ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าอ่านอังกฤษรู้เรื่องก็อ่านอังกฤษ ถ้าอ่านอังกฤษยังไม่รู้เรื่องก็อ่านไทย คนไทยหลายๆคนเข้าใจผิดชอบพูดกันว่า "จะเรียน grammar ต้องเรียนกับครูไทยเพราะครูไทยอธิบายเข้าใจมากกว่า" แต่ "จะเรียน conversation ต้องเรียนกับครูฝรั่งเพราะครูฝรั่งพูดชัดกว่า" อะไรทำนองนี้ แถมยังพูดอีกว่าฝรั่งไม่รู้ grammar ^ คือคนพูดไปเจอฝรั่งนักท่องเที่ยวมาสอนภาษาอังกฤษหาลำไพ่พิเศษเสียเป็นส่วนใหญ่ยังไงล่ะ ก็เลยคิดอย่างนั้น ^ สมัยเมื่อ 24 ปีที่แล้วตอนเราเพิ่งกลับจากต่างแดนมาเมืองไทย เราก็โดนคนไทยเป่าหูเอาจนหลงเชื่อแบบนั้น เพราะมันไม่มีแหล่งค้นคว้าดีๆมากพอ (ไม่มี Internet) กว่าจะซื้อหนังสือต่างประเทศมาอ่านได้ก็หมดเงินตั้งมากมาย แต่สมัยนี้มี Internet เราอ่านข้อความใน websites ต่างประเทศเจอเซียนฝรั่งอธิบาย grammar ได้ดีเยี่ยมสุดๆเลย (ซึ่งไม่เคยเห็นเซียน grammar คนไทยที่ไหนทำได้ดีขนาดนั้น) วิธีคิดของเจ้าของภาษาเขาไม่คิดเรื่อง grammar แบบตีความกฎมันตามตัวอักษร แต่เขายึดว่าผู้เขียนหรือผู้พูดต้องการสื่อว่าอะไร ซึ่งกลายเป็นทำให้ grammar มันยืดหยุ่นได้ ดิ้นได้ในลักษณะที่เจ้าของภาษารู้ แต่คนไทยยากที่จะรู้ ถ้าคุณใช้ google เก่งๆนะ เรียนจาก google ได้สบายๆเลยหละ โดยไม่ต้องซื้อหนังสืออะไรเลย เราเรียน conversation ก่อนจนฟังกับพูดคล่องก่อนเป็นลำดับแรก แต่ไม่เคยเรียน grammar เลย จากนั้นเราใช้แต่ dictionaries อังกฤษ-อังกฤษช่วยตอนหัดอ่านภาษาอังกฤษ เวลาไม่รู้ศัพท์เปิดเจอนิยาม แล้วอ่านนิยามไม่เข้าใจ ก็เปิดอีกว่าศัพท์ที่ไม่เข้าใจในนิยามมันแปลว่าอะไร เปิดวนไปวนมาจนแทบบ้า แต่ทำไปทำมาเรากลายเป็นมีสัมผัสพิเศษที่พอจะเลียนแบบวิธีพูดหรือวิธีเขียนของฝรั่งที่เราเคยได้ยินหรืออ่านมา จากนั้นเราทำงานที่ต้องเขียนภาษาอังกฤษมาหลายปี (ซึ่งในช่วงนั้นเราก็พูดหรือเขียนไม่ค่อยผิด grammar นะ) แล้วถึงค่อยมาเรียน grammar เอาตอนอายุมากๆ ซึ่งเราเรียนจาก google ล้วนๆ ไม่เคยซื้อหนังสือ grammar เลย ส่วนใหญ่เป็นลักษณะแบบ "สงสัยตรงไหนก็ค้นข้อมูลเฉพาะเรื่องที่สงสัย แต่ก็ไม่เคยนั่งอ่านและทำแบบฝึกหัด grammar แบบเอาเป็นเอาตาย" เพราะการอ่านหนังสือเยอะๆและตัดบทความภาษาอังกฤษที่อ่านเจอไปหัดเขียนพลิกแพลงเยอะๆ มันช่วยสอน grammar ให้เราทางอ้อมอยู่แล้ว อย่างที่เราเล่าให้ฟังใน คคห 10 ในกระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K11278226/K11278226.html แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 54 01:35:24 แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 54 01:31:47 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 54 01:23:47

ความคิดเห็นที่ 2 ผมเห็นด้วยกับคุณหมอดูนะครับ ส่วนตัวผมเห็นว่า เจ้าของภาษา น่าจะเข้าใจหลักตรรกะของภาษาของตัวได้มากกว่าคนต่างชาตินะครับ เมื่อก่อนผมก็เปิดตำราท่อง grammar อย่างเอาเป็นเอาตายเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ยังจำไม่ได้ ใช้ไม่คล่องอยู่ดี จนกระทั่งได้เปิดหูเปิดตา ศึกษามากๆ เข้า จึงรู้สึกว่า การจะแม่น grammar นั้น น่าจะต้องมีหลักการคิดแบบเดียวกับเจ้าของภาษาเสียก่อน ถ้าเราเข้าใจหลักการคิด หลักตรรกะของเขา เราจะเรียนรู้ได้เร็วว่าทำไมเขาถึงใช้โครงสร้างแบบนั้น รูปแบบแบบนี้ครับ จากคุณ : ปั๊ปโปะจัง เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 54 03:58:21

ความคิดเห็นที่ 3 มีทางลัดครับคือ พยายามฟัง+พูดให้จูนสำเนียงฝรั่งให้ได้ก่อน โดยทำซ้ำๆย้ำๆ แล้วเลียนแบบพูดตามให้คล่องปาก ให้คิดสิ่งที่เห็นเป็นภาษาอังกฤษก่อนเลย No thai! แล้วพอเราสื่อสารรู้เรื่องระดับหนึ่งแล้ว เราจะกลับไปมองแกรมม่าแบบง่ายๆไปเลย ไม่ต้องจำ เพราะเราไม่มีทางพูดผิดอยู่แล้ว เพราะหูเราไม่เคยได้ยินประโยคทะ:-)ๆอย่างนั้นมาตั้งแต่ทีแรก เช่น สมมติวันหนึ่ง ทำตัวว่างๆสบายๆ...พอมีคนคุยภาษาอังกฤษกันเสียงลอดผ่านมา สมมติว่าเป็น.. "Yesterday,I go  market which have many people is waits for they  beef and pork." เราก้จะเริ่มฟังทะ:-)ๆ       ถ้าเป็นแบบแกรมม่าไทยก็จะประมาณว่า "รถคันนั้นริมถนนกำลังจอดอยู่ดังนั้นเด็กๆหกล้มวิ่งมาอย่างเร็วเห็นไม่ทันมอง" คือมันจะทะ:-)หูไปเองอัตโนมัติ **ประมาณนี้ครับ อาจช่วยได้ไม่มากก็น้อย  55 จากคุณ : sukhumvit93 เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 54 11:49:56

ความคิดเห็นที่ 4 ^ ^ ^ ทะ-:-) จากคุณ : sukhumvit93 เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 54 11:51:20

ความคิดเห็นที่ 5 ^ ^ ^ ืทะ-MANG จากคุณ : sukhumvit93 เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 54 11:52:03

ความคิดเห็นที่ 6 จะไทยหรืออังกฤษ มันอยู่ที่ว่าคุณอ่านอันไหนแล้วเข้าใจ อ่านแล้วอยากอ่านอีก...เหมือนถามว่าเรียนกับครูฝรั่งหรือครูไทยดีนั่นแหละ...มันก็ขึ้นอยู่กับครูคนนั้นมีคุณภาพและมีทักษะการสอนดีขนาดไหน โดยส่วนตัวชาลีอ่านจากทั้งสองภาษาเลยนะ เพียงแต่เลือกที่เหมาะกับระดับความรู้ตัวเอง อธิบายเข้าใจง่าย มีแบบฝึกหัดเยอะ (พร้อมเฉลยและอธิบายอย่างละเอียด) มีทิปช่วยจำหรือมีคำเตือนสำหรับคำหรือรูปแบบประโยคที่มักใช้ผิด...ที่สำคัญต้องมีดิคฯ ดีๆ ไว้ใช้ด้วย ตอนนี้ติดตำราภาษาอังกฤษมากกว่า แม้ภาษาอังกฤษตัวเองจะไก่กา แต่อ่านแล้วกลับเข้าใจดี...คุณจขกท. ต้องใจเย็นๆ (ถ้าเลือกหนังสือได้ดีและเหมาะกับตัวเองแล้ว) ค่อยๆ อ่านค่อยๆ ทำไป...ตอนนี้ชาลีจะมีปัญหาประมาณว่าติดคำทับศัพท์ ถ้าใครมาพูดว่า คำคุณศัพท์ คำกริยาวิเศษณ์ รูปอดีตเสร็จสมบูรณ์ รูปอดีตที่ต่อเนืองถึงปัจจุบัน ฯลฯ...จะถึงกับมึนไปพักหนึ่ง ในสมองจะนึกคำเป็นภาษาอังกฤษโดยอัตโนมัติ สรุป...ไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสือเล่มเดียว อ่านหลายเล่มได้ความรู้หลากหลาย แบบภาษาไทยช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้น ถ้าภาษาอังกฤษช่วยให้ได้ศัพท์...ส่วนที่คุณอ่านแล้วไม่เข้าใจแสดงว่า 1 หนังสือเล่มนั้นอาจไม่เหมาะกับคุณ 2 คุณอาจจะตัดสินมันเร็วเกินไป...ให้เวลาอีกนิด และความอดทน (บวกดิคฯ ดีๆ) อีกหน่อยค่ะ ^^ จากคุณ : ชาลี (kiria chalee) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 54 21:41:11