรียนภาษาอังกฤษนอกมหาลัยให้ชนะคนเรียนจบภาษาอังกฤษระดับปริญญาเอกให้ได้ (จริงๆแล้วตอนนี้เราก็ชนะคนจบปริญญาเอกด้านภาษาอังกฤษหลายๆคนได้อยู่แล้ว) เราพยายามเรียนภาษาจีนเพื่อหวังอ่านคัมภีร์เต๋าจากต้นฉบับภาษาจีนให้ได้ เราอยากมีลูกเป็นเด็กอัฉริยะ (กะจะเป็นพ่อเด็กตอนเราอายุ 100 ปี)วางแผนไว้เรียบร้อยแล้วว่าจะทำไงลูกเราจึงจะเป็น super genius ได้
เราเคยรับจ้างเขียนภาษาอังกฤษเพื่อช่วยให้คนจบปริญญาโทด้านภาษาอังกฤษ และจบปริญญาเอกด้านอื่น มาหลายคน แต่เราไปสมัครงานสอนภาษาอังกฤษแค่ระดับ ม.6 ไม่มีคนจ้างเราเพราะเราวุฒิการศึกษาไม่ถึง เราเลยอยู่ว่างๆโต้วาทีกับคนเรียนจบปริญญาโทด้านภาษาอังกฤษเพื่อระบายความโรคจิตของเราเล่นๆ ยกตัวอย่างเช่นกระทู้นี้เป็นต้น (ตอนนั้นเราใช้ login เก่าคือ tansy (iwrite4u))
http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2007/04/K5337736/K5337736.html
อีกกระทู้หนึ่งเราทะเลาะกับนักศึกษาปริญญาเอกด้านภาษาอังกฤษในมหาลัยอังกฤษ (เถียงกันเป็นภาษาอังกฤษ) เพื่อฝึกสมองตัวเองยามแก่เฒ่า (แต่หน้าตายังเด็กและเตะปี๋บดังอยู่) (ตอนนั้นเราใช้ login เก่าคือ tansy (iwrite4u)) http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2006/07/K4576771/K4576771.html
การเพิ่ม iq เมื่อแก่ และการยิ่งอายุมากยิ่งหน้าเด็ก วิ่งเร็วขึ้น sex ดีขึ้น มีเคล็ดลับดังต่อไปนี้
เคล็ดลับที่ 1
เรากินอาหารไม่เหมือนชาวบ้าน (กินตามหลักวิชา Zen Macrobiotics) ลองไปค้นกระทู้เก่าๆดู เราเคยโดนพวกห้องลุมพินีกับห้องก้นครัวยกทีมรุมด่าเอาหาว่า
"ไอ้โน่นก็กินไม่ได้ ไอ้นี่ก็กินไม่ได้ ชีวิตมันคงอับเฉา"
^ ความจริงที่พวกเขาไม่รู้ก็คือว่า
"สมัยเราป่วยอยู่เรามีอาหารต้องห้าม พองดอาหารต้องห้ามไปหลายสิบปี เราเปลี่ยน cells สมองและ cells ร่างกายแบบผ่าเหล่าผ่ากอ ที่เขาเรียกว่า biological transmutation ผลก็คือว่า เราผลิต sex hormones เกินคนธรรมดา และกำลังจะกลับเป็นเด็กอีกครั้งหนึ่ง และตอนนี้อาหารต้องห้ามทั้งหมด เรากินมันได้หมด โดยมันไม่ทำอันตรายต่อเราเลย"
เคล็ดลับที่ 2 พลังทั้งหมดที่เราระดมมากระตุ้นระบบการเรียนรู้เราเมื่อยามแก่เฒ่า มาจาก sexual energy นั่นก็คือเราฝึก Qi Gong (กำลังภายใน) จนร่างกายสร้าง sex hormones เกินขนาด จนถึงกับตัณหากลับต้องมีแฟนเด็กๆคราวลูกหลายๆคน เราถึงได้พลังแห่งการเรียนรู้มาเรียนรู้่ศาสตร์อะไรใหม่ๆ เพื่อไปดวลกับเด็กๆที่เรียนเก่งๆ ศาสตร์เร้นลับอันนี้เขาเรียกว่า sublimation นั่นก็คือเปลี่ยน sexual energy ให้กลายเป็นพลังแห่งการเรียนรู้ ซึ่งพวกฮินดูอินเดียและเต๋าจีนฝึกกัน
เด็กนักเรียนเตรียมอุดมที่มันได้ทุน King's Scholarship ที่มันเคยเรียนเก่งกว่าเราทุกวิชาสมัยเด็กๆนะ ตอนนี้สมองมันเริ่มๆจะเลอะเลือนเพราะความชราภาพซะแล้ว เราเลยกะจะขอพิชิตภาษาจีนก่อน แล้วจะเรียนฟิสิกสฺ์ เคมี ชีวะ (รอให้มันแก่กว่านี้แล้วสมองเสื่อมกว่านี้สักหน่อยจะได้ชนะมันง่ายๆหน่อย) แล้วเราจะไปท้ามันดวลกับเราใหม่
ทุกวันนี้เราเรียนรู้อะไรใหม่ๆรวดเร็วมากๆ แต่ยากที่จะทำประโยชน์ให้แก่ประเทศไทยได้ เพราะไม่มีใครรับเราเข้าทำงานเนื่องจากวุฒิการศึกษาเราต่ำเกินไป แต่เราก็ยังไม่หยุดยั้งการเรียนรู้ของเรา
เราเรียนรู้ไปเรื่อยๆ สะสมความรู้ไปเรื่อยๆ ดูแลพ่อเรา (แม่เราตายไปประมาณ 3 ปีแล้ว) เราเป็นลูกคนเดียว วันที่พ่อเราจากโลกนี้ไป เราจะรีบบินออกจากประเทศไทยเพื่อนำความรู้ของเราไปใช้งานในประเทศอื่นที่เขาเห็นคุณค่าของเรา
ถ้า จขกท ต้องการพัฒนา iq แบบผ่าเหล่าผ่ากอตอนอายุมากๆแบบเรา จขกท ต้องกล้าคิดกล้าทำเรื่องแผลงๆ (ต้องกล้าคิดแหกคอก) เช่น
1. กินอาหารปลอดสารพิษ หนึ่งในสารพิษที่ลด iq เร็วมากๆคือ "น้ำตาล" กับ "ผงชูรส"
2. คิดสวนทางกับความเชื่อในสังคมไทย ที่ว่า
"ให้ถือศึลกินเจ อย่ามีจิตติดในกาม" ^ พวกเขาเข้าใจผิด!
แท้จริงแล้วการกินเจทำให้กระแสลมปราณไหลเวียนสะดวก คนกินเจจึงมีความต้องการทางเพศมากกว่าคนกินเนื้อสัตว์ ^ หากแต่คนกินเจในเมืองไทยตามความเชื่อแบบคนไทยเชื้อสายจึนกินอาหารที่มีพลังหยินเข้าไปมากเกิน มันจึงไปทำลายกำลังภายใน (ทำลายสุขภาพ) และลดความต้องการทางเพศ จึงถึอศึล (แบบพวกเขาได้)
แต่ถ้า จขกท กินเจแบบ Zen Macrobiotics (ตามแบบฉบับญี่ปุ่น) คุณจะมี sexual energy มากกว่ามนุษย์ธรรมดาหลายๆเท่า และจะใช้พลังของมันมาคงไว้ซึ่งความอ่อนวัยตลอดกาล และเพิ่ม iq ได้เมื่อยามแก่เฒ่า
"แต่คุณจะต้องควมคุมพลังเร้นลับอันนี้ไว้ให้อยู่จึงจะเข้าสูกระบวนการที่เรียกว่า sublimation ได้สำเร็จ!"
แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 54 12:04:05
แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 54 23:14:03
แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 54 23:10:21
จากคุณ |
:
fortuneteller
|
เขียนเมื่อ |
:
1 พ.ย. 54 23:00:54
|
|
|
|
 |