ความคิดเห็นที่ 1 ผมเคยดูสารคดีมาครับพอจะรู้ว่า ตำแหน่งพิมพ์ dvorak ทำให้พิมพ์เร็วกว่าที่ฮิตในปัจจุบันครับ เสียดายที่การตลาดของแบบฮิตปัจจุบัน มันทำให้โลกนี้เปลี่ยนไป แล้วเลือกใช้แบบที่มันพิมพ์ยากกว่าแทน เคยคิดอยากจะหัดแบบคุณเหมือนกัน แต่ผมว่า คนที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลยจะเร็วกว่าครับ เพราะสมองว่างเปล่า ไม่ได้จำทับซ้อนกับแบบใหม่ แต่ถ้าคนเราอยากก็น่าจะได้นะครับ อาศัยเวลาฝึกฝนนาน ๆ น่าจะมีผลดีครับ จากคุณ : เต่าน้อย/taonoi_@hotmail.com (เต่าน้อย) เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 54 23:52:26

ความคิดเห็นที่ 2 ครับ คงต้องอดทนฝึกไป มันคงจะค่อยๆ ชินแล้วก็เป็นไป อาจจะไม่เร็วเท่าเดิมในตอนแรกๆ แต่ถ้าฝืนใช้ไปเรื่อยๆ ก็คงจะค่อยๆ ดีขึ้น แล้วก็ทดแทนของเก่าได้เพราะของเก่าไม่ได้ใช้นานๆ เดี๋ยวมันก็ค่อยๆ ลืมไป เหมือนเมื่อก่อน ผมทำงานแคชเชียร์ร้านขายผัก ผมท่องโค้ดผักผลไม้หลายร้อยอย่างได้ แค่เห็นหน้าผักผลไม้ตัวเลขก็ลอยมา สามารถจิ้มลงคอมได้เลยโดยไม่ต้องกดค้นหา แต่พอเลิกทำไปก็ลืม ก็คิดว่าคงจะคล้ายๆ กัน พูดถึงความเร็ว ผมว่าถ้าชินแล้ว มันน่าจะเร็วขึ้นและพิมพ์สบายมือมากกว่านะครับ เพราะทุกวันนี้เวลาพิมพ์ มือจะมีการก้าวไปมาบ่อยมากๆ ตอนนี้ผมหักดิบด้วยการลบคีย์บอร์ดภาษาอังกฤษแบบปกติออกไปเลยแล้วก็ใช้แบบใหม่นี้แทน คิดว่าภาษาอังกฤษคงใช้เวลาไม่นานนักน่าจะพอใช้งานได้จริง ตอนนี้ยังช้าเกินไปที่จะเรียกว่าใช้งานได้ จากคุณ : ดอส เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 54 00:11:23

ความคิดเห็นที่ 3 ทั้ง ปัตตโชติ และ dvorak พิจารณาจากตำแหน่งที่มันวางใหม่ ดูๆตามเหตุผลทีเขาอ้างว่าเร็วกว่า เราก็ค่อนข้างจะเชื่อว่ามันคงจะเร็วกว่า แต่พอเอาจริงๆเข้ามันไม่น่าจะกลายเป็นเร็วกว่ามากนัก เพราะระยะทางที่สาวนิ้วอ้อมหรือไม่อ้อม กว่าจะพิมพ์เสร็จแต่ละคำ เส้นทางมันไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก สาเหตุหลักที่เราไม่เปลี่ยนเพราะเรากลัวว่าวันไหนจำเป็นต้องไปใช้เครื่องคนอื่นหรือเครื่องสาธารณะ(เช่นในร้านเน็ต)พิมพ์อะไรด่วนๆเราอาจมีปัญหาพิมพ์ไม่ได้อ้ะ ยกต้วอย่างเช่นเราใช้ mouse มือซ้ายแต่เราไม่ยอมตั้งค่าเปลี่ยนเปลี่ยนปุ่ม mouse ในระบบ windows เพราะกลัววันไหนจะต้องไปใช้เครื่องคนอื่นหรือเครื่องสาธารณะ (เช่นในร้านเน็ต)มันจะมีปัญหาถึงกับพิมพ์ไม่ได้ (เพราะจะกลายเป็นไม่ชินจนช้าเกิน) เราเลยใช้นิ้วนางกดปุ่มซ้่าย และใช้นิ้วชี้กดปุ่มขวา ก็เท่่านั้นเอง ไม่เห็นจะต้องไปตั้งค่า mouse ใหม่เลย เหตุผลหลักที่เราใช้ mouse มือซ้ายก็คือเมื่อก่อนเคยทำงานเป็นนักแปลในบริษัทแปลใกล้ๆสถานทูต ลูกค้าเป็นแขกอินเดียท่าทางเขี้ยวลากดินมากๆ จะแปลเอกสารด่วนจากไทยเป็นอังกฤษ ตั้ง 60 กว่าหน้าจะเอาไปยื่นทำวีซ่า ให้เวลาแค่ 2 วันเอง ส่วนใหญ่จะเป็นพวกงบดุลที่ไม่ได้ทำบน excell แต่จะตีตารางใน word และมีพวกรายงานบัญชี ตัวหนังสือมันโปร่งๆน่าจะแปลง่าย แต่ตอน key ตัวเลขเข้าไปสิ มีทางแปลไม่ทันภายใน 2 วัน แขกอินเดียก็บอกว่า "ถ้าแปลไม่ทันไม่จ่ายเงิน" เจ้าของบริษัทใจไม่ดีว่าจะรับดีหรือไม่ แต่ก็ตัดสินใจรับ คือเราแค่แปลตัวหนังสือแล้วทะยอยส่ง files (แยกเป็น files เล็กๆหลายๆอัน)  โยนให้พนักงานพิมพ์ดีดหลายๆคนช่วยๆกันระดมกำลังกันตีตารางกับป้อนตัวเลขเข้าไป พอเราแปลเสร็จเราไปช่วยพนักงานป้อนตัวเลข พนักงานพิมพ์ดีดงงว่าเราป้อนตัวเลขได้เร็วกว่าพวกเขาหลายเท่า! นั่นก็เพราะว่า "เราใช้ mouse มือซ้าย" คือมือซ้ายทำหน้าที่วาง cursor ลงในตำแหน่งพิมพ์ แต่มือขวาเราจ่ออยู่ตรงส่วนที่เป็นตัวเลขตรงด้านขวาของ keyboard อยู่แล้วไม่หนีไปไหน มือซ้ายก็ไม่เคยปล่อยออกจาก mouse มือขวาก็ไม่เคยไปไกลจากตัวเลขขวาสุด ดังนั้นการป้อนตัวเลขของเราต้องรวดเร็วกว่าคนใช้ mouse มือขวาอยู่แล้ว เพราะคนใช้ mouse มือขวาจะป้อนตัวเลขได้ต้องวาง mouse ก่อน คุณ จขกท ลองแบบเราดิใช้มือซ้ายจับ mouse และใช้หัวแม่มือซ้ายกด spacebar แค่นี้ก็ลดภาระให้มือขวาไปตั้งเยอะแยะแล้ว ถ้าพิมพ์แบบลดภาระให้มือขวา แล้วใช้ keyboard แบบเดิมนะ เราว่าเผลอๆเราพิมพ์เร็วกว่าคนใช้ keyboard  แบบ ปัตตโชติ และ dvorak ตั้งหลายเท่า ตราบเท่าที่พวกเขายังใช้ mouse มือขวาอยู่นะ จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 54 00:42:49

ความคิดเห็นที่ 4 หัดพิมพ์ไทยแบบปัตตโชติค่ะ ตอนที่เริ่มหัดทำไมเลือกแบบปัตตโชติก็ไม่ทราบ พิมพ์ไทยจนคุ้นกับแบบ Pattachote แล้วพอไปเมืองไทยทีไร คอมพิวเตอร์ของคนรู้จักที่เมืองไทยที่เคยขอยืมใช้เป็น layout แบบ Kedmanee หมด เสร็จเลยทีนี้ พิมพ์ไม่ได้ ทำไงล่ะ จะหัดพิมพ์ Kedmanee ด้วยก็ไม่ไหวเพราะมันต่างกันเยอะ กลัวงงด้วยค่ะ ตอนนี้ก็เป็นแบบเลยตามเลย จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 54 00:47:57

ความคิดเห็นที่ 5 ผมยังไม่ได้ลองแบบภาษาไทยว่าเป็นยังไง แต่ภาษาอังกฤษ เท่าที่ลองพิมพ์ดู ผมว่ามันสบายมือกว่ากันพอสมควรเลยเพราะมือมันจะอยู่บนแป้นเหย้าเป็นหลักไม่ค่อยได้ก้าวไหไหนมากมายนัก เรื่องจับเมาส์มือซ้ายคงไม่ไหว ส่วนเรื่องเคาะ spacebar ด้วยมือซ้ายนี่ผมไม่ค่อยรู้สึกอะไรเท่าไหร่ว่ามันจะทำให้ช้าลงหรือเร็วขึ้นเพราะมันกดด้วยหัวแม่มืออยู่แล้วจะเอาข้างไหนกดก็ไม่ต่างกันเพราะมันไม่ได้ก้าว จากคุณ : ดอส เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 54 01:30:29

ความคิดเห็นที่ 7 Dos AussieThai หลังจากฝึกพิมพ์ dvorak อยู่ 7 ชั่วโมงเต็มๆ ก็พบว่า - สมองมึนงงยิ่งกว่าตอบอีเมล์ 100 ฉบับ - ความคุ้นเคยในการพิมพ์เพิ่มมากขึ้น ถ้าจะนับความเร็วน่าจะได้สัก 10-15 คำต่อนาที - ความเร็วในการพิมพ์แบบ QWERTY แบบเดิม ลดลงจาก 60 เหลือ 20 คำต่อนาที เพราะมึนตื้บตีกันกับของใหม่ 555 จากคุณ : ดอส เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 54 02:48:54

ความคิดเห็นที่ 8 ผมว่าใครถนัดของเดิมอยู่แล้วก็อย่าเปลี่ยนเลย นอกจากเส่ียเวลามากบ้างน้อยบ้างในการฝึกหัดแล้ว พอเร่ียนรู้ได้ ผมว่าประสิทธิภาพก็ไม่ได้สูงกว่ากันมากขนาดนั้นหรอก อีกอย่างหนึ่ง ผมว่าถ้าผู้ใช้ทั่วไปก็ไม่ได้พิมพ์เป็นอาชีพเหมือนพนักงานพิมพ์ดีด คือไม่ได้พิมพ์นานๆและในปริมาณมากพอที่จะทำให้คุ้มค่ากับการเปลี่ยน แต่ถ้าใครไม่เป็นเลยและจะเริ่มฝึกปัตตะโชติ ผมคิดว่าคงไม่มีปัญหา จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 54 07:38:09

ความคิดเห็นที่ 9 ทำไม จะต้องจำกัด อยู่แค่ ๒ แบบ คิดแบบใหม่ ขึ้นมาพิมพ์เองก็ได้ Ipad ก็ยังทำแป้นพิมพ์ไทย แบบใหม่ออกมาให้ใช้กันเลย จากคุณ : นายช่างปลูกเรือน เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 54 09:41:20

ความคิดเห็นที่ 10 ความเร็วในการพิมพ์มันขึ้นอยู่กับความคุ้นเคยกับแป้นพิมพ์มากกว่า อย่างผมน่ะ ตอนเรียนวิชาเลือกม.ปลาย วิชาพิมพ์ดีด ตก > แก้ ร ไม่ผ่าน > เรียนซ้ำ  รอแร่ ผ่านได้เพราะอาจารย์ท่านให้ทาสีห้องพิมพ์ดีดใหม่ (ฮา) ปัจจุบันนี้พิมพ์คล่องมากถึงมากที่สุด  จากการมองจิ้มๆ ทีละตัวจนกลายมาเป็นพิมพ์สัมผัสได้เนี่ยแหละ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ฝรั่งเค้าเรียก "ความทรงจำกล้ามเนื้อ" (http://en.wikipedia.org/wiki/Muscle_memory) ฉะนั้น ผมว่าช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับความเคยชินและความบ่อยครั้งในการใช้ มากกว่า จากคุณ : SaintPSU เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 54 10:01:45

ความคิดเห็นที่ 11 เร็วช้ามันมีปัจจัยอื่นที่จะต้องพิจารณาด้วย เช่น Effective software deployment. ก็เป็นตัวช่วย นอกจากจะใช้มือซ้ายจับ mouse กับใช้หัวแม่มือซ้ายกด spacebar เพื่อลดภาระมือขวาแล้ว เรายังตัดการก้มๆเงยๆออกไป  คือเราเอาเอกสารที่จะทำงานทำให้หน้ามองตรงหมด นั่นก็คือจะแปลเอกสาร เราก็เอา file เอกสารต้นฉบับเปิดเป็น 1 หน้าต่าง แล้วเปิดโปรแกรม word อีก 1 หน้าต่างโดยวาง 2 หน้าต่างใกล้ๆกัน และใช้ขอบหน้าต่างของโปรแกรมที่ใช้พิมพ์เป็น "ไม้บรรทัด" คั่นตรงช่วงที่กำลังจะแปล (คั่นประมาณ 1 ย่อหน้า ไม่คั่นทีละบรรทัด) วิธีการนี้ทำให้หน้ามองตรงได้ไม่ก้มๆเงยๆ เวลาเคราะห์หามยามซวยต้องแปลเอกสารจาก hard copy (ข้อความบนกระดาษ) เราจะจับมัน scan ด้วย scanner ความเร็วสูงหมด กรณีต้องแปลหนังสือเป็นเล่มๆเราขู่สำนักพิมพ์ว่าจะฉีกทั้งเล่ม scan สำนักพิมพ์ก็เลยรีบหา ebook ให้เรา แต่ถ้าหาให้ไม่ได้เดี๋ยวเราหาแหล่ง download ของฟรีจนได้ ^ แต่หลังจากเปลี่ยนเป็นใช้ windows 7 ultimate แล้วเราติดตั้ง microsoft office 2010 professional plus แค่เอาไว้เผื่อลูกค้าส่ง files ชนิดอื่นนอกจาก word มาให้แปลเท่านั้นเอง เราจะได้เปิด file เขาได้ แต่เราเพิ่มความเร็วในการพิมพ์ได้อีกหลายเท่า "โดยการไม่ใช้โปรแกรม Word" เราใช้โปรแกรม write ที่ติดมากับ windows 7 ultimate แทนโปรแกรม word (กรณีเราไม่โดนสถานการณ์บังคับให้ต้องแปลจาก CAT Tool เช่น Trados) มันไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะใช้ Word ให้เปลือง RAM เพราะโปรแกรม write ใช้่ RAM น้อยมากๆ แถมยังมี functions ต่างๆครบถ้วนแล้วสำหรับงานพิมพ์ธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแปลหนังสือส่งสำนักพิมพ์ เราพิมพ์ในโปรแกรม write แล้ว save เป็น *.rtf พวกเขาเอาไปเปิดด้วย microsoft office รุ่นไหนก็ได้หมด ไม่มีปัญหาเรื่อง incompatibility ^ คือสมัย windows รุ่นเก่าๆเช่น 98 หรือ 2000 การพิมพ์และ save เป็น *.rtf มันช้ามากๆ เครื่องจะหน่วงๆอย่างเห็นได้ชัด แต่สมัยคอมพิวเตอร์กับ software ยุคใหม่ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปหมด เราจึงต้องเปลี่ยนวิธีการเรื่อง software deployment ใหม่ ^ การจัดสภาพแวดล้อมให้มัน ergonomic แบบนี้ และอาศัย effective software deployment เข้าช่วย เราว่ามันทำให้เราพิมพ์เร็วกว่าคนใช้ ปัตตโชติ และ dvorak keyboard ได้อย่างแน่นอน เว้นเสียแต่ว่าพวกเขาจะถนัดซ้ายเหมือนเรา และรู้วิธีจัดสภาพแวดล้อมให้ ergonomic กับรู้เรื่อง effective software deployment พอๆกับเรา (คือจริงๆแล้วเราไม่ได้ถนัดแต่มือซ้าย เราถนัดสองมือ เราอยากจะใช้มือไหนก็ได้ จับของใช้หรือเครื่องมืออะไรใหม่ๆขึ้นมาเราหัดใช้มันมือไหนก็ใช้ได้หมด เช่นปิงปองเราก็ตีได้สองมือ) แต่ถึงคนใช้ ปัตตโชติ และ dvorak keyboard จะใช้มือซ้ายลดภาระมือขวาได้เหมือนเราพวกเขาก็จะต้องเผชิญกับปัญหาตามที่เราบอกไว้แล้วคือ วันไหนไปใช้คอมพิวเตอร์ของคนอื่นหรือคอมพิวเตอร์สาธารณะเมื่อไหร่ก็เดี้ยงเมื่อนั่น! สรุปแล้ววิธีการต่างๆที่เราทำเพื่อเพิ่มความเร็วในการทำงาน มันไม่ใช่แต่อาศัยชนิดของ keyboard เท่านั้น แต่ช้าเร็วแพ้ชนะกันด้วย Effective software deployment. กับประสาทคนทำงานว่าใครจะสมองไวกว่ากัน ยกตัวอย่างเช่นถ้าจะพูดเรื่องพิมพ์อังกฤษเร็วเราว่าเร็วระดับมืออาชีพรับจ้างพิมพ์ เราเห็นพวกฝรั่งพิมพ์ QWERTY  keyboard ได้นาทีละตั่ง 90 กว่าคำ ^ แต่เราเคยเห็นคนไทยพิมพ์อังกฤษด้วย QWERTY keyboard ได้เร็วกว่านั้นเอีก เขาเป็นพนักงานพิมพ์ดีดในบริษัทแปลที่เราเคยทำงาน หมอนี่เรียนจบ ปวช. มา เขารู้ศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้กันทั่วๆไปรวมทั้งศัพท์ยากๆรู้คำแปลเป็นคำๆ แต่รวมเป็นประโยคแกตีความพอได้แต่ไม่ครบถ้วนก็เลยทำงานได้แค่พิมพ์ดีด (แต่จริงๆแล้วความรู้หมอนี่เอาไปแปลอังกฤษเป็นไทยแบบมั่วๆยังเก่งกว่าพวกนักแปลแถวร้านถ่ายเอกสารซะอีก) แต่พี่แกสะกดอังกฤษแม่นมากๆอ่านลายมืออังกฤษหวัดๆก็อ่านได้ด้วย เราเคยเขียนแบบไก่เขี่ย (จริงๆแล้วยิ่งกว่าไก่ซะอีก) แถมยังเขียนตัวย่อด้วย พี่แกพิมพ์ถูกหมด 100% เล่นเอาเราขยี้ตาด้วยความตกใจ เราว่าหมอนี่พิมพ์อังกฤษคนต้องเร็วระดับเฉียดๆ 100 คำต่อนาทีแน่ๆ สมัยทำงานแปลไทยเป็นอังกฤษเร่งด่วนเราขี้เกียจพิมพ์เองเราเคยไปนั่งบอกพิมพ์(ให้ dictation) พูด1อังกฤษเร็วแค่ไหนพี่แกก็พิมพ์ตามทันหมดอ้ะ แต่เราต้องพูดแบบชัดๆไม่มี connected speech (ที่มีเสียงหดเสียงหายเสียงเปลื่ยนเสียงลดรูป) แบบพูดกับฝรั่งนะ เขาถึงจะฟังรู้เรื่อง  มีหมอนี้เป็นมือมืนช่วยพิมพ์งานด่วนให้ทำให้บริษัทรอดตายมาหลายครั้งเวลาทำงานแปลไม่ทันแล้วจะโดนลูกค้าปรับเอาตามสัญญา แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 54 14:13:52 แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 54 14:09:07 แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 54 13:52:24 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 54 13:48:04

ความคิดเห็นที่ 12 สิ่งนึงที่ผมพบตัวเองในระยะหลังๆ ก็คือ ผมปวดมือและข้อมือเวลาพิมพ์ไปมากๆ ก็เลยคิดว่า ถ้าเราลองใช้วิธีอื่นในการพิมพ์ที่เค้าออกแบบมาให้พิมพ์ได้ดีขึ้น ก็อาจจะช่วยได้ในระยะยาว เรื่องความเร็วนั้นจริงๆ ก็เป็นแค่เหตุผลนึง เพราะเอาเข้าจริงเราก็ไม่ได้ต้องการความเร็วขนาดนั้น ทุกวันนี้ความเร็วทั้งไทยทั้งอังกฤษมันก็เร็วพอที่จะพิมพ์ไปได้เร็วกว่าสมองจะฟอร์มข้อความขึ้นมาเป็นรูปประโยคที่ต้องอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ผมกำลังคิดว่าจะลองเปลี่ยนก็เพราะว่าปวดมือนี่ล่ะ ผมมีปัญหาข้อมูลทั้งสองข้างมานานแล้ว ข้างนึงโดนรถชน อีกข้างนึงผ่าตัด ดังนั้นถ้ามีวิธีไหนที่จะลดความปวดเมื่อยลงได้ ผมก็เลยคิดว่าจะลองดู เพราะวันๆ ผมใช้งานคีย์บอร์ดเยะมากๆ หลังจากที่ทดลองใช้อยู่สองวัน ผมก็พบว่า ผมไม่ชอบการวางปุ่ม L, S และ F รวมทั้งปุ่มเครื่องหมาย ของ dvorak เลย มันขัดใจเจ๊มากๆ 555 ก็เลยลองอันใหม่ชื่อ workman layout เดี๋ยวดูซิจะเป็นไง มีการเปลี่ยนตัวอักษรไปบางตัว แต่เรื่องหมายต่างๆ ยังอยู่เหมือนเดิม จากคุณ : ดอส เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 54 00:06:15

ความคิดเห็นที่ 13 ergonomic keyboard ช่วยท่านได้สำหรับอาการปวดข้อ จากคุณ : SaintPSU เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 54 02:44:09

ความคิดเห็นที่ 14 เคยเรียนพิมพ์สัมผัส เมื่อตอนอายุ 16-17 แต่ไม่เคยได้ใช้ในการทำงานจริงๆเลยในชีวิต ในการทำงาน...นิ้วก็ใช้กดชัตเตอร์กล้อง กดแป้นโทรศัพท์ และกดแป้นติดต่อให้เลขาฯพิมพ์ 50 ปีให้หลัง นั่งเขียน-ตอบ กระทู้ ก็ใช้วิธีพิมพ์สัมผัสด้วยการใช้สายตามองกับสองนิ้วจิ้ม สำหรับวิธีนี้ของผม...แป้นไหนๆก็ไม่มีปัญหาครับ จากคุณ : tnu เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 54 11:57:37

ความคิดเห็นที่ 15 มันชินแล้วอะดอส เจ๊เป็นไม้แก่ดัดยาก แต่เคยเห็นคุณตำรวจโรงพักพหลฯ พิมพ์จิ้มดีดได้เร็วกว่าเจ๊พิมพ์สัมผัสอีก ป.ล. ยังปั่นจักรยานอยู่หรือเปล่า รู้สึกว่าจะไม่ได้อัพดอสเดย์นานมากเลยเน้อ จากคุณ : Guga เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 54 20:15:33

ความคิดเห็นที่ 16 ถ้าเปลี่ยนไปใช้แบบปัตตโชติหรือ Dvorak ได้ ผมก็อยากจะเปลี่ยนอะครับ ประสิทธิภาพในการพิมพ์เร็วอาจจะสูงกว่า แต่มีปัญหาตรงที่ตอนนี้เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ มันเป็นแบบเกษมณีหมด ไม่ว่าจะเป็น I-Phone หรือ Black berry ถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนเลย์เอาท์ของคีย์บอร์ดจะทำให้พิมพ์เร็วขึ้น แต่ว่าตอนนี้ชาวโลกเค้าไม่ได้เล่นกับเราด้วยนี่สิ อย่างที่ความคิดเห็นบน ๆ ว่าไว้ว่าถ้าเกิดไปใช้คอมเครื่องอื่นเค้าก็ใช้เกษมณีทั้งนั้น ยิ่งไปใช้ I-Phone หรือ Black berry เกรงว่าจะทำให้เกิดอาการสับสนตำแหน่งของแป้นได้ ปัจจุบันเลยยังไม่เปลี่ยน ใช้แบบเกษมณีมีความยืดหยุ่นมากกว่า นอกจากจะใช้คอมเครื่องตัวเองได้แล้วยังสามารถใช้คอมเครื่องอื่นได้ และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ได้อีก ยิ่งตอนนี้คือผมพิมพ์แบบ Blind typing ได้รวดเร็วมากแล้วด้วย มีอยู่ทีนึงเพื่อนญี่ปุ่นให้แปลงานจากญี่ปุ่นเป็นไทยให้บนโน้ตบุ๊คญี่ปุ่น คีย์บอร์ดไม่มีภาษาไทยกำกับ มีกำกับแต่ Qwerty กับแป้นพิมพ์แบบอิโรฮะ จำนวนปุ่มบนแป้นพิมพ์เค้าไม่เท่าเราอีกต่างหาก = =" แต่ก็ยังจะสามาระพิมพ์ภาษาไทยบนเครื่องของเพื่อนได้ เพื่อนแบบทำหน้าอะเมซิ่งไปพักนึง ถ้าจะย้อนกลับไปตั้งต้นใหม่คงจะลำบาก ตอนนี้คือถ้าเป็นคีย์บอร์ดที่ไม่มีอักษรกำกับบนแป้นก็ยังพิมพ์ได้ แต่ถ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ เริ่มมีแป้นพิมพ์ปัตตโชติและมีความยืดหยุ่นในการใช้งานก็อาจจะเปลี่ยนในอนาคต จากคุณ : Seiki เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 03:30:27

ความคิดเห็นที่ 17 หัดจากนั่งหัดทั้งสองอย่างมาสามวันได้แล้ว ก็พบว่าความเร็วตกเหลือแค่หนึ่งในสาม จากตอนที่ใช้เกษมณี กับ qwerty   เคยทำได้ 90- 100 คำ กับ 75-82 คำต่อนาที จากคุณ : bmjas เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 17:39:32

ความคิดเห็นที่ 18 ก็เราพิมพ์แบบนั้นมาตลอดชีวิตอยู่ดีๆ มาเปลี่ยนมันก็ต้องใช้เวลาและความอดทนแหละครับ จากคุณ : ดอส เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 22:33:06