ความคิดเห็นที่ 1 เรื่อง writing นี่ ต้องเร่ิมจากการอ่านเป็นหลักด้วยครับ ไม่ใช่ท่อง grammar อย่างเดียว หาตัวอย่างดีๆ มาอ่าน แล้วศึกษารูปแบบการเขียน การใช้คำที่คนอื่นใช้ จากนั้นก็ฝึกเขียนเยอะๆ จะได้คล่อง True ease in writing comes from art, not chance, As those move easiest who've learned to dance. (การที่จะเขียนได้คล่องๆนั้น เกิดจากการฝึกฝน เหมือนกับคนที่ฝึกเต้นรำ ก็จะเต้นได้อย่างคล่องแคล่ว) จากคุณ : Just wonder เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 23:23:28

ความคิดเห็นที่ 2 สงสัยต้องรื้อฟื้น english grammar ใหม่ตั้งแต่ต้น แนะนำให้ซื้อหนังสือ grammar มาศึกษาด้วยตัวเอง อาจจะอ่านตั้งแต่หน้าแรกถึงหน้าสุดท้ายก็ได้ ถ้ามีแบบฝึกหัดก็ควรทำเพราะการฝึกเขียนด้วยลายมือตัวเองจะช่วยให้จำประโยคต่างๆได้  Practice makes perfect! ถ้าไม่อยากอ่านเรียงตามลำดับจากบทที่ 1 ถึงบทสุดท้าย ก็สามารถเลือกอ่านบทที่ตัวเองสนใจศึกษามากที่สุดก่อนก็ได้ ตามหลักที่ว่าเราสนใจอะไรมักเรียนเรื่องนั้นเข้าหัว อะไรที่เราไม่ชอบหรือไม่สนใจ อ่านเท่าไหร่ก็ไม่ค่อยเข้าหัว เวลาว่างๆก็แนะนำให้อ่านเว็บนี้ อ่านทุกวัน วันละเรื่องสองเรื่อง มีทั้งหมด 200 เรื่อง http://www.rong-chang.com/easyread/index.html เรื่องในเว็บนี้ใช้ศัพท์ง่ายๆ ใช้ประโยคง่ายๆ มีฝรั่งอ่านให้ฟังด้วย ด้านบนแต่ละเรื่องมีวิทยุให้คลิกเพื่อฟัง แนะนำให้พูดตามไปด้วย เป็นการฝึกพูดเป็นประโยค จบแล้วคลิก MENU ข้างล่างเพื่อไปเรื่องอื่น ข้างๆ MENU มี Vocabulary อยากรู้ความหมายคำไหนก็คลิกคำนั้น แนะนำให้จำทั้งประโยค ท่องทั้งเรื่องเลยยิ่งดี แล้วถึงเวลาต้องพูด ประโยคต่างๆก็จะออกจากหัวออกจากปากได้ง่ายขึ้น จากคุณ : นายชัย เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 23:41:17

ความคิดเห็นที่ 3 สิ่งที่ต้องรู้คือ... 1. คำศัพท์ 2. รูปแบบประโยคต่างๆ 3. การใช้เครื่องหมายวรรคตอน และที่สำคัญ ก็อย่างที่คุณ Just wonder บอกครับ ว่าต้องเริ่มจากการอ่าน แล้วค่อยฝึกเขียน เมื่อเราอ่านเยอะ เราก็รู้ศัพท์เยอะ  และเราก็จะรู้รูปแบบประโยคแบบต่างๆ  ด้วย ส่วนการใช้เครื่องหมายวรรคตอน ศึกษาได้จากทั้งในตำราและอินเตอร์เน็ทครับ จากคุณ : David Patt เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 23:44:03

ความคิดเห็นที่ 4 เอาง่ายๆ สำหรับแกรมม่า ใช้รูปประโยค  ประธาน + กริยา + กรรม (Subj. + Verb + Obj.)   ..........แล้วนึกคำถาม พวกใคร ทำอะไร กับใคร เมื่อไร ที่ไหน อย่างไร ฯลฯ ใช้ประโยคง่ายๆ สั้นๆ  เอา present simple หรือ past simpleเป็นหลัก ................ที่ำสำคัญกว่าคือ  จุดประสงค์ในการเขียน เช่น  - ให้คนอ่านเข้าใจง่ายๆ  ต้องการให้เขาเข้าใจแล้วทำอะไรต่อไปชัดเจน (นึกถึงพวกคำสั่ง)  - ถ้าเป็นทางธุรกิจทั่วๆ ไปก็แสดงให้ชัด เช่น ต้องการซื้อ ขาย  ต้องการข้อมูล  บ่น ด่า (complain) เอา ไม่เอา ดี ไม่ดี ก็บอกไปพร้อมเหตุผล  - อื่นๆ เช่น ต้องการให้คนอ่านมีอารมณ์ยังไง เช่น สนุก งง เศร้า เห็นใจ พวกตั้งใจให้คนอ่านไม่เข้าใจก็มี  .........เคยฟังพวกคำปราศรัยของนักการเมือง หรือนักการทูตไหมครับ  ฟังจบแล้วไม่รู้จะ Yes หรือ No  ขนาด Maybe ยังตีความไม่ได้เลย  ....แต่เหมือนพูดดี ถ้อยคำสละสลวย ลองเขียนไปเรื่อยๆ เขียนทุกวัน อ่านทุกวัน  .....ถ้ามีคนช่วยตรวจแก้ทุกวันก็จะดีมาก จากคุณ : birdeyeview เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 00:37:56

ความคิดเห็นที่ 5 ตอนเรียนได้ B+ ได้ยังไง? ก็แสดงว่าข้อสอบที่คุณสอบมันวัดผลสัมฤทธิ์ของการเตรียมตัวสอบ ใครทำข้อสอบเก่าไว้เยอะก็มีโอกาสได้คะแนนดี ไม่ได้วัดผลความชำนิชำนาญในการใช้ภาษาอังกฤษ ตอบไม่ยากเลย ทำตามที่ความเห็นข้างบนๆว่าน่ะแหละครับ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 07:21:38

ความคิดเห็นที่ 6 อยากได้ writing ควรมี 3 อย่างครับ gramma ต้อง 100%  (จะช่วยให้ ผู้รับเข้าใจว่าต้องการสื่ออะไร) collocation (จะช่วยให้ใช้ verb ที่เข้ากับ คำ noun นั้นๆ) vocab (จะช่วยให้ใช้คำที่ ตรง และมีพลัง) ถ้าต้องการหนังสือ vocab กับ collocation ผมมีครับ เอาไป copy ได้เลยครับ เพราะปัจจุบันผมก็ยังต้องใช้เล่มนี้อยู่ตลอด ถ้ามีโอกาสเรียนได้ก้เรียนเถอะครับ แต่ถ้า ติดปัญหาบางอย่าง ก็หา DVD ดู ก็ช่วยได้ครับ แก้ไขเมื่อ 03 ธ.ค. 54 13:04:03 จากคุณ : earth tone เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 12:03:38

ความคิดเห็นที่ 7 คหสต ลองฝึกวางโครงเรื่องภาษาไทยก่อนอะ แล้วค่อยใส่เป็นภาษาอังกฤษ หลักการเขียนมันเหมือนกันทั้ง 2 ภาษาอะ แพทเทิร์น คำนำ(วัตถุประสงค์) (สรุป 1 - 2 ประโยค) ขึ้นต้น / เนื้อหา / (ขยาย)สรุปจบ อธิบายแพทเทิร์น ส่วนขึ้นต้น คือการอธิบายวัตถุประสงค์ บอก เหตุ ว่า เขียนทำไม เพื่ออะไร (ถีงมี ผล คือสรุป อยู่ 1 - 2 บรรทัด ตอนต้น) ในเนื้อหา ก็  วิธีการเขียน (ก็โวหารทั้ง 5 อะ) -อธิบาย -แจ้งให้ทราบ -ให้รายละเอียด -ยกตัวอย่าง เช่น .... -เปรียบเทียบ อะไรก็ว่าไป (ก็เลือกใช้ให้เหมาะสม ว่าจะใช้ วิธีไหน) สรุป บางทีเอาสรุปไปวางไว้ตอนต้น แบบ แอบสแทรก ก็ได้ หรือ สรุป วางไว้ 2 ที่ ตอนต้น(1-2ประโยค สรุปจริงๆ) กับ ตอนจบ (ขยายเนื้อความของสรุป) พอคิดออกมาเป็นโครงได้แบบนี้ เวลาลงดีเทลก็ง่าย เพราะรู้ว่าจะเขียนอะไร และเขียนอย่างไรแล้ว ถ้าจะเขียนยาวๆ ก็ขยายพาร์ทที่ 2 ส่วนเนื้อหาอะ ง่ายๆคือ เขียนอะไร ทำไม อย่างไร ตัวอย่าง ก็เขียนไปเรื่อยๆอะ ยกโน่นมานี่มา ที่มันสำคัญจำเป็นกับเนื้อหา ซัพพอร์ทวัตถุประสงค์หลักที่เขียนอะ พอลงเป็นภาษาอังกฤษ ก็มาเขียนให้สละสลวย แก้แกรมม่าให้ถูก ประมาณนี้อะ ที่ต้องตีให้แตก คือ เรากำลังเขียนเรื่องอะไร ก็อย่าหลงประเด็น กับฝรั่ง ตรงประเด็นสำคัญมากจ้ะ ข้อมูลต้องเป๊ะ   ไม่เอาน้ำ  เอาแต่เนื้อ ไม่งั้นเค้าจะถือว่าเสียเวลา และเราจะถูกลดความน่าเชื่อถือจ้ะ แก้ไขเมื่อ 03 ธ.ค. 54 15:34:18 แก้ไขเมื่อ 03 ธ.ค. 54 15:30:24 แก้ไขเมื่อ 03 ธ.ค. 54 15:28:01 จากคุณ : lovelypriest เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 15:25:46

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณทุกท่าน สำหรับคำแนะนำคะ จากคุณ : PETAR&PHOTO เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 20:35:56