ความคิดเห็นที่ 1 คนที่สามารถเขียนภาษาอังกฤษโดยไม่แปลจากประโยคไทยก่อน เป็นคนที่มีประโยคและวลีภาษาอังกฤษสะสมอยู่ในหัวมากมายอยู่แล้ว ซึ่งก็ได้มาจากการอ่านและฟังภาษาอังกฤษเยอะๆมาก่อน แนะนำให้อ่านภาษาอังกฤษเยอะๆ ทั้งข่าวและบทความ อ่านแล้ววิเคราะห์ไปด้วย จำไปด้วยว่าเขาใช้ประโยคแบบนี้ ใช้วลีแบบนี้ในการเล่าเรื่องแบบนี้ ถ้ากลัวจำประโยคไม่ได้ จดลงสมุดก็ดี เขียนตามฝรั่งเขียนสักรอบก็ช่วยให้จำประโยคต่างๆได้แม่นขึ้น เข้าหลักการ Practice makes perfect!  ทักษะจะได้มาก็ด้วยการฝึกฝน ฝึกฟัง ฝึกพูด ฝึกอ่าน ฝึกเขียน ถ้าเขียนอย่างเดียวยังไม่พอ ท่องทั้งประโยคหรือท่องทั้งเรื่องเลยก็ยิ่งดี สมัยผมเรียนมัธยมครูฝรั่งเคยสั่งให้นักเรียนท่องเรื่องภาษาอังกฤษทั้งเรื่อง แล้วเวลาสอบก็ให้เขียนจากความจำตั้งแต่ประโยคหนึ่งถึงอีกประโยคหนึ่ง การท่องช่วยให้จำสำนวนเพราะๆและประโยคน่าใช้มากมาย ทำให้สามารถถ่ายทอดออกไปในการพูดและการเขียนง่ายขึ้น จากคุณ : นายชัย เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 02:17:39

ความคิดเห็นที่ 2 ใครๆที่สนใจใช้วิธีท่องทั้งประโยคตามที่บอกใน คคห.1 เพื่อจะได้เรียนคำศัพท์ใหม่และคุ้นกับโครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษพร้อมกัน แต่รู้สึกตนเองไม่ค่อยเก่งถึงจะอ่านข่าวหรือสิ่งอื่นๆได้ ก็ลงดูไซต์อันนี้ มันมีแต่ประโยคเป็นพันๆทั้งสองภาษาครับ I'm having trouble posting a link. Here's a screenshot. The web address is at the top. แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 54 03:47:15 จากคุณ : Coffeeclub เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 03:46:23

ความคิดเห็นที่ 3 จขกท มีปัญหากับการส่งออก ปัญหาของการส่งออกก็คือนำเข้าวัตถุดิบไว้ไม่พอ ผลิตสินค้าไม่ทัน วิธีแก้ปัญหาก็อย่างที่คุณนายชัยท่านว่านั่นแล้ว กลับไปสะสมวัตถุดิบให้พอ ว่าแต่อยากผลิตสินค้าอย่างไหนก็ต้องนำเข้าวัตถุดิบให้สอดคล้องกันด้วยเน้อ อยากเขียนบทความวิเคราะห์เศรษฐกิจก็ต้องนำเข้าวัตถุดิบจำพวกเดียวกัน จะไปเดินหาตัวอย่างประโยคกับฝรั่งขี้นกแถวๆชายหาดพัทยาก็คงไม่บรรลุวัตถุประสงค์ อย่ามาต่อว่าคนแนะนำนะเออ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 08:28:38

ความคิดเห็นที่ 4 อ่าน คห 3 แล้วนึกถึง "จับฉ่าย" ขึ้นมาได้ ไม่ทราบคุณแอ๊ดเขียนต่อหรือเปล่าครับ ?  ขออภัยทีไม่ได้ติดตามกระทู้เพราะวุ่นวายเรื่องน้ำท่วมเสียนาน จากคุณ : กื้อ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 08:45:47

ความคิดเห็นที่ 5 จริงตามที่คุณพี่ชัย บอกค่ะ..และที่สำคัญก็ต้องรู้หลักแกร่มม่าด้วยค่ะ เพราะไม่งั้นก็เปลี่ยนแปลงประโยคต่างๆ ที่ท่องให้ใช้ตามสถานการณ์ต่างกันไม่ได้ เพราะตัวเองก็ประสบแบบนี้...และก็ยังทำไม่ได้ด้วย...ก็ไม่ต้องไปรีบค่ะทำไปเรื่อยเดี่ยวก็จำเอง ..(ให้กำลังใจตัวเอง) ตัวเองมีวิญญาณปลาทองอยู่ในตัวเยอะ...อ่านแล้วก็ลืม ท่องแล้วก็ลืม.. จากคุณ : nranee เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 10:01:01

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าคุณเรียน conversation ไปพร้อมๆกับ grammar ระดับพื้นฐาน ให้คล่องก่อน (สื่อการสอนสมัยใหม่สอนแบบนี้จริงๆ คือสอนให้พูดประโยคพลิกกลับไปกลับมา (improvisation) จนถูก grammar หมด โดยไม่ต้องทำแบบฝึกหัด grammar เป็นข้อๆเลย) แล้วถึงมาเรียน reading comprehension กับ writing คุณจะคิดเป็นภาษาอังกฤษเวลาเขียนได้โดยธรรมชาติ แต่จริงๆแล้วมันก็มีสื่อสมัยใหม่ดีๆที่สอนทุกทักษะพร้อมๆกันไปเลย จากง่ายไปหายาก ตามลำดับขั้นตอน แต่วิธีสอนในเมืองไทยส่วนใหญ่จะสอนแต่ grammar ล้วนๆแล้วสอนอ่าน บางทีอ่านพอรู้เรื่องแต่ก็ยังพูดไม่ได้ เวลาจะเรียนเขียนก็มีปัญหาพอสมควร เพราะภาษาอังกฤษมันค่อนข้างมหัศจรรย์กว่าภาษาอื่น คนเรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองหลายๆคนที่แม่น grammar จากการทำแบบฝึกหัด grammar โดยไม่เคยพูดอังกฤษเลย บ่อยครั้งที่เขียนอะไรออกมาผิดธรรมชาติ ถ้ายังไม่เรียนฟังกับพูดให้คล่องมากๆจนพัฒนา "สัมผัสพิเศษ" ขึ้นมา สมัยวัยรุ่นเราพัฒนาสัมผัสพิเศษได้แค่ "ฟังฝรั่งแล้วเลียนแบบไปพูดจนพูดถูก grammar" แต่พอจะใช้สัมผัสพิเศษ "อ่านหนังสือที่ฝรั่งเขียนแล้วเลียนแบบไปเขียนเอง" มันไม่ง่ายนัก กว่าจะทำได้เราก็อายุปาเข้าไปตั้งมากซะแล้ว แต่เราว่าถ้าเราสอนกระบวนความคิดที่เราค่อยๆพัฒนามาหลายปีให้ใครสักคน คนๆนั่นน่าจะเรียนได้รวดเร็วกว่าเรานะ เพราะไม่ต้องลองผิดลองถูกมาตั้งหลายปีอย่างที่เราทำ เรื่องที่น่าสังเกตก็คือคนบางคนจะเรียนอะไรบางอย่างก็เรียนมันไปเฉย แต่คนบางคนต้องมานั่งสร้างกระบวนความคิดออกมาเป็น algorithms ว่าจะเรียนมันได้อย่างไร ซึ่งจะนำมาใช้สอนตัวเองได้ การคิดค้นกระบวนความคิดที่จะใช้ในการสอนตัวเองออกมาเป็น algorithms นี้นั้น แท้จริงแล้วเป็นการเรียนครุศาสตร์หรือศึกษาศาสตร์ด้วยตนเอง (มันทำให้คนที่สอนตัวเองเก่งๆด้วยหลักการอันนี้สามารถสอนผู้อื่นได้) ซึ่งเราก็แปลกใจว่าพอมีกระทู้ถกกันเรื่องการศึกษาไทย ทำไมพวกคนที่จบครุศาสตร์หรือศึกษาศาสตร์มา แล้วมาเป็นครูในระบบ ชอบพูดเข้าข้างตัวเองกันว่า "คนที่ไม่เคยเรียนครูมาต่อให้เก่งในวิชาที่จะสอนแค่ไหน ก็ไม่สามารถถ่ายทอดวิชาได้ดีเท่าคนที่เรียนครูมา" ^ ซึ่งเราว่าไม่จริงเสมอไป ลองไปอ่านเรื่องครูฝรั่งที่ไม่จบปริญญาและไม่เคยเรียนครูมา ที่ระดมกำลังสมองกันคิดค้นวิธีการสอนและสร้างสื่อการสอนภาษาอังกฤษได้อย่างชาญฉลาดได้ ที่ คคห 19  ในกระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K11417703/K11417703.html แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 54 11:17:05 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 11:06:54

ความคิดเห็นที่ 7 community เพื่อการฝึกภาษาอังกฤษนะครับ http://www.facebook.com/pages/AEC-Campaign/250018565061146 เป็น facebook fanpage ลองเข้าไปเจอเพื่อนๆที่กำลังฝึกอังกฤษกันอยู่นะครับ ตรงนี้น่าจะพอช่วยได้ เพราะเราจะได้ใช้อังกฤษทุกวัน และถ้าใช้ยังไม่ถูกก็จะมีเพื่อนช่วยให้คำแนะนำด้วยครับ จากคุณ : Chud S. (Chud S.) เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 16:53:42

ความคิดเห็นที่ 8 เพราะบางทีการอ่านหรือฟังเฉยๆค่อนข้างจะได้ผลช้า การได้พูดคุยกับคนจริงๆเป็นภาษาอังกฤษเลยน่าจะดีกว่าครับ จากคุณ : Chud S. (Chud S.) เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 16:56:46