ความคิดเห็นที่ 1 รัขกาลที่ 7 มีพระราฃวินิจฉัยเป็นลายลักษณ์อักษรเองว่า บางส่วนของเค้าโครงเศรษฐกิจของ อ. ปรีดี คัดลอกบางส่วนจากเค้าโครงเศรษฐกิจของเลนิน ลองหาอ่าน แล้วใฃ้วิจารณญานตัดสินเองซิครับ หนังสือเค้าโครงเศรษฐกิจฉบับเต็มหาซื้อไม่ยากหรอกครับ และแต่ละเล่มจะมีพระราชวินิจฉัยฉบับเต็มของรัชกาลที่ 7 พิมพ์อยู่ในเล่มด้วยครับ จากคุณ : หนุ่มตลิ่งชัน เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 54 18:26:50

ความคิดเห็นที่ 2 ผมลองอ่านคร่าวๆดูก็ไม่เห็นว่าจะเป็นคอมมิวนิสต์สักเท่าไหร่ ออกกึ่งๆสังคมนิยมรัฐสวัสดิการ และตอนต้นก็บอกเอาไว้แล้วว่า "ความคิดที่ข้าพเจ้าได้มีอยู่เช่นนี้ ไม่ใช่เป็นด้วยข้าพเจ้าได้มีอุปาทานผูกมั่นอยู่ในลัทธิใดๆ ข้าพเจ้าได้หยิบเอาส่วนที่ดีของลัทธิต่าง ๆ ที่เห็นว่าเหมาะสมแก่ประเทศสยามแล้ว จึงได้ปรับปรุงยกขึ้นเป็นเค้าโครงการ" การคัดลอกบางส่วนมาใช่ว่าจะกลายเป็นอย่างนั้นเสียเมื่อไหร่ ไม่อย่างนั้นประเทศคอมมิวนิสต์ที่เอาการเลือกตั้ง(บางส่วน) ไปใช้ก็เป็นประชาธิปไตยไปเสียแล้วล่ะสิ? พูดตามตรงบางส่วนผมเห็นด้วย แต่บางส่วนต้องบอกว่ามัน Naive เกินไป http://www.pridi-phoonsuk.org/outline-economic-plan-1932/ จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 54 19:19:23

ความคิดเห็นที่ 3 เคยอ่านแล้วเพราะต้องศึกษาในห้องเรียน ไม่คิดว่าเป็นคอมมิวนิสต์ครับ จากคุณ : Fred_Flintstone เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 54 20:44:12

ความคิดเห็นที่ 4 อันนี้คือผมเรียนรัฐศาสตร์ ที่จุฬาฯยังมิได้มีโอกาสค้นคว้าเท่าใหร่นัก เเล้วจะไปค้นคว้าเเล้วมาตอบ เเต่ในความคิดเห็นส่วนตัวเค้าโครงเศรษฐกิจ ก็ควรจะมีความหลากหลายในตัวของมัน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปัจจุบันของไทยเพราะระบบเศรษฐกิจของไทยเป็นเเบบผสม ท่านปรีดีท่านจบมาจากเมืองนอกก็น่าจะเห็นความเจริงทางด้านต่างๆๆเป็นอันมาก เเล้วท่านเลยลองปรับมาใช้ก็คิดว่าน่าจะผสมกันไปนะครับ อันนี้ขอไปค้นคว้าก่อน จากคุณ : นิสิตมหาดเล็ก เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 54 02:26:01

ความคิดเห็นที่ 5 เป็นแนวสังคมนิยมมากกว่าครับ แต่เอียงซ้ายมากไปหน่อย เลยทำให้ตอนนั้นผู้นำและคณะรัฐบาลหลายๆท่าน พยายามเปรียบเปรยว่าเป็นคอมมิวนิสต์ จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 54 07:54:49

ความคิดเห็นที่ 6 ^ ^ น่าจะเป็นไปได้ เพราะสมัยเรียนอาจารย์ก็เคยบอกว่า ชนชั้นเจ้าสมัยนั้นวิจารณ์สมุดปกเหลืองของปรีดีว่า "ถ้าปรีดีไม่ลอกสตาลิน สตาลินก็ลอกปรีดี" จากคุณ : ณ พิชา เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 54 10:20:40

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณทุกๆคำตอบนะครับ เมื่อคืนนี้ผมลองเอาคำถามนี้ไปถามลุง ได้คำตอบมาประมาณว่า อ.ปรีดีแกไปเขียนเรื่องเกี่ยวกับการบังคับซื้อที่ดินของชาวนาจากรัฐบาล แล้วเมื่อที่ดินกลายเป็นของรัฐฯแล้วเนี่ย ชาวนาก็จะต้องกลายเป็นคนงานของรัฐไปด้วย ซึ่งเป็นแนวคิดคล้ายๆกับการทำนารวมหมู่ ซึ่งเป็นแนวคิดของพวกคอมมิวนิสต์เขา เหมือนๆจะโจมตีว่าอ.ปรีดีไม่เคารพในกรรมสิทธิเอกชน ก็เลยโดนกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ครับ จากคุณ : ท่าพระมูน เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 54 12:43:55

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าไม่เคารพคงบังคับยึดไปแล้ว ไม่ต้องซื้อหรอก จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 54 15:17:19

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ^ อื้มม จริงครับพี่ จากคุณ : ท่าพระมูน เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 54 17:34:28

ความคิดเห็นที่ 10 แค่สงสัยว่าทำไมท่านมีเส้นสายเป็นคนเอียงซ้ายกับซ้ายจัดเยอะจัง จากคุณ : ปิ่น (taxi woman) เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 54 20:29:45

ความคิดเห็นที่ 11 ขอเสริมความเห็นที่ 7 ของเจ้าของกระทู้   การบังคับซื้อที่ดินตามเค้าโครงเศรษฐกิจนั้น   ไม่ได้เสนอให้รัฐใช้เงินซื้อน่ะครับ แต่ให้รัฐออกเป็นพันธบัตรที่มีดอกเบี้ยจ่ายเป็นค่าที่ดิน จากคุณ : หนุ่มตลิ่งชัน เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 54 21:31:12

ความคิดเห็นที่ 12 ท่านปรีดีย์บอกว่า เป็นสังคมนิยม กึ่งๆ เสรีนิยม แต่ผมมองว่าท่านเป็นสังคมนิยมกึ่งๆ คอมมิวนิสต์ น่าจะถูกกว่าครับสัดส่วนอาจเป็น สังคมนิยม 50  คอม 40 เสรี 10 อะไรประมาณนี้ โดยส่วนตัวคิดว่ารบบนี้เป็น คอมมูนรูปแบบหนึ่งแน่นอน เพราะ ระบบนี้ ถึงปัจเจกชนจะสามารถครอบครองทรัพย์สิน ได้แต่ การจัดการระบบเศรษฐกิจเกือบทั้งหมด อยู่ในมือรัฐบาล แทบไม่พูดถึง การส่งเสริมกลไกตลาดเลย ตัวอย่างเห็นเด่นชัดก็คือ ให้รัฐบาลจ่ายเงินเดือนราษฎรและให้ ราษฎรซื้อหาสิ้นค้าจากสหกรณ์ที่จัดตั้งโดยรัฐบาล ซึ่งท้ายที่สุด กิจการทุกอย่างก็จะเป็นของรัฐบาล สภาพแบบนี้ผมว่า คล้าย จีนในยุคพัฒนาทางเศรษฐกิจช่วงแรกๆมากเลย คือกิจการ ทั้งหมดเป็นของรัฐแต่ประชาชนสามารถถือครองทรัพยสินได้ และเค้าโครงเศรษฐกิจดูเหมือนท่านไม่เชื่อในความสามารถของ เอกชนแสดงให้เห็นว่าท่านไม่เชื่อในอำนาจของตลาดแบบพวก เสรีนิยมควรจะเป็น แต่อย่างว่านะ ขนาดปัจจุบันพวกนักศึกษาเศรษฐศาสตร์ยังปวดหัว กับแนวคิดทางทฤษฎีเลย จะให้คนเมื่อ 80 ปีก่อนมาแยกแยะทฤษฎี สังคมนิยม กับ เสรีนิยมก็ออกจะเกินไป แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 54 12:59:04 แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 54 12:44:31 แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 54 12:42:41 จากคุณ : Pongkm (Pongkm) เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 12:40:53

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าในสมัยที่ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย คงต้องถือว่าค่อนข้างเอียงไปทางคอมมิวนิสต์ครับ (เฉพาะระบบเศรษฐกิจ) จากคุณ : bangkokguy เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 20:00:40

ความคิดเห็นที่ 14 ก็ครับ ปัจจัยการผลิตเป็นของรัฐหมด คนไทยทุกคนเป็นข้าราชการของรัฐ(ยกเว้นพิสูจน์กับรัฐได้ว่าหาเลี้ยงตนเองได้ ซึ่งจะพิจารณาเป็นรายๆ) ในเค้าโครงค่อนข้างโจมตีการประกอบเศรษฐกิจภาคเอกชนไว้เยอะ และต้องการดึงให้รัฐเป็นผู้ประกอบเศรษฐกิจเสียเอง รวมถึงการกระจายผลผลิตที่ไม่พึ่งพาตลาด รวมถึงการวางแผนการผลิตจากส่วนกลาง ผมไม่แน่ใจความแตกต่างระหว่างสังคมนิยมกับคอมมิวนิสต์นะ ว่าแตกต่างกันอย่างไรจุดไหน (แบบแสกนดิเนเวียเรียกว่าสังคมนิยมไหม??หากใช่รัฐสแกนดิเนเวียทั้งหลายยังอาศัยมาตราการทางภาษีส่วนเรื่องการผลิตและการกระจายการผลิตยังเป็นแบบทุนนิยมอยู่) แต่พูดไม่ได้แน่ๆ ว่าเป็นแนวเศรษฐกิจแบบทุนนิยม จะเรียกว่ารัฐสวัสดิการ มันก็ค่อนข้างเอ็กซตรีมกว่าการเก็บภาษีสูงๆเพื่อสร้างรัฐสวัสดิการตรงที่การให้รัฐประกอบเศรษฐกิจเอง (ทำนารวม โรงงานทุกอย่างเป็นของรัฐฯลฯ) ขี้เกียจค้นตำรานะ สรุปลักษณะเด่นจากเค้าโครงฯ ที่จำได้เป็นข้อๆ ดังนี้ 1.คนไทยทุกคนเป็นข้าราชการ(หรือพนักงานของรัฐแล้วแต่จะเรียก) 2.รัฐเป็นผู้จ่ายเงินเดือนให้คนไทยทุกคน 3.ปัจจัยการผลิตทั้งหมดเป็นของรัฐ 4.การกระจายผลผลิตไม่พึ่งพาตลาดแต่ใช้สหกรณ์แทน 5.รัฐเป็นผู้มอบสวัสดิการทุกอย่าง 6.รัฐเป็นผู้กำหนดว่าใครจะทำอาชีพอย่างไร (โอเค แม้ว่าจะใช้คำเลี่ยง ๆ ว่า "ตามแต่ความสามารถ" แต่นั่นแหละถ้าทุกคนเป็นลูกจ้างของรัฐหมด ก็คงแล้วแต่รัฐหละครับว่าจะให้เราทำอะไร ไม่ใช่จู่ๆ จะเข็นรถเข็นไปขายกล้วยทอดได้ซึ่งสัมพันธ์กับข้อ 7) 7. มีการวางแผนการผลิตจากส่วนกลาง คือ จะผลิตอะไร เท่าไหร่ อย่างไร(อ่านข้อตำหนิของปรีดีที่มีต่อเกษตรกรไทยว่าล้าหลัง สมควรให้บังคับใช้วิชาการเกษตรสมัยใหม่จากผู้เชี่ยวชาญ) 8.รัฐเป็นผู้กำหนดระยะเวลาการทำงาน (อ่านตรงที่ปรีดีกล่าวถึงการทำงานเพียงครึ่งปีของชาวนาไทยว่าเป็นสูญเสียอย่างเปล่าประโยชน์สมควรให้ทำงานเต็มปี) เท่าที่จำได้ก็ประมาณนี้อะนะครับ ถูกผิดเชิญแย้งครับ จากคุณ : น้องจั้ง เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 07:12:15

ความคิดเห็นที่ 15 ตามทัศนะของผม ก็คิดว่าสมุดปกเหลืองเป็นอะไรที่เอ็กซตรีมค่อดๆ ครับ - -" จากคุณ : น้องจั้ง เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 07:15:25

ความคิดเห็นที่ 16 ผมว่าแนวคิดนี้ของ อ.ปรีดี ไม่แปลกหรอกครับ เพราะท่านจบมาจากฝรั่งเศส ซึ่งถือว่าเป็นแบบฉบับของสังคมนิยม แต่ ร.7 ทรงจบมาจากอังกฤษ ซึ่งถือว่าแนวคิดตรงข้ามกันเลยทีเดียว อ.ปรีดี พยายามพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระบบคอมมูนเพื่อป้องกันการมีอำนาจใหม่ของกลุ่มเจ้า เพราะยังไงวะ กลุ่มเจ้าก็มีทุนมากกว่าดังนั้นหากใช้ระบบเศรษฐกิจแบบเสรี คนส่วนใหญ่ของประเทศที่เป็นคนจนมันก็จะเป็นแบบเดิม คิดดูสมัยนั้นชาวนามีที่ดินเป็นของตัวเองซักกี่คน ดังนั้นก็จัดสรรที่ดีให้กับส่วนการผลิตจริงของประเทศ(ชาวนา)จึงมีความจำเป็น หากมองในแง่ของ ร.7 สังคมนิยมถือเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบัน เพราะในสมัยนั้นไม่มีประเทศที่เป็นสังคมนิยมประเทศในเป็นระบอบกษัตริย์ซักประเทศ และอีกทั้งสังคมนิยมและคอมมิวนิสต์ยังแยกกันไม่ค่อยออกซะด้วย ดังนั้นเพื่อความอยู่รอดของสถาบัน พระองค์จะทรงคิดแบบนั้นก็ไม่แปลก จากคุณ : ยองเจียงใหม่ เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 16:03:06

ความคิดเห็นที่ 17 ผมเองมีโอกาสได้อ่านมัน แบบผิวเผินครับ อ่านเพราะมันเป็นหนังสือชื่อดัง ไม่ได้ลงลึกมาก ก็พบว่ามันเอียงๆ ไปทานู้นจริงๆหละครับ แต่ไม่รุนแรง รับได้ใหม ปัจจุบันนี้ผมรับไม่ได้ เพราะดูประเทศอื่นไม่ค่อยรุ่ง แต่ถ้าผมไปอยู่ในสมัยนั้นคไม่แน่ ps0. คนที่ว่าไม่เอียงไปทางสังคมก็คือคนที่เอียงไปทางสังคมด้วยไงครับ เลยบอกว่าเล่มนี้ไม่เอียง จากคุณ : นฤมลประการ เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 20:49:52

ความคิดเห็นที่ 18 อ้า อันที่จริง อ.ปรีดี ก็ต้องนับท่านว่าเป็นผู้มีคุณูปการต่อประเทศไทยเยอะอะนะครับ ส่วนตัวก็เคารพอยู่ แต่เรื่องเค้าโครงฯ นี่อ่า...ขอผ่านอิอิ จากคุณ : น้องจั้ง เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 15:35:08