ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อดูแปลนพระที่นั่งตอนนั้น พบว่าสองฝั่งซ้ายขวาสามารถจุคนได้ฝั่งละ 5 คน 5 แถว มีฝรั่งเศสนั่งหลังอีก เว้นทางเดินตรงกลาง แล้วยังมีที่ว่างอีกทั้งหน้าหลังวางโต๊ะและคนอื่นนั่งอีกเล็กน้อย เมื่อเทียบกับสรรเพชญ์ปราสาทในหนังตำนานสมเด็จพระนเรศวรซึ่งจำลองขนาดมาเท่าองค์จริงก็พบว่าอาจจุได้ตามนั้น เอาพระแท่นราชบัลลังก์กับพระที่นั่งบุษบกมาลาออกให้เหลือแต่ช่องพระบัญชรก็น่าจะพอได้ แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 54 22:09:38 แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 54 22:36:57 แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 54 22:25:37 จากคุณ : ศรีสรรเพชญ์ (Slight06) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 22:25:13

ความคิดเห็นที่ 2 พระที่นั่งวิหารสมเด็จไม่ทราบว่ามีขนาดเท่าไหร่ แต่ได้ยินว่าก็พอๆกับสรรเพชญ์ปราสาท นอกจากนี้จากแปลน บันไดอยู่ที่มุขยาวเหมือนพระที่นั่งองค์นี้ แต่พระที่นั่งสรรเพชญ์ปราสาทบันไดอยู่ด้านข้างพระที่นั่ง(แต่บันไดอาจมีการปรับปรุงสมัยหลังก็ได้) แบบจำลองของ อ.เสนอ นิลเดช แต่มีการสัณนิษฐานว่ายอดปรางค์ปราสาทน่าจะเป็นแบบเมรุทิศวัดไชยวัฒนารามมากกว่าปรางค์แบบปราสาทพระเทพบิดรแบบในรูป แล้วก็ลาลูแบร์กล่าวว่าสมัยนั้นปราสาทไทยตกแต่งทองเล็กน้อย คนไทยก็อุตส่าห์เรียกว่าปราสาททอง สมัยนั้นจึงยังไม่น่าปิดทองประดับกระจกผนังด้านนอกอย่างในภาพ จากคุณ : ศรีสรรเพชญ์ (Slight06) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 22:35:37

ความคิดเห็นที่ 3 อีกรูป มีบันไดข้างด้วย จากคุณ : ศรีสรรเพชญ์ (Slight06) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 22:39:26

ความคิดเห็นที่ 4 สีหบัญชรพระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาท จากคุณ : ศรีสรรเพชญ์ (Slight06) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 22:42:09

ความคิดเห็นที่ 5 หยิบยกภาพลายเส้นจากบันทึกการเดินทางของลาลูแบร์ เป็นภาพลายเส้นท้องพระโรง แห่งกรุงศรีอยุธยา กึ่งกลางปักฉัตร ๗ ชั้นสองข้าง ส่วนฉัตรกลางเป็น ๙ ชั้น มีตุ้งติ้งประดับโดยรอบทั้ง ๓ คัน หลังฉัตรเป็นพระสีหบัญชร และที่สำคัญภาพวาดนี้ได้วาด "บันไดสามขั้น" ซึ่งมีพูดไว้ในการบรรยายพิธีการต้อนรับราชทูตไว้โดยตลอด "“ข้าพเจ้าจะไม่ถวายพระราชสาส์นเกินระดับความสูงของข้าพเจ้า” ทั้งนี้เป็นความตั้งใจแต่ต้นแล้วเมื่อได้เห็นสีหบัญชรสูงลิบเช่นนั้น เพราะท่าราชทูตได้อ้างว่า เป็นข้อตกลงเดิมกับฟอลคอนว่าสีหบัญชรจะมีความสูงระดับตัวคนโดยตั้งบันไดสามขั้นเพื่อจะได้ถวายพระราชสาส์นได้ถึงพระหัตถ์โดยตรง" เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นที่ท้องพระโรงแห่งกรุงศรีอยุธยาทั้งหมดครับ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 07:34:52

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณสำหรับรูปครับ แล้วคุณหนุ่มรัตนะคิดว่าน่าจะเป็นปราสาทหลังไหนครับ จากคุณ : ศรีสรรเพชญ์ (Slight06) เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 08:12:43

ความคิดเห็นที่ 7 ผมได้แนบแปลนพระที่นั่งสรรเพชญมหาปราสาท และพระที่นั่งวิหารสมเด็จมาให้พิจารณาถึงความเหมาะสม โดยพื้นฐานแห่งองค์พระที่นั่งสรรเพชญมหาปราสาท มีวัตถุประสงค์ในการเป็นท้องพระโรงและออกว่าราชการแผ่นดิน หากแต่ดูจากแผนผังไม่พบบันไดด้านข้างที่ทอดยาวข้างสีหบัญชรเมื่อเทียบกับพระที่นั่งวิหารสมเด็จ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 09:14:40

ความคิดเห็นที่ 8 น่าสนใจเรื่องประเด็นบันไดของคุณหนุ่มรัตนะจริงๆ แต่บันไดมันจะรื้อออกหรือเพิ่มขึ้นในภายหลังได้ไหมครับ จากคุณ : ปลาทองสยองเมือง เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 10:09:14

ความคิดเห็นที่ 9 คงจะรื้อสร้างใหม่ได้แหละครับ ประตูก็ด้วย ลาลูแบร์บอกว่าประตูพระที่นั่งเตี้ยมากจนยืนตรงเดินไม่ได้ ภายหลังอาจมีการเจาะช่องประตูให้ใหญ่ขึ้นก็เป็นได้(ถ้าทำจริงคงเป็นสมัยพระเจ้าบรมโกศ) แต่ดูแปลนของคุณหนุ่มรัตนะ ผมดูไม่ออกว่าอันไหนแสดงถึงบันไดภายในพระที่นั่งน่ะครับ จากคุณ : ศรีสรรเพชญ์ (Slight06) เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 11:40:48

ความคิดเห็นที่ 10 คนลพบุรี บวงสรวงที่พระที่นั่ง ที่ราชฑูตฝรั่งเศส เคยยื่นราชอาสน์ ก่อนจัดงานวังนารายณ์ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ลพบุรีทุกปีคะ จากความคดเห็นส่วนตัวนะคะ เวลา 12 เดือน ทรงประทับลพบุรีเสีย 8 เดือน แถมการตกแต่ง วังนารายณ์ ทั้งสวนหย่อมและพระที่นั่ง จำลองมาจากวังแวร์ซาย ฝรั่งเศส (งานแสงสีเสียง ที่ลพบุรีก็ แสดงให้ความรู้มาอย่างนี้) เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ก็เป็นคนต่างชาติที่มีตำแหน่งสูงสุดรองลงมาจากพระมหากษัตริย์ บ้านท่านก็อยู่ที่ลพบุรี มีชุมชนไทยที่เกิดความขัดแย้งจากการเผยแพร่ศาสนาคริสต์มากมาย จนปลายรัชกาลมีการปราบดาภิเษกขึ้น สภาพพระที่นั่งที่เคยไปก็มีลักษณะเป็นบันไดขึ้นลงตามผัง คิดว่าน่าจะเป็นลพบุรีนะคะ จากคุณ : โซอึนยอง เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 11:51:35

ความคิดเห็นที่ 11 ผมคงต้องบอกว่าคงเป็นการเชื่อกันไปเองโดยไม่ได้สอบหลักฐานใดๆ อาจเพียงเพราะรูปร่างพระที่นั่งดุสิตเหมือนในภาพพิมพ์ของโชมงต์ ทั้งๆที่จากหลักฐานของเชอวาลิเยร์ เดอ โชมงต์ ราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มในการเจรจาและถวายพระราชสาส์น เจ้าอธิการวัด เดอชัวสี เชอวาลิเยร์ เดอ ฟอร์แบง หรือบาทหลวงกีย์ ตาชารด์ ผู้ซึ่งอยู่ในการถวายพระราชสาส์น พ.ศ.2228 กล่าวตรงกันทุกคนว่าถวายพระราชสาส์นที่อยุทธยา จากนั้นค่อยไปลพบุรีภายหลัง ได้เฝ้าที่พระที่นั่งดุสิตแต่ไม่มีการถวายพระราชสาส์น พ.ศ.2230 ลาลูแบร์กับเซเบเรต์ ทูตพิเศษก็กล่าวไว้ตรงกันครับ แต่เรื่องอื่นที่คุณโชอึนยองพูดไม่ผิดเลยครับ แต่ฟอลคอนจริงๆก็มีบ้านหลายหลัง ที่อยุทธยาก็มีครับ แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 54 16:51:39 แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 54 12:40:02 แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 54 12:39:11 จากคุณ : ศรีสรรเพชญ์ (Slight06) เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 12:26:07

ความคิดเห็นที่ 12 อ้างถึงประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๑๒ เรื่องราชทูตฝรั่งเศสเข้ามายังกรุงสยาม ระบุไว้ว่าเชอวาลิเยร์ เดอ โชมงต์ เดินทางเข้ามายังกรุงศรีอยุธยาและมีการต้อนรับและเชิญราชสาส์นจากฝรั่งเศสเข้ามาโดยมีกระบวนเรืออย่างใหญ่โต มีการยิงสลุตและผู้คนในกรุงศรีอยุธยามามุงดูกันโดยแน่น และได้มาขึ้นที่ท่าแล้วต่อด้วยราชรถ ส่วนตัวราชทูตนั่งเสลี่ยงเข้าตามท้องถนน และเข้ามายังลานพระราชวัง ชั้นที่ ๑ เห็นทหารประมาณ ๒๐๐๐ เข้าไปชั้นที่ ๒ พบทหารนั่งกละบาทเหมือนชั้นที่ ๑ และเข้าไปถึงในชั้นที่ ๔ พบว่าขุนนางเอาหน้าหมอบที่พื้นทั้งนั้น ที่นี่มีม้า ๖ ม้าใส่กำไลทอง ทับทิม เงิน และมีช้างหลายตัวแต่งประดับสวยงาม บรรดาขุนนางเข้าไปยังท้องพระโรงก่อนแล้วจึงเข้าสู่พิธีเชิญพระราชสาส์น อย่างที่รับรู้กัน จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 14:52:34

ความคิดเห็นที่ 13 เป็นชัยชนะอันใหญ่หลวงของทูตชาวยุโรปที่ทำให้ พระมหากษัตริย์กรุงสยาม ต้องก้มคำนับ จากคุณ : karawara เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 16:49:55

ความคิดเห็นที่ 14 โชมงต์อธิบายการกระทำของตนเองไว้ว่า (ขอแก้การสะกดคำให้เป็นปัจจุบัน) "...ข้าพเจ้ามีความแปลกใจที่ได้เห็นพระเจ้าแผ่นดินสยามประทับอยู่บนพระที่นั่งยกชั้นสูง ด้วยเจ้าพระยาวิชาเยนทราธิบดี(ต้นฉบับน่าจะเป็นแค่ออกญาวิไชเยนทร์)ได้สัญญายอมไว้กับข้าพเจ้า ว่าพระเจ้าแผ่นดินสยามจะเสด็จออกบนพระที่นั่งที่ยกชั้นมิให้สูงกว่าชั่วสูงของคน แลพระราชสาส์นนั้นควรจะได้ถวายต่อพระหัตถ์ เหตุดังนี้ข้าพเจ้าจึงได้ว่ากับท่านเจ้าวัดเดอ ชัวซี ว่าคำที่สัญญาให้ข้าพเจ้านั้นได้ลืมเสียแล้ว แต่ข้าพเจ้าคงจะตั้งใจโดยแท้ที่จะถวายพระราชสาส์นกับด้วยมือของข้าพเจ้าเอง พานทองซึ่งใส่พระราชสาส์นนั้น มีที่จับใหญ่ยาวกว่า 3 ฟุต ด้วยเขาคิดว่าข้าพเจ้าจะจับปลายที่มือจับยกพานชูขึ้นไปให้สูงถึงพระที่นั่ง แต่ข้าพเจ้าได้ตั้งใจในทันทีนั้นจะถวายพระราชสาส์นต่อพระหัตถ์เอง จึงได้ถือพานทองนั้นในมือข้าพเจ้า... ...ข้าพเจ้าได้เชิญพระราชสาส์น จากมือเจ้าวัดเดอ ชัวซี คิดจะถวายดังเช่นข้าพเจ้าได้พูดตกลงไว้ เจ้าพระยาวิชาเยนทราธิบดีซึ่งไปเฝ้าด้วยข้าพเจ้าคลานเข้าไปด้วยมือกับเข่า เรียกข้าพเจ้าแล้วบุ้ยชี้ให้ข้าพเจ้ายกแขนเชิญพระราชสาส์นขึ้นให้ถึงพระเจ้าแผ่นดิน แต่ข้าพเจ้าทำเปนไม่ได้ยินนิ่งเสีย อยู่ทีหลังพระเจ้าแผ่นดินทรงพระสรวล แลทรงลุกขึ้นก้มพระองค์ลงมารับพระราชสาส์นที่อยู่บนพานทอง..." จากคุณ : ศรีสรรเพชญ์ (Slight06) เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 17:18:08

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่สามารถที่จะเกิดขึ้นที่พระที่นังดุสิตสวรรย์ธัญญมหาปราสาท เมืองลพบุรีได้เลย ที่ด้านหน้าพระสีหบัญชรในพระที่นั่งนี้ก็มีป้ายบอกว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ท้องพระโรงกรุงศรีอยุธยา ที่ว่าไม่สามารถเกิดขึ้นได้ที่พระที่นั่งที่เมืองลพบุรีองค์นี้ได้ก็เพราะว่าระดับพื้นของพระที่นั่งชั้นบนอยู่ตำ่กว่าขอบพระสีหบัญชรประมาณครึ่งแข้งเองไม่ตรงกับภาพวาดที่ปรากฏองค์สมเด็จพระนารายณ์ครึ่งพระองค์จากพระสีหบัญชร และความหนาของพระสีหบัญชรนั้นหนามากกว่าจะทำกริยาน้อมตัวลงไปรับของได้ดังภาพที่ปรากฏ แต่ที่พระที่นั่งสรรเพชรญ์ปราสาท และพระที่นั่งวิหารสมเด็จ ต่างมีพระราชบัลลังก์ตั้งในท้องพระโรงแต่ทำไมภาพที่วาดออกมาถึงไม่ปรากฏพระราชบัลลังก์เหล่านั้น หรือว่าย้ายออกเพื่อการต้อนรับราชทูต?   หรือเป็นพระราชนิยมในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราชที่มิทรงโปรดที่ปรากฏพระองค์บนพระราชบัลลังก์ด้านหน้าอย่างที่เคยมีมาแต่เก่าก่อน เพราะทรงหวาดระแวงภัยจากขุนนางต่างๆ จึงโปรดที่จะออกว่าราชการ จากช่องสีหบัญชร? หรือเหตุการณ์ถวายพระราชสานส์ตอนนี้เกิดขึ้นจริงที่อยุธยา แต่จิตรกรผู้วาดภาพไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้นและไม่ได้เคยเห็นท้องพระโรงที่กรุงศรีอยุธยา แต่เคยเห็นท้องพระโรงที่ลพบุรีแทนจึงใช้จินตนาการส่วนตัวเสริมแต่งภาพวาดนั้น? ขออภัยที่ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นพระที่นั่งองค์ไหน แต่เป็นข้อสงสัยที่มีมาแต่เด็กแล้ว ไปที่พระที่นั่งดุสิตสวรรย์ฯทีไรก็ต้องนึกถึงเรื่องนี้ทุกที และถามตัวเองเสมอว่าพระราชบัลลังก์ที่พระที่นั่งดุสิตสวรรย์ธัญญมหาปราสาทเมืองลพบุรีนี้ควรจะเคยตั้งอยู่ที่ไหน คิดเองเออเองว่าน่าจะตั่งอยู่ชั้นสองหลังพระสีหบัญชรนั้น เป็นบัลลังก์ทรงสูงที่จะทรงสามารทอดพระเนตรลงมาเห็นข้าราชบริพารที่หมอบกราบอยู่ที่พื้นพระที่นั่งด้านล่าง จากคุณ : Louvorian เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 18:09:06

ความคิดเห็นที่ 16 นั่งคิดเพลินๆ แล้วนึกถึงพระที่นั่งสุริยาสน์อมรินทร์ ที่กล่าวกันว่าเป็นพระที่นั่งสองชั้น สร้างในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เพื่อเป็นที่ทอดพระเนตรกระบวนพยุหยาตราทางแม่น้ำลพบุรีทางทิศเหนือของพระราชวังหลวงอยุธยา พระที่นั่งองค์นี้อาจจะมีลักษณะ"สองชั้น" เหมือนพระที่นั่งดุสิตสวรรย์ธัญญมหาปราสาทที่เมืองลพบุรีก็เป็นได้ แล้วลักษณะสองชั้นแบบนี้จะต้องปรากฏอยู่ที่มุขพระที่นั่งทางทิศเหนือเป็นแน่ เพราะจะทรงสามารถทอดพระเนตรข้ามกำแพงพระราชวังออกไปตรงแม่น้ำลพบุรี และสถาปัตยกรรมภายในอาจจะมีลักษณะเหมือนพระที่นั่งดุสิตสวรรย์ฯเมืองลพบุรีก็เป็นได้ ที่มีช่องพระสีหบัญชรตรงกลางและบันไดขึ้นชั้นสองขนาบข้างอย่างนั้น จะเป็นไปได้ไหมว่า เสด็จออกรับพระราชสานส์ของพระเจ้าหลุยส์ที่14 จากราชทูต เดอ โชมง ที่พระที่นั่งองค์นี้? เพราะเป็นพระที่นั่งของพระองค์เอง สร้างใหม่ ไม่โบราณครำครึอย่างพระที่นั่งอีกสององค์ที่มีมาแต่เก่าก่อน?! จากคุณ : Louvorian เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 00:41:35

ความคิดเห็นที่ 17 จะเป็นไปได้ไหมครับว่าเกิดขึ้นที่สุริยาศน์อมรินทร์? ขอเชิญแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันต่อครับ จากคุณ : Louvorian เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 01:15:24