ความคิดเห็นที่ 1 มีเพื่อนเขาเพิ่งจบมา ก็เป็นอาจารย์ไงสายตรงเลย   ถามหน่อยว่าทำไมหนูสนใจภาษาศาสตร์ สนใจขนาดไหน เคยเรียนมาบ้างหรือเปล่า หาหนังสือมาอ่านบ้างหรือเปล่า ภาษาศาสตร์มันค่อนข้างเป็นวิทยาศาสตร์นะ ไม่ค่อยข้องเกี่ยวกับทางวรรณคดี-วรรณศิลป์อะไรสักเท่าไหร่ (แต่มีภาษาศาสตร์บางสาขานำงานวรรณกรรมไปศึกษา) ถามตัวเองก่อนว่าอยากเป็นอะไร อยากทำอาชีพอะไร อยากอยู่กับหนังสือ หรืออยู่กับคน หรือทั้งสองอย่าง มีอาชีพอะไรในดวงใจหรือเปล่า จากคุณ : ปรารถนาดี ไม่มีแอบแฝง (ปรารถนาดี ไม่มีแอบแฝง) เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 54 19:17:59

ความคิดเห็นที่ 2 ตาม *1 เพื่อนจบมา เป็นครู จากคุณ : lovelypriest เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 54 23:24:26

ความคิดเห็นที่ 3 เป็นครูภาษา เป็นนักวิจัยทางภาษา ส่วนใหญ่นะคะ อื่นๆ ก็มีค่ะ ซึ่งอาจจะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้ภาษา เช่น แปล จากคุณ : Nogkrajib เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 54 10:22:29

ความคิดเห็นที่ 4 ^^^^^^^^ คนละเรื่องเดียวกันเลยนะครับ ในยุค 60-70 มีนักภาษาศาสตร์กลุ่มหนึ่งได้ศึกษาภาษาศาสตร์แนวเปรียบเทียบ (constrastive linguistics) แล้วพบว่าการแปลนั้นหากทำด้วยระบบเทียบเป็นหน่วยคำ หน่วยประโยค จะพบทางตันบ่อยครั้งคือแปลไม่ได้ ซึ่ง นักวิชาการด้านศาสตร์การแปล จะไม่นับวิชาแปลรวมอยู่ในสาขาภาษาศาสตร์ เพราะเราใช้ภาษาเป็นสื่อในการถ่ายทอดความหมายเท่านั้น และสิ่งที่เราต้อง "แปล" จริงๆ นั้นมันมีมากกว่า "ภาษา" จึงนับศาสตร์การแปลเป็นสาขาสหวิทยาการอย่างหนึ่ง (interdisciplinary หรือ multidisciplinary) เช่นอาศัย ศาสตร์อื่นๆ เช่น สังคมศาสตร์ สังคมวิทยา จิตวิทยา สรีระประสาทวิทยา พฤติกรรมศาสตร์ สื่อสารศึกษา ฯลฯ จากคุณ : ปรารถนาดี ไม่มีแอบแฝง (ปรารถนาดี ไม่มีแอบแฝง) เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 54 13:51:25

ความคิดเห็นที่ 5 แม่ผม จบ ป.ตรี ภาษาศาสตร์ ก็เป็นครูครับ จากคุณ : pokemon trainer เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 54 20:11:52 A:110.77.244.91 X: TicketID:000119

ความคิดเห็นที่ 7 จริงๆแล้วเราไม่คิดว่าเรียนสาขาไหนแล้วจะต้องทำงานแบบนั้นแบบนี้นะ เพราะเราเคยโผล่ไปที่ website ของฝรั่งคนหนึ่ง พี่แกเรียนเอกวิทยาศาสตร์ แต่ดันกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษที่เป็นคนอุทิศเนื้อหาและความคิดตั้งมากมายให้กับการสร้าง Oxford Dictionary นะ ใครที่เรียนภาษาศาสตร์หรือเรียนเอกอังกฤษก็เถอะถ้าเห็นความรู้ภาษาอังกฤษของหมอนี่นะ จะหนาวอ้ะ! แต่เราคิดว่ารีบๆเรียนจบๆมาเอาวุฒิมาเป็นใบเบิกทางก็ดีเพราะในเมืองไทยสังคมต้องการคนจบวุฒิสูงๆ แต่จริงๆแล้วเราจะดูว่าตัวเราเองมีความสามารถเฉพาะตัวอย่างไรแล้วจะใช้มัน "เป็นเครื่องมือ" ในการเรียนรู้อะไรได้บ้าง เพื่อที่จะประกอบอาชีพอะไรได้ต่างหากล่ะ อ่านแล้วมึนหรือเปล่า? คือยังงี้นะยกตัวอย่างเช่นตัวเราเองตอนเด็กๆเรียนไม่เก่งทั้งวิทย์ทั้งภาษา เอาดีอะไรไม่ได้เลย ได้แต่หนีเรียนไปเล่นหมากรุกฝรั่ง แล้วเราสนใจ western philosophy เราเลยคว้าตำรามาเรียนเองมั่วๆ เรียนได้มากหน่อยก็คือวิชา logic แบบโบราณๆน่ะ แต่วิชาทีเหลื่ออืนๆเกี่ยวกับ western philosophy ไม่กระดิกหูเลย ฮาๆๆๆๆๆๆๆๆๆ...จากนั้นเราดันซ่าไปเรียน Chinese philosophy เอาแต่พวกฝึกกำลังภายในนะ ไม่เอาพวก academic ในมหาลัย ทำไปทำมาเราเรียนไม่จบเลยสักกะสาขาเดียวฮาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ...ตลกดีอ้ะ เอิ้กๆๆๆ... ตอนกลับมาเมืองไทย ตกงาน คุณรู้ไหมว่าความสามารถเฉพาะตัวอะไรที่ช่วยชีวิตเราไว้ให้รอดตายมีงานทำ วิชา logic ที่เรียนมาเล็กๆน้อยๆ + กับกระบวนความคิดพลิกแพลงที่ได้มาจากการเล่นหมากรุกฝรั่งอย่างหนักยังไงล่ะ ^ เรารู้แค่นี้เอง "ซึ่งมันเป็นความสามารถเฉพาะตัวของเรา" แต่เราใช้มันคิดกระบวนการที่จะเรียนคอมพิวเตอร์ได้ด้วยตนเองเราซื้อคอมพิวเตอร์มา 2 เครื่องที่มี hardware กับ software เหมือนๆกัน แล้วรื้อเครื่องหนึ่งให้พังทั้ง แล้วพยายามซ่อมมันใหม่โดยดูเครื่องที่ยังดีอยู่เป็นต้นแบบ จากนั้นเราอาศัยความเชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ในการเรียนภาษาอังกฤษจนแตกฉานใช้ทำงานได้ในระดับมืออาชีพโดยการอาศัย computer software กับ Internet ช่วยทุ่นแรงในการเรียนรู้ จริงๆแล้วตอนนี้เราจะทำงานเป็นช่างซ่อมคอมพิวเตอร์เปิดซ่อมคอมพิวเตอร์ในบ้านก็ยังได้เลย แต่เราไม่ชอบมือเปื้อนขึ้ฝุ่นบนสายไฟอ้ะ...เราเลยทำงานเป็นนักแปล...555+++... ลองไปดูว่า formal logic กับความคิดของนักหมากรุก คิดกลยุทธ์ในการเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ยังไงบ้าง ไปอ่านกระทู้นี้ดูว่าเราใช้ formal logic ในการคิดวิธีสอนการแปลได้ยังไง http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/06/K7934208/K7934208.html เราใช้ formal logic อีกนั่นแหละที่คิดวิธีเรียนจำศัพท์ภาษาอังกฤษได้ทีละมากๆ และเปลี่ยนการเรียน reading compression โดดๆ ให้กลายเป็นวิชา writing ได้ยังไง เราเกือบจะช่วยพัฒนาประเทศชาติได้โดยการเอาเทคนิคการสอนที่เราคิดค้นไว้ได้นี้ไปสอนภาษาอังกฤษให้คนไทยนะ แต่เผอิญเราโดนเจ้าหน้าที่กระทรวงศึกษาฯจับซะก่อนข้อหาครูเถื่อนสอนภาษาอังกฤษโดยไม่มีใบอนุญาต และให้ใบอนุญาตไม่ได้เพราะเราไม่จบปริญญาใดๆฮาๆๆๆๆ....ขำๆๆๆๆ ไปดูตัวอย่างกระบวนความคิดเรื่องการจำศัพท์จนอ่านคล่องและเปลี่ยนเป็นเขียนคล่องของเราได้ที่กระทู้นี้ ซึ่งน่าจะเอามาสอนเด็กไทยได้นะ ถ้าเจ้าหน้าที่กระทรวงศึกษาไม่มาจับเราซะก่อน http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K11367327/K11367327.html จนแม้กระทั่งเราอ่านหนังสือโป๊ เอ้ยหนังสือ romance novels เราก็เอาทักษะการเขียนภาษา romance novels ไปดัดแปลงเขียน research papers ได้ด้วย มีคนที่ถามหาอยากเรียน academic writing ถ้าเขารู้ว่าเราเรียนการเขียนจากการอ่านหนังสือ romance novels แล้วเอาทักษะไปดัดแปลงจนเขียน research papers ให้นักศึกษาที่เรียนปริญญาโทกับปริญญาเอกจบไปตั้ง 10 กว่าคนได้ในปีนี้ (ปีนี้รับเขียนวิทยานิพนธ์เยอะหน่อย) คนที่ตั้งกระทู้อยากเรียน academic writing คนนั้นคงเป็นลมไปอะนะ ...ฮาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ... ที่ทำได้ก็ formal logic อีกนั่นแหละ ดูลีลาที่ฝรั่งเขียนภาษา romance novels ที่บรรยาย love scenes อย่างดุเดือด แล้วลองคิดในมุมมองของคนอยากเรียนภาษาศาสตร์ดิว่าเราต้องใช้กลไกอะไรในสมองถึงดัดแปลงเอาม้นไปใช้ใน academic writing ได้ อยู่ในกระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K11374362/K11374362.html ทีแรกเราชอบแปลหนังสืออังกฤษเป็นไทยนะ แต่เซ็งค่าแปลมันน้อย เราเลยเปลี่ยนมาเป็นแปลเอกสารแทน แต่บางทีก็ไม่มีงานตลอด แต่งานแปลหนังสือหาได้ง่ายๆอยู่เรื่อยๆ แตเผอิญเกือบๆจะสิ้นปีนี้โชคดีสุดๆสำนักพิมพ์ขึ้นค่าแปลหนังสือให้ ได้มากกว่าเดิมบานเลย เราว่าเรารอดตายแล้วหละถ้าแปลแต่หนังสือก็น่าจะอยู่รอดนะ โชคดีที่สำนักพิมพ์รับสมัครนักแปลจากผลงานนะไม่ได้ดูวุฒิการศึกษาเป็นหลักสำคัญม่ายงั้นเราคงหางานยากเหมือนกัน...เพราะเราเป็นนักคิดที่เก่งพอสมควร แต่เราไม่มีวุฒิการศึกษาสูงๆ แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 54 22:22:51 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 54 22:12:39

ความคิดเห็นที่ 8 ilinguistic กับ translation มันต่างกันนะ ภาษาศาสตร์มันออกแนววิทยาศาสตร์ด้วย ส่วนการแปล ก็คือการแปล รู้แค่นี้ ตอนเรียนมีครูเล่าให้ฟังนิดหน่อย จากคุณ : lovelypriest เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 54 12:35:58

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณทุกท่านะคะ กิฟหมดค่ะอดให้เลย เดี๋ยวจะตามมาให้ทีหลังนะคะเพื่อแสดงความขอบคุณเล็กๆน้อยๆที่มาตอบค่ะ จากคุณ : aomma_alert เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 54 21:02:32

ความคิดเห็นที่ 10 แน่นอนว่า linguisticS กับ Translation ต่างกันค่ะ อย่างไรก็ดี คนที่จบสาขานี้ ทำงานแปลได้ค่ะ ^ ^ หากจะตอบแบบแหกโค้งไปเลยก็มีค่ะ จบภาษาศาสตร์ ทำงานเป็นเจ้าของธุรกิจก็มีค่ะ แต่ถ้าจะพูดถึงในบ้านเรา และที่เราเห็นว่า ไปในสายที่เกี่ยวข้องก็ตามนั้นค่ะ ครู แปล นักวิจัยทางภาษา จากคุณ : Nogkrajib เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 15:17:35