ความคิดเห็นที่ 1 เรียนในมหาวิทยาลัยมันเรียนภาษาศาสตร์และวรรณคดีด้วย เยอะมาก แต่เรียนในสถาบันภาษา มันเรียนฟัง พูด อ่าน เขียน และวัฒนธรรมเล็กน้อยที่สนับสนุนให้การใช้ภาษาเป็นไปอย่างราบรื่น ถ้าต้องการแค่ฟัง พูด อ่าน เขียน ได้คล่องๆ เรียนในสถาบันภาษาก็พอครับ ถ้าเรียนในคณะภาษา มันจะเกินความจำเป็นไป คุณต้องการใช้ภาษาอังกฤษสี่ทักษะได้คล่องแคล่วเพื่อใช้สื่อสารในชีวิตประจำวัน หรือศึกษาต่อได้ คุณจะเรียนวรรณคดีอังกฤษสมัยวิกตอเรียนและเอ๊ดเวอร์เดี้ยน เช็คสเปียร์ วรรณคดีอเมริกันยุคสร้างชาติ ภูมิหลังเกี่ยวกับเทพปกรณัม ฯลฯ ไปทำไมครับ จากคุณ : อืม เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 54 20:09:08 A:110.168.140.228 X: TicketID:338978

ความคิดเห็นที่ 2 เรียนเพื่อ เพิ่มทักษะ หรือว่าเรียนเอาใบปริญญา ถ้าจะเรียนเพื่อเพิ่มทักษะจากจากสถาบันก็ได้หรือในคณะมนุษยฯ สถาบันภาษา ใน มหาวิทยาลัย จะมีหลักสูตรอบรมภาษาต่างๆ หรือจะเรียนทางอินเตอร์เน็ตจนเก่งเหมือน คห. 1 ก็ได้ ใช่ไหมครับ พ่อหมอดู (555+รู้นะว่าสำนวนการตอบกระทู้แบบนี้คือใครกัน) จากคุณ : เหอะๆ เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 54 20:38:24 A:103.1.164.3 X: TicketID:331235

ความคิดเห็นที่ 3 เรียนจบปริญญา  กพ.รับรอง  สามารถไปสมัครงานได้ตามวุฒิ เรียนตามสถาบัน หรือ หลักสูตรพิเศษ ได้ประกาศนียบัตร  ใช้สมัครงานไม่ได้ จากคุณ : นายช่างปลูกเรือน เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 54 22:35:34

ความคิดเห็นที่ 4 ทั้งนี้ทั้งนั้น มันขึ้นอยู่กับเจตนา หรือความตั้งใจ ของผู้เรียน หรือ จขกท นะครับ หากคุณประสงค์แค่เพียงใช้ภาษาได้ในระดับ สื่อสารได้ อย่างคล่องแคล่ว ก็เน้นทางทักษะฟัง พูด อ่าน เขียน ก็พอ แต่หากคุณยังไม่อิ่ม จากแค่ทักษะพื้นฐานในทางภาษา คุณอยากรู้ที่มาของคำ องค์ประกอบของภาษา ประวัติความเป็นมา วิวัฒนการของภาษา งานศิลป์ที่ใช้ภาษา หรือวรรณคดี ก็จำเป็นจะต้องเรียนวรรณคดี และภาษาศาสตร์ ซึ่งจะสอนในแต่มหาวิทยาลัยเท่านั้น เพราะมันเป็นแนววิชาการ มิใช่แนวประยุกต์ใช้เหมือนการเรียนทักษะ ประโยชน์การเรียนภาษาในระดับลึกนี้ มันสุดจะบรรยายมากมายมหาศาลครับ หากคุณรู้จักนักแปลมือฉมังของเมืองไทย อย่าง อ ส ศิวลักษณ์  คุณจิระนันท์ พิตรปรีชา ดร. สายพิณ ศุพุทธมงคล ฯลฯ ท่านเหล่านี้ล้วนแต่ต้องศึกษาวรรณคดีมาอย่างช่ำชอง แม้จะไม่ได้จบสายตรงทางภาษามาก็ตาม ก่อนที่จะมาแปลงานยากๆ อย่างภาพยนตร์ งานวรรณกรรม งานเชิงปรัชญาได้ ผู้ที่เรียนภาษาในระดับลึกนี้ จะสามารถประยุกต์ใช้กับงานของตนได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น เลขานุการ แอร์โฮสเตส นักแปล ล่าม นักสร้างสรรค์โฆษณา นักประชาสัมพันธ์ นักข่าว นักเขียน ฯลฯ เพราะเขามีขุมทรัพท์หรือทรัพยากรทางภาษามากกว่าคนอื่น จึงมีภาษีดีกว่า แน่นอนครับ การเรียนภาษาในระดับลึก โดยเฉพาะวรรณคดีมันต้องอ่านเยอะอ่านมาก แต่หากคุณรักในการอ่าน ก็จงเรียนเถิด แล้วคำว่าเสียดาย หรือเสียใจที่ได้เรียนวิชาสาขานี้ จะไม่อยู่ในสมองของคุณเลย จากคุณ : ปรารถนาดี ไม่มีแอบแฝง (ปรารถนาดี ไม่มีแอบแฝง) เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 54 22:52:04

ความคิดเห็นที่ 5 น่าภูมิใจดีจัง ที่มีคนบอกว่าสำนวนผมเหมือนตาฟอจูนเทลเล่อ จากคุณ : อืม เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 54 23:15:49 A:110.168.140.228 X: TicketID:338978

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าจุดประสงค์คือ การสื่อสารผ่านการฟัง พูด อ่าน เขียน ก็เรียนกับสถาบันภาษาครัย ถ้าจุดประสงค์คือ การเข้าใจมนุษย์ การตีความภาษา การเรียนการวิเคราะห์ การเรียนหลักภาษาและประวัติศาสตร์ภาษา ผ่านการอ่าน ฟัง พูด เขียน ก็ต้องไปเรียนคณะอักษร/ศิลปศาสตร์/มนุษย์ศาสตร์ครับ จากคุณ : เมื่อลมแรง...ใบไม้ก็ร่วง เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 54 23:45:31

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าเรียนอังกฤษเพื่อเอาใช้งานจริงๆนะ ไม่ใช่เอาวุฒิไปสมัครงานหรือเพิ่มเงินเดือน เรียนที่ไหนก็ได้ขอให้ "ฟังกับพูดได้เป็นลำดับแรกก่อน" ^ สมัยนี้โลกาภิวัตน์ ต้องเรียนลำดับนี้แล้ว (มัวแต่ไปค่อยๆอ่านหนังสือ grammar ที่คนไทยเขียน มันล้าสมัยซะแล้ว) เพราะจากฟังรู้เรื่องกับพูดได้ เรื่องยากๆที่เหลือเช่น phonetics, syntax, writing ฯลฯ คุณเรียนด้วยตัวเองได้หมด ช่วงหลังๆขนาดเราบ้าอ่านหนังสือโป๊ เอ้ย romance novels โป๊ๆ เรายังเก็บประโยคภาษาอังกฤษสวยๆใน explicit love scenes นี้มา แล้วใข้สมองพลิกแพลงดัดแปลงทักษะการอ่านหนังสือโป๊ ให้เป็น academic writing เพื่อรับจ้างเขียน research papers เป็นภาษาอังกฤษเพื่อช่วยให้ลูกค้าเราเรียนจบปริญญาโทหรือปริญญาเอกทั้งในมหาลัยไทยและต่างแดนได้เลย ^ นี่เป็นการเรียนแบบมวยวัดที่ท้าทายดี...555+++... เราคิดๆย้อนหลังแล้วยังดีใจว่าถึงแม้เราจะไม่เก่ง grammar และ writing แต่เพราะเราเก่ง conversation เราจึงมีพื้นฐานที่จะเรียนเรื่องยากๆที่เหลือได้ด้วยตัวเองหมดเลย เช่นหา videos การสอนภาษาอังกฤษยาวๆ ที่ผู้เชียวชาญฝรั่งบรรยาย มานั่งดู มันก็เหมือนกับเข้าไปเรียนในมหาลัยในต่างแดนนั่นแหละ เพียงแต่เราไม่ได้ปริญญาเท่านั้นเอง แล้ว google นี่หละ ถ้าใช้มันให้คล่องๆ เรียนจาก google เยอะๆ มันเหมือนกับจบเอกอังกฤษจาก Google University เลยหละ ^ แต่ถ้าคุณไม่คล่อง conversation คุณคิดเป็นภาษาอังกฤษไม่ได้ ฟังฝรั่งให้ lecture วิชาภาษาอังกฤษยากๆใน videos ไม่ได้ คุณก็นอนตายอยู่ตรงนั้น ยิ่งคุณไปซื้อหนังสือ grammar ของคนไทยมานั่งอ่านแทบตาย (แทนที้จะเรียนกับผู้เชี่ยวชาญฝรั่งที่สอนจาก videos หรือเขียน textbooks ระดับเทพๆๆๆมากๆจากเมืองนอก) คุณยิ่งตายแหงแก๋อยู่ตรงนั้น เลยหละ! แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 54 00:25:41 แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 54 00:23:56 แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 54 00:22:14 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 00:18:23

ความคิดเห็นที่ 8 เรียนนอกระบบ คุณจะได้เลื่อนชั้นตามความสามารถคุณ เรียนในระบบ คุณได้เลื่อนชั้นตามชั้นปีที่คุณเรียน ตอบแบบขำๆนะ จากคุณ : นางสาวคานทอง เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 05:44:47

ความคิดเห็นที่ 9 เรียนตามคณะเอกภาษา ต้องเลือกสถาบันดีๆ จบออกมาภาษาไม่กระดิกก็มี มีปริญญาแต่ต้องเอาลิขวิดลบว่าจบเอกอะไรออก ไม่งั้นอายเขา เรียนตามสถาบันสอนภาษา ไม่มีปริญญา แต่ส่วนมากใช้งานภาษาได้จริง(ไม่งั้นสถาบันไม่ได้ค่าเรียนและอยู่ไม่ได้) สมัครงานHRอาจไม่รับเพราะไม่มีปริญญา ต้องหางานที่ๆเขาเห็นความสามารถ จากคุณ : Zeichnung เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 08:14:24

ความคิดเห็นที่ 10 คณะเอกภาษา - ต้องไปเอา คอร์ส ซิลลาบัส มาดู จะเห็นว่า เค้าสอนต่างจากสถาบันภาษายังไง เค้าสอน วรรณคดี จิตวิทยา ปรัชญา ประวัติศาสตร์ สังคม วัฒนธรรม ศิลปะ การละคร การสืบค้นข้อมูล ภาษาศาสตร์  อาจรวมไปถึง การบริการจัดการ หรือ เศรษฐศาสตร์ ด้วย ที่พูดไปเนี่ย คือ สิ่งที่ คณะเอกภาษา เค้าเรียน ซึ่งทำให้ ต่างจากสถาบันภาษาที่ ไม่ได้สอน สิ่งเหล่านี้ จากคุณ : lovelypriest เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 11:24:58

ความคิดเห็นที่ 11 เรียนสถาบันภาษาข้างนอกแล้วไปสอบ TOEFL iBT ให้ได้ 110 ขึ้นไปสิครับ เอาผลสอบแนบไปให้ดูกับใบสมัคร HR นี่แทบจะอ้าขารับเลยมั้ง จากคุณ : อืม เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 11:38:45 A:61.90.92.163 X: TicketID:338978

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าเรียนภาษาญี่ปุ่น นักเรียนในคณะเอกภาษา ใช้งานได้จริง มากกว่า นักเรียนในโรงเรียนสอนภาษาครับ ถ้าไม่เชื่อ ลองดูผลงานจากการสอบผ่านข้อสอบวัดระดับได้เลยครับ นักเรียนจากโรงเรียนสอนภาษา (ปีละหลายหมื่นคน) สอบผ่านกี่คน นักเรียนจากเอกญี่ปุ่นในมหาวิทยาลัย (ปีละไม่กี่พันคน) สอบผ่านกี่คน ผมคิดว่าโรงเรียนสอนภาษาไม่ควรเก็บตังค์เป็นรายชั่วโมง หรือรายคอร์ส แต่เก็บตังค์ตามผลสอบผ่านของนักเรียน ถ้านักเรียนไปสอบวัดระดับผ่าน โรงเรียนและครูจึงจะเรียกได้ว่าทำงานบรรลุแล้ว จึงสมควรรับตังค์ ถ้านักเรียนไปสอบไม่ผ่าน ก็ควรให้นักเรียนลงเรียนซ้ำได้เรื่อยๆ ไปจนกว่าจะสอบผ่าน จากคุณ : ซื่อสัตย์ มั่นคง เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 10:51:32